"ฝากลูกไว้กับตำรวจ" แก้ปัญหาทะเลาะวิวาทของอาชีวะ?

        เมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา มีข่าวเกี่ยวกับโครงการ "ฝากลูกไว้กับตำรวจ" พี่เกียรติได้ยินครั้งแรกแล้วคิดไปว่า สงสัยจะเป็นโครงการฝึกลูกระวังภัยให้เฝ้าบ้านแทนตำรวจใน ช่วงสงกรานต์ แต่เอ๊ะ มันไม่ได้หมายความอย่างนั้นเลยสักนิดนี่หน่า คิดไปได้ ฮ่าๆ


          โครงการฝากลูกไว้กับตำรวจ เป็นโครงการที่มีเหตุหนึ่งมาจากการทะเลาะวิวาทระหว่างสถาบันอาชีวะ จนกระทั่งมีการแชร์ภาพน้องผู้เสียหายจากเหตุการณ์ตีกันนี้ในสังคมออนไลน์อย่างกว้างขวาง ซึ่งน้องๆ ชาว Dek-D น่าจะเคยได้ยินเรื่อง "เด็กช่างกลฟันน้องแบงค์" ค่ะ  

             ซึ่งจากกรณีที่เกิดขึ้น ทางสถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรปราการ จึงได้ทำโครงการ "ฝากลูกไว้กับตำรวจ" โดยจัดตำรวจ 13 นาย คอยดูแลนักศึกษาอาชีวะทั้ง 13 คนที่เข้ามอบตัวในคดีดังกล่าว โดยตำรวจจะเป็นผู้สังเกตและดูแลพฤติกรรมของนักศึกษาอาชีวะกลุ่มนี้อย่างใกล้ชิด อบรมให้รู้จักการกลัวเกรงการทำผิดทางกฎหมาย โดยทางสภ.เมือง สมุทรปราการ จะให้เป็นกรณีศึกษานำร่อง และก็จะมีการสืบคดีไปตามลำดับขั้นตอนต่อไป


                                                                                                   ภาพ: เรื่องเล่าเช้านี้/จากคลิป CiNNtv3, youtube


                โครงการนี้ไม่ได้เพิ่งมีนะคะ เมื่อปี 2551 ก็มีโครงการในลักษณะนี้ในชื่อเดียวกันนี้เกิดขึ้นมาแล้ว โดยตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และได้รับผลตอบรับที่ดีพอสมควรเช่นกัน ฝั่งทหารก็มีโครงการคล้ายคลึงกันที่พาไปฝึกอบรมกับโครงการสุภาพบุรุษอาชีวะ โครงการในลักษณะนี้จึงไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น แต่เราๆ อาจจะไม่ได้ยินข่าวและติดตามผลอย่างต่อเนือง แต่ก็มักจะมีข่าวโครงการต่างๆ เกิดขึ้นทุกๆ ช่วงที่มีเหตุทะเลาะวิวาทรุนแรง เพื่อแก้ไขสถานการณ์

                                                                         ภาพ: vec.go.th

              แต่พี่เกียรติว่าคนเราทุกคนไม่อยากโดนควบคุมตัว หรือถูกควบคุมความประพฤติกันหรอกค่ะ ดังนั้นเราจึงต้องควบคุมตัวเองให้ได้ดีกว่า และจริงๆ โรงเรียนอาชีวะไม่ได้น่ากลัวทุกโรงเรียนนะคะ มีคำเรียกในหมู่ชาวอาชีวะว่า "โรงเรียนอาชีวะสีเขียว" ด้วย อันหมายถึงโรงเรียนสายอาชีพที่มีการตีกันน้อยหรือไม่มีเลย มีระเบียบภายในโรงเรียนที่กวดขันดูแลอย่างเข้มงวด ซึ่งจำนวนโรงเรียนสีเขียวที่ว่าก็มีไม่น้อยเลยค่ะ ในแง่มุมหนึ่งการตีกันเป็นเรื่องของวัยคะนองในช่วงชีวิตหนึ่งเท่านั้น ใครๆ ก็คงเคยทะเลาะกับเพื่อนใช่ไหมคะ แต่ถ้าคะนองกันเกินไป จะไม่ได้มีแค่ประสบการณ์ในช่วงชีวิตหนึ่งเท่านั้นนะคะ แต่จะไม่มีประสบการณ์อีกเลยทั้งชืวิต!

       


น้องๆ คิดเห็นว่าโครงการเหล่านี้จะได้ผลมากน้อยอย่างไรคะ
มีใครอยากออกความคิดเห็นบ้าง!