กว่าจะถึงวันนี้..เธอเปลี่ยนโฮสต์แฟมิลี่ถึงสองครั้ง!

 

 

     สวัสดีครับน้องๆ ชาว Dek-D.com การเปลี่ยนโฮสต์แฟมิลี่ของนักเรียนนอกบางคน อาจถูกมองว่าเป็นปัญหาเรื่องการปรับตัว แต่ถ้าใครได้มาอ่านเรื่องราวของเธอคนนี้ นักเรียนแลกเปลี่ยน ณ แดนแห่งกวางมูส น้องๆ ก็จะเข้าใจว่า บางครั้ง การเปลี่ยนโฮสต์ก็มีเหตุผลอื่นที่เราคาดไม่ถึงได้เช่นกัน เรื่องแบบนี้ ไม่เจอกับตัวเอง อาจมองไม่เห็นภาพ ถ้าอย่างนั้นลองมาฟังเรื่องราวของเธอคนนี้กันดีเลยดีกว่าครับ...

 

ฟิลล์

นักเรียน AFS รุ่นที่ 47
ประเทศนอร์เวย์ค่ะ

 

   ปัจจุบันอาศัยอยู่กับโฮสต์แฟมิลี่ชาวนอร์เวย์ในเขตเมืองหลวง OSLO ประเทศนอร์เวย์ค่ะ

 

   เรื่องต่อไปนี้ที่ฟิลล์จะเล่า อาจไม่ใช่เรื่องดีนัก เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นค่อนข้างร้ายแรง และไม่ได้เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว

 

   ฟิลล์เปลี่ยนโฮสต์แฟมิลี่ถึงสองครั้งด้วยกันค่ะ เชื่อว่าหลายๆ คนได้ยินก็อาจต้องตกใจ เพราะว่ามันเยอะสำหรับนักเรียนแลกเปลี่ยน ซึ่งฟิลล์ทำไปเนื่องจากฟิลล์มีเหตุผลค่ะ

   ครอบครัวแรกของฟิลล์อยู่ใกล้ๆ กับเมือง DRAMMEN ทางใต้จากออสโล ครอบครัวนี้ประกอบไปด้วยพ่อ แม่ และลูกเล็กๆ สามคนค่ะ รอบบ้านเป็นเขตไร่นา ฟิลล์ไม่ได้อยู่ในบ้านนะคะ แต่ว่าต้องอยู่ในโรงรถที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากเตียง ตู้เตี้ยๆ และกระจกหนึ่งบาน

   เวลาตื่นไปใช้ห้องน้ำดึกๆ ลำบากมาก เพราะต้องเดินผ่านความหนาวไปยังตัวบ้าน โฮสต์เขาบอกไว้ว่าให้อยู่ไปก่อน ห้องกำลังจะเสร็จในอีกสิบวัน แต่สุดท้ายมันก็ไม่มีทีท่าว่าจะเสร็จเลย ซึ่งใครๆ ก็รู้ว่าโรงรถเป็นที่อับ จึงมีกลิ่นแก๊สและน้ำมันเครื่องรุนแรงตลอดเวลา

     ทุกวันฟิลล์จะตื่นมา เดินไปใช้ห้องน้ำ หาของกินในบ้าน จากนั้นก็นั่งรถบัสไปเรียนในเมือง กลับมาก็กินข้าวเย็นและทำความสะอาดห้องโถง ห้องครัว และห้องรับแขกทุกวัน

   เท่านั้นยังไม่พอ! ฟิลล์ต้องมีหน้าที่ดูแลลูกของเขาทั้งสามคน จนกว่าทั้งหมดจะเข้านอน ถึงจะมีเวลาเป็นของตัวเองได้


   ที่ผ่านมาก็ถูกกดดันและถูกบังคับหลายอย่างจากโฮสต์ เขาไม่ยอมรับฟังฟิลล์เลย เอาแต่ขู่ว่าจะฟ้องโครงการ ขู่จะให้ส่งกลับบ้าง ตอนนั้นฟิลล์ต้องมีกระดาษทิชชูม้วนใหญ่อยู่ใต้เตียงตลอด แอบร้องไห้บ่อยมาก ระหว่างนั้น ฟิลล์ก็เริ่มขอเปลี่ยนโฮสต์ แต่ว่าทางทุนกลับยังหาใหม่ให้ไม่ได้ เลยต้องอยู่บ้านนี้ไปก่อน ซึ่งตั้งแต่เขารู้ว่าเราเปลี่ยนโฮสต์ เขาก็ยิ่งร้ายกับฟิลล์มากขึ้นค่ะ

   คุณพ่อของครอบครัวนี้เขาชอบล่ากวางมูส สัตว์ประจำชาตินอร์เวย์ค่ะ พอเขาล่าได้ ก็จะหอบมาทั้งตัว แล้วเอามาหั่นเป็นชิ้นๆ อีกทีในโรงรถที่ตรงกับหน้าห้องของฟิลล์ค่ะ มันเป็นภาพที่ชวนอ้วก กลิ่นเนื้อกับเลือดสดๆ ของมูสแรงที่สุดเลยค่ะ กลิ่นเข้ามาถึงในห้องนอนจนนอนไม่หลับ เขาก็ไม่สนใจ ฟิลล์เริ่มรู้ตัวแล้วค่ะ ว่าเขาเองก็ไม่ชอบฟิลล์เหมือนกัน

   จนกระทั่งวันหนึ่ง ฟิลล์ทะเลาะกับโฮสต์ เขาพูดใส่เราแรงมากๆ หาว่าฟิลล์เลวมาก ไม่ยอมช่วยเหลือเขาทำงาน เลี้ยงลูก ไม่มีใครชอบฟิลล์ทั้งนั้น แล้วก็บอกว่าจะส่งฟิลล์กลับเมืองไทย แต่ฟิลล์ก็ไม่สนใจ

   หลังจากนั้น ฟิลล์ก็ขนของออกจากบ้านนี้ไปด้วยตัวเอง แม้จะยังไม่มีครอบครัวใหม่ให้อยู่ แต่ฟิลล์ทนอยู่กับบ้านหลังนี้ต่อไปไม่ได้จริงๆ โชคดีที่เพื่อนช่วยเหลือจนได้ไปอยู่อีกบ้านหลังที่สอง บ้านของเพื่อนฟิลล์เองค่ะ...

   เพื่อนฟิลล์ดีมากเลยค่ะ เขาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนเหมือนกัน แต่ว่ามาจากประเทศอิตาลี บ้านเขาเป็นหมู่บ้านเล็กมาก อยู่ใกล้กับเมือง Hokksund ทางตะวันตกจาก DRAMMEM

   ในตอนแรกโฮสต์แฟมิลี่ของเขาก็ดีกับฟิลล์ แต่สักพักเริ่มรู้สึกแปลกๆ เพราะหลายครั้งคนที่เป็นแม่ก็เข้ามารื้อค้นของในห้องฟิลล์แล้วก็เอาไปใช้ ยิ่งไปกว่านั้น อารมณ์เขาก็ขึ้นๆ ลงๆ อยู่ดีๆ ก็หัวเราะ สักพักก็ร้องไห้ออกมา เขาแทบไม่ไปอาบน้ำหรือเปลี่ยนเสื้อผ้าเลย ตื่นมาชุดไหนก็อยู่ไปทั้งวันในชุดนั้น จนในที่สุดเพื่อนฟิลล์เลยแจ้งให้ตรวจสอบ ก็ปรากฏว่าเขามีอาการทางประสาทในด้านการควบคุมตัวเองค่ะ พวกเราทั้งสองคนเลยถูกสั่งให้เปลี่ยนโฮสต์โดยด่วน

    ฟิลล์ไม่คิดเลยนะคะว่า จะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นถึงสองครั้ง ซึ่งอาจเป็นเพราะจำนวนนักเรียนแลกเปลี่ยนในปัจจุบันมีเยอะ ทำให้การคัดเลือกครอบครัวอุปถัมภ์ไม่ค่อยเข้มงวด จนเกิดปัญหาขึ้นในที่สุด ยิ่งตัวเราซึ่งเป็นคนไทยนั้น ความแตกต่างทางภาษา วัฒนธรรม และความคิด ทำให้การคัดเลือกโฮสต์แฟมิลี่ชาวยุโรป เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญมากๆ แต่ฟิลล์เองไปอยู่ต่างประเทศก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนๆ นะคะ เว้นแต่กับครอบครัวที่อยู่ด้วยเท่านั้น

   ตอนนี้ครอบครัวปัจจุบันของฟิลล์โอเคแล้วค่ะ ไม่มีปัญหากันแต่อย่างใด และตอนนี้ฟิลล์ก็สามารถใช้ภาษาที่สาม ซึ่งเป็นภาษาท้องถิ่นของชาวนอร์เวย์ได้แล้วด้วยค่ะ

   คงจะจริงที่ว่าประสบการณ์สอนให้เราโตขึ้น ตอนนี้ฟิลล์รู้สึกได้เลยล่ะค่ะว่าเราโตขี้นจริงๆ

   ขอฝากสำหรับคนที่กำลังจะไปเรียนต่างประเทศนะคะว่า ขอให้โชคดี ประเทศนอร์เวย์นั้น ใครๆ ก็บอกว่าไปแล้วจะได้เห็นพระอาทิตย์เที่ยงคืน ความจริงไม่ใช่ค่ะ แค่ทางเหนือของนอร์เวย์เท่านั้นที่สามารถเห็นพระอาทิตย์เที่ยงคืนได้ในหน้าร้อน หากอยู่ออสโลแบบฟิลล์คงไม่มีทางได้เห็นแน่นอนค่ะ

 

   เป็นอย่างไรบ้างครับสำหรับเรื่องราวของเธอ ด้วยการตัดสินใจที่กล้าหาญและเด็ดขาด เพื่อจะหลุดออกจากชีวิตที่ไม่ปรารถนา ทำให้เธอในวันนี้ อยู่ดีมีความสุขในดินแดนแห่งฝันของหลายๆ คน ประสบการณ์ของเธอคนนี้ คงทำให้น้องๆ ได้ข้อคิดในการใช้ชีวิตยังต่างแดนไม่น้อยเลยทีเดียวนะครับ

   ใครที่มีเรื่องราวอยากพูดคุยหรืออยากเล่าประสบการณ์มันส์ เศร้า เหงา แปลก ในต่างประเทศ ก็อีเมลมาหาพี่ยีนได้ครับที่ gin@dek-d.com คราวหน้าพี่ยีนจะนำเรื่องราวของเด็กนอกคนใดมาฝากอีก ก็คอยติดตามกันนะครับ...

 

 

ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจากน้องฟิลล์ AFS รุ่น 47

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

82 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
The Monkey of Phuket Member 14 เม.ย. 52 08:46 น. 3

ยกนิ้วโป้งให้จ้า 

เราเองก็เป็นเด็กแลกเปลี่ยนเหมือนกัน 

ย้ายบ้านมาแล้ว สามโฮสต์ 

ไม่ได้มีปัญหาน่ะ เมื่อเทียบกับของฟิลล์ 

ชื่อเฟียน่ะ 

สู้ๆ เหลืออีกแค่สองเดือนกว่าๆ 

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
รุ่นพี่ 14 เม.ย. 52 14:16 น. 11
เจอโฮสแบบนี้ก็น่าเห็นใจนะคะ

แต่เหลืออีกแป๊ปเดียวก็จะได้กลับไทยแล้วเนอะ ^^

แต่ว่าโฮสก็ไม่ได้เลวร้ายไปทุกบ้านนะคะ

โฮสดีๆ ก็มี อย่างโฮสพี่อ่ะ

ดีขั้นเทพเลยยยยยยยยยหล่ะ

รักโฮสจัง
รักนอร์เวย์
0
กำลังโหลด
P'M 14 เม.ย. 52 14:25 น. 12
ขอทำความเข้าใจก่อนนะครับ

พี่เป็น นร แลกเปลี่ยน AFS#46 ประเทศนอร์เวย์เหมือนกัน เท่าที่พี่อ่านดู พี่สงสารน้องมาอะคับ แต่จะว่าไป การไปแลกเปลี่ยนที่ประเทศนอร์เว์ ไม่ได้มีแต่ด้าน ลบ หรือ จะเจอกับสิ่งที่น้องเขียนออกมา ตลอดนะครับ ด้านดีก็มีเยอะแยะ ถึงแม้ว่าพี่จะไม่ได้โฮสตามที่พี่หวังไว้มากนัก แต่เค้าก็รักเราเหมือนลูก คนๆ หนึ่ง ที่เค้ารับเรามานั้น พี่มั่นใจ 100% คือเค้าอยากให้เรามาอยู่บ้าน มาเป็นสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัว แต่พอเราเป็นสมาชิกคนหนึ่งแล้วนั้น สิ่งที่ตามมาก็คือ การทำหน้าที่ลูกที่ดี ของครอบครัว ซึ่งอาจจะมีงานเล็กบ้างหนักบ้างจนทำให้เราทนไม่ไหวบ้างก็มี เพราะฉะนั้นแล้ว การเจอกับปัญหาต่างๆนั้น บางทีถ้ามันไม่หนักเกินไป เราจึงต้องทน และ ชินกับมันนะคับ แต่ถ้า เจออย่างน้อง พี่ก็ขอบายดีกว่า 555 เอาเปนว่า ปัยหามีทางแก้เสมอนะครับ
0
กำลังโหลด
.... 14 เม.ย. 52 15:14 น. 13
ปัจจุบัน เราก็เรียนอยู่นิวค่ะ โฮสบ้างครั้งก็เจอะแย่ๆแบบนี้แหละค่ะ ตอนเรามาที่นี่แรกๆ เราก็เจอปัญหาเหมือนกัน คือ โฮสแย่มากๆอะคะ อาหารแบบเนื้อไม่ค่อยมี แล้วเค้าจะแบบ หมั่นไส้คนที่มีดีกว่า แล้วก็เห็นแก่ตัวมากๆ ตอนแรกเราก็ทนแต่สักพักเราเริ่มไม่ไหวแล้ว เราเลยขอเปลี่ยน ทาง รร ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากมาย คือเราต้องดิ้นรนเองค่ะ เผอิญว่าเป็นคนที่ภาษาอังกริด ดีพอสมควรค่ะเลย ต่อรองมาจนได้ โฮสที่ดีกว่าหน่อย ในครั้งที่สอง อยู่เมืองนอกต้องสู้ด้วยตนเองค่ะ ไม่ต้องไปกลัวเค้า เราไปเราเอาเงินมาให้ประเทศเค้า เราควรจะได้อะไรกลับไปบ้าง อย่าร้องไห้เลยค่ะ เพราะ คนพวกนี้ไม่สมคสรได้ น้ำตาจากเรา
0
กำลังโหลด
EmUCLA Member 14 เม.ย. 52 16:55 น. 14
อื้อ เห็นด้วยอ่ะ อยู่เมืองนอกต้องสู้ตัวเองนะ เราอยู่มาห้าปีแล้ว ต้องกล้าพูดกล้าทำ มีปัญหาอะไรก็อย่าไปกลัวใคร โดยเฉพาะเวลามีคนมาเอาเปรียบแบบนี้ เราว่าโฮสของเธอคงคิดว่าเธอเป็นคนรับใช้ สั่งนู้นสั่งนี้ เป็นเราเราก็ไม่ยอมหรอก ถือว่าเป็นบทเรียนอ่ะน้า
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
fuse* 14 เม.ย. 52 22:57 น. 20
ตามจริงแล้วว


เราก็อาจจะไปเจอแบบฟิลล์นี่แหละ


เพราะเราก็ไปสอบเหมือนกันปีที่แล้ว(ไปปีเนี่ยแหละ) ได้นอร์เวย์นี่แหละ

แต่เราสละสิทธิ์ เพราะ ขี้เกียจซ้ำชั้น 555

((เหตุผลดีเกินไปหน่อย))

สู้ๆนะ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด