สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com .... มาแล้วๆๆ เจอกับประสบการณ์เด็กนอกพร้อมกับ พี่เป้ เช่นเคย ^^ ตอนนี้ก็ก้าวเข้าสู่เดือนที่ 2 ของปี 2011 แล้ว เวลาผ่านไปไวจริงๆ เลยนะเนี่ย .... สำหรับเรื่องราวของสัปดาห์นี้ ส่งตรงจากประเทศอังกฤษ ไม่ใช่จากลอนดอน แต่เป็นอีกเมืองที่น้องๆ น่าจะคุ้นชื่อกันเป็นอย่างดี ว่าแต่จะเป็นเมืองไหน ไปอ่านกันเลยดีกว่า !

            สวัสดีค่ะ ชื่อ "เนิส" ค่ะ เป็นเด็กนักเรียนแลกเปลี่ยนประเทศอังกฤษ แต่ว่าไม่ได้มาเต็มปี คือมาแค่ระยะ 6 เดือน เนิสมาอยู่ที่ Tipton, West Midlands ค่ะ เป็นเมืองเล็กๆ ใกล้กับเมืองใหญ่คือ Birmingham(เบอร์มิงแฮม) ตอนแรกก่อนจะมา เนิสตื่นเต้นนะ เชื่อว่าอารมณ์นี้นร.แลกเปลี่ยนทุกคนเป็น อยากมามากๆ นับวันเลยว่าเมื่อไหร่บิน แต่พอซักพักจะเริ่มนับวันกลับ ฮ่าๆ

            ใครๆ ก็คงคิดว่าอังกฤษเป็นเมืองผู้ดี ฮ่าๆ (ตอนแรกก็คิดว่าอย่างงั้น) แต่มันเหมือนจะตรงกันข้าม หรืออาจจะเป็นเพราะเนิสอยู่ในเบอร์มิงแฮม เพราะจริงๆ เมืองนี้จะมีคนแขกซะส่วนใหญ่ เบอร์มิงแฮมถูกจัดอันดับเป็นเมืองที่ใหญ่รองลงมาจากลอนดอน แต่เมื่อเทียบกับลอนดอนแล้วมันช่างแตกต่างมาก-มากที่สุด เพราะจริงๆ เนิสว่าที่นี่ไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจมากนัก ที่เด่นๆ ก็เห็นจะเป็นห้าง Bullring (รูปทรงแปลกๆ เหมือนรังผึ้ง) นอกนั้น เนิสว่าเมืองอื่นน่าสนใจกว่าค่ะ

            สำหรับโฮสท์นั้น เนิสได้โฮสท์เป็นชาวอินเดีย เวลาคนอินเดียเค้าพูดอังกฤษนี้เนิสหงายเลย (อะไรอะนี่คุณพูดอังกฤษหรอ) และก็มีรูมเมทเป็นชาวออสซี่ เพราะโฮสท์รับเด็กมาสองคนแชร์ห้องกันอยู่ เนิสกับเพื่อนรักกันมากๆ เพราะเนิสกับเค้าคุยกันตลอด ร้องไห้ ปรึกษา เที่ยว ทำกิจกรรมร่วมกันตลอดเลยสนิทกัน เนิสคิดว่าเนิสโชคดีที่ได้มาอยู่ร่วมกับเค้า เพราะเค้าใช้ภาษาอังกฤษแล้วเนิสก็คุยกับเค้าทุกวันจึงได้ภาษาจากเค้ามามาก เนิสคิดว่าถ้าไม่มีเค้า เนิสคงไม่ได้ภาษามากขนาดนี้ เวลาที่ไม่เข้าใจภาษาอังกฤษเค้าก็จะคอยอธิบายตลอด เนิสเลยคิดว่าตัวเองโชคดีมากๆ แต่เราสองคนไม่ได้อยู่โรงเรียนเดียวกันนะคะ (ไกลกันคนละซีกโลก ฮ่าๆ)

            ส่วนโรงเรียนนั้น ต้องนั่งรถบัส 2 ต่อ ประมาณ 1 ชม. ความจริงมีโรงเรียนใกล้บ้านมากแต่ไม่รู้ทำไมได้เรียนไกลจัง ช่วงแรกๆ ที่มาก็ลำบากมากค่ะ ยอมรับว่าร้องไห้ทุกวัน เพราะท้อมากๆ แต่ก็นะ อย่างว่าแหละ มาแล้วจะท้อได้ไงต้องสู้สิ คือวันแรกที่มาถึง เนิสมีเวลาพักแค่ 2 วัน เพราะมาถึงวันเสาร์แล้ววันจันทร์ต้องไปเรียนหนังสือเลย เราก็แบบว่า อ้าว ยังไม่ได้พักเลย เหนื่อยนะ แต่ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ตรงนั้น ปัญหาอยู่ที่ เนิสจะไปโรงเรียนยังไง ? โฮสท์เค้าก็ไม่ค่อยช่วยอะไรเลยค่ะ แค่เปิดอินเตอร์เน็ตให้ดูแผนที่รถบัส แล้วบอกเนิสว่า นี่นะ ขึ้นสายนี้ลงที่สถานีนี้แล้วก็ต่อสายนี้ลงที่นี่ ? เราก็แบบ อ่อๆ ค่ะๆ ไปตามประสา แต่จริงๆ แล้วงงมากค่ะ อารมณ์แบบว่า อะไรอะ เราเพิ่งมาได้ 2 วันนะ ใจคอกะจะไม่ไปส่งหรือพาไปดูโรงเรียนหน่อยเหรอ

            สรุปว่าเช้าวันจันทร์ เนิสก็ต้องออกไปขึ้นรถตามที่โฮสท์บอก (ขึ้นยังไงซื้อตั๋วไงยังไม่รู้เลย) เราก็นั่งๆ ไปเรื่อยๆ แบบไม่รู้ทิศทาง พอเห็นคนลงรถหมด เราก็ลงตามเค้า แล้วก็ไปเดินๆ หาที่ขึ้นรถบัสอีกต่อ = =" แต่มันยังไม่จบแค่นั้น คือเนิสก็ไม่รู้ว่าจะลงตรงไหน ??? โรงเรียนหน้าตาเป็นยังไงก็ไม่เคยเห็น เราเลยถามคนขับรถ แต่เค้าบอกไม่แน่ใจ (ซวยเลย) เราก็นั่งไปเกือบชม. ในใจก็คิดว่าทำไมไม่ถึงซักที จนคนขับต้องช่วยขับย้อนกลับไปถนนเส้นเดิม เนิสเลยเห็นป้ายโรงเรียน (ซึ่งเล็กมาก) คือกว่าจะมาถึงนี่สะบักสะบอมมากค่ะ มันเป็นประสบการณ์เล็กๆ ที่ได้ภายในอาทิตย์แรกของการเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน

            ที่โรงเรียนมีนักเรียนแลกเปลี่ยนคนไทย 2 คนคือเนิสกับเพื่อนอีกคน เยอรมัน 2 คน อเมริกาอีก 1 คน ส่วนวิชาเรียนนั้น มาที่นี่เนิสเรียน A level ค่ะ หรือที่เค้าเรียกกันว่า 6th form เนิสอยู่เกรด 12 เลือกวิชาเรียนเองแค่วันละ 2 วิชาเท่านั้นคือตอนเช้าวิชานึงแล้วบ่ายอีกวิชานึง เป็นอะไรที่ไม่คุ้น และก็เป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับเนิสมากๆ เพราะเพื่อนๆ ในคลาสจะไม่ซ้ำหน้ากัน วิชานี้เพื่อนคนนี้ อีกวิชาก็เพื่อนอีกกลุ่ม ส่วนวิชาที่เนิสเลือกเรียนจะมี English Lang, English Literature, Art, Photography, Cooking และ Sociology ค่ะ เป็นวิชาเบาๆ เพราะเนิสเองเรียนสายศิลป์ภาษา เลยไม่ได้ลงเลขกับวิทย์ ส่วนที่เรียน Cooking ด้วย เพราะจริงๆ เนิสเป็นคนชอบเรื่องการทำอาหาร อยากจะเป็นเชฟนั่นเอง เลยไปปรึกษาอาจารย์ว่าพอมีวิชาแนวนี้มั้ย เพราะเนิสเคยแบบเห็นห้องครัวที่ใช้สอนของโรงเรียน เลยได้ไปร่วมเรียนกับเด็กๆ ที่โรงเรียน มันก็เป็นการเรียนที่สนุกไปอีกแบบและเนิสก็ชอบวิชานี้มาก อีกอย่างได้รู้จักกับเด็กๆ เวลาเราเดินในโรงเรียนเค้าก็จำได้และทักทายเราบ้าง :)

            พูดถึงเรื่องอากาศ ... อากาศที่นี่เลวร้ายมาก (ต้องใช้คำนี้เลย) เพราะวันนึงเราไม่สามารถคาดเดาได้ว่ามันจะเป็นยังไง ถึงจะเช็คพยากรณ์อากาศแล้วก็ตาม ก่อนออกจากบ้านแดดออก พอบ่ายๆ มาฝนตก พอเลิกเรียนเดินออกมาลมแรงมากๆ อย่างนี้ก็มี แต่ที่แย่ที่สุดคือ เวลาที่มีหิมะตกผสมกับฝน T^T มันเป็นอะไรที่เมืองไทยหาไม่ได้แล้วมันก็หนาวสุดๆ มีวันนึงที่ไปโรงเรียนแล้วใส่คัชชูไป เนิสก็ไม่นึกว่าหิมะจะตก เราก็โอเค ทนๆ ไป ไม่เป็นไร แต่พอระหว่างทางกลับบ้าน ฝนดันตกด้วย (หิมะบนพื้นหนาพอควร) พอหิมะผสมน้ำฝนแฉะ แล้วเนิสใส่คัชชู ซึ่งมันเตี้ย น้ำเลยเข้ารองเท้า เหมือนเราเอาเท้าแช่น้ำใส่น้ำแข็งอะไรอย่างนั้นเลยอ่ะค่ะ คือต้องเดินแบบนั้น หนาวมากตั้งแต่หัวจรดเท้าจริงๆ

            และที่สำคัญ มาถึงอังกฤษแล้ว จะไม่ไปเที่ยวเมืองอื่นก็คงจะแปลกๆ เนิสกับเพื่อนๆ คนไทยด้วยกันเองชอบหาวันว่างไปเที่ยวตามเมืองต่างๆ ด้วยกันบ่อยๆ ที่ประทับใจคงเป็น London, Black Pool และ Liverpool ค่ะ ...... อย่าง London นี่แน่นอนค่ะ ใครมาอังกฤษคงพลาดไม่ได้ หลักๆ ก็จะมี Landmark ต่างๆ ขึ้น Tube ไปได้สะดวกมากค่ะ แต่มีอย่างนึงต้องระวังมากๆ นั่นก็คือเรื่องของกลุ่มคนมิจฉาชีพ เพราะเจอมากับตัวเองแต่ไหวตัวทัน คือเค้าจะเข้ามาถามเนิสว่า อยากถ่ายรูปคู่มั้ย จะช่วยถือของให้ รูมเมทเนิสเลยบอกว่า เอาสิ อยากได้รูปคู่พอดี แต่เนิสบอกไม่อย่างเดียว ที่นี่ไว้ใจใครไม่ได้เลยค่ะ อันตรายมากๆ

            ส่วนที่ Liverpool เนิสกับเพื่อนๆ ไปกันที่สนาม Anfield สเตเดียมใหญ่ของสโมสรลิเวอร์พลู สนุกมากๆ ค่ะ ประทับใจกับสิ่งที่ได้เห็น เหมือนกับว่าเราได้มากกว่ามานั่งดูบอลเฉยๆ เพราะเค้าพาเราไปทั้งห้องแถลงข่าว ห้องแต่งตัว แล้วก็ทุกโซนที่นั่งของสนาม เนิสคิดว่าเป็นอะไรที่คุ้มค่าถ้าซักครั้งเราได้ไปสัมผัสมันด้วยตาของเรา (ก่อนหน้านี้เห็นแต่ผ่านทางทีวี ฮ่าๆๆ)

            ก็อยากฝากถึงทุกคนที่คิดจะมาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนเพราะอยากมาเที่ยวหรือหาประสบการณ์ก็ตาม มันเป็นเรื่องที่ท้าทายและเหมือนกับทดสอบตัวเองไปในตัว ถ้าเราผ่านมันไปได้ เนิสเชื่อว่าเราจะเป็นผู้ใหญ่และแข็งแกร่งขึ้น :) การมาแลกเปลี่ยนให้อะไรเรามากกว่าคำว่า โก้เก๋เด็กนอก และมันจะทำให้เรารู้ว่า อยู่ที่ไหนไม่สุขใจเท่าบ้านเราจ้า

             อ่านประสบการณ์ของน้องเนิสนี่ก็สนุกไปอีกแบบนะคะ ที่สัมผัสได้เลยก็คือ ได้เจอเพื่อนดีๆ นี่ถือว่าโชคดีสุดๆ เลยล่ะค่ะ ^^ เพราะต่อให้เจอปัญหาอะไร แต่ถ้ามีเพื่อนดีก็จะได้ช่วยเหลือกันได้เนาะ .... ส่วนน้องๆ คนไหนมีประสบการณ์เด็กนอกอยากจะแชร์กับเพื่อนๆ บ้าง ก็สามารถส่งมาให้ พี่เป้ ได้ที่ pay@dek-d.com เลยค่ะ โดยเขียนเนื้อเรื่องมาประมาณ 2-3 หน้า แนบรูปมาด้วยซัก 10 รูป (เมลมาถามกันเยอะมากอะ 55555) แล้ว พี่เป้ จะติดต่อกลับไปเองจ้าาาา

เด็กดีดอทคอม :: 3 ประเทศที่มีสงกรานต์เหมือนเมืองไทย; tags: holi, tomatina, สี, อินเดีย, โปแลนด์, สเปน, เทศกาล, ประเพณี, สงกรานต์

 

 

ลัดฟ้า ... ไปเรียนภาษาที่ ... แดนกระทิงดุ

 ใช้ชีวิตในแต่ละวันแบบ "คนสเปน"

 รู้มั้ย ? เค้าใช้ชีวิตอยู่กันยังไง ?

Available on Dek-D.com , Study Abroad
Thursday 10 Feb 2010

 

 

พี่เป้
พี่เป้ - Columnist มนุษย์บ้างานและบ้านวด ผู้ตกหลุมรักปลาแซลมอน การนอน และและออฟฟิศ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

41 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
LitTlE LuciFeR(BeE) Member 3 ก.พ. 54 19:34 น. 7
พี่เก่งมากๆเลยค่ะ โดยเฉพาะเรื่องการขึ้นรถบัส >< พี่น่ารักมากๆเลยในรูปอ่ะ หนูชอบน่ะค่ะ มันดูเป็นตัวของตัวเองมากๆเลยค่ะ

วันที่10รอดินแดนกระทิงดุ ชอบสเปน55
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
@N !! Member 3 ก.พ. 54 19:52 น. 9
อ่านดู น่าหนุกดีนะ ได้ไปเที่ยวที่ต่างๆ ด้วย ^^ เก่งจริงๆ เห็นแล้วอยากไปมั้งงงงงงงงง !!!! (แต่งบไม่มี)[b-008]
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Scorpius d ' Or Onze Member 3 ก.พ. 54 20:13 น. 11
O [ ] O !!

กรี๊ดด  พี่ได้ไปสนามของลิเวอร์พูลด้วยหรอ
กรี๊ดๆๆๆ  ><   อยากไปบ้างอะไรบ้างอ่ะ

และก็ อยากอ่านของวีคหน้าด้วย จะรอๆ ^^
0
กำลังโหลด
สตรอบอรี่คิตตี้ Member 3 ก.พ. 54 20:42 น. 12

ปู่หนูก็อยู่ เบอร์มิ่งแฮมค๊า !
แต่หนูว่า เบอร์มิ่งเเฮมก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนะ

ส่วนป๊ากับม๊าก็อยู่ ทีลิกฟิวส์ !

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
๛Zephyr℠๛ Member 4 ก.พ. 54 11:58 น. 18
อยากไปงะ อิจฉาๆ แต่มิจฉาชีพไม่ค่อยเป็นคนอังกฤษนะครับ ส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติอื่น (อ่านจากหนังสือ ตะลุยอังกฤษ มา)
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด