สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com .... เวลาที่ พี่เป้ เข้าไปเช็คในเว็บบอร์ดเรียนต่อนอกทีไร จะต้องเจอคำถามหนึ่งบ่อยมากกกก นั่นคือ "อยากไปเรียนต่อเกาหลีต้องทำยังไง ??" เรียกได้ว่ามีคนตั้งกระทู้ถามแทบทุกวันเลยก็ว่าได้ค่ะ จริงๆ เคยเขียนบทความอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปแล้วรอบนึง แต่ไม่เป็นไรค่ะ วันนี้จะเขียนอีกรอบก็ได้ ^^ (ใจดีเนาะ)

          เอาเป็นว่าขอแบ่งเป็น 2 ระดับคือ ระดับมัธยมศึกษา และ ระดับมหาวิทยาลัย ละกันนะคะ จะได้อ่านแล้วไม่งง

{pic-desc}

ระดับมัธยมศึกษา 
 
         ที่เกาหลีจะแบ่งเป็นมัธยมต้นและมัธยมปลายเหมือนบ้านเราเลยค่ะ โดยจะเป็นมัธยมต้นปีที่ 1-3 และมัธยมปลายปีที่ 1-3 สำหรับหนทางในการไปเรียนระดับมัธยมศึกษาที่เกาหลีนั้น หลักๆ แบ่งได้ 3 ทาง

         1. ทุนนักเรียนแลกเปลี่ยน สำหรับโครงการที่เปิดโอกาสให้น้องๆ ไปแลกเปลี่ยนที่เกาหลีเป็นระยะเวลา 1 ปีคือ โครงการ YFU หรือ Youth for Understanding รับสมัครในช่วงเดือนมิถุนายนของทุกปี น้องๆ ที่สามารถสมัครได้ต้องกำลังเรียนอยู่ชั้นม.3-5 หากได้รับการคัดเลือก จะต้องเสียค่าใช้จ่าย 9,300 USD หรือประมาณ 280,000 บาท และที่สำคัญ รับเฉพาะน้องผู้หญิงจำนวน 2 คนเท่านั้นค่ะ ซึ่งปีล่าสุด น้องที่ได้ไปแลกเปลี่ยนกับทุนนี้ก็เป็นสมาชิกในเว็บ Dek-D.com ด้วยล่ะ ^^ และน้องเค้าก็เขียนเล่าประสบการณ์ไว้ด้วยค่ะ ใครอยากอ่านก็ คลิกที่นี่ ได้เลย

         2. โรงเรียนทั่วไป การจะเข้าเรียนในโรงเรียนทั่วไปนั้นเป็นเรื่องยากมากกกกกกก ... ยากพอๆ กับการที่เด็กต่างชาติ (ไม่นับนักเรียนแลกเปลี่ยน) จะเข้ามาเรียนในโรงเรียนไทยนั่นแหละค่ะ เพราะการเรียนการสอนนั้นใช้ภาษาเกาหลีล้วนๆ และทางโรงเรียนส่วนมากเค้าก็ไม่ค่อยรับเด็กต่างชาติเข้ามาเรียนด้วยค่ะ

{pic-desc}

         3. โรงเรียนนานาชาติหรือโรงเรียนอินเตอร์  วิธีนี้น่าจะดูง่ายที่สุดสำหรับเด็กต่างชาติที่ต้องการจะเรียนที่เกาหลี เพราะการเรียนการสอนจะใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก แต่ที่สำคัญคือต้องมีงบ เพราะขึ้นชื่อว่าโรงเรียนนานาชาติก็ต้องแพงอยู่แล้วเนาะ ยกตัวอย่าง เช่น

- Seoul International School ค่าเล่าเรียนตกปีละประมาณ 600,000 กว่าบาท
- Yongsan International School of Seoul ค่าเล่าเรียนตกปีละประมาณ 460,000 บาท
- Seoul Foriegn School ค่าเล่าเรียนตกปีละประมาณ 600,000 บาท
- Seoul Academy International School ค่าเล่าเรียนตกปีละประมาณ 570,000 บาท
- Asia Pacific International School ค่าเล่าเรียนตกปีละประมาณ 490,000 บาท
- Rainbow International School ค่าเล่าเรียนตกปีละประมาณ 380,000 บาท
- Dulwich College Seoul ค่าเล่าเรียนตกปีละประมาณ 670,000 บาท

         ทั้งนี้ทั้งนั้น ใครสนใจอยากไปเรียนที่โรงเรียนนานาชาติที่เกาหลีโรงเรียนไหน ก็ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่า แต่ละโรงเรียนใช้หลักสูตรไหนในการเรียนการสอน รับสมัครเมื่อไหร่ และถ้าสนใจจริงๆ ก็ต้องติดต่อสมัครกับทางโรงเรียนด้วยตนเองค่ะ


ระดับมหาวิทยาลัย (ปริญญาตรี)  


         ปัจจุบันมีนักศึกษาต่างชาติจากทั่วทุกมุมโลกเดินทางไปเรียนต่อที่เกาหลีใต้เพิ่มขึ้นกว่าแต่ก่อนมากค่ะ ทั้งนี้ก็เป็นเพราะว่า แต่ละมหาวิทยาลัยกำลังพยายามผลักดันมหาวิทยาลัยของตนเองให้มี Ranking หรือลำดับที่สูงขึ้น หากมหาวิทยาลัยไหนมีนักศึกษาต่างชาติเป็นจำนวนมาก ก็จะช่วยเพิ่มความเป็นนานาชาติให้แก่มหาวิทยาลัย ซึ่งถือเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยขยับ Ranking ให้สูงขึ้นได้ ดังนั้นแต่ละสถาบันจึงมีทุนการศึกษาแจกให้แก่นักศึกษาต่างชาติเพียบเลยล่ะค่ะ

         1. ทุนการศึกษา เป็นวิธีหนึ่งที่นิยมมากๆค่ะ เพราะทุนพวกนี้มักออกค่าใช้จ่ายให้เราหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นค่าเล่าเรียน ค่าที่พัก ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน แถมเรียนจบกลับมาไม่ต้องใช้ทุนด้วย แต่มีข้อแม้ว่า เราต้องรักษาเกรดให้อยู่ในระดับที่ดีค่ะ มิฉะนั้นจะโดนยึดทุนคืน ทุนการศึกษาที่น้องๆ อาจจะเคยได้ยินก็เช่น

- ทุนรัฐบาลเกาหลี เลือกเรียนมหาวิทยาลัยใดก็ได้ ในหนึ่งปีจะเปิดรับสมัคร 2 ช่วงคือ ช่วงเดือนกันยายนและช่วงเดือนมีนาคม
- ทุน EGPP จากมหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา ในหนึ่งปีจะเปิดรับสมัคร 2 ช่วงคือ ช่วงเดือนกันยายนและช่วงเดือนมีนาคม
- ทุน Art Mojor Asian Scholarship จาก Korea National University of Arts เปิดรับสมัครช่วงเดือนมิถุนายน
- ทุน KAIST จาก Korea Advanced Institute of Science and Technology ในหนึ่งปีจะเปิดรับสมัคร 2 ช่วงคือ ช่วงเดือนกันยายนและช่วงเดือนมีนาคม

         หากต้องเรียนหลักสูตรที่เป็นภาษาเกาหลี ทางทุนจะให้น้องๆ ลงเรียนภาษาเกาหลีก่อนค่ะ เช่น ทุนรัฐบาลเกาหลีจะบังคับให้เรียนภาษาเกาหลีเป็นเวลา 1 ปี จากนั้นจึงจะเข้าเรียนระดับปริญญาตรีได้

{pic-desc}

         2. หลักสูตรในมหาวิทยาลัยทั่วไป สำหรับมหาวิทยาลัยดังๆ ในเกาหลีที่อาจจะคุ้นหูก็เช่น Seoul National University (มหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล) , Yonsei University (มหาวิทยาลัยยอนเซ) , Kyunghee University (มหาวิทยาลัยคยองฮี) , Korea University (มหาวิทยาลัยเกาหลี) , Ewha Womans University (มหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา) ซึ่งการเรียนการสอนก็จะใช้ภาษาเกาหลีเป็นหลัก ดังนั้นน้องๆ ที่จะสมัครเข้าไปเรียนเองแบบไม่ง้อทุนนั้น จะต้องมีความรู้ภาษาเกาหลีในระดับที่ดีถึงดีมากค่ะ นอกจากนี้ ค่าเทอมยังค่อนข้างสูง เพราะตกเทอมละประมาณ 120,000 บาท - 200,000 บาทเลยทีเดียว

         สำหรับตัวที่จะใช้วัดความสามารถภาษาเกาหลีของเรานั่นก็คือ การสอบวัดระดับภาษาเกาหลีหรือที่เรียกว่า TOPIK (Test of Proficiency in Korean) มีทั้งหมด 6 ระดับ ในประเทศไทยมีจัดสอบปีละ 1 ครั้งช่วงเดือนกันยายน สำหรับคนที่จะไปเรียนในระดับปริญญาตรี ควรสอบให้ได้ระดับ 4 หรือ 5 ขึ้นไปค่ะ

         หรือบางคนที่มุ่งมั่นเต็มที่ อาจจะสมัครไปเรียนภาษาเกาหลีตามสถาบันสอนภาษาที่เกาหลีเลยก็ได้ค่ะ มักใช้เวลาเรียนภาษาประมาณ 1 ปี - 1 ปีครึ่งจึงจะสามารถสอบผ่าน TOPIK ระดับสูง จากนั้นก็ค่อยนำคะแนน TOPIK ไปใช้สมัครเข้าเรียนปริญญาตรีต่อไปค่ะ



 

         3. หลักสูตรอินเตอร์ในมหาวิทยาลัยทั่วไป ก็คือหลักสูตรที่สอนเป็นภาษาอังกฤษนั่นเอง เวลาสมัครเราก็ต้องมีคะแนน TOEFL หรือ IELTS เพื่อยืนยันว่าเรามีความรู้ภาษาอังกฤษในระดับดีพอที่จะเรียนเนื้อหาที่เป็นภาษาอังกฤษได้ สำหรับสถาบันที่เปิดสอนหลักสูตรอินเตอร์ในระดับปริญญาตรีก็เช่น

- Underwood International College ของ Yonsei University (มหาวิทยาลัยยอนเซ) สาขาที่เปิดสอน ได้แก่ วรรณกรรมและวัฒนธรรมเปรียบเทียบ เศรษฐศาสตร์ รัฐศาสตร์และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ วิทยาศาสตร์และไบโอเทคโนโลยี เกาหลีศึกษา วิเทศศึกษา เอเชียศึกษา และศิลปะ-เทคโนโลยี ค่าเล่าเรียนตกปีละประมาณ 4 แสนบาท

- KAIST (Korea Advanced Institute of Science and Technology) คณะที่เปิดสอน ได้แก่ คณะวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ คณะวิศวกรรมชีวภาพและวิทยาศาสตร์ชีวิต คณะวิศวกรรมศาสตร์ และคณะสารสนเทศและเทคโนโลยี ค่าเล่าเรียนตกปีละประมาณ 250,000 บาท

         4. นิสิต/นักศึกษาแลกเปลี่ยน วิธีนี้เป็นวิธีที่เส้นผมบังภูเขามากๆ คืออยู่ใกล้ตัวมากแต่หลายคนกลับไม่รู้ ก่อนอื่นต้องอธิบายก่อนว่า ปกติแทบทุกๆ มหาวิทยาลัยนั้นจะมีการทำสัญญากับมหาวิทยาลัยในต่างประเทศว่า จะทำการส่งนิสิต/นักศึกษาแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน มีทั้งประเทศในอเมริกา ยุโรป และเอเชีย แน่นอนค่ะว่าก็ต้องมี "ประเทศเกาหลีใต้" อยู่ด้วย

         ดังนั้นให้น้องๆ เดินไปถามที่คณะเลยว่า หากต้องการสมัครเป็นนิสิต/นักศึกษาแลกเปลี่ยนต้องทำยังไง ? มีมหาวิทยาลัยอะไรให้เลือกบ้าง ? หรือไม่ก็คอยติดตามประกาศจากทางคณะหรือมหาวิทยาลัยว่าจะมีการรับสมัครนิสิต/นักศึกษาแลกเปลี่ยนเมื่อไหร่ จากนั้นเราก็มีหน้าที่ดำเนินการตามขั้นตอน ส่วนมากไม่ต้องเสียค่าเล่าเรียนเพิ่มเติมแต่อย่างใดค่ะ

{pic-desc}


           เอาล่ะ หวังว่าน้องๆ คงจะพอเข้าใจกันมากขึ้นแล้วนะคะ ^^ แต่ก็ขอฝากเหมือนเดิมว่า อย่าเรียนเพราะหวังอยากใกล้ชิดดารานักร้อง เพราะค่าเรียนไม่ใช่ถูกๆ อย่าลืมเห็นใจคนหาเงินด้วยนะคะ

เด็กดีดอทคอม :: 28 วันใน
ภาพประกอบ : siskorea.org,uic.yonsei.ac.kr

พี่เป้
พี่เป้ - Columnist มนุษย์บ้างานและบ้านวด ผู้ตกหลุมรักปลาแซลมอน การนอน และและออฟฟิศ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

64 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
D'ongH'ae Member 27 มี.ค. 55 14:04 น. 9
 อยากไปเรียนที่เกาหลีนะ แต่ค่าเทอมแพงเกินไป :(
เด็กทุนก็มีโอกาสน้อยที่เราจะได้ไป T T
รอไปมหาลัยก็ได้ 
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด