สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com .... เจอ พี่เป้ และเล่าประสบการณ์เด็กนอกทุกๆ วันพฤหัสเช่นเคยนะคะ!! ช่วงนี้ใน เว็บบอร์ด Work&Travel เห็นมีบางคนเริ่มมาตั้งกระทู้โพสท์ถามเกี่ยวกับโครงการนี้ว่าจะไปกับเอเจนซี่ไหนดี เลือกงานไหนดี จะไปหรือไม่ไปดี?? วันนี้ พี่เป้ เลยมีประสบการณ์เกี่ยวกับการไป Work&Travel ที่อเมริกามาฝากค่ะ ขอบอกเลยว่าละเอียดมากกก เพราะแนะนำตั้งแต่การเตรียมตัวก่อนออกเดินทางเลยล่ะ ลองอ่านดูนะ^^
สวัสดีค่ะ
ชื่อ "ครีม" ค่ะ
จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ เอกการเดินทางและท่องเที่ยว เคยเข้าร่วมโครงการ Work & Travel (WAT) เมื่อปี 2011 กับเอเจนซี่ American Learning เดินทางไปที่รัฐ North Carolina โดยส่วนตัวเป็นคนชอบท่องเที่ยวอยู่แล้วค่ะ และโครงการ Work & Travel ก็เป็นอีกโครงการหนึ่งที่นอกจากจะได้เที่ยวแล้วยังได้อะไรหลายๆ อย่างกลับมา ทั้งการพัฒนาทักษะทางด้านภาษาอังกฤษ ทักษะในการทำงาน การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เรียนรู้การเข้าสังคมกับเพื่อนๆ ชาวต่างชาติ และประสบการณ์แปลกใหม่ที่ในชีวิตนี้อาจจะไม่เคยได้ลองทำตอนอยู่ที่ประเทศไทย หรือถ้าโชคดีก็ได้เก็บเงินกลับมาเป็นกอบเป็นกำ รวมทั้งทางบ้านให้การสนับสนุน ครีมเลยตัดสินใจลองเข้าร่วมโครงการนี้ดูค่ะ
การเตรียมตัว
ก่อนเดินทาง
เริ่มแรกเราก็ต้องศึกษาหาข้อมูลเอเจนซี่ก่อนค่ะ ว่ามีเอเจนซี่ไหนบ้างที่น่าเชื่อถือแล้วเจ้าหน้าที่ของเอเจนซี่นั้นๆ ดูแลเราดีไหม ตั้งแต่ขั้นตอนการสมัครเข้าร่วมโครงการ ช่วงที่เราอยู่ที่อเมริกา จนกระทั่งเรากลับมาประเทศไทย รวมถึงขั้นตอนการทำ Tax Refund ในปีถัดไปอีกด้วย ศึกษาได้จากประสบการณ์จากคนที่เคยไปมาปีก่อนๆ ในกรณีของเรา เราได้ปรึกษาและได้รับคำแนะนำจากเพื่อนของพี่สาวโดยตรง เลยตัดสินใจเลือกเอเจนซี่ไม่ยาก ก่อนเดินทาง
  |
จากนั้นเราก็มาดูว่าเราชอบทำงานแนวไหน มี หลายด้านให้เลือกค่ะ ไม่ว่าจะเป็นด้านโรงแรม ร้าน อาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ต สวนสนุก Retail shop บลาๆๆ เลือกได้ตามความชอบและความถนัดเลยค่ะ ซึ่งแต่ละงานก็จะมีหน้าที่หลากหลาย และมีทั้งข้อดี ข้อเสียแตกต่างกันไป โดยขอคำแนะนำได้จากพี่ๆ ทางเอเจนซี่ และถามประสบการณ์จากคนที่เคยไปมา ปีก่อนๆ ว่างานแนวนี้เราพอไหวไหม ชอบไหม ก็จะ ทำให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้นค่ะ ฮ่าๆๆ ส่วนตัวไม่เคย ไปต่างประเทศเลยค่ะ เราเลยต้องศึกษาดีๆ จะได้ เตรียมตัวให้พร้อมกับงานนี้ พอเราตัดสินใจเลือก ตำแหน่งงานได้แล้ว ก็จะมีการสอบสัมภาษณ์หรือพูด คุยกับนายจ้างตามมาในภายหลัง มีทั้งมาสัมภาษณ์ เองและก็ผ่านทาง Skype ค่ะ ขั้นตอนต่อไปก็จะเป็นการเตรียมเอกสารต่างๆ ทั้ง ของตัวเราเอง ทางสถานศึกษา ทางผู้ปกครอง (Sponsor) เอกสารทางการเงินจากทางธนาคาร พาสปอร์ต วีซ่า จองตั๋วเครื่องบิน บลาๆๆ ในกรณี ของเรา ทางพี่ๆ เอเจนซี่จะคอยให้คำแนะนำเรื่อง เอกสารและรายละเอียดต่างๆ กับเราอยู่เป็นระยะค่ะ อย่างการทำวีซ่า ทางเอเจนซี่เค้าจะจองคิวให้เรา มี คำถามให้เราได้เตรียมตัวกับการสัมภาษณ์ และพอ ถึงวันไปสัมภาษณ์วีซ่า พี่ๆ เอเจนซี่จะคอยเตรียม เอกสารและดูแลความเรียบร้อยให้พวกเราอีกทีนึงค่ะ และก็ในกรณีตั๋วเครื่องบิน ทางเอเจนซี่เค้าก็จะ เสนอมาให้เราประมาณ 2-3 สายการบิน ราคาอยู่ที่ 3 หมื่นต้นๆ (ย่อมเยาว์แล้วนะ) หรือจะจองเองไป เองก็ได้ค่ะแล้วแต่ความพอใจ ของเราเลือกจองกับที่ อื่นค่ะ(แพงกว่าเท่าตัว) เพราะจะบินไปพร้อมเพื่อน (ต่างเอเจนซี่) อย่างที่บอกตอนแรกว่าเราต้องไปคน เดียวและไม่เคยเดินทางโดยเครื่องบินเลย เลยเลือก ไปไฟลท์เดียวกับเพื่อนค่ะ แล้วไปแยกกันที่อเมริกา อีกทีนึง ทางบ้านจะได้อุ่นใจไปครึ่งนึง 555+ ทีนี้ก็มานั่งลิสต์กันค่ะว่า เราต้องหอบข้าวของ เครื่องใช้อะไรไปบ้าง จริงๆ ก็ไม่ต้องเอาเสื้อผ้าไป เยอะนะคะ หนักกระเป๋า ยกเว้นคนชอบแต่งตัว ส่วน ใหญ่ก็ไปช้อปกันที่นู่นซะเยอะ เพราะของแบรนด์ที่นู่น ไม่แพงมาก ผู้หญิงด้วยกันคงเข้าใจ อิอิ อาหารไทย เป็นอะไรที่ขาดไม่ได้จริงๆ ค่ะเราเชื่อเลย ฮ่าๆๆ เพราะเป็นคนชอบทานเผ็ดมาก อย่างพวกแกงเผ็ด ซองๆ น้ำพริกผง มาม่านี่เอาไปเดือนแรกก็หมดและค่ะ |
เดือนหลังๆ ถ้าอยากทานต้องซื้อต่อจากคนไทยกันเลยทีเดียว ก็มันไม่มีมาม่าที่ไหนอร่อยสู้ของไทยได้นี่นา (หรือไปหาซื้อเอาที่นู้นก็ได้ค่ะแต่ก็อาจจะแพงหน่อยนะ) น้ำปลาที่นู้นขวดเล็กคิดเป็นเงินไทยร้อยกว่าบาทแน่ะ บ้าแล้ว! ซื้อไม่ลงจริงๆ อ้อ ปลั๊กไฟของที่นู้นไม่เหมือนบ้านเรานะคะ แต่ละรัฐก็ไม่เหมือนกัน ศึกษากันให้ดีๆ ค่ะจะได้ซื้อเตรียมไปถูก
ที่อยากเสริมอีกอย่างหนึ่งคือ อยากให้เตรียมเอกสารที่จำเป็น ถ่ายสำเนาไปด้วยก็จะดีคะ พวกพาสพอร์ต วีซ่า ตั๋วเครื่องบิน หรือพวกแผนที่สนามบินที่เราไปลง ในกรณีเดินทางครั้งแรกอย่างเราแล้วกลัวหลง (จริงๆ เอาไปก็ไม่ได้ช่วยอะไร หลงกว่าเดิม - -* เอาเป็นว่าถามเจ้าหน้าที่อย่างเดียวเลยค่ะ) ที่อยู่สถานทูตของรัฐนั่นหรือรัฐใกล้เคียง เบอร์โทรศัพท์นายจ้าง และเบอร์สำคัญต่างๆ จดไปให้หมดค่ะ เผื่อได้ใช้ประโยชน์ในยามฉุกเฉิน ส่วนเรื่อง Pocket Money เราเอาไป 1 หมื่นบาทค่ะ เผื่อค่ารถ ค่าโรงแรมในกรณีนายจ้างไม่มารับ อันนี้แล้วแต่ค่ะ
LET'S GO!!!
พร้อมออกเดินทางกันแล้ว.. ตรวจเช็คเอกสารให้ถี่ถ้วน เก็บรักษาของมีค่าไว้ในที่ที่ปลอดภัย ติดต่อกับนายจ้างให้แน่ใจว่าจะมารับเราวันและเวลาตรงกันรึเปล่า และต้องตรงต่อเวลาค่ะ ..... เรานั่งเครื่องไปลงที่ญี่ปุ่น (6ชม.) และต่อเครื่องไปลงมิชิแกน(13ชม.)
ระหว่างนั่งเครื่องพนักงานบนเครื่องบินจะแจกเอกสารให้เรากรอก กรอกให้ถูกต้องและนำติดตัวไปด้วยนะคะ พอถึงสนามบินที่มิชิแกน ทุกคนจะต้องผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองซึ่งต่อคิวยาวเหยียดมาก มีทุกชาติ ทุกรุ่น การตรวจเอกสารไม่โหดอย่างที่คิดไว้ค่ะ ตม.น่ารัก ฮ่าๆๆ เค้าถามเราแค่ว่า J1? (ประเภทของวีซ่า) และก็ยิ้มให้ให้แค่นั้น ผ่านไปได้ด้วยดี จากนั้นก็แยกย้ายกับเพื่อนไปคนละทาง เพื่อต่อ Flight Domestic (บินภายในประเทศ) ไปลงที่ Norfolk Airport รัฐเวอร์จิเนีย ใช้เวลาเดินทางรวมทั้งหมด แล้วประมาณ 22 ชั่วโมง เกือบวันนึงเต็มๆ ที่ต้องนั่งอยู่บนเครื่องบิน นี่ยังไม่ถึงนะคะต่อหลายระลอกมาก 555
ที่ๆ เราไปคือ Nags head รัฐนอร์ทคาโรไลน่า จากสนามบินก็สามารถขับรถถึงกันได้ค่ะ
ผู้จัดการก็มารอรับเราที่นี่ เค้ารอตั้งแต่เที่ยงวันแต่เรามาถึง 2ทุ่ม น่าสงสารเมเนเจอร์สุดๆ T^T
เมเนเจอร์ก็จะพาเรานั่งรถไปส่งที่พักใช้เวลาประมาณ 2 ชม. ได้ค่ะ ระหว่างนั้นก็คุยทำความรู้จักกัน ถามเรื่องบ้าน เรื่องงาน เรื่องกฎต่างๆ สำเนียงเมเนเจอร์เราฟังยากมากถึงมากที่สุด เพราะเป็นหนุ่มผิวสี เหมือนจะแร๊พใส่เราตลอดเวลา สองชั่วโมงที่นั่งไปด้วยกัน จับได้เป็นคำๆเท่านั้น >
ครีมทำงานที่ Ben Franklin Store เป็น Retail Shop หรือร้านค้าปลีก อยู่แถวๆ ทะเล แถบนั้นเค้าจะเรียกว่า Outer Banks กันค่ะ หรือเรียกว่ามหาสมุทรแอนแลนติกจะดีกว่านะ น้ำลึก คลื่นสูงใช้ได้ โดยร้านนี้เป็นร้านขายของเกี่ยวกับชายหาด มีทั้ง เสื้อผ้าสำหรับผู้หญิง ผู้ชาย เด็ก ชุดว่ายน้ำ เครื่องประดับ ของที่ระลึก อุปกรณ์เล่นชายหาด บลาๆๆ ขนาดร้านอยู่ที่ประมาณบ้านทาวน์เฮ้าส์ 10กว่าหลังได้อ่าค่ะ ค่อนข้างใหญ่เลยล่ะ ที่นี้จะรับแต่พนักงานหญิงเท่านั้นคะ หมายถึงเด็กที่ไปโครงการ Work and travel นะคะ อาจเพราะต้องทำหน้าที่ในส่วนของห้องลองชุดด้วยค่ะ
เมืองที่เราไปอยู่
บอกตรงๆ ว่าการขนส่งคมนาคมสาธารณะไม่ดีเท่าที่ควรค่ะ อาจเป็นเพราะเป็นเมืองตากอากาศ รถส่วนใหญ่จะเป็นรถส่วนบุคคล (ของคนรวยทั้งนั้น) เวลาอยากไปไหนก็ใช้แค่จักรยานเท่านั้นค่ะ เพราะแท็กซี่แพงสุดๆ = =! ที่บ้านพักเค้าจะมีจักรยานให้หลายคันอยู่ค่ะ ก็ของคนรุ่นที่แล้วๆ ที่เคยไปนั้นล่ะค่ะ ใช้เวลาซื้อของ ขี่เที่ยวเล่น อยากจะไปไหนไกลๆ ต่างเมือง ต้องอ้อนผู้จัดการเท่านั้นคะ.. 555+ ถ้าเค้าว่างเค้าก็จะพาไป หรือไม่ก็จับกลุ่มกันแล้วเหมาแท็กซี่หรือโบกรถขอเค้าติดรถไปด้วยเลยค่ะ สนุกดีเหมือนกันนะได้เพื่อนใหม่ด้วย แต่ก็ต้องระวังตัวกันนิดนึงนะคะ
สำหรับที่อยู่นั้น ที่พักเราอยู่ด้านหลังที่ทำงาน ใกล้มากค่ะ หมดห่วงเรื่องไปทำงานสาย (30 ก้าวถึง ใกล้เกิ๊น) เป็นบ้าน 2 ชั้นค่ะ
- ชั้นแรกจะให้ใช้ตอนช่วงซัมเมอร์ ที่จะมีเพื่อนๆ จากจีน เยอรมัน แบลแกเรีย เช็กส์ โปแลนด์ มาอยู่ด้วยประมาณ 13 คน แต่คนไทยส่วนใหญ่อยู่ไม่ถึงค่ะ เพราะเรากลับมาเรียนต่อกันก่อน
หลังบ้านเดินไปไม่ไกลก็ถึงทะเลแล้วค่ะ ค่าบ้านก็ $50/สัปดาห์ เค้าจะหักจากเช็คที่ได้แต่ละอาทิตย์ เราว่าราคากำลังเหมาะไม่แพงจนเกินไป บ้านผู้จัดการก็อยู่ข้างกันเลยค่ะ อุ่นใจสุดๆ เกิดไรขึ้นโทรเรียกอย่างเดียว 555+ คราวนั้นท่อในห้องน้ำแตก (เราทำ - -*) ทำอะไรไม่ถูกเลยผู้หญิงกันทั้งบ้าน ก็เหลือแต่ฮีโร่อยู่คนเดียวแล้วล่ะ อิอิ
สำหรับน้องๆ ที่สนใจโครงการ Work & Travel ก็อยากให้ศึกษาข้อมูลเยอะๆ เพื่อเตรียมความพร้อมในหลายๆ ด้านค่ะ ไม่ว่าจะด้านภาษา ด้านร่างกาย ด้านจิตใจ ด้านทัศนคติ เรื่องค่าใช้จ่าย Culture Shock และปัญหาต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างเข้าร่วมโครงการ เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะโชคดีได้เจอนายจ้าง เจอเพื่อนร่วมงานที่ดี มีที่พักน่าอยู่ บางคนเจอปัญหาตั้งแต่แรกเริ่มก็มี ดังนั้นลองชั่งน้ำหนักดูค่ะว่า เงินก้อนใหญ่ที่เสียไปคุ้มกับสิ่งที่ได้มาหรือเปล่า จะได้ไม่เสียใจภายหลัง แต่ถ้าคิดว่ามันคุ้มกับประสบการณ์ที่ได้มา แล้วทางบ้านให้การสนับสนุนเต็มที่ ก็ลุยเลยค่ะ ไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้เต็มที่ โชคดีค่ะ ;)
แหม อ่านจบแล้วอิจฉาน้องครีมคนสวยจริงๆ ดูอะไรๆ ก็ราบรื่น งานก็ดี เจ้านายก็ดี บ้านก็น่าอยู่ เหมือนบังกะโลตากอากาศริมทะเลเลยเนาะ คงชิลน่าดู ^^ ดังนั้นใครที่สนใจอยากไปหาประสบการณ์แบบนี้ก็อย่าพลาดนะ!! ส่วนใครมีประสบการณ์เด็กนอกสนุกๆ อยากแบ่งปันให้เพื่อนๆ อ่านบ้าง ก็ส่งมาได้ที่ pay@dek-d.com แล้วเจอกันจ้า
TWITTER @PAYDEKD
ครีมทำงานที่ Ben Franklin Store เป็น Retail Shop หรือร้านค้าปลีก อยู่แถวๆ ทะเล แถบนั้นเค้าจะเรียกว่า Outer Banks กันค่ะ หรือเรียกว่ามหาสมุทรแอนแลนติกจะดีกว่านะ น้ำลึก คลื่นสูงใช้ได้ โดยร้านนี้เป็นร้านขายของเกี่ยวกับชายหาด มีทั้ง เสื้อผ้าสำหรับผู้หญิง ผู้ชาย เด็ก ชุดว่ายน้ำ เครื่องประดับ ของที่ระลึก อุปกรณ์เล่นชายหาด บลาๆๆ ขนาดร้านอยู่ที่ประมาณบ้านทาวน์เฮ้าส์ 10กว่าหลังได้อ่าค่ะ ค่อนข้างใหญ่เลยล่ะ ที่นี้จะรับแต่พนักงานหญิงเท่านั้นคะ หมายถึงเด็กที่ไปโครงการ Work and travel นะคะ อาจเพราะต้องทำหน้าที่ในส่วนของห้องลองชุดด้วยค่ะ
 |
หน้าที่หลักๆ ของที่ร้านนี่ก็มีแคชเชียร์ เช็คสต็อก ของ จัดของ ห้องลองชุด ดูแลลูกค้า นอกเหนืองาน หลักก็จะมีพับผ้า สกรีนเสื้อ ดูดฝุ่น ถูพื้น ล้างห้องน้ำ เช็ดกระจก บลาๆๆ หน้าที่ก็จะสับเปลี่ยนกันไปแล้วแต่ ผู้จัดการค่ะ ทำเรื่อยๆ งานไม่หนักค่ะ แต่ยืนและเดิน ทั้งวัน ในร้านไม่มีเก้าอี้ให้นั่งอ่ะ เมื่อยสุดๆ อาทิตย์ แรกๆ นี่ปวดหลังกันทุกคนเลยค่ะ แต่ทำไปนานๆ ก็จะ เริ่มชินเอง ที่นี่จะทำงาน 5 วัน หยุด 2 วัน วันละ 8 ชม. เรทอยู่ที $7.5 ต่อชั่วโมง ชั่วโมงงานนี่ได้ชัวร์ๆ ค่ะ 40 ชม.ต่อสัปดาห์ เงินจะได้ทุกวันศุกร์เป็นเช็ค เราต้องไปเปิดธนาคารเพื่อไปแลกเช็คที่นู่นด้วยนะคะ เดี๋ยวไม่มีเงินใช้ อิอิ ในวันที่เราพลาด!!! .... มีอยู่วันนึง เราได้รับหน้าที่ คัดแยกเสื้อของทางร้าน ด้วยความที่เสื้อเยอะบวกกับ เบลอเล็กน้อย เลยทำพลาดไปหนึ่งตัว เอาล่ะสิ! นายจ้างจะไล่ออกมั้ยเนี้ย! เราก็เลยตัดสินใจบอก พนักงานที่ดูแลส่วนเสื้อผ้า เค้าก็ขำๆแ ล้วก็ถามเราว่า เหนื่อยเหรอ เราก็ say sorry อย่างเดียวเลยค่ะ แต่เค้าก็ไม่ได้ว่าอะไร บางทีก็พิมพ์แท็กติดเสื้อผ้าผิด บ้าง นับเงินผิดบ้าง ทอนผิดบ้าง แต่ผู้จัดการก็ไม่เคย ว่าอะไรเลยค่ะ ใจดีมากๆๆๆ หลังๆ เริ่มคล่องขึ้น ทีนี้ ก็ได้ขึ้นแท่นสอนเพื่อนๆต่างชาติคนอื่นๆ กันบ้าง |
เมืองที่เราไปอยู่
บอกตรงๆ ว่าการขนส่งคมนาคมสาธารณะไม่ดีเท่าที่ควรค่ะ อาจเป็นเพราะเป็นเมืองตากอากาศ รถส่วนใหญ่จะเป็นรถส่วนบุคคล (ของคนรวยทั้งนั้น) เวลาอยากไปไหนก็ใช้แค่จักรยานเท่านั้นค่ะ เพราะแท็กซี่แพงสุดๆ = =! ที่บ้านพักเค้าจะมีจักรยานให้หลายคันอยู่ค่ะ ก็ของคนรุ่นที่แล้วๆ ที่เคยไปนั้นล่ะค่ะ ใช้เวลาซื้อของ ขี่เที่ยวเล่น อยากจะไปไหนไกลๆ ต่างเมือง ต้องอ้อนผู้จัดการเท่านั้นคะ.. 555+ ถ้าเค้าว่างเค้าก็จะพาไป หรือไม่ก็จับกลุ่มกันแล้วเหมาแท็กซี่หรือโบกรถขอเค้าติดรถไปด้วยเลยค่ะ สนุกดีเหมือนกันนะได้เพื่อนใหม่ด้วย แต่ก็ต้องระวังตัวกันนิดนึงนะคะ
สำหรับที่อยู่นั้น ที่พักเราอยู่ด้านหลังที่ทำงาน ใกล้มากค่ะ หมดห่วงเรื่องไปทำงานสาย (30 ก้าวถึง ใกล้เกิ๊น) เป็นบ้าน 2 ชั้นค่ะ
- ชั้นแรกจะให้ใช้ตอนช่วงซัมเมอร์ ที่จะมีเพื่อนๆ จากจีน เยอรมัน แบลแกเรีย เช็กส์ โปแลนด์ มาอยู่ด้วยประมาณ 13 คน แต่คนไทยส่วนใหญ่อยู่ไม่ถึงค่ะ เพราะเรากลับมาเรียนต่อกันก่อน
- ชั้นสอง ตอนที่ไปมีคนไทยอยู่กัน 6 คน ได้อยู่ชั้นบนกันหมด ก็มี 4 ห้อง ห้องนึงนอนได้ 3-4 คนค่ะ (หญิงล้วนไม่ต้องกังวล) อุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ครบถ้วน เครื่องครัวชุดใหญ่ ตู้เย็น 3 ห้องน้ำ 2 ทีวี 1 คอม 1 สะดวกสบายมากนะสำหรับเรา
หลังบ้านเดินไปไม่ไกลก็ถึงทะเลแล้วค่ะ ค่าบ้านก็ $50/สัปดาห์ เค้าจะหักจากเช็คที่ได้แต่ละอาทิตย์ เราว่าราคากำลังเหมาะไม่แพงจนเกินไป บ้านผู้จัดการก็อยู่ข้างกันเลยค่ะ อุ่นใจสุดๆ เกิดไรขึ้นโทรเรียกอย่างเดียว 555+ คราวนั้นท่อในห้องน้ำแตก (เราทำ - -*) ทำอะไรไม่ถูกเลยผู้หญิงกันทั้งบ้าน ก็เหลือแต่ฮีโร่อยู่คนเดียวแล้วล่ะ อิอิ
สำหรับน้องๆ ที่สนใจโครงการ Work & Travel ก็อยากให้ศึกษาข้อมูลเยอะๆ เพื่อเตรียมความพร้อมในหลายๆ ด้านค่ะ ไม่ว่าจะด้านภาษา ด้านร่างกาย ด้านจิตใจ ด้านทัศนคติ เรื่องค่าใช้จ่าย Culture Shock และปัญหาต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างเข้าร่วมโครงการ เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะโชคดีได้เจอนายจ้าง เจอเพื่อนร่วมงานที่ดี มีที่พักน่าอยู่ บางคนเจอปัญหาตั้งแต่แรกเริ่มก็มี ดังนั้นลองชั่งน้ำหนักดูค่ะว่า เงินก้อนใหญ่ที่เสียไปคุ้มกับสิ่งที่ได้มาหรือเปล่า จะได้ไม่เสียใจภายหลัง แต่ถ้าคิดว่ามันคุ้มกับประสบการณ์ที่ได้มา แล้วทางบ้านให้การสนับสนุนเต็มที่ ก็ลุยเลยค่ะ ไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้เต็มที่ โชคดีค่ะ ;)
แหม อ่านจบแล้วอิจฉาน้องครีมคนสวยจริงๆ ดูอะไรๆ ก็ราบรื่น งานก็ดี เจ้านายก็ดี บ้านก็น่าอยู่ เหมือนบังกะโลตากอากาศริมทะเลเลยเนาะ คงชิลน่าดู ^^ ดังนั้นใครที่สนใจอยากไปหาประสบการณ์แบบนี้ก็อย่าพลาดนะ!! ส่วนใครมีประสบการณ์เด็กนอกสนุกๆ อยากแบ่งปันให้เพื่อนๆ อ่านบ้าง ก็ส่งมาได้ที่ pay@dek-d.com แล้วเจอกันจ้า
TWITTER @PAYDEKD
17 ความคิดเห็น
ดวงดีด้วยเจอคนดี ที่พักดี งานไม่หนัก ไม่มองเราเป็นพลเมืองด้อยพัฒนา ก็โชคดีไป
ดวงไม่ดีต้องปรับตัวมากหน่อย หรือหาทางขยับขยายไป
แต่คนส่วนใหญ่ก็เล่าแต่เรื่องดีดี
ประสบการณ์มากกว่า 15 ปี
ค่าพยากรณ์ครึ่งชั่วโมงต่อดวง
*ทางโทรศัพท์ 199.-
*ตั้งชื่อ ดูฤกษ์ให้กิจการต่าง ๆ 299.-
*นอกสถานที่ 3 คนขึ้นไป ดวงละ 300.-
นัดดูได้แถวเซ็นทรัลลาดพร้าว, บิ๊กซีแจ้งวัฒนะ 14, เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ ,
โลตัสพนมฯ(จ.ฉะเชิงเทรา)
T.08-5164-4155, 08-5058-6065
สอบถามรายละเอียดก่อนได้
...................................................
คนมากับดวง
แอดเฟสมาคุยได้นะ sukit hongnaruchai
ได้มั้ยครับ เป็นบทความที่ดีเเละ จะเปฌนประโยชน์ต่อน้องๆที่กำลังจะไป
ติดต่อได้ที่ american_tour@yahoo.com
คุณแม่คะ
สวัสดี, ฉันนางเจนนิเฟอร์โรเบิร์ต, กู้ยืมเงินส่วนตัวให้เงินกู้ยืมโอกาสชีวิต. คุณต้องการให้สินเชื่อเร่งด่วนที่จะชำระหนี้หรือหนี้ของคุณ-คุณต้องมีเงินกู้เพื่อปรับปรุงธุรกิจของคุณ? คุณเคยถูกปฏิเสธโดยธนาคารและสถาบันการเงินอื่นๆหรือไม่ ไม่ว่าคุณต้องการสินเชื่อรวมหรือการจำนอง? มองไม่เพิ่มเติมเพราะเราอยู่ที่นี่สำหรับทุกปัญหาทางการเงินของคุณในอดีต เราให้ยืมเงินให้บุคคลในความต้องการของการช่วยเหลือทางการเงินที่มีเครดิตไม่ดีหรือในความต้องการของเงินที่จะชำระค่าใช้จ่ายการลงทุนในธุรกิจของ 3% ฉันต้องการใช้สื่อนี้เพื่อแจ้งให้คุณทราบว่าเราให้ความช่วยเหลือที่เชื่อถือได้และผู้รับและยินดีที่จะให้เงินกู้ยืม ติดต่อเราวันนี้ผ่านทางอีเมล์ที่:jenniferrobertsloanfirm46@gmail.com หรือ jenniferrobertsloanfirm46@outlook.com หรือข้อความฉัน:+1(480)939-8543 หรือผ่านทางเว็บไซต์:https://jenniferrobertsloa.wixsite.com/mysite/home