สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com ... เจอกับ พี่เป้ และคอลัมน์ KoreanKori
ทุกวันพุธเช่นเคย!! ตอนนี้ที่เกาหลีใต้ก็เริ่มเข้าสู่หน้าหนาวแล้วค่ะ ถือเป็น
ช่วง High Season เหมือนกันนะ เพราะหลายๆ คนก็อยากจะไปดูหิมะกัน
ที่นู่น^^ ดังนั้นจึงมีน้องๆ หลายคนแอบกระซิบมาหาทางหลังไมค์มาว่า
อยากให้แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่ทั้งชิคและชิลในเกาหลีให้หน่อย มีเหรอ
จะไม่จัดให้!!
ทุกวันพุธเช่นเคย!! ตอนนี้ที่เกาหลีใต้ก็เริ่มเข้าสู่หน้าหนาวแล้วค่ะ ถือเป็น
ช่วง High Season เหมือนกันนะ เพราะหลายๆ คนก็อยากจะไปดูหิมะกัน
ที่นู่น^^ ดังนั้นจึงมีน้องๆ หลายคนแอบกระซิบมาหาทางหลังไมค์มาว่า
อยากให้แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่ทั้งชิคและชิลในเกาหลีให้หน่อย มีเหรอ
จะไม่จัดให้!!
สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่นำมาฝากวันนี้ เชื่อว่าหลายคนน่าจะคุ้นชื่อ
แต่น้อยคนจริงๆ ที่เคยไป วันนี้ พี่เป้ ขอเป็นไกด์พาน้องๆ ไปเที่ยวที่...!
เกาะเชจู (Jeju Island) หรือบางคนอาจจะเรียกว่า "เจจู" เป็นเกาะที่ใหญ่
ที่สุดของเกาหลีใต้ ตั้งอยู่ทางใต้ของประเทศ กลางทะเลจีนตะวันออก
เกาะนี้เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟฮันลาซึ่งสูง 1,950 เมตร (ถือเป็น
ภูเขาที่สูงที่สุดของประเทศด้วยค่ะ) เมื่อประมาณ 2 ล้านปีก่อน ปัจจุบัน
เป็นแหล่งท่องเที่ยวตากอากาศที่คนเกาหลีนิยมมาท่องเที่ยวในวันหยุด
จริงๆ ก็มีคนต่างชาติไปเหมือนกันนะคะ แต่ยังไม่แพร่หลายมากเท่าไหร่
เกาะเชจูมีพื้นที่ประมาณ 1,800 ตารางกิโลเมตรค่ะ หลายๆ คนอาจจะงง เอ๊ะ
เกาะเชจูมีพื้นที่ประมาณ 1,800 ตารางกิโลเมตรค่ะ หลายๆ คนอาจจะงง เอ๊ะ
แล้วใหญ่แค่ไหนล่ะ? เปรียบง่ายๆ ก็ใหญ่กว่ากรุงเทพฯ บ้านเราเล็กน้อยค่ะ^^
1. ค่าตั๋วเครื่องบินไม่แพงค่ะ จากกรุงโซลไปเกาะเชจูนั้น โดยมากตั๋วไปกลับ
ประมาณ 1 แสนวอนหรือประมาณ 3 พันบาทเท่านั้นค่ะ หรือหากจองล่วงหน้า
นานๆ อาจได้ถูกกว่านั้นอีกนะ ใช้เวลาบินประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ เท่านั้น
สบายๆ ~~
2. อากาศดีตลอดปีตลอดชาติ เนื่องจากมีภูมิประเทศเป็นเกาะ ดังนั้นในฤดูร้อน
จะไม่ร้อนมากเกินไป และในหน้าหนาวก็จะไม่ได้หนาวจนออกไปเที่ยวไม่ไหว
อย่างเช่นในช่วงเดือนมกราคมที่กรุงโซลจะหนาวมากๆ จนติดลบ แต่บนเกาะ
เชจูจะมีอุณหภูมิประมาณ 10 องศาค่ะ
3. สัมผัสวิถีชีวิตชนบทของเกาหลี หลายๆ คนที่ไปเที่ยวเกาหลีก็มักจะเที่ยว
เล่นในกรุงโซลเป็นส่วนมาก แต่ถ้าได้ลองไปที่เกาะเชจู ขอบอกเลยค่ะว่าน้องๆ
จะเหมือนได้เข้าไปอีกโลกนึงเลย ได้เห็นวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของคนเกาหลีในอีก
รูปแบบ ได้ยินภาษาพูดที่ไม่เหมือนภาษาเกาหลี ได้เห็นธรรมชาติที่สวยจนได้
รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลก!
รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลก!
มาถึงแหล่งท่องเที่ยวและสถานที่น่าไปบนเกาะเชจู อย่างที่บอกไปแล้วว่า
เกาะเชจูเป็นเกาะเล็กๆ จึงสามารถขับรถเที่ยวเองได้ นักท่องเที่ยวจำนวน
ไม่น้อยก็เลือกที่จะเช่ารถขับเที่ยวเองค่ะ หรือใครขับรถไม่เป็นก็ไม่ต้องห่วง
มีรถบัสให้บริการรอบเกาะค่ะ ^^ เราลองมาดูดีกว่าว่า Amazing Jeju นั้น
มีที่ไหนบ้างนะ??
มีที่ไหนบ้างนะ??
น้ำตกชองบัง (정방폭포) ตำนานเก่าแก่เล่าไว้ว่า ใต้น้ำตกนี้มีมังกรอาศัยอยู่
ดังนั้นจึงมีคนเชื่อว่าน้ำจากน้ำตกนี้เป็นน้ำวิเศษที่จะช่วยรักษาโรคต่างๆ ได้
และบริเวณรอบๆ ก็ยังมีน้ำตกเล็กๆ อื่นๆ อยู่ด้วย (เหมือนเป็นบริวารล้อมรอบ)
สำหรับค่าเข้าชมอยู่ที่ 2 พันวอนเท่านั้นค่ะ
ซองซานอิลชูลบง (성산일출봉) ชื่อเรียกยากซะ แต่เป็นสถานที่
ที่ห้ามพลาดเด็ดขาด !! อย่างที่บอกไปแล้วว่าเกาะเชจูเกิดจากการ
ระเบิดของภูเขาไฟ ดังนั้นนักท่องเที่ยวที่ไปเยือนสถานที่นี้ ก็มีเป้า
หมายเดียวกันคือ อยากขึ้นไปชมปากปล่องภูเขาไฟค่ะ! แถมยังเป็นจุดที่
ว่ากันว่า สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้สวยที่สุดบนเกาะด้วยล่ะ
สถานที่นี้จึงมีชื่ออังกฤษว่า Sunrise Peak ใครอยากขึ้นไปก็ต้องฟิต
ว่ากันว่า สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้สวยที่สุดบนเกาะด้วยล่ะ
สถานที่นี้จึงมีชื่ออังกฤษว่า Sunrise Peak ใครอยากขึ้นไปก็ต้องฟิต
ร่างกายกันหน่อยนะ (เดินไกลพอควร) แต่ระหว่างทางสามารถนั่งพัก
ชมวิวแบบชิลๆ ได้ อากาศดี๊ดี~
ชมวิวแบบชิลๆ ได้ อากาศดี๊ดี~
พิพิธภัณฑ์หมีเท็ดดี้แบร์ ใครที่ยังไม่ลืมซีรีส์ชื่อดัง Princess Hour คง
อยากมาที่นี่แน่ๆ ค่าเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่อยู่ที่ 7,000 วอน ที่นี่รวบรวม
ตุ๊กตาหมีเท็ดดี้แบร์ไว้เยอะมากจากทั่วโลก มีของที่ระลึกเกี่ยวกับเจ้าหมีนี้
ขายด้วย แต่ราคามหาโหดทีเดียวค่ะ = ="
O'sulloc Museum ..... O'sulloc เป็นแบรนด์ของกาแฟที่ดังมาก
ของเกาหลีค่ะ ผลิตเมล็ดกาแฟขายรวม ถึงมีร้านกาแฟหลายแห่งด้วย
ดังนั้น O'sulloc Museum ก็คือพิพิธภัณฑ์ไร่ชานั่นเอง โดยเราสามารถเข้า
ชมไร่ชาได้ฟรี ใครเป็นคนชอบดื่มชาโดยเฉพาะชาเขียวนี่ถูกใจแน่ๆ
เพราะมีคาเฟ่กาแฟที่เครื่องดื่มและขนมทุกอย่างทำมาจากชาเขียวด้วยนะ
เพราะมีคาเฟ่กาแฟที่เครื่องดื่มและขนมทุกอย่างทำมาจากชาเขียวด้วยนะ
ภูเขาฮันลา (한라산) สถานที่นี้เหมาะสำหรับคนลุยๆ ชอบเดินเขาค่ะ
ใครอยากเดินเขาเดินป่าก็ห้ามพลาดเลย คำเตือนคือ ไม่ควรไปเดิน
ช่วงหน้าหนาว อาจเจอหิมะตก พื้นลื่น สำหรับการเดินก็ใช้เวลาหลาย
ชั่วโมงเหมือนกันแล้วแต่เส้นทาง ใครที่มีเวลาน้อยแต่อยากเที่ยวเยอะ
ก็ไม่ค่อยไปที่นี่กันสักเท่าไหร่
โทลฮารูบัง (돌하루방) เป็นสัญลักษณ์ของเกาะเชจูที่ทุกคนจะต้องไ้ด้
เจอแน่นอน 100% ในภาษาไทยเรียกว่า "หินปู่" เป็นรูปปั้นที่สร้างจาก
หินลาวาของภูเขาไฟ (ที่เกาะเชจูมีหินลาวาเยอะมากๆ ค่ะ) โดยปั้นเป็น
รูปเหมือนชายแก่ดูใจดี และมีความเชื่อว่าเป็นเหมือนผู้พิทักษ์เกาะ
และคนบนเกาะ หากใครอยากรวย ให้เอามือลูบที่ท้องของโทลฮารูบัง
(ขอลูบสัก 100 ที) ดังนั้นใครไปเกาะเชจูแล้วไม่ได้ถ่ายรูปคู่กับโทลฮารูบัง
เหมือนมาไม่ถึงเกาะเชจูจริงๆ นะจะบอกให้ อ้อ นอกจากนี้โทลฮารูบังยัง
ถูกนำมาทำเป็นของที่ระลึกด้วยค่ะ สามารถซื้อกลับบ้านได้จ้า
เหมือนมาไม่ถึงเกาะเชจูจริงๆ นะจะบอกให้ อ้อ นอกจากนี้โทลฮารูบังยัง
ถูกนำมาทำเป็นของที่ระลึกด้วยค่ะ สามารถซื้อกลับบ้านได้จ้า
แฮนยอ (해녀) ไฮไลต์อีกอย่างของเกาะเชจูที่น้องๆ ไม่สามารถเจอได้ใน
กรุงโซลแน่นอนก็คือ "แฮ-นยอ" แปลเป็นภาษาอังกฤษคือ female diver
ใช่แล้วค่ะ แฮนยอคือผู้หญิงที่ดำน้ำ!! เอ๊ะ เค้าลงไปดำน้ำทำอะไรหว่า??
แฮนยอก็คือผู้หญิงที่ดำน้ำลงไปจับสัตว์น้ำเพื่อนำมาเลี้ยงชีพนั่นเองค่ะ
ในสมัยก่อนเนี่ย ผู้ชายบนเกาะมีหน้าที่ล่องเรือออกหาปลา ผู้หญิงก็มี
หน้าที่หุงหาอาหาร จึงต้องลงมือดำน้ำไปจับสัตว์น้ำมาด้วยตัวเองค่ะ!!
ถ้าน้องๆ ไปเกาะเชจูแล้วนั่งชมวิวทะเล อย่าลืมมองหาแฮนยอด้วยนะคะ
อาจจะเจอเค้ากำลังดำน้ำอยู่แถวนั้นก็ได้ อิอิ
หมูดำ (흑돼지) ภาษาเกาหลีอ่านว่า ฮึก-ทเว-จี เป็นเมนูดังที่ห้ามพลาด
ของเกาะเชจู วิธีทานก็เหมือนการทานหมูเกาหลีทั่วไป คือย่างให้สุก
จากนั้นราดน้ำจิ้ม ทานกับผัก โดยมื้อหนึ่งน่าจะตกหัวละ20,000 วอนค่ะ
ไม่ต้องกลัวจะหาร้านไม่เจอ เพียบบบบ สังเกตป้ายคำว่า 흑돼지 ให้ดีๆ
ส้ม (귤) เกาะเชจูขึ้นชื่อเรื่อง "ส้ม" ค่ะ แค่นั่งรถชมวิวไปสองข้างทาง
รับรองว่าต้องเจอสวนส้มแน่นอน ^^ หากใครไปเที่ยวเกาะเชจูก็อย่าลืม
แวะซื้อผลิตภัณฑ์จากส้มติดไม้ติดมือกลับบ้านด้วยนะ ซึ่งรสชาติส้มที่นี่
ส่วนมากจะเปรี้ยวนำหวาน (บ้านเราจะหวานนำเปรี้ยว) ไม่หมดแค่นั้น
นอกจากนี้ก็มีทั้งพวกแยม ช็อกโกแล็ต ชา วิตามินซี หรือขนมที่แปรรูป
จากส้มขาย จริงๆ ค่อยซื้อที่สนามบินเชจูก็ได้ค่ะ มีขายตรึม จะได้ไม่ต้อง
แบกของหนักเนาะ
ดอกยูแจ (유채꽃) เป็นดอกไม้สีเหลืองๆ ที่น้องๆ เห็นบ่อยๆ ตามภาพค่ะ
โดยแต่ละปีที่เกาะเชจูจะมีเทศกาลของดอกยูแจด้วย จัดในเดือนเมษาซึ่ง
เป็นฤดูใบไม้ผลิที่ดอกยูแจจะออกดอกสวยมากกกกก เหลืองแสบตาไป
ทั้งเกาะทีเดียว
1. จากกรุงโซลมีสายการบินไปเกาะเชจูหลายสายการเจ้า เช่น Jeju Air ,
Air Busan , Jin Air , T'Way Air โดยบินจาก "สนามบินกิมโป" ไม่ใช่
สนามบินอินชอนนะคะ
Air Busan , Jin Air , T'Way Air โดยบินจาก "สนามบินกิมโป" ไม่ใช่
สนามบินอินชอนนะคะ
2. หรือใครอยากนั่งเรือไปก็ทำได้ค่ะ แต่ส่วนมากจะไปเริ่มเดินทางกันที่
"เมืองปูซาน" แล้วนั่ง(นอน)บนเรือเฟอร์รี่ ออกเดินทางตอนหัวค่ำ ก็จะถึง
เกาะเชจูตอนเช้าพอดีค่ะ สำหรับราคานั้นจะแบ่งเป็นชั้น(อารมณ์ไททานิค)
มีตั้งแต่เป็นแสนวอนจนถึงประมาณ 4 หมื่นวอนค่ะ
คำเตือน ทะเลเกาะเชจูไม่ได้สวยอะไรมากมายค่ะ ถ้าใครคิดอยากไปเล่น
น้ำทะเลหรืออยากเห็นทะเลสวยๆ ทะเลบ้านเราเริดกว่าเยอะเลยจ้า
TWITTER @PAYDEKD
ภาำพประกอบ(special thanks) : ข้าว เจ้า
http://www.lumenjo.com/xe/m4/13503
http://blog.naver.com/PostView.nhn?blogId=naher70
pleasetakemeto.com,koreanmuzterchen.blogspot.com
http://blog.naver.com/PostView.nhn?blogId=ehellkazor
blog.jtong.kr
22 ความคิดเห็น
ต้องไปให้ได้เลยย
นึกถึงเรื่องทัมราเลยอ่าา ><
รูปปั้น "หินปู่" เห็นแล้วนึกถึง รูปสลัก "โมอาย" ที่เกาะอีสเตอร์แฮะ
อยากไปจังเลย
ทางบริษัท วี เฟิร์ม จำกัด ได้เป็นตัวแทน ประเทศไทยที่ได้นำเข้า น้ำแร่ SamDaSoo จากเกาะเชจู
ประเทศเกาหลีใต้ ตอนนี้มีวางขาย ที่ "วิลล่ามาเก็ท เดอะมอลล์ ท็อป ใน กทม.แล้วนะค่ะ "
คิดว่าต่อไป จะนำเข้าน้ำส้มด้วยค่ะ ...
และขอยืนยันว่า เกาะเชจู สวยงามมากๆ พืชไร้สารเคมี ดินดีอุดมสมบรูณ์สุดๆจร้า^^
ดื่มแล้วค่ะ อ่านสรรพคุณแล้ว ซื้อเลยค่ะ นุ่มลิ้นๆด้วย แต่อยากได้ขวดใหญ่ด้วยอ่ะค่ะ แล้วจะรอชิม
น้ำส้มนะคะ
https://www.youtube.com/watch?v=mS2fBzhqenY
มีคุณประโยชน์เยอะมาก ดื่มแล้วสดชื่น นำมาฉีดพรมหน้าได้ด้วยทำให้ผิวเราสดชื่นดีจริงๆ
ลองดูกันนะ