สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com วันนี้ พี่พิซซ่า กลับมาพร้อมกับภาษาอังกฤษแบบออสเตรเลีย น้องๆ คนไหนที่อยากไปเรียนต่อที่ออสเตรเลียจะได้เตรียมตัวพร้อมรับมือกับคำทักทายที่ว่า "ฮาว อาร์ ยู ทูดาย?"
ก่อนที่จะไปรู้จักกับภาษาอังกฤษแบบออสเตรเลีย เราต้องศึกษาประวัติศาสตร์ก่อนค่ะว่าเพราะอะไรมันถึงต่างจาก British English หรือภาษาอังกฤษแบบอังกฤษ ทั้งที่ใช้ภาษานี้เป็นภาษาราชการแท้ๆ ^^ ชาวผิวขาวที่ย้ายมาตั้งถิ่นฐานในพื้นที่ประเทศออสเตรเลียในปัจจุบัน ส่วนใหญ่เป็นนักโทษที่ถูกเนรเทศมาจากประเทศอังกฤษค่ะ
ซึ่งนักโทษเหล่านี้เป็นนักโทษทางการเมืองที่เป็นชาวไอริช สก็อต เวลส์ และชาวเมืองต่างๆ รอบนอกประเทศอังกฤษ ที่ไม่ได้ใช้ภาษากลางในชีวิตประจำวัน ลองนึกภาพว่าเอาแต่คนที่ใช้ภาษาถิ่นภาคต่างๆ ไปรวมกัน แถมบางคนก็ใช้ภาษาประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อไม่ได้เจอภาษากลางชัดๆ เป็นเวลานาน สำเนียงก็ต้องต่างออกไปอยู่แล้วค่ะ
นอกจากประเด็นเรื่องภาษาที่นำติดตัวมาแล้ว พอย้ายมาอยู่อีกด้านของโลก ทำให้ได้พบเจอสิ่งแปลกๆ มากมายที่ไม่เคยเห็นมาก่อน จะเรียกก็เรียกไม่ถูก จึงต้องใช้ภาษาพื้นเมืองที่มีอยู่แล้วบนเกาะมาเรียกสิ่งต่างๆ แทน เป็นการเพิ่มคำศัพท์ใหม่ๆ ให้กับภาษาอังกฤษเดิมค่ะ ซึ่งภาษาพื้นเมืองที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นภาษาของชาวอะบอริจินค่ะ เพราะเป็นกลุ่มชนพื้นเมืองที่มีจำนวนมากที่สุดในประเทศ
ดังนั้นภาษาอังกฤษแบบออสเตรเลียหลักๆ จึงมีส่วนผสมของภาษาอังกฤษแบบอังกฤษ ภาษาอังกฤษตามถิ่นต่างๆ ในประเทศอังกฤษ และภาษาชาวพื้นเมืองออสเตรเลียค่ะ นี่ยังไม่ได้รวมภาษาอื่นๆ ที่รับมาใหม่ตลอดเวลาเลยนะคะ
ถ้าไม่ใช่คนที่เก่งในการฟังสำเนียง British English ก็จะจับความต่างยากนิดนึง แต่ถ้ารู้ว่าสำเนียงแบบอังกฤษเป็นยังไง ก็จะรู้สึกทันทีว่าอันนี้มันแปร่งไปใช้ได้เลยนะ อย่างสระเสียง /อิ/ ในสำเนียงออสเตรเลียจะออกเสียงยานขึ้นค่ะ เช่น fish and chips ที่ปกติอ่านว่าฟิช แอนด์ ชิพส์ ในสำเนียงออสเตรเลียจะกลายเป็นฟีชช แอนด์ ชีพพส์ค่ะ
ส่วนเสียงที่แยกความต่างได้ง่ายๆ แบบที่เราเอามาพูดถึงกันเยอะคือเสียง /เออิ/ ค่ะ เช่นคำว่า day สำเนียงออสเตรเลียจะกลายเป็น /ดาย/ ออกเสียงเป็น /อาอิ/ แทน ส่วนเสียง /อาอิ/ แบบปกตินั้นจะกลายเป็นเสียง /อออิ/ แทนเช่นคำว่า nine จะอ่านว่า /นอย/ แทนค่ะ
แม้ส่วนใหญ่จะเหมือนกับของ British English แต่ก็มีคำศัพท์ในสไตล์ของตัวเองเยอะค่ะ เช่น
amber fluid | เบียร์ (น้ำสีอำพัน ตรงตัวมาก) |
cut lunch | แซนด์วิช (อาหารกลางวันที่ตัดมา นี่ก็ตรงตัว) |
oil | ข้อมูลข่าวสาร (information) |
snag | ไส้กรอก (sausage) |
sun-bake | อาบแดด (ที่อื่นใช้อาบแดด แต่ที่นี่ร้อนจนต้องเป็นอบแดด) |
thongs | รองเท้าแตะแบบคีบ (flip-flops) |
tucker | อาหาร (food, meal) |
นอกจากนี้ยังมีคำศัพท์ที่มาจากภาษาชาวอะบอริจินด้วย แต่จะเป็นพวกชื่อเฉพาะของสิ่งที่ไม่เคยเห็นในอังกฤษมาก่อนอย่างชื่อสัตว์ สิ่งของ สถานที่ ต้นไม้ หรือชื่อเรียกพิธีกรรมในเผ่าต่างๆ เช่น
kangaroo, koala, wombat, billabong, boomerang
อีกหนึ่งข้อสังเกตของคำศัพท์ออสเตรเลียคือ ชอบเรียกชื่อยี่ห้อสินค้าจนติดปากกลายเป็นชื่อสิ่งของนั้นๆ ไปแทนค่ะ อย่างบ้านเราชอบเรียกผงซักฟอกว่าแฟ้บ เรียกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปว่ามาม่า หรือเรียกน้ำยาลบคำผิดว่าลิควิด ทั้งที่จริงๆ เราอาจซื้อยี่ห้ออื่นก็ได้ ไปดูยี่ห้อสินค้าติดปากในออสเตรเลียกันค่ะ
Duco สีสำหรับพ่นรถยนต์
Esky กล่องเก็บความเย็น
Liquid Paper น้ำยาลบคำผิด เรียกเหมือนบ้านเราเลย (แต่บางพื้นที่จะฮิตอีกยี่ห้อหนึ่งจึงเรียกว่า Wite-Out แทน)
Manchester ผ้าปูเตียง (เพราะเมืองแมนเชสเตอร์นอกจากจะโด่งดังเรื่องฟุตบอลแล้ว ยังเป็นแหล่งผลิตผ้าลินินปูเตียงที่ชาวออสเตรเลียนิยมใช้ทั้งประเทศ ห้างบางที่จะใช้เป็นชื่อแผนกเครื่องนอนไปเลยด้วยซ้ำ)
คำศัพท์ใน Australian English หลายคำ มักเป็นคำย่อของศัพท์เดิมที่มีอยู่ แล้วเติมเสียงท้ายเป็น /โอ/ หรือ /อิ/ ค่ะ ไม่ได้ทำเพื่อให้ดูน่ารักสดใสนะคะ แต่เพราะภาษานี้ชอบพูดอะไรย่อๆ ค่ะ ประโยคยังย่อกันเป็นเรื่องปกติ อย่าง Are you all right? (คุณโอเคป่ะ) ก็ชอบถามแค่ You right? ที่ฟังกี่ทีพี่ก็นึกว่าเป็นทางขวาของพี่ (your right) หรือไม่ก็ถามว่าถูกไหม 555 กลับมาที่คำลงท้ายด้วยโอ้ๆ อี้ๆ กันดีกว่าค่ะ ว่ามีอะไรที่ควรรู้บ้าง
ambo | ambulance officer | เจ้าหน้าที่ประจำรถพยาบาล |
arvo | afternoon | ตอนบ่าย |
bushie/bushy | bush person | คนที่อยู่บ้านนอกมากๆ ไกลตัวเมือง หรือคนที่ไม่รู้เลยว่าสมัยใหม่ไปถึงไหนกันแล้ว ยังล้าหลังอยู่ |
dermo | dermatologist | แพทย์ผิวหนัง |
footie/footy | football | ฟุตบอล |
garbo | garbage man | คนเก็บขยะ |
gyno | gynaecologist | นรีแพทย์ |
journo | journalist | นักข่าว |
milko | milkman | คนส่งนม (ดูญี่ปุ่นเนอะ มิลค์โกะ 555) |
mossie/mozzie | mosquito | ยุง |
sickie | day's sick leave, sick person | วันที่ลาป่วย หรือคนที่ป่วยไม่มาโรงเรียนหรือทำงานค่ะ |
sunnies | sunglasses | แว่นกันแดด |
surfie/surfy | surfer | นักเล่นเซิร์ฟ |
รวมไปถึงบรรดาชื่อเล่นฝรั่งด้วยนะคะ จากแดนเป็นแดนนี่ บ๊อบเป็นบ๊อบบี้ ที่นี่ยังฮิตลงท้ายด้วย /โอ/ ทำให้ไม่เหมือนชื่อเล่นทางตะวันตกค่ะ เช่น Johno (จอห์นโน่) Jacko (แจ๊คโก้) หรือ Robbo (ร็อบโบ้) ก็ลดความจำเจของชื่อฝรั่งลงได้เยอะเหมือนกันนะคะ แต่ถ้าชื่อโจ ก็ไม่ต้องแปลงเป็นโจโอ้ก็ได้ โจอี้เหมือนเดิมดีอยู่แล้วเนอะ 555
แล้ววันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม อย่าลืมติดตามกันนะคะว่า พี่พิซซ่า จะนำเสนอเรื่องราวอะไรเกี่ยวกับภาษาอังกฤษให้รู้จักกัน ส่วนใครอยากอ่านเรื่องราวสนุกๆ เกี่ยวกับการเรียนต่อนอก สามารถเข้าไปอ่านได้ที่นี่เลยค่ะ www.dek-d.com/studyabroad
TWITTER: @PiZZaDekD
ข้อมูล
http://en.wikipedia.org/wiki/Australian_Englis
hhttp://australiannationaldictionary.com.au/index.php
http://www.anu.edu.au/a-z/?s=0
http://dea.brunel.ac.uk/cmsp/home_yan_qin/intro/intro_au.htm
ภาพประกอบ
www.michellehenry.fr, kids.britannica.com
www.australiangeographic.com.au, www.tehcute.com
adventureseekersoz.blogspot.com, xaxor.com
24 ความคิดเห็น
เเต่ตอนนั้นก็รู้เเล้วแหละว่าสำเนียงออสเตรเลียจะออกเสียงแบบนี้
สำหรับบางคนพูดก็ฟังยากเหมือนกัน
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 20 เมษายน 2556 / 22:17
แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 20 เมษายน 2556 / 10:44
มี teacher คนนึง พูดคำว่า okay ได้แปล่งและแปลกมากๆ
ปกติเราชินสำเนียงอังกฤษ แต่พอมาได้ยินทีชเชอร์คนนี้พูด
เลยเริ่มรู้จักสำเนียงออสเตรเลีย 5555
เราว่าสำเนียงออสเตรเลียแปล่ง ฟังยากกว่าสำเนียงอังกฤษมาก
ซึ่งถ้าในอเมริกันจะเป็น ด.
ปล. ตอนนี้อยู่มา5 ปีแล้วแต่ก็ยังไม่ชินสำเนียงเพราะเจอคนหลายสำเนียงมาก
อินเดียนี่ชอบออกเสีย ร ซึ่งเป็นอะไรที่ปวดตับมากกก
ชอบสุดๆ คงเป็นอเมริกา รัสเซีย กับฝรั่งเศสอ่ะค่ะ เราชินกับพวกนี้มากกว่าบริชติชอีกเพราะครูที่ รร เป็นคนฝรั่งเศสค่ะ :)
สำเนียงอเมกาก็ดูหนังพวก Iron man, captain america, transformers ถ้าเป็นนักร้องก็ justin bieber วง eagles ฯลฯ
สำเนียงอังกฤษ British ก็มี Coldplay, Ed Sheeran, The Beatles, Queen, Lawson หนังก็มี harry potter, พยัคฆ์ร้าย 007, The iron lady, War Horse ฯลฯ
ต้องแยกให้ออกฟังบ่อยๆ ทางยูทูปมีหลายสำเนียงไม่ใช่แค่ 3 นะ ต้องเลือกดูแล้วพิมพ์หาเอง (ถ้าคนที่ฟังออกแยกเป็นมันไม่ยากหรอกครับ) ^_^
ดีเลยอะ
ขอบคุณมากเลยค่ะ....สักวันจะพาเเม่ไปเที่ยวให้ได้เลย