สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com .... ช่วงนี้มีน้องๆ หลายคนที่เตรียมตัวจะไปแลกเปลี่ยนที่อเมริกา กังวลเกี่ยวกับการเตรียมตัว รวมถึงแอบหวั่นๆ ว่า ชีวิตในไฮสคูลที่นั่นจะเป็นยังไงบ้าง จะเจอปัญหาอะไรมั้ย ? ..... เพราะฉะนั้นวันนี้ พี่เป้ ขอนำเรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับปัญหาหลักๆ ที่มักเกิดขึ้นในไฮสคูลที่อเมริกามาฝากค่ะ เชื่อเถอะว่า ต้องเจอปัญหาต่อไปนี้ชัวร์ๆ ไม่มากก็น้อยแหละ !!


RACISM (การเหยียดเชื้อชาติ)

          จริงๆ แล้วเรื่องนี้ไม่ได้เป็นปัญหาที่เกิดเฉพาะในอเมริกา แต่เกิดในทวีปอเมริกาเหนือและยุโรปตะวันตกค่ะ ซึ่งบุคคลหลักๆ ที่มักจะโดนเหยียดเรื่องเชื้อชาติอันดับแรกๆ ก็คงไม่พ้น "คนผิวสี(ดำ)" ที่มาจากประเทศในทวีปแอฟริกา รองลงมาก็เป็นพวกชาวเอเชียหัวดำๆ ผิวเหลืองๆ แบบพวกเรานั่นเองค่ะ ซึ่งบางคนก็โดนตั้งแต่เรื่องเล็กๆ เช่น ไปซื้อข้าวแต่กลับถูกพนักงานซึ่งเป็นฝรั่งผิวขาวมองด้วยหางตา หรือบางทีขึ้นรถบัสแล้วไปนั่งใกล้ๆ ฝรั่งผิวขาว เจ๊แกก็ทำหน้าขยะแขยงแล้วลุกไปนั่งที่อื่น แสดงออกอย่างชัดว่ารังเกียจ ..... โดยเฉพาะคนผิวสีนี่น่าเห็นใจมากค่ะ เพราะในอดีตนั้น พวกเค้ามาขายแรงงานเป็นทาส จนมีลูกมีหลานและขยายเผ่าพันธุ์ไปเรื่อยๆ ในประเทศอเมริกาหรือยุโรปตะวันตก ทำให้ถูกฝรั่งผิวขาวมองว่าเป็นพลเมืองชั้นสอง ส่วนพวกคนเอเชียแบบพวกเรา ก็มักถูกมองว่าเป็นพวกต่างด้าวที่เข้ามาอาศัยในประเทศของเค้า

          บางคนอาจมองว่า RACISM เป็นเรื่องเล็ก แต่บางทีก็กลายเป็นเรื่องใหญ่จนกลายเป็นประเด็นน่ากลัว เช่น การสังหารหมู่อย่างที่เคยเป็นข่าวดังไปทั่วโลกก็คือเรื่องของ หนุ่มเกาหลีชื่อ โซ ซึง ฮุย ที่สังหารหมู่เพื่อนนักศึกษาไปกว่า 30คน โดยเพื่อนตอนมัธยมของโซ ซึง ฮุยเล่าให้นักข่าวฟังว่า ตอนเรียนมัธยม โซ ซึง ฮุย ถูกครูเรียกให้ออกไปพูดหน้าชั้นแต่กลับโดนเพื่อนฝรั่งผิวขาวในชั้นโห่ไล่จนทำให้อับอายขายขี้หน้ามากๆ จนมีความกดดันมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นเอง น่ากลัวนะนี่

           แต่ว่ากันว่า ในอเมริกานั้น หากเราถูกเหยียดเชื้อชาติหรือสีผิว เราสามารถแจ้งตำรวจได้นะคะ แต่ก็ไม่ค่อยมีใครอยากไปแจ้งเท่าไหร่ เพราะต้องมีพยานมีผู้รู้เห็นเหตุการณ์ถึงจะเอาเรื่องได้ ค่อนข้างวุ่นวาย ส่วนมากจึงปล่อยเลยตามเลยไป หึหึ ..... หรือแม้แต่ผู้หญิงไทยอย่างเราก็โดนเหมือนกันค่ะ มีน้องคนหนึ่งเล่าว่า เคยไปเที่ยวผับ แล้วมีผู้ชายฝรั่งอย่างหล่อเลย ยักคิ้วหลิ่วตาให้ประมาณว่า เดี๋ยวต้องเข้ามาขอเบอร์แน่ๆ และซักพัก ผู้ชายคนนั้นก็เข้ามาคุยด้วยจริงๆ ค่ะ โดยทักว่า "Are you Japanese?" (เพราะน้องเค้าผิวขาวมาก) แต่พอน้องตอบไปว่า I'm Thai..... เท่านั้นแหละ ฝรั่งสุดหล่อก็เดินจากไป .... คงไม่ต้องเล่าต่อนะคะว่า ภาพลักษณ์ผู้หญิงไทยที่ทำให้ฝรั่งบางคนเหยียดเชื้อชาติเรา เป็นเพราะเรื่องอะไร ?


DISCRIMINATION (การแบ่งแยก , การเลือกปฏิบัติ)
 
          คำนี้จะมีความหมายคล้ายๆ RACISM แต่จะต่างกันตรงที่ว่า DISCRIMATION นั้นอาจจะเกิดจากเรื่องเชื้อชาติหรือเรื่องอื่นๆ ก็ได้ เช่น อายุ เพศ ศาสนา

- เพศ .... ถ้าเป็นเรื่องเพศ ก็คงไม่พ้นเพศหญิงหรือเพศที่สาม (เกย์อาจจะโดนเยอะเป็นพิเศษ) เช่น นักเรียนชายคนหนึ่งเปิดเผยตนว่าเป็นเกย์ อาจถูกเพื่อนๆ บีบออกจากกลุ่ม ไม่คุยด้วย นั่งกินข้าวแยก มองเป็นตัวประหลาด ..... แต่สำหรับเมืองไทย เรื่องนี้ถือว่าเปิดกว้างมากจริงๆ ค่ะ เพราะถ้าใครมีเพื่อนเป็นเพศที่สามนี่ถือว่าลัลล้ามากๆ เพราะพวกเขานี่แหละมักเป็นคนสร้างสีสันให้แก่กลุ่ม

- ศาสนา .... เช่น สมมติเจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นคนที่เคร่งศาสนา(คริสต์)มากๆๆๆ เมื่อมีคนมาสมัครเป็นพนักงานร้านแต่เป็นมุสลิม เจ้าของร้านอาหารกลับปฏิเสธไม่รับเพราะไม่ใช่คริสเตียนเหมือนกัน เรื่องแบบนี้ก็มีนะคะ ทำเป็นเล่นไป

- อายุ .... เช่น ที่อเมริกามีกฎหมายซึ่งประกันให้ผู้มีอายุ 40-70 ปี มีโอกาสในการทำงานทัดเทียมกับคนอื่นโดยไม่ถูกกีดกันในเรื่องอายุ

 

BULLY IN SCHOOL (อันธพาลในโรงเรียน)

          พวกนี้หลักๆ ส่วนมากเป็นพวกที่ไม่อยากเรียนหนังสือ ไม่อยากไปโรงเรียน (แต่ต้องไป) ดังนั้นจึงพยายามทำตัวกวนประสาทหรือขวางโลก ชอบรังแกคนอื่น ชอบด่าคนอื่นอะไรทำนองนี้ค่ะ ขอยกเรื่องของ "น้อง N@NNiE" ซึ่งอยู่ที่ฟลอริด้าและเคยโพสลงในเว็บบอร์ดมาให้อ่านละกันนะคะ

          "ในประเทศอเมริกานั้น ถ้าใครอยู่โรงเรียน high school ดีๆ หน่อยก็จะดีไป เพราะจะไม่ค่อยมีพวก bully มากนัก ในอเมริกานี้เด็กจะต่อยตีกันและแกล้งกันในกลุ่มเป็นเรื่องปกติมาก คือต่อยกันแทบทุกวัน ใครข่มใครได้ก็ข่มไป !

          ในอเมริกาเด็กที่ high school นี่จำเป็นมากที่จะต้องใส่เสื้อผ้าที่ดีที่สุด ถ้าถามว่าทำไม ? ก็บอกได้เลยว่ามันจำเป็น ! คือที่อเมริกาเขาจะมีบางอย่างที่เรียกว่า "respect" คือการนับถือ (การที่เห็นว่าดีเราดีเราเจ๋ง) การแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าแพงๆ เพื่อจะให้ได้  "respect" นี้เป็นเรื่องปกติ ถ้าใครใส่เสื้อผ้าถูกๆ จะ "lose respect" คือคนในโรงเรียนจะเห็นว่าเราไม่เจ๋ง ก็จะโดนกลั่นแกล้งและไม่มีใครคบในที่สุด ตอนนั้นร้านขายรองเท้าแห่งหนึ่งในรัฐ Florida ได้ชื่อว่าเป็นร้านหนึ่งที่ขายรองเท้าราคาถูกที่สุด มีชื่อว่า Payless ShoeSource ถ้าใครไปซื้อรองเท้าร้านนั้นก็จะโดนกลั่นแกล้ง โดนซ้อม โดนปานู่นปานี่ใส่ โดนยิง (ด้วยหนังสติ๊ก) และก็จะถูกถามว่า "Are you poor?" (นายจนมากหรือไง?)

          ที่นั่นไม่เหมือนที่เมืองไทย คือใครมองแล้วแกล้งได้ ต้องรีบแกล้ง สรุปคือเราต้องแต่งตัวให้ดูดีที่สุดเพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเป้าหมายของพวก bully  ถ้าใส่สูทไปโรงเรียนได้ก็ใส่เลย ! เพราะอย่างนี้วัยรุ่นที่นั่นจึงต้องหางานพิเศษทำ และยอมทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้เสื้อผ้าเท่ๆ แพงๆ มา ถ้าซื้อเสื้อแล้วยี่ห้อดีๆ แล้ว ก็จะยิ่งดีกว่าถ้าเสื้อตัวนั้นมีชื่อยี่ห้อโชว์หราอยู่บนเสื้อ แต่ถ้าไม่มียี่ห้อติด เด็กที่นั่นก็อาจจะไม่แกะป้ายราคาออกเลย เพราะที่ป้ายราคาจะมีชื่อยี่ห้ออยู่"


SEX IN SCHOOL (เพศสัมพันธ์ในวัยเรียน)

          ในประเทศตะวันตกนั้น มักมีเสรีหรืออิสระกันในเรื่องพวกนี้ ถือเป็นเรื่องธรรมดาเพราะมนุษย์ทุกคนมีความต้องการทางเพศ (ฟังดูน่าขนลุก) ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจที่เห็นเด็กอายุแค่ 13-14 แต่เคยมีเพศสัมพันธ์กันแล้ว แต่บางคู่ก็กลับไม่รู้จักป้องกัน ดังนั้นทำให้เกิดปัญหาตามมา เช่น การตั้งครรภ์ การทำแท้ง ซึ่งจริงๆ ปัญหานี้ก็เกิดในบ้านเราเหมือนกันค่ะ ก็ไม่รู้ว่าใครเลียนแบบใคร เหอะๆ .... ขอยกตัวอย่างไฮสคูลในแคนาดาจากประสบการณ์ของ "น้องหมูหวาน" มาให้อ่านค่ะ

          "ในโรงเรียนสห เรื่องกุ๊กกิ๊กของผู้หญิงกับผู้ชายก็มีให้เห็นกันเป็นเรื่องธรรมดาค่ะ บางทีเดินๆ อยู่ดีๆ ก็ได้ชมฉาก 'เลิฟซีน' อยู่บ่อยๆ มีตั้งแต่แบบหวานๆ น่ารักๆ ไปจนถึงแบบฮาร์ดคอร์ อารมณ์ไฟรักอสูรก็ไม่ปาน [ละครเก่าไปไหน? ฮ่าๆ] มีอยู่วันหนึ่ง หมูหวานเดินกลับบ้านกับเพื่อน แล้วทีนี้ไม่รู้ว่านึกอะไร อยากลองเดินไปทางป่าหลังโรงเรียน ก็เดินไปกันกับเพื่อน แล้วทีนี้ก็เห็นรุ่นพี่สองคนกำลังกอดจูบกันอย่างดูดดื่มอยู่หลังดงต้นไม้ค่ะ! O[]O! พูดถึงเรื่องเพศแล้ว ในห้องน้ำหญิงนอกจากจะมีตู้ขายผ้าอนามัย ยังมีอีกตู้หนึ่งค่ะสำหรับถุงยางอนามัย [หลายๆ คนคงโห่อย่างรับไม่ได้กันเลยทีเดียว] แต่หมูหวานว่ามันเป็นเรื่องดีนะคะ อย่างน้อยก็ทำให้นักเรียนรู้จักที่จะป้องกันตัวเอง"

          หลายคนอาจจะมองว่า การแจกถุงยางอนามัยหรือการมีตู้กดถุงยางอนามัยนั้นถือเป็นเรื่องดี เด็กจะได้รู้จักป้องกันตัวเอง แต่มองอีกแง่ ก็เหมือนเป็นการชี้โพรงให้กระรอกมากๆ ประมาณว่า อยากมีเพศสัมพันธ์ก็มีไป เพราะยังไงโรงเรียนก็มีถุงยางแจก .... เรื่องแบบนี้พูดยากค่ะ ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกล้วนๆ

      


        นั่นก็คือ 4 ปัญหาใหญ่ๆ ที่ต้องได้เจอแน่ๆ ไม่ว่ากับตัวเองหรือคนรอบข้าง ขอแนะนำว่าถ้าทนไหวก็ทน แต่ถ้าทนไม่ไหวจริงๆ ให้ลองปรึกษาคนรอบข้างว่าควรรับมือยังไงดี เพราะถ้าเก็บ(กด)ไว้คนเดียว กลัวจะเป็นเหมือนโซ ซึง ฮุย = =" ว่าแต่มีใครเคยเจอปัญหาอะไรในโรงเรียนบ้างคะ ลองมาเล่าให้ฟังได้ที่คอมเม้นท์ด้านล่างเลยค่ะ


 

ภาพประกอบ : my.englishclub.com , ps2.ign.com,humanrightsnigeria.org

พี่เป้
พี่เป้ - Columnist มนุษย์บ้างานและบ้านวด ผู้ตกหลุมรักปลาแซลมอน การนอน และและออฟฟิศ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

ซ่อนนาม Member 22 พ.ย. 54 14:11 น. 12
เรื่องตลกของปัญหาทางเพศ
- เวลาจะสอนเพศศึกษา ไม่ยอมให้สอนเพราะคิดว่าไม่สมควร
- เวลาจะให้เครื่องป้องกัน ไม่ยอมให้เพราะคิดว่าชี้โพรงแก่กระรอก
- เวลาเขาท้องก็ไล่ออกจากบ้านไล่ออกจากดรงเรียน เพราะทำเสียชื่อ
- เวลาอุ้มครรภ์ก็ไม่ให้ทำงาน เพราะอ้างว่าทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพ
- เวลาคลอดบุตรก็ไม่ให้เงินเลี้ยงดูสนับสนุน เพราะมันเปลืองตังค์
- แต่เวลาแม่จะตายเพราะมีลูกเป็นภาระเพิ่ม กลับบอกว่าห้ามทำแท้งเพราะผิดศีลธรรม

อยากรู้จังว่า ตั้งแต่แรกเนี่ย เราไม่เคยสนับสนุนห้ามปรามในการไม่ให้เขาท้องเลย
แต่ไฉนเลยเรายังถึงบีบบังคับให้เขาไปฆ่าตัวตายทางอ้อมด้วยการไม่ให้ทำแท้งอีกเล่า ?

ปัญหามีเพศสัมพันธ์ในวัยอันไม่สมควร มันไม่ใช่ปัญหาใหญ่หรอก
เพราะวัยอันไม่สมควร มันเท่าไหร่กัน ? แล้วอะไรคือตัวกำหนดว่าอายุนั้นไม่สมควรจริง ?

ทว่า การท้องในวัยอันไม่สมควรสิ ปัญหาใหญ่กว่า
และกำหนดอายุได้ชัดว่าเมื่อไหร่พร้อมหรือไม่พร้อม จากตัวหญิงชายเอง
และหากปล่อยให้เกิดสิ่งที่ได้คือประชากรอันไร้คุณภาพที่เกิดจากพ่อแม่ซึ่งไม่มีความพร้อม

การให้ความรู้ การให้เครื่องป้องกัน ไม่จำเป็นต้องมีค่าเท่ากับการชี้โพรงให้กระรอกหากสอนให้ดี
ทว่าการไม่สอนเลย การห้ามทุกอย่างเลยแบบไม่ให้ความรู้ มันจะเป็นการยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ
(เหมือนบทความนี้แหละ 8-ข้อ-ตรวจสอบพ่อแม่)
เช็คดูได้ ประเทศที่เปิดเสรีเรื่องเพศมากกว่าไม่ค่อยมีปัญหาการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรมากนัก
แต่ประเทศที่มีแต่การห้ามและไม่ปิดบังอย่างประเทศไทย กลับมีเป็นประเทศต้น ๆ
ดังนั้นเชื่อได้ว่า การให้ความรู้และการให้เครื่องป้องกัน ไม่ใช่การชี้โพรงให้กระรอก
กลับกันจะเป็นการลดปัญหาการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรที่เป็นปัญหาที่สำคัญจริงมากกว่า

และที่สำคัญ
มีถุงยาง แต่ไม่มีคู่นอน คนที่อยากจะมีเพศสัมพันธ์ก็ทำไม่ได้
มีถุงยาง มึคู่นอน คนที่อยากจะมีเพศสัมพันก็ทำได้และป้องกันได้ไปพร้อมกัน
ไม่มีถุงยาง แต่มีคู่นอน คนที่อยากจะมีเพศสัมพันธ์ก็จะทำแต่แบบไม่ป้องกัน
ดังนั้นการมีถุงยางไม่ได้ชี้โพรงให้กระรอกเลย เพราะคนที่ไม่มีคู่นอนยังไงก็ทำไม่ได้

อันนี้ที่บอกกันก็เพราะอยากให้หลายคนปรับทัศนคติเสียใหม่
เรียงลำดับความสำคัญให้ถูก มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรไม่ใช่ปัญหา
เพราะนั่นห้ามยากและใช่ว่าจะมีผลเสียในตัวของมันเอง
แต่ที่มีปัญหาคือคนที่มีแล้วดันตั้งท้องก่อนวัยอันควรนี้แหละ
มุมมองนี้เหมือนจะเป็นมุมมองที่ผู้ใหญ่รุ่นเก่าหลายคนล่อหลอกให้คนรุ่นหลังคิดอย่างนี้นะ
และการคิดแบบนี้แหละที่ทำให้มีปัญหาเรื่องการท้องและการทำแท้งตามมาในปัจจุบัน
เราว่าถ้าคิดให้ดีด้วยหลักเหตุและผลเราว่ามันไม่ได้ชี้โพรงให้กระรอกเลยสักนิด



แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 22 พฤศจิกายน 2554 / 14:26
1
กำลังโหลด
ราตรีใต้แสงจันทร์ Member 22 พ.ย. 54 14:01 น. 11
รักประเทศไทย รักโรงเรียนของเรามาก
เอ่อ...นายจะใส่เสื้อผ้าแพงๆเพื่อ??
เอ่อ...นายจะอวดรวยเพื่อ??
เอ่อ...นายจะเหยียดเชื้อชาติเพื่อ??
เอ่อ...นายจะดูถูกคนอื่นเพื่อ??
คนที่เขาประหยัดเงินก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจน
เขาเรียกว่ารู้จักใช้เงิน นายอย่าดูถูกเขาสิ เขาก็เป็นคนเหมือนกับนาย
เราว่านายเก็บเงินไว้เลี้ยงตัวเองเหอะ อย่าเอาเงินที่หาได้ไปซื้อเสื้อผ้าแพงเว่อร์ลยมันไร้สาระเกินไป

ปล.นายคงอ่านภาษาไทยไม่ออกหรอก

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
❥ฝนนา,.คุณปลายฝน© Member 22 พ.ย. 54 13:17 น. 8
ข้อแรกอาจดูไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่มันใหญ่จริงๆ เราคอมเฟิร์ม เจอมากับตัว

ผิวเหลืองเดินเข้าไปก็ผิดแล้ว TT' ตูผิดสินะ ตูผิดสินะที่เอเชีย เอ๊ออออ มาต่อยกันม้ายยย (อันนี้ออกแนวเราบูลี่เองวะงั้นแล้วนา 5555)

แต่เราว่าที่ไทยเราก็มีปัญหาสุดท้ายนะ และอีกเรื่องคือปผัญหาเล็กๆที่เมืองนอกไม่มี อย่างชอบ "จับกลุ่มนินทา" เนี่ย ทำยังไงจะหมดไปสักทีนะ อยากจะรู้จริงๆ 55555 ;p

0
กำลังโหลด
snowman 22 พ.ย. 54 13:32 น. 10
1.เชื้อชาติถ้าเค้าเหยียดเรา เราก็เหยียดกลับ (ถ้ามีพวก 555) แต่ถ้าไม่มีก็ช่างมัน ไปหาคนอื่นก็ได้
2.Discrimination นี้ยอมรับเลยว่ามากกว่าที่ไทย ตั้งแต่มาที่นี้ยังไม่เห็นเกย์ ตุ๊ดสักคน เรื่องศาสนาก็คล้ายๆ กับที่ไทย แต่ที่ไทยยังเปิดกว้างมากกว่า รร.คริสต์ มีทั้งพุทธ อิสลาม ฯลฯ แต่ที่นี้ รร. คริสต์ ส่วนมากก็มีแต่คริสต์
3.Bully ที่ไทยไม่มีหรอ? มีแน่นอน พอๆ กับที่อเมริกานี้แหละ แต่ก็ไม่ฆ่ากันด้วยชุดนักเรียนแบบที่ไทย "ต่างสถาบัน ยิงแม่งเลย"
4.เรื่องเพศสัมพันธ์นี้เราเห็นด้วยนะ ที่จะมีการแจกถุงยาง ดีกว่าที่ไทย เอาแต่ห้ามแต่ก็ไปแอบทำกันแล้วก็ไม่ป้องกัน สุดท้ายก็ท้อง ล่าสุดก็ข่าวทารก 2002 ศพที่วัดไผ่เงิน รู้หรือปล่าวข่าวนั้นดังไปทั่วโลกเลยนะ แล้วใช่ว่ามันจะมีแค่นั้นมีอีกเยอะที่ยังจับไม่ได้ แต่ถ้ามีถุงยางถึงจะเสียพรรมจรรย์แต่ก็ไม่ท้อง แล้วความคิดเรื่องพรรมจรรย์น่ะ มันเป็นแค่ความรู้สึก ค่านิยม มันไม่สามารถตัดสินคุณค่าของคน

ปล.ชุดนักเรียนก็ไม่ได้ช่วยอะไรสักหน่อย ไร้สาระมาก บอกว่าจะให้เท่าเทียมแต่จริงๆ แล้วมันก็ใช้แบ่งแยกแหละ "บางคนไม่มีเงินจะกินข้าวกลางวันด้วยซ้ำแต่ต้องเจียดเงินไปซื้อชุดนักเรียน" มันเป็นเรื่องของผลประโยชน์มากกว่า ชุดนักเรียนปีนึงเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่าหมื่นล้านบาท คิดบ้างไหมเงินจำนวนนี้เอาไป ใช้พัฒนาส่วนอื่นไม่ดีกว่าหรอ
ข้อเสียอีกข้อนึงของชุดนักเรียนคือทำให้ผู้บริสุทธิ์มากมายต้องตาย เพราะการแบ่งแยกสถาบัน ซึ่งก็เห็นตามหน้าหนังสือพิมพ์อยู่เกือบทุกวัน
0
กำลังโหลด

62 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยเจ้าของ

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
❥ฝนนา,.คุณปลายฝน© Member 22 พ.ย. 54 13:17 น. 8
ข้อแรกอาจดูไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่มันใหญ่จริงๆ เราคอมเฟิร์ม เจอมากับตัว

ผิวเหลืองเดินเข้าไปก็ผิดแล้ว TT' ตูผิดสินะ ตูผิดสินะที่เอเชีย เอ๊ออออ มาต่อยกันม้ายยย (อันนี้ออกแนวเราบูลี่เองวะงั้นแล้วนา 5555)

แต่เราว่าที่ไทยเราก็มีปัญหาสุดท้ายนะ และอีกเรื่องคือปผัญหาเล็กๆที่เมืองนอกไม่มี อย่างชอบ "จับกลุ่มนินทา" เนี่ย ทำยังไงจะหมดไปสักทีนะ อยากจะรู้จริงๆ 55555 ;p

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
snowman 22 พ.ย. 54 13:32 น. 10
1.เชื้อชาติถ้าเค้าเหยียดเรา เราก็เหยียดกลับ (ถ้ามีพวก 555) แต่ถ้าไม่มีก็ช่างมัน ไปหาคนอื่นก็ได้
2.Discrimination นี้ยอมรับเลยว่ามากกว่าที่ไทย ตั้งแต่มาที่นี้ยังไม่เห็นเกย์ ตุ๊ดสักคน เรื่องศาสนาก็คล้ายๆ กับที่ไทย แต่ที่ไทยยังเปิดกว้างมากกว่า รร.คริสต์ มีทั้งพุทธ อิสลาม ฯลฯ แต่ที่นี้ รร. คริสต์ ส่วนมากก็มีแต่คริสต์
3.Bully ที่ไทยไม่มีหรอ? มีแน่นอน พอๆ กับที่อเมริกานี้แหละ แต่ก็ไม่ฆ่ากันด้วยชุดนักเรียนแบบที่ไทย "ต่างสถาบัน ยิงแม่งเลย"
4.เรื่องเพศสัมพันธ์นี้เราเห็นด้วยนะ ที่จะมีการแจกถุงยาง ดีกว่าที่ไทย เอาแต่ห้ามแต่ก็ไปแอบทำกันแล้วก็ไม่ป้องกัน สุดท้ายก็ท้อง ล่าสุดก็ข่าวทารก 2002 ศพที่วัดไผ่เงิน รู้หรือปล่าวข่าวนั้นดังไปทั่วโลกเลยนะ แล้วใช่ว่ามันจะมีแค่นั้นมีอีกเยอะที่ยังจับไม่ได้ แต่ถ้ามีถุงยางถึงจะเสียพรรมจรรย์แต่ก็ไม่ท้อง แล้วความคิดเรื่องพรรมจรรย์น่ะ มันเป็นแค่ความรู้สึก ค่านิยม มันไม่สามารถตัดสินคุณค่าของคน

ปล.ชุดนักเรียนก็ไม่ได้ช่วยอะไรสักหน่อย ไร้สาระมาก บอกว่าจะให้เท่าเทียมแต่จริงๆ แล้วมันก็ใช้แบ่งแยกแหละ "บางคนไม่มีเงินจะกินข้าวกลางวันด้วยซ้ำแต่ต้องเจียดเงินไปซื้อชุดนักเรียน" มันเป็นเรื่องของผลประโยชน์มากกว่า ชุดนักเรียนปีนึงเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่าหมื่นล้านบาท คิดบ้างไหมเงินจำนวนนี้เอาไป ใช้พัฒนาส่วนอื่นไม่ดีกว่าหรอ
ข้อเสียอีกข้อนึงของชุดนักเรียนคือทำให้ผู้บริสุทธิ์มากมายต้องตาย เพราะการแบ่งแยกสถาบัน ซึ่งก็เห็นตามหน้าหนังสือพิมพ์อยู่เกือบทุกวัน
0
กำลังโหลด
ราตรีใต้แสงจันทร์ Member 22 พ.ย. 54 14:01 น. 11
รักประเทศไทย รักโรงเรียนของเรามาก
เอ่อ...นายจะใส่เสื้อผ้าแพงๆเพื่อ??
เอ่อ...นายจะอวดรวยเพื่อ??
เอ่อ...นายจะเหยียดเชื้อชาติเพื่อ??
เอ่อ...นายจะดูถูกคนอื่นเพื่อ??
คนที่เขาประหยัดเงินก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจน
เขาเรียกว่ารู้จักใช้เงิน นายอย่าดูถูกเขาสิ เขาก็เป็นคนเหมือนกับนาย
เราว่านายเก็บเงินไว้เลี้ยงตัวเองเหอะ อย่าเอาเงินที่หาได้ไปซื้อเสื้อผ้าแพงเว่อร์ลยมันไร้สาระเกินไป

ปล.นายคงอ่านภาษาไทยไม่ออกหรอก

0
กำลังโหลด
ซ่อนนาม Member 22 พ.ย. 54 14:11 น. 12
เรื่องตลกของปัญหาทางเพศ
- เวลาจะสอนเพศศึกษา ไม่ยอมให้สอนเพราะคิดว่าไม่สมควร
- เวลาจะให้เครื่องป้องกัน ไม่ยอมให้เพราะคิดว่าชี้โพรงแก่กระรอก
- เวลาเขาท้องก็ไล่ออกจากบ้านไล่ออกจากดรงเรียน เพราะทำเสียชื่อ
- เวลาอุ้มครรภ์ก็ไม่ให้ทำงาน เพราะอ้างว่าทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพ
- เวลาคลอดบุตรก็ไม่ให้เงินเลี้ยงดูสนับสนุน เพราะมันเปลืองตังค์
- แต่เวลาแม่จะตายเพราะมีลูกเป็นภาระเพิ่ม กลับบอกว่าห้ามทำแท้งเพราะผิดศีลธรรม

อยากรู้จังว่า ตั้งแต่แรกเนี่ย เราไม่เคยสนับสนุนห้ามปรามในการไม่ให้เขาท้องเลย
แต่ไฉนเลยเรายังถึงบีบบังคับให้เขาไปฆ่าตัวตายทางอ้อมด้วยการไม่ให้ทำแท้งอีกเล่า ?

ปัญหามีเพศสัมพันธ์ในวัยอันไม่สมควร มันไม่ใช่ปัญหาใหญ่หรอก
เพราะวัยอันไม่สมควร มันเท่าไหร่กัน ? แล้วอะไรคือตัวกำหนดว่าอายุนั้นไม่สมควรจริง ?

ทว่า การท้องในวัยอันไม่สมควรสิ ปัญหาใหญ่กว่า
และกำหนดอายุได้ชัดว่าเมื่อไหร่พร้อมหรือไม่พร้อม จากตัวหญิงชายเอง
และหากปล่อยให้เกิดสิ่งที่ได้คือประชากรอันไร้คุณภาพที่เกิดจากพ่อแม่ซึ่งไม่มีความพร้อม

การให้ความรู้ การให้เครื่องป้องกัน ไม่จำเป็นต้องมีค่าเท่ากับการชี้โพรงให้กระรอกหากสอนให้ดี
ทว่าการไม่สอนเลย การห้ามทุกอย่างเลยแบบไม่ให้ความรู้ มันจะเป็นการยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ
(เหมือนบทความนี้แหละ 8-ข้อ-ตรวจสอบพ่อแม่)
เช็คดูได้ ประเทศที่เปิดเสรีเรื่องเพศมากกว่าไม่ค่อยมีปัญหาการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรมากนัก
แต่ประเทศที่มีแต่การห้ามและไม่ปิดบังอย่างประเทศไทย กลับมีเป็นประเทศต้น ๆ
ดังนั้นเชื่อได้ว่า การให้ความรู้และการให้เครื่องป้องกัน ไม่ใช่การชี้โพรงให้กระรอก
กลับกันจะเป็นการลดปัญหาการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรที่เป็นปัญหาที่สำคัญจริงมากกว่า

และที่สำคัญ
มีถุงยาง แต่ไม่มีคู่นอน คนที่อยากจะมีเพศสัมพันธ์ก็ทำไม่ได้
มีถุงยาง มึคู่นอน คนที่อยากจะมีเพศสัมพันก็ทำได้และป้องกันได้ไปพร้อมกัน
ไม่มีถุงยาง แต่มีคู่นอน คนที่อยากจะมีเพศสัมพันธ์ก็จะทำแต่แบบไม่ป้องกัน
ดังนั้นการมีถุงยางไม่ได้ชี้โพรงให้กระรอกเลย เพราะคนที่ไม่มีคู่นอนยังไงก็ทำไม่ได้

อันนี้ที่บอกกันก็เพราะอยากให้หลายคนปรับทัศนคติเสียใหม่
เรียงลำดับความสำคัญให้ถูก มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรไม่ใช่ปัญหา
เพราะนั่นห้ามยากและใช่ว่าจะมีผลเสียในตัวของมันเอง
แต่ที่มีปัญหาคือคนที่มีแล้วดันตั้งท้องก่อนวัยอันควรนี้แหละ
มุมมองนี้เหมือนจะเป็นมุมมองที่ผู้ใหญ่รุ่นเก่าหลายคนล่อหลอกให้คนรุ่นหลังคิดอย่างนี้นะ
และการคิดแบบนี้แหละที่ทำให้มีปัญหาเรื่องการท้องและการทำแท้งตามมาในปัจจุบัน
เราว่าถ้าคิดให้ดีด้วยหลักเหตุและผลเราว่ามันไม่ได้ชี้โพรงให้กระรอกเลยสักนิด



แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 22 พฤศจิกายน 2554 / 14:26
1
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Tina 22 พ.ย. 54 16:21 น. 15
ในความเห็นของเรามันแล้วแต่โรงเรียนน่ะค่ะ
อย่างเรื่อง racism เนี่ยโรงเรียนเราส่วนมากเกือบ 90% เป็นคนแม็กซิกัน
คนเอเชียก็มีบ้างพอสมควร ฝรั่งนี่มีนับคนได้เลย เราเรียนมาสี่ปีมามีเพื่อนในห้องเป็นฝรั่งตอนปีสุดท้าย
แถมมีแค่คนเดียวน่ะ บางทีก็สงสารเึค้าน่ะ เพราะอย่างห้องเรียนเราปีที่แล้วเนี่ยมีคนขาวหนึ่งคนและะคนเอเชียหนึ่งคน(เราเอง)จากจำนวน นร 35 คน
บางทีคนขาวก็โดนโห่ก็มีน่ะ แต่อย่างเราไม่ค่อยโดนเฉยๆไว้
แต่โรงเรียนเราจากที่เราเจอจากเพื่อนๆเราน่ะเค้าจะไม่เหยียดคนเอเชียน่ะ
แต่มันก็มีน่ะตอนมาเรียนใหม่ๆ เพื่อนชอบแกล้งเพราะไม่ชอบหน้าหรือรู้ว่าเราไม่สู้
ส่วนมากเค้าจะดูแบบยกย่องทำนองว่า แกมาจากโลกไหน ทำไมดูฉลาดจัง 555555

เรื่อง Bully นี่เราไม่ค่อยเห็นน่ะ ส่วนมากที่เห็นพอประปรายก็แบบไม่พอใจกันก็ตบกัน ต่อยกัน
แต่ไม่เคยเจอร้ายกว่านี้น่ะ

เรื่องท้องนี่ธรรมดามากค่ะสำหรับที่นี่ ครูเค้าก็เห็นเป็นเรื่องธรรมดา
แบบพูดคุยแบบเหมือนหัวข้อทั่วไปเลยแบบตั้งชื่อยัง
จะคลอดวันไหน จะคลอดทันวันจบการศึกษาไหม ดีใจหรือเปล่าไรงี้
มันก็ดีน่ะค่ะที่เค้าแบบไม่ได้ให้ออกไรงี้ คลอดเสร็จก็มาเรียน
แต่ในมุมมองเรา อย่าง รร เราเนี่ยเป็น รร ที่นักเรียนตั้งท้องมากที่สุดในจำนวนโรงเรียนทั้งเขตการศึกษา(ก็ประมาณ 10 โรงเรียน)
โรงเรียนเค้าก็แบบรณรงค์น่ะค่ะ แต่คนที่นี่ไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่น่ะ
เหมือนเค้าก็คงชินๆไปแล้วกับเรื่องแบบนี้
0
กำลังโหลด
zeecon Member 22 พ.ย. 54 16:57 น. 16
เมืองไทยเปิดกว้างเรื่องเพศ3ก็จริง แต่บางส่วนผู้ใหญ่ที่หัวโบราณก็ยังรับไม่ได้นะ
คนใกล้ตัวเลย พ่อแม่ของเพื่อนเรา ถึงกับให้เลิกคบเลยอ่ะ

แต่ทำไมพวกฝรั่งเค้าไม่ค่อยเปิดกว้างบ้างล่ะ สงสัย??
0
กำลังโหลด
Amoris Member 22 พ.ย. 54 17:03 น. 17
LIKE คห. 12

ถ้ามัวแต่คิดว่ามันเป็นเรื่อง 2 แง่ 3 ง่าม มันก็จะเกิดเรื่องแบบนี้ไปเรื่อยๆ
ถ้าป้องกันซะ ท้องก่อนวัยอันควรมันก็ไม่มี นี่แหละ สังคมไทย

(สมัยก่อนจับลูกแต่งงานตั้งแต่อายุ 15 เป็นเรื่องปกติ สมัยนี้แต่งงานอายุยังไม่ถึง 20 ดีก็หาว่าท้องก่อนแต่ง -*- เออ ยิ่งนับวันยิ่งแปลก)
0
กำลังโหลด
embrace Member 22 พ.ย. 54 17:45 น. 18
 ว้าว เห็นไหม ทุกประเทศมันก็มีด้านเสียๆกันทั้งนั้นแหละ อเมริกาแค่เปิดเสรีทางเพศเท่านั้นเอง หลายๆคนก็เลยอยากไปเรียนที่นั่น แต่...แค่เป็นเกย์เขาก็บีบออกจะกลุ่มแล้ว

หลังจากอ่าน คือวิจารณ์เฉพาะด้านเสียนะ ในความคิดเราว่าอเมริกาเป็นพวกเห็นแก่ตัว เป็นคนที่มีความสามารถ เก่ง แต่เห็นแก่ตัวเท่าๆกับความสามารถเลย-*- คิดว่าประเทศตัวเองเจ๋งมิใช่น้อย ดูถูกคนนั้นนู่นนี่ แย่ ถึงอเมริกาจะไม่ค่อยชอบตินั่นตินี่อย่างคนไทย ใช่ว่าพวกเขาจะเสรีนะจ๊ะ พวกเขาดูถูกแม้กระทั่งคนเอเชีย-*- แอฟริกา เอาเขามาเป็นทาสไม่พอ ยังรังเกียจเขาอีก(แต่ของเรา แค่เขาผิวดำเฉยๆ โดยส่วนตัวไทยไม่ค่อยชอบคนผิวดำไง แค่เขาดูขี้เหร่เฉยๆ -*-)


อะไรกันเนี่ย! เสียค่าไปเรียนอเมริกาไม่พอ ยังเรื่องเสื้อผ้าอีก ดูท่าจะฟุ่มเฟือยจริงๆเลยย
 
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
ตะแง่ว 22 พ.ย. 54 20:32 น. 20
เ่อ่อ คห.10 เป็นไรมากป่าว ชุดนักเรียนไทยก็สวยดีออก(ถ้าใส่ตามระเบียบนะ)

มันก็เหมือนกันแหละ เด็กที่นั่นทำงานตัวเปนเกลียวเพื่อซื้อเสื้อแบรนด์ เขาก็ต้องเจียดเงินกินข้าวเหมือนกันแหละ

แล้วอิเรื่องผู้บริสุทธิ์ตายอ่ะ คือที่ฆ่ากันต่อยกันทุกวันเนี้ย มันไม่ได้เปนเพราะชุดนักเรียนซะเท่าไรหรอกนะ มันเปนเพราะเรื่องอื่นที่ไม่มีสาระมากกว่านี้ตั้งมากกว่า (พูดเหมือนใส่ชุดนักเรียนแล้วตายกันเป็นโศกมนาฏกรรม)
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด