|
สวัสดีครับ..ช่วงนี้ พี่ลาเต้ ได้ไปทำ กิจกรรมแอดมิชชั่นออนทัวร์ กับน้องๆตามโรงเรียนต่างๆทำให้รู้มาว่า น้องๆ ม.6 หลายคนสนใจสมัครสอบรับตรงกันเยอะมากๆ..ก็ถือเป็นสิ่งที่ดีมากๆครับ..เพราะหากติดรับตรงแล้ว ก็จะไม่ต้องเหนื่อย และเครียดกับการเตรียมตัวสอบแอดมิชชั่นอีกต่อไปครับ.. และวันนี้ พี่ลาเต้ ก็มี ปฏิทินการสอบ B-GAT และ B-PAT มาฝากน้องๆครับ..หลายคนเมื่อได้ยินชื่อถึงกับ งง รวมไปถึงสับสนว่า "มันคืออะไร ต่างกับ GAT- PAT ตรงไหน" งั้น พี่ลาเต้ ขออธิบายตรงนี้เลยว่า การสอบ B-GAT และ B-PAT เป็นข้อสอบของการรับตรง ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเท่านั้นครับ..พูดง่ายๆคือ ใครที่จะสอบรับตรงของจุฬาฯ จะต้องสอบข้อสอบ 2 ชุดนี้ และข้อสอบ 2 ชุดนี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับ GAT- PAT ทั้งนั้น..ที่ชื่อมันคล้ายๆกัน เพราะมีหน่วยงานที่จัดสอบ หน่วยเดียวกันเท่านั้นเองครับ.. ใครบ้างที่จะต้องสมัครสอบ B-GAT และ B-PAT น้องๆที่จะต้องสมัครสอบ B-GAT และ B-PAT คือน้องๆที่จะเข้าโครงการรับตรง จุฬาฯ ใน 4 โครงการนี้เท่านั้น คือ 1.โครงการจุฬา-ชนบท 14 คณะ 2.โครงการพัฒนากีฬาชาติ 11 คณะ 3. โครงการรับเข้าศึกษา สาขาสถาปัตยกรรมไทย คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ 4.โครงการรับเข้าศึกษา หลักสูตรสัตวแพทยศาสตร์บัณฑิต คณะสัตวแพทยศาสตร์ และหากน้องๆคนไหนที่สมัครรับตรงจุฬาฯนอกเหนือจาก 4 โครงการนี้ก็ไม่ต้องสอบ B-GAT และ B-PAT ครับ..
เป็นอีกหนึ่งโครงการรับตรงที่น้องๆหลายคนให้ความสนใจกันมากเลยนะครับ แต่ขณะเดียวกันก็มีน้องๆหลายคนที่สับสนในการสมัคร และไม่เข้าใจอีกมากเหมือนกัน.. ดังนั้นสุดท้ายนี้ พี่ลาเต้ ฝากให้น้องๆอ่านรายละเอียดคุณสมบัติหลักเกณฑ์ต่างๆให้ครบถ้วน และชัดเจนด้วยนะครับ..และที่สำคัญขอให้ประสบความสำเร็จในการสอบครั้งนี้ด้วย ขอให้ติดและได้เข้าไปเรียนสมใจนะครับ..สวัสดีครับ |
 |
11 ความคิดเห็น
ม่ายงั้นก้การจัดการโรงแรมอ่ะค่ะ....แล้วหนูเรียนสายวิทย์-คณิตด้วย จะสามารถเรียนเรียนได้ไหมค่ะ
ตอนนี้กำลังสับสนอยู่เลยว่าจะเรียนที่ไหนดี และต้องเตรียมตัวยังไงอ่ะค่ะ
1. เข้าห้องสอบตรวจสอบเลย เลขที่สอบถูกไหม เขียนชื่อ รายละเอียดต่างๆ ให้ครบ แต่ละปีจะมีผู้ทำข้อสอบแบบไม่ประสงค์ออกนามมากมาย
2. ให้ดูข้อสอบโดยรวมว่าวิชาที่เราทำอยู่มันตรงไหม จำนวนข้อมันเท่ากับที่เขาบอกไหม ถ้ามันถูกต้อง ก็เริ่มทำข้อสอบ
3. เวลาเริ่มทำข้อสอบอย่างแรกเลย ไม่ต้องเร่ง ค่อยๆทำ ควรมีการจัดการเรื่องข้อสอบก็คือทำข้อง่ายถึงข้อยาก ถามว่าข้อไหนข้อง่าย คือเรื่องที่เรารู้ บทไหนรู้เรื่องทำมันเลย ทำข้อง่ายก่อนข้อยาก พอเวลาทำข้อง่ายได้แล้วไม่ต้องรีบทำนะ ทำแบบสบายๆ ไม่ต้องร้อนรน ข้อไหนทำได้มาร์คใว้ อย่าทำไปเดาไป เดี๋ยวเรามาเดารวดเดียวตอน 10 นาทีสุดท้าย เดารวดเดียวไม่เป็นไร เรามีโอกาสถูกมากกว่า 25% แน่นอน
4. เราจะแบ่งเวลา 3 ช่วง 90 นาที ,20 นาที , และ 10 นาทีสุดท้าย 90นาทีแรกทำข้อสอบที่ทำได้ ข้อทำไม่ได้ทำไม่ทันปล่อยมัน พอ 90 นาทีหมดเวลาเลิกทำเลยครับ ข้อไหนทำไม่ทันไม่ได้อ่านโจทย์ไม่เป็นไร
5. 20 นาทีที่เหลือให้ทบทวนข้อที่ทำได้ (ที่เรามาร์คไว้) ข้อที่บอกว่าได้คะแนนแน่ๆ เพราะเป็นเรื่องที่เรารู้เรื่อง ทำไมถึงไม่ให้ไปทำข้อที่ทำไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องที่ไม่รู้เรื่องจะไปเสียเวลากับมันอีกทำไม ทบทวน 20 นาทีทำกับเรื่องที่ทำได้ให้ชัวร์
6. 10 นาทีสุดท้ายเดา ผมมีวิธีเดาให้คุณเดาตั้งแต่ถูกตั้งแต่ 30% - 100% ใน 8 เทคนิคการเดา ใน 3-4 เทคนิคหลังถูก 100% ไม่ต้องไปหาหนังสือที่ไหน เพราะไม่มีใครเขาทำกัน
กฎการเดาข้อที่ 1 โอกาสที่เป็นไปได้ หลักการตัวเลขที่ใช้ตัวจริงตัวปลอม ถ้าเราเจอ ข้อสอบคณิตศาสตร์ที่มันมีตัวเลขเศษส่วน บอกได้เลยคำตอบนี้มักจะเป็นเลขลงตัว เพราะว่าอาจารย์เขารู้คำตอบอยู่แล้ว เขาก็เอาคำตอบที่มันลงตัวมาเป็นคำตอบ คณิตศาสตร์ชอบเลขลงตัวอยู่แล้ว ส่วนถ้าเป็นวิทยาศาสตร์ โจทย์ที่ออกมาในรูปแบบเป็นตัวเลขยุ่งๆ ซับซ้อน พวกนี้คำตอบก็จะเป็นเลขลงตัวเหมือนกันครับ
ติดตามกฎการเดาข้อที่เหลือได้ที่ http://tuent.eduzones.com/53/
ได้ข้อมูลเพิ่มอีกเยอะเลย
ขอบคุนจิงๆค่ะ
มาทำข้อสอบเก่ากัน
ลิงค์ข้อสอบ B-pat B-Gat+GAT-PATปีอื่นๆ +เฉลยบางอัน เวบwww.3dfree.ob.tc/indexg.html โดย :คนผ่านมา
ขยันๆ ทำบ่อยๆแล้วความฝันคงไม่ไกลเกินจริง