สวัสดีครับ..ช่วงนี้ พี่ลาเต้ แวะเวียนเข้าไปในบอร์ดเด็กดีก็ไปเห็นน้องๆพูดถึงเรื่องการสอบ GAT- PAT เยอะมากๆ ถึงมากที่สุด..ซึ่งเรื่องส่วนใหญ่ที่น้องๆพูดถึงกันคือ อยากเรียนคณะนี้จะต้องสอบ PAT ไหน..หรือ เรียนคณะนี้จบไปแล้ว จะทำงานอะไรได้บ้าง..วันนี้ พี่ลาเต้ ก็เลยหาข้อมูลมาฝากกันครับ..ครั้งนี้ขอเอาใจน้องๆที่ฝันอยากเป็น สจ๊วตฯ และแอร์กันก่อนนะครับ..

          สจ๊วต และแอร์ เป็นอาชีพที่น้องๆหลายคนใฝ่ฝันครับ..แม้กระทั่งตัว พี่ลาเต้ เองช่วงหนึ่งของชีวิตก็คิดอยากจะเป็นเหมือนกัน แหม..จะไม่ให้สนใจได้ไงหละ ก็อาชีพนี้เวลาทำงานเขาได้ใส่ชุดสูทหล่อๆ ยิ้มแย้มทักทายอยู่บนเครื่องบินโน่น..ดูดีมากๆครับ..แต่ความเป็นจริงๆไม่ใช่แค่หน้าตาดี ยิ้มเก่ง พูดภาษาคล่อง ก็จะได้เป็นนะครับ..มันมีอะไรอีกหลายที่มากกว่านั้น..ทั้งต้องเป็นคนที่รักงานบริการ ว่ายน้ำเป็น แม่นยำเรื่องภาษา สุขภาพต้องดีเยี่ยม บุคลิกต้องดูดีสุดๆ ถึงจะผ่านเข้ารอบไปได้..

          แต่การเรียนในมหาวิทยาลัยนั้น น้องๆหลายคนคงอยากถาม พี่ลาเต้ ว่า "มีมหาวิทยาลัยไหน ที่เปิดสอนด้านนี้ แล้วพอจบมาเป็นสจ๊วต เป็นแอร์เลยมีไหมค่ะ.." ขอตอบว่า "มี" ครับ..แต่ไม่ใช่หนทางเดียว เพราะอาชีพสจ๊วต และแอร์ฯนี้ มีหนทางได้หลายสายครับ..งั้นวันนี้ พี่ลาเต้ ขอเสนอสูตร 2 สูตรเพื่อเป็นเส้นทางสู่วิชาชีพสจ๊วต และแอร์ฯครับ..ลองมาดูซิว่าสูตรไหน ต้องสอบ GAT - PAT ไหนกันบ้าง..

สูตรที่ 1  เลือกสอบ PAT 7 เพื่อเข้าเรียนคณะธุรกิจการบิน

          ปัจจุบันนี้มีไม่กี่สถาบันที่เปิดสอนปริญญาตรี ด้านธุรกิจการบินนะครับ..ซึ่งคณะหลักสูตรนี้แหละที่คนอยากเป็นสจ๊วต หรือแอร์ฯ เขาเลือกเรียนกัน..เนื้อหาของหลักสูตรจะเน้นภาษาต่างประเทศ งานบริการบนเครื่องล้วนๆ และจะมีวิชาหลักๆเช่น การจัดการบนเครื่องบิน การต้อนรับบนเครื่องบิน การจองที่พัก การโรงแรม การท่องเที่ยว การสนทนาภาษาต่างประเทศเพื่อการสื่อสาร ฯลฯ ซึ่งเรียนทั้งหมด 4 ปี และสถาบันที่เปิดสอนหลักสูตรนี้ปัจจุบันก็มีบางแห่ง เช่น มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฏร์ธานี เป็นต้น

          ซึ่งหากน้องๆ ม.5 คนไหนที่อยากเรียนคณะเหล่านี้ ก็จะต้องเลือกสอบ GAT และ PAT 7 โดย PAT 7 นั้นก็จะเป็นวิชาภาษาต่างประเทศให้เลือกสอบ แต่หากใครไม่เก่งภาษา หรือเป็นเด็กสายวิทย์ ก็มีอีกทางให้เลือกหนึ่ง ไปดูตามตารางด้านล่างนี้ได้เลยครับ..เพื่อที่จะเข้าเรียนในคณะนี้ ก่อนจะจบการศึกษาใน 4 ปีแล้วไปสอบเป็นสจ๊วต หรือแอร์ฯ ตามบริษัทสายการบินต่างๆ

เกณฑ์การรับเข้าศึกษาคณะสาขาด้านธุรกิจการบิน

          รูปแบบที่ 1 GPAX 20% , O-NET 30% , GAT 50% รวม 100% เหมาะกับเด็กสายวิทย์ และศิลป์คำนวณ

          รูปแบบที่ 2 GPAX 20% , O-NET 30% , GAT 40% , PAT[7] 10% รวม 100% เหมาะสำหรับเด็กสายศิลป์ภาษา

          เมื่อรู้หลักเกณฑ์การรับของคณะแล้ว น้องๆก็ต้องสอบไปให้ได้เพื่อที่จะเข้าเรียนในคณะนี้ ก่อนจะจบการศึกษาภายใน 4 ปีแล้วไปสอบเป็นสจ๊วต หรือแอร์ฯ ตามบริษัทสายการบินต่างๆครับ..

สูตรที่ 2  สอบ PAT ไหนก็ได้ เรียนคณะไหนก็ได้

          การทำงานเป็นสจ๊วต หรือแอร์ฯ เขาไม่ระบุว่าเราจะต้องจบการศึกษาด้านไหน เขาอิสระเต็มที่ ขอเพียงแค่ความสามารถถึง คุณสมบัติผ่าน ก็สามรถลอยลำเข้าสู่วิชาชีพนี้ได้ครับ..พี่ลาเต้ มีเพื่อนคนหนึ่งเรียนนิติศาสตร์ จบมาแทนที่จะเป็นทนายความ แต่เขากลับอยากเป็นสจ๊วต ก็ลองลองไปสอบดูครับ..ปรากฏว่าได้ครับ..ส่วนสูงได้ หน้าตาดี ภาษาผ่าน..ก็ได้ฝึกภาคพื้นอยู่หลายเดือน ก่อนจะขึ้นไปทำงานจริงบนเครื่องบิน..ดังนั้นน้องๆที่มีฝันนี้ จะสายวิทย์ สายศิลป์ ก็สบายใจได้ครับ..เรียนตามคณะที่เราชอบ เราถนัด เพราะยังไงก็สามารถตามความฝันในการเป็นสจ๊วต หรือแอร์ ได้เช่นกันครับ..

          ทั้งหมดนี้ก็เป็น 2 สูตรสำหรับน้องๆม.5 ที่อยากจะทำงานเป็นสจ๊วต หรือแอร์ฯ นะครับ..สูตร 2 สูตรนี้แม้จะมีเส้นทางที่ต่างกัน แต่ปลายทางก็จะเวียนมาบรรจบบนถนนเส้นเดียวกันแน่นอนครับ..แต่สูตรที่ 1 จะดีกว่าตรงที่ว่าตลอดข้างทาง เราจะรู้เข้าใจ และได้ฝึกฝนเตรียมความพร้อมในวิชาชีพสจ๊วต หรือแอร์ฯมากกว่าสูตรที่ 2 ครับ..

          นี่เป็นเพียงข้อมูลที่ พี่ลาเต้ นำมาเขียนประกอบกันนะครับ..หากพี่ๆชาวเด็กดีคนไหนเป็นสจ๊วต หรือแอร์ ที่ผ่านเข้ามาเห็น ก็มาแนะนำเพิ่มเติมกันได้นะครับ..สุดท้ายนี้ ไม่ว่าน้องๆจะเลือกสูตรไหน พี่ลาเต้ ก็ขอให้น้องๆโชคดีได้ทำตามฝันตัวเองสมใจหวังนะครับ..ขอให้ได้เรียนในคณะที่หวัง และทำงานในอาชีพที่ชอบครับ...สู้ๆๆ..สวัสดีครับ