ประสบความสำเร็จได้…ไม่ง้อ มหาวิทยาลัยดัง

       พันธ์รบ กำลา เจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ก๋วยเตี๋ยวร้อยล้านชื่อดัง “ชายสี่ บะหมี่เกี๊ยว" นักศึกษาดีเด่นของสำนักบริหารงานการศึกษานอกโรงเรียน(กศน.) ซึ่งศึกษาจบเพียงชั้น ป.4 ก่อนจะมาเรียนต่อกับ กศน.จนจบระดับชั้นที่สูงขึ้น
      
       พันธ์รบ ไม่เคยเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยชื่อดัง
      
       เจ้าของธุรกิจก๋วยเตี๋ยวร้อยล้าน ให้แง่คิดว่า ชีวิตคนเราไม่ได้ขึ้นอยู่ว่าจะได้เข้ามหาวิทยาลัยหรือจะเรียนจบจากสถาบันไหน แต่สำคัญที่ว่าเรามีความรู้หรือไม่ ซึ่งความรู้ก็สามารถหาได้จากแหล่งต่างๆ มากมายไม่เฉพาะในมหาวิทยาลัยเท่านั้น
      
       “ทั้งโทรทัศน์ หนังสือ หรือการเรียนรู้จากโลกภายนอกล้วนเป็นห้องเรียนให้เราได้ทั้งหมด ไม่จำเป็นต้องเรียนในมหาวิทยาลัยอย่างเดียว โดยเฉพาะอัตชีวประวัติของบุคคลต่างๆ ล้วนเป็นแหล่งความรู้ชั้นดี หากสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ก็ไม่จำเป็นต้องเสียใจ เราก็ไปเรียนในมหาวิทยาลัยที่เปิดให้เราเรียน คนเราจะเก่งไม่เก่งอยู่ที่ตัวเรา แม้เข้าไปเรียนในสถาบันมีชื่อ แต่ตัวเราไม่หมั่นหาความรู้ก็ไม่มีประโยชน์”


พันธ์รบ กำลา เจ้าของธุรกิจแฟรนไชต์ก๋วยเตี๋ยวร้อยล้านชื่อดัง “ชายสี่ บะหมี่เกี๊ยว"
       
       พันธ์รบ ฝากถึงน้องๆ อีกว่า อยากให้กำลังใจน้องๆ ทุกคนและให้คิดเสมอว่า ชีวิตเรามีคุณค่า คนพิการแขนขาดเขายังหาใช้ฝ่าเท้าซ่อมรถจักรยานยนต์หาเลี้ยงตัวเองได้ จึงขอให้เด็กทุกคนมีความมานะอดทน เพราะโอกาสของชีวิตยังอีกยาวไกล
      
       “ตอนนี้เราสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ ก็ไม่เป็นไรเพราะชีวิตน้องๆ เพิ่งจะ 7 โมงครึ่ง เรายังมีเวลาอีกมากที่จะศึกษาหาความรู้ กว่าจะถึงบ่ายโมงเรายังสามารถทำอะไรได้มากมาย ที่สำคัญเราต้องพยายามช่วยเหลือคนอื่นให้มากที่สุด การช่วยเหลือคนรอบข้างจะทำให้ชีวิตเรามีคุณค่า และเราจะรู้สึกว่าตายไม่ได้ เราจะคิดถึงแม่ คิดถึงคนในครอบครัว คิดถึงเพื่อน เราต้องอยู่เพื่อตัวเราและเพื่อพวกเขา การตายไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา การเรียนมหาวิทยาลัยเป็นสิ่งที่ดีถ้ามีโอกาส แต่ถ้าไม่มีโอกาสก็เรียนรู้จากที่อื่น ซึ่งการเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วยถือเป็นการเรียนรู้ที่เต็มรูปแบบมากที่สุด”
      
       พันธ์รบ บอกอีกว่า การไม่ได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยไม่เกี่ยวกับความสำเร็จของมนุษย์ เพราะคนจบดอกเตอร์ไม่ได้เป็นคนดีทุกคน และคนจบดอกเตอร์ก็ไม่ใช่คนเก่งทุกคน การจะประสบความสำเร็จได้ต้องสร้างความเชื่อถือให้เกิดกับคนรอบข้างว่าเราเป็นคนดี นั่นคือ พูดดี คิดดี และทำดี ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต่างหากที่เป็นบันไดที่จะพาชีวิตไปสู่ความสำเร็จ ที่สำคัญการมีความรู้อย่างเดียวไม่เพียงพอ ยังต้องมีความคิดควบคู่ไปด้วย เมื่อชีวิตมีอุปสรรคก็อย่าไม่ท้อถอยต้องรู้จักหาวิธีแก้ปัญหาด้วยสติ


:: ( S O U R C E ) :: ( ผู้จัดการออนไลน์ )* ::

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

23 ความคิดเห็น

MaximilianZ Member 15 พ.ค. 50 11:19 น. 1
เห็นด้วยมากเลยครับ ผมจะนำไปเปนแบบอย่างในชีวิตคับ เหนเพื่อนแอดมิชชั่นติดที่ดีๆกัน ก้แอบอิจฉาบ้างแต่ หากเราไม่ยึดติดสถาบัน เราก็จะเรียนได้อย่างมีความสุขแล้วล่ะครับ อยากเปิดธุรกิจเฟรนไชต์แบบพี่มั่งจังเลย - -
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
แพม 15 พ.ค. 50 13:12 น. 3
ใช่ค่ะ เห็นด้วยกะ ความคิดเห็นที่ 2 เราว่านะ ลำพังเราอาจจะสอบได้ แต่ว่า คนรอบข้าง เค้าอยากให้เราเรียนที่ดีๆ มันก็กดดันนะ เครียดเหมือนกัน
0
กำลังโหลด
devil04 Member 15 พ.ค. 50 20:18 น. 4
ช่ายๆเรียนที่ดังๆช่ายว่าดีนะเราว่า มันก็ดีทุกที่แหละขึ้นอยู่กะตัวเราเอง ถ้าตัวเราดีจริงยังไงก้อมีงานดีแน่นอน ชีวิตไม่สิ้นก็ดิ้นกันไป
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
~เงอะงะ~งุ่นง่าน~ Member 16 พ.ค. 50 16:34 น. 6
มันก็ถูก การจะประสบความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับสถาบันเพียงอย่างเดียว แต่การติดสถาบันดีๆก็ทำให้พ่อแม่พี่น้องมีความสุขเราก็มีความสุขด้วยแค่นั่นเอง ถ้าดีที่สุดก็คือเราได้เรียนในสิ่งที่เราอยากเรียน นั่นล่ะสุดยอดแล้ว
0
กำลังโหลด
จอมเวทย์ Member 16 พ.ค. 50 17:23 น. 7
ถูก เด็กคนไหนที่ติดมหาลัยดังๆ ก็ภูมิใจคนไหนที่ไม่ติดก็ดันฆ่าตัวตายซ่ะนี่ เวงกรรม
0
กำลังโหลด
G!fT 17 พ.ค. 50 20:44 น. 9
ใช่ค่ะ...ทำไมต้องต้องยึดติดที่สถาบันจะดีหรือไม่ดีก็อยู่ที่ตัวเรามากว่าไม่ใช่หรอ เราก็เป็นคนหนึ่งที่โดนดูถูกว่าเรียนที่มหาลัยบ้านนอก...เราไม่เข้าใจว่าทำไมถึงยึดที่สถาบัน แล้วเราก็ไม่ค่อยเห็นด้วยที่มีการจัดอันดับมหาวิทยาลัย มันเหมือนเป็นการสร้างค่านิยมให้เด็กอ่ะ อย่างข่าวที่เด็กผูกคอตาย มหาวิทยาลัยทุกสถาบันมีดีต่างกันไปขึ้นอยู่ว่าเราจะมองด้านไหนมากกว่า
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
aeyshoba 18 พ.ค. 50 21:52 น. 11
ตอนนี้เราก็กำลังเครียดๆบ้างเหมือนกัน เพราะต้องแอดมิสชั่นปีหน้าอ่า อ่านหนังสือมากขึ้น พอได้มาอ่านบทความนี้รู้สึกเห็นด้วยมากๆค่ะ เพราะเราก็เป็นอีกคนนึงที่ไม่ยึดติดสถาบัน ถ้าเราติดมหาลัยดังก็ดีใจ แต่ถ้าติดที่ไม่ดังก็ดีกว่าไม่ติด อย่างน้อยก็คือผลตอบแทนจากการอดทนอ่านหนังสือมาหลายเดือน แต่ถ้าไม่ติดอะไรเลย เราก็คิดว่าจะไปเรียนที่รามฯอ่ะ เพื่อนเราคนนึงก็บอกว่าการได้เรียนที่ดังๆน่ะ มีเครดิตดีกว่าหางานมีโอกาสได้มากกว่า อันนี้มันก็จริงอยู่ แต่มันก็เหมือนที่เค้าว่าแหละ ชีวิตไม่แน่นอน มันขึ้นอยู่กับไหวพริบและความรู้ประสบการณ์ของเราที่จะทำให้เราสำเร็จได้ คนจบรามมีถมเถ คนจบมหาลัยดังก็ถมเถ ก็เหมือนกันๆทั้ง2ที่ ต่างมีคนได้และไม่ได้งาน เมืองนอกไม่ค่อยยึดติดเรื่องพวกนี้ ส่วนใหญ่แล้วคนที่เรียนก็มักจะช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว รับผิดชอบตัวเองได้ ทั้งๆที่ยังเรียนไม่จบ เรียนด้านวิชาการแล้วยังสามารถได้ประสบการณ์ชีวิตอีกด้วย
0
กำลังโหลด
guildta Member 18 พ.ค. 50 22:07 น. 12

จบป.4ยังได้ขนาดนี้เลย รู้งี้จบอนุบาล3ก็ดีนะเนี่ยเรา

ปล.ล้อเล่น อ่านแล้วPower heat up เลยครับแต่อยากจะรู้อ่าครับว่าเค้าทำยังไงถึงประสบความสำเร็จได้ขนาดนี้อะครับ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
พี่นางฟ้า Member 23 พ.ค. 50 17:25 น. 14
เกลียดพวกชอบดูถูกคน คนดี ๆ แบบนี้น่าเอาไปป่าวประกาศ ชื่นชมให้โลกได้รับรู้ พวกเรียน ร.ร.ดัง ๆ มันจะได้ไม่ดูถูก
0
กำลังโหลด
payoon_noy Member 27 พ.ค. 50 02:13 น. 15
ก็อาจจะจริง แต่ว่าประเทศไทยอ่ะ

มีค่านิยมเกี่ยวกับมหาลัยอยู่มากนะ

คล้ายๆญี่ปุ่นแหละ เด็กเป็นหมื่นๆ

แย่งกันสอบเข้าโทได ก็เหมือนกับเด็กไทย

เป็นล้านๆแย่งกันสอบเข้ามหาลัยอ่ะแหละ

ใช่ว่าทุกคนที่ไม่ต่อมหาลัยดังจะประสบความสำเร็จนี่

สังคมไทยถือว่าถ้าคุณจบจากมหาลัยที่ดี

อนาคตของคุณก็จะดีด้วย ไม่งั้นพ่อ-แม่ก็คงไม่ให้ลูกเอ็นท์

เข้ามหาลัยดังๆหรอก บางที่เราว่าเราดีแล้ว เค้าก็อยากให้ดีกว่านี้

-*- ชีวิต
0
กำลังโหลด
เชอะ 29 พ.ค. 50 23:26 น. 16
ใครมันจะได้แบบนี้ทุกคน แบบนี้มันต้องทั้งโชค ทั้งไอเดียบรรเจิด และโอกาส ถามหน่อยสิ ถ้าคุณไม่ได้อย่างเค้าคุณธรรมดา คุณจะสบายไหม สังคมนี้แก่งแย่งและคาดหวังสูง แต่ถ้าเรามีการศึกษา พูดในแนวลบนะ เราก็ยัง สามารถทำงานตามบริษัทต่างๆได้ ถึงจะไม่ใช่งานในฝัน แต่มันไม่ลำบาก อนาคตอาจไม่รุ่งโรจน์ แต่ก็ไม่ใช่ หาเช้ากินค่ำเท่านั้น เรียนไปเถอะ
0
กำลังโหลด
เจน 8 มิ.ย. 50 21:41 น. 18
พ รุ่ ง นี้ เ ป็ น วั น รั ก แ ห่ ง ช า ติ ถ้ า เ ห็ น ข้ อ ค ว า ม นี้ แ ส ด ง ว่ คุ ณ ถู ก รั ก จ ง ส่ ง ข้ อ ค ว า ม หั้ ย ค ร บ 10 ค น ภ า ย ใ น 143 น า ที ต่ อ จ า ก นี้ ล้ ว วั น พ รุ่ ง นี้ จ ะ เ ป็ น วั น ที่ ที่ สุ ด ข อ ง คุ ณ เ ที่ ย ง คื น นี้ รั ก ที่ แ ท้ จิ ง ข อ ง คุ ณ จ ป ร า ก ฎ อ อ ก ม า บ า ง สิ่ ง จ ะเ กิ ด ขึ้ น กั บ คุ ณ ไ ด้ น้
0
กำลังโหลด
ลาเวนเดอร์ 13 มิ.ย. 50 18:36 น. 20
สังคมไทย ถ้าหากว่าไม่มีการแบ่งพรรคแบ่งพวก หรือแบ่งแยกว่าตัวเองมาจากสถาบันที่มีชื่อเสียง ประเทศชาติคงจะพัฒนามากขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมคิดว่าการที่จะประสบความสำเร็จได้นั้นขึ้นอยู่กับตัวของบุคคล นั้น ๆต่อให้จบจากสถาบันดัง ๆ แต่ถ้าบุคคลนั้นไม่มีความสามารถและประสบการณ์เพียงพอ ก็ไปได้ไม่ถึงฝั่งฝัน
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด