MiYU

สวัสดีเพื่อนผองชาวเด็กดีทุกคน
เข้าเดือนกรกฎาคมกันแล้ว ไม่น่าเชื่อเวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก
เผลอแป๊บๆ โอ้โห ผ่านมาครึ่งปีแล้วสินะ

แน่นอน Book of the Month ของเราไม่ได้หยุดนิ่ง
ยังคงตั้งตาหานักเขียนเจ๋งๆ มาพบกับน้องๆ เสมอ

สำหรับเดือนนี้ เป็นนักเขียนที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นเช่นเคย

กับผลงานแนวแฟนตาซีชื่อน่าสนใจอย่าง SSS สงครามวัตถุวิญญาณ

ของนักเขียนนามปากกา MiYU (ฟังชื่อก็รู้ว่าชอบแนวญี่ปุ่นแน่นอน!)
ซึ่งแค่อ่านชื่อก็รู้แล้วว่าต้องเป็นเรื่องแนวสืบสวนสอบสวน ไขคดีอะไรสักอย่าง

และแน่ละ ต้องมีตัวละครที่เต็มไปด้วยการเรียนรู้ การเดินทางตามหาตัวตน

ผ่านการเติบโตของจิตวิญญาณ จนกลายเป็นผู้ประสบความสำเร็จ

และได้พบสิ่งที่ตัวเองต้องการในที่สุด

อยากรู้ว่าใช่หรือเปล่า ไปคุยกับนักเขียนกันเลยจ้า

(บทสัมภาษณ์อาจยาวหน่อย แต่ได้ประโยชน์มากมาย
อยากให้อ่านกันให้จบนะจ๊ะ)

อติน : สวัสดีค่ะ คุณมิว ช่วยทักทายสมาชิกเว็บเด็กดีกันก่อนนะคะ
 
MiYU : สวัสดีพี่น้องผองเพื่อนนักอ่านนักเขียนชาวเด็กดีทุกคน
มิวนะครับ  ฝากเนื้อฝากตัวด้วย // โค้ง 90 องศา

อติน : นามปากกาว่า MiYU ย่อมาจากอะไรคะ
 
MiYU : ผมชอบอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นน่ะครับ  ชื่อ “มิว” ของตัวเอง
ถ้าอ่านในภาษาญี่ปุ่นจะอ่านได้ว่า “มิ-ยุ” จึงใช้นามปากกานี้
ซึ่งผมจงใจใช้ตัวอักษร ‘i’ เล็ก เพราะหากละตัว i ไป
ก็จะเหลือ MYU ซึ่งอ่านว่า “มิว” พอดีครับ ^^

อติน : ที่มาที่ไปของหนังสือเล่มนี้ ได้ยินมาว่าคุณมิวทำอาชีพตำรวจ

ไม่แน่ใจว่าผูกพล็อตขึ้นจากอาชีพที่ทำอยู่หรือเปล่า

MiYU : ตอนเริ่มเขียนนิยายเรื่อง SSS สงครามวัตถุวิญญาณ
ผมทำงานอยู่หน่วย “กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2” ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิน่ะครับ
ซึ่งแต่ละวันต้องพบเจอกับชาวต่างชาติจากทั่วทุกมุมโลก
จึงมีความคิดอยากเขียนนิยายที่ตัวเอกต้องเดินทางไปยังประเทศต่างๆ ครับ

อติน : ถ้าอย่างนั้นเนื้อหาต่างๆ ภายในเล่ม

เอามาจากคดีต่างๆ ที่เคยเจอหรือเปล่าคะ ยกตัวอย่างให้ฟังบ้างได้ไหม

MiYU : ถ้าในส่วนของการนำประสบการณ์การเกี่ยวกับคดีที่เคยเจอในการปฏิบัติงานมาใช้
ผมไม่ค่อยได้หยิบมาใส่ในนิยายเท่าไหร่นัก เนื่องจากนิยายเรื่องนี้
เป็นแนวแอ็คชันแฟนตาซีที่เน้นการเดินทางและการต่อสู้
แต่ที่นำมาใส่ไว้คือปมต่างๆ ของเรื่องที่เป็นปริศนาคล้ายนิยายแนวรหัสคดี
ที่ผูกเรื่องให้คนอ่านเกิดความสงสัย และค่อยๆ คลี่คลายไปทีละปม
จนเมื่อจบเรื่องผู้อ่านก็จะรู้ว่าที่มาที่ไปของเรื่องเป็นเช่นไร
มีเหตุผลอะไรที่ทำให้ตัวละครแต่ละตัวก่อเหตุการณ์ต่างๆ ขึ้น เป็นต้น

อติน : แล้วคิดว่านิยายแฟนตาซีในแบบของเรามันโดดเด่นแตกต่างจากเรื่องอื่นๆ

ในตลาดตรงไหนอย่างไร อ่านแล้วจะรู้ทันทีไหมว่านี่คือผลงานของเราแน่นอน

MiYU : เรื่องความแตกต่างของนิยาย ได้รับการพูดถึงจากนักอ่านพอสมควรครับ
อาจเพราะที่ผ่านมายังไม่มีนิยายแฟนตาซีไทยเรื่องไหน
หยิบยกบุคคลสำคัญของโลกมาใช้เป็นธีมหลักในการดำเนินเรื่อง

 
ซึ่งก่อนแต่งนิยายเรื่องนี้  ผมคิดว่าจะสร้างสรรค์นิยายแฟนตาซีอย่างไร

ให้แตกต่างจากแนวนิยายที่มีอยู่ในท้องตลาดมากมาย เช่น แนวออนไลน์

แนวโรงเรียนเวทมนตร์ หรือแนวเรียลแฟนตาซีที่มีเจ้าหญิงเจ้าชาย ปราสาท เวทมนตร์ ฯลฯ
พอดีเห็นหนังสือเรียนวิชาคอมพิวเตอร์สมัยที่เรียนมหาวิทยาลัย
ก็หยิบมาพลิกๆ ดูบทประวัติการกำเนิดคอมพิวเตอร์
เห็นชื่อนักประดิษฐ์ นักคณิตศาสตร์ ผ่านตาอยู่
ก็พาลคิดไปถึงนักวิทยาศาสตร์หรือนักประดิษฐ์หลายๆ คนที่รู้จัก
ไม่ว่าจะเป็น ไอแซก นิวตัน, กาลิเลโอ, โทมัส อัลวา เอดิสัน, สองพี่น้องตระกูลไรต์ ฯลฯ
ดังนั้นหากนำบุคคลที่ทุกคนรู้จักดีอยู่แล้วมาใส่ในนิยาย
เชื่อว่าจะทำให้นักอ่านสามารถอินไปกับเนื้อเรื่องได้ง่ายครับ
 
 
 
อติน : พูดถึง สนพ. ที่สังกัดอยู่ มีดีส์ มีจุดเด่นอย่างไร และ บ.ก. ทำงานกันอย่างไร

MiYU : ผมสัมผัสถึง ‘ความมุ่งมั่น’ ของทีมงานมีดีส์ทุกคน

จะเห็นได้ว่ามีดีส์เป็น สนพ. น้องใหม่ในวงการนิยายแฟนตาซีและนิยายรัก
แต่สามารถเจาะกลุ่มนักอ่านและทำให้ชื่อมีดีส์เป็นที่รู้จักได้ในเวลาอันรวดเร็ว
ตรงนี้ต้องชื่นชมความตั้งใจในการทำงานของทุกคนจริง ๆ ครับ

 
จุดเด่นอีกอย่างของมีดีส์คือการประชาสัมพันธ์นิยายพร้อมตัวนักเขียน

มีการทำรูปมาสคอตประจำตัวนักเขียน รวมถึงการประชาสัมพันธ์กิจกรรมต่างๆ

ที่นักเขียนทำอย่างต่อเนื่อง เช่น การได้รับสัมภาษณ์จากหนังสือพิมพ์
ผลการเรียนที่โดดเด่นของนักเขียนในวัยเรียน ผลงานอื่นๆ นอกจากงานเขียน ฯลฯ
เหล่านี้ล้วนทำให้นอกจากผู้อ่านจะชื่นชอบผลงานแล้ว
ยังสามารถติดตามไลฟ์สไตล์และแง่มุมอื่นๆ ของนักเขียนอีกด้วยครับ

อติน : แล้วพระเอกนางเอกล่ะ สร้างตัวละครอย่างไรให้ลงตัว

ลองเล่าเรื่องตัวละครสักนิด ปูพื้นฐานให้คนอ่านรู้จักกันหน่อยค่ะ

MiYU : ขอใช้คำว่า “ตัวเอก” แทนพระเอกนางเอกนะครับ
ตัวเอกหลักของเรื่องนี้มี 6 คน  โดยหลักในการสร้างตัวละครผมใช้หลัก
‘ความแตกต่าง’ ตัวเอกแต่ละคนจะมีบุคลิกที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน
เช่น  ‘เรแพน โนเวน’ ตัวละครหลักที่เป็นตัวดำเนินเรื่อง
จะเป็นคนไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง ขี้กลัว และถูกเมินจากสังคม
แต่กลับต้องเดินทางผจญภัยต่อสู้กับกองโจรระดับโลก
หรือ 'คาซี มีอา' ที่เป็นลูกชายของหัวหน้ากลุ่มโจรที่ถูกลูกน้องหักหลังจนต้องกลายเป็นเจ้าชายนิทรา
เขาเป็นคนเลือดเย็น โหดเหี้ยม แต่สามารถปรับตัวเองให้เข้ากับสถานการณ์ได้ราวกับกิ้งก่าเปลี่ยนสี
นอกจากนี้อีกสี่ตัวละครหลักก็ยังมีบุคลิกแปลกๆ ที่สร้างสีสันให้เรื่องได้เป็นอย่างดี
อย่าง ‘เน็กเธอร์ เมอริว ดาร์น็อค’ มหาเศรษฐีรูปงามจอมเจ้าชู้

‘ซูอัล แอทนัส’ หนุ่มนักกีฬาแสนดีที่ชอบช่วยเหลือผู้อื่นจนตัวเองต้องเดือดร้อนเสมอ
‘เซราห์ ทริเบอร์ นิวราด’ สัตวแพทย์สาวผู้สามารถสื่อสารกับสัตว์ได้ แต่ดันเป็นโรคกลัวผู้ชาย
และ ‘แดเนียล อินนิวา’ มือปืนผู้เก็บงำความแค้นและมุ่งหมายสังหารทั้งเหล่าตัวเอกและกองโจร
ให้สิ้นซาก

อติน : ความยากง่ายของการเขียนนิยาย คืออะไรบ้าง

ไหนลองบอกเล่าเผื่อน้องๆ คนอื่นเขาอยากเขียนบ้าง

MiYU : ผมเคยอ่านเจอประโยคนี้ในอินเตอร์เน็ตครับ
“นักอ่านไม่จำเป็นต้องเขียน แต่นักเขียนจำเป็นต้องอ่าน”
ซึ่งประโยคนี้สะท้อนความจริงของการเป็นนักเขียนได้อย่างดี
เนื่องจากการเขียนนิยายสักเรื่องนั้น  สิ่งสำคัญไม่ใช่เพียงแค่มีพล็อตหรือเนื้อเรื่องในหัวที่ดี
แต่ยังต้องอาศัยองค์ประกอบต่างๆ  ทั้งความรู้ด้านภาษา
ความถูกต้องแม่นยำของข้อมูล การวางโครงเรื่องให้เหมาะสม
การสร้างสรรค์ตัวละครให้มีเสน่ห์น่าสนใจ ฯลฯ
ดังนั้นแล้วหากขาดองค์ประกอบใดองค์ประกอบหนึ่งไป
นิยายก็อาจไม่สนุกหรือสมบูรณ์อย่างที่เราวาดเอาไว้ในหัว

ฟังดูเหมือนยาก  แต่หากน้องๆ คนไหนที่อยากเป็นนักเขียน

จุดเริ่มต้นที่ดีคือ ‘การอ่าน’ ครับ เพราะหากเราอ่านเยอะ

อ่านหนังสือหลากหลายประเภท ก็จะซึมซับเอาภาษา ความรู้
และรูปแบบหรือแนวทางในการเขียนนิยายไว้โดยไม่รู้ตัว
ซึ่งผมอาศัยการอ่านนี่แหล่ะ เป็นครูในการเป็นนักเขียนครับ

อติน : ความรู้สึกที่ได้รับเลือกเป็น Book of the Month จากทีมงานเด็กดี

 
MiYU : ความรู้สึกแรกคือ ‘ตกใจ’  ความรู้สึกต่อมาคือ ‘ประหลาดใจ’
และความรู้สึกสุดท้ายคือ  ‘ดีใจสุด ๆ’ เลยครับ เนื่องจากเว็บไซต์เด็กดี
เป็นเว็บไซต์ที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในวงการนักอ่านนักเขียน
การได้เป็น Book of the Month ของเด็กดี
ถือเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจมากๆ ในฐานะนักเขียนคนหนึ่งเลยล่ะครับ

อติน : เรื่องนี้เป็นแนวสืบสวนกึ่งแฟนตาซีใช่ไหมคะ อ่านจากชื่อเรื่องแล้ว

SSS สงครามวัตถุวิญญาณ อะไรคือวัตถุวิญญาณนิ ลองเล่าขำขำแบบไม่สปอยล์

MiYU : ถ้าจะถามว่าวัตถุวิญญาณคืออะไร
ต้องขอเท้าความถึงแนวคิดในการแต่งนิยายเรื่องนี้ก่อนนะครับ

คนเอเชียเราเชื่อในเรื่องวิญญาณ และธีมหลักของเรื่องก็คือบุคคลสำคัญของโลกตามที่ได้กล่าวไป

ผมจึงมีแนวคิดว่าหากบุคคลสำคัญเหล่านั้นเสียชีวิตลง

แล้ววิญญาณเขายังผูกพันกับสิ่งประดิษฐ์ที่เขาสร้างสรรค์ขณะยังมีชีวิต
จึงทำให้สิงอยู่ในวัตถุนั้นไม่ยอมไปผุดไปเกิด และในยุคปัจจุบัน 

หากมีคนที่คลื่นวิญญาณตรงกับพวกเขาเหล่านั้นและสามารถสื่อสารกับวิญญาณที่สถิตในวัตถุได้
ก็จะได้รับพลังบางอย่างที่เชื่อมโยงกับวัตถุชิ้นนั้น
เช่น ตัวเอกอย่าง เรแพน โนเวน มีคลื่นวิญญาณที่ตรงกับ ‘จอห์น เนเปียร์’
นักคณิตศาสตร์ชาวสก็อตแลนด์ สามารถเชื่อมต่อวิญญาณผ่านแท่งคำนวณ ‘เนเปียร์โบนส์’
ก็จะได้รับพลังในการสร้างตารางแสงที่สามารถเปลี่ยนแปลงค่าต่างๆ
ของสิ่งที่เคลื่อนผ่านตารางนั้น เช่น ความเร็ว น้ำหนัก ฯลฯ ได้ เป็นต้น

 
ดังนั้นนักอ่านจะได้เห็นพลังพิเศษแปลกๆ ผ่านวัตถุสำคัญทางประวัติศาสตร์

เช่น แรงโน้มถ่วงของไอแซก นิวตัน ผู้ค้นพบทฤษฎีแรงโน้มถ่วง

พลังทะลุผ่านของวิลเฮล์ม คอนราด เรินต์เกน ผู้คนพบรังสีเอกซ์ (X-Ray)
พลังเปลี่ยนร่างเป็นสัตว์ของชาร์ลส์ ดาร์วิน ผู้ค้นพบทฤษฎีวิวัฒนาการ
และอื่นๆ อีกมากมาย

อติน : วางพล็อตเรื่องอย่างไรบ้าง เคล็ดลับการจัดลำดับเหตุการณ์

ค่อยๆ เรียงร้อยพล็อตให้สนุก ทำภายในวันเดียวหรือทำไปเรื่อยๆ เปลี่ยนได้ ดิ้นได้

MiYU : ผมวางเฉพาะโครงเรื่องหลักใหญ่ๆ ประเภทเริ่มเรื่องอย่างไร
มีเหตุการณ์สำคัญอะไรบ้าง และจบอย่างไร
ส่วนรายละเอียดในการแต่ง ก็ปล่อยให้เป็นไปตามอารมณ์ครับ 55

ส่วนจุดสำคัญที่ทำให้นิยายเรื่องนี้สนุกและน่าติดตาม
คือนักอ่านจะคอยลุ้นว่า ตัวละครที่เชื่อมต่อกับบุคคลสำคัญคนโน้นคนนี้จะได้รับพลังพิเศษอะไร 

จะดำเนินเรื่องที่ประเทศอะไรต่อไป และที่สำคัญที่สุด
SSS เป็นนิยายที่มีฉากหักหลังคนอ่านเยอะมาก ตัวละครที่คิดว่าเป็นตัวเด่น
อยู่ดีๆ กลับโดนฆ่าทิ้งง่ายๆ หรือตัวละครบางตัวที่คิดว่าดีแสนดี
ก็กลับกลายเป็นอีกอย่างไปเสียในเวลาต่อมา

ดังนั้นนักอ่านต้องหาไม้มาดามหลังให้ดีเลยล่ะครับ ^^

อติน : ในอนาคตวางแผนอยากส่งผลงานอะไรออกมาอีกไหม

และคิดไว้หรือเปล่าว่าจะเป็นแนวไหน นี่ก็เล่มที่สองแล้ว

จะมีภาคต่อไปออกมาอีกไหมคะ หรือจบแค่สองภาค   

 
MiYU : SSS สงครามวัตถุวิญญาณ วางโครงเรื่องไว้ว่าจะมี 2 ภาคจบ
ซึ่งภาคแรกนี้จะเป็นการเดินทางของเรแพนและคาซีไปยังประเทศต่างๆ ในโลก
เพื่อตามหาพรรคพวกผู้เชื่อมต่อและล้มล้างกองโจรเงารัตติกาล
ที่จารกรรมวัตถุสำคัญทางประวัติศาสตร์  ซึ่งนอกจากจะได้เห็นฉากการต่อสู้ด้วยพลังพิเศษ
โดยมีสถานที่ที่มีชื่อเสียงอย่างเวนิส โคลอสเซียม กำแพงเมืองจีน สถานีรถไฟมอสโก ฯลฯ
เป็นฉากหลังแล้ว นักอ่านจะยังได้สัมผัสถึงพัฒนาการของตัวละคร
เช่น เรแพนที่เป็นคนขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง
เมื่อได้ร่วมต่อสู้และเรียนรู้ถึงสิ่งสำคัญของตัวเองแล้ว
เขาก็ได้รับความกล้าจนทำให้กลายเป็นผู้นำของเหล่าผู้เชื่อมต่อได้ในที่สุด

ส่วนฉากจบของภาคหนึ่งนั้น รับรองว่าต้องสร้างความตกตะลึงให้กับผู้ติดตาม

(จนแทบอยากฆ่าคนเขียนเลยทีเดียว ^^) เพื่อปูทางไปสู่การเดินทาง

และการต่อสู้ครั้งใหม่ที่ยิ่งใหญ่และอันตรายกว่าเดิมในภาคสอง
เชื่อว่าหากอ่านจบเรื่อง  คงมีบุคคลสำคัญของโลกปรากฏตัวในเรื่องร่วมร้อยคน
แถมยังพานักอ่านเดินทางท่องเที่ยวรอบโลกครบทุกทวีปกันเลยล่ะครับ
 
ส่วนผลงานใหม่ที่กำลังจะออกสู่สายตานักอ่าน เป็นเรื่องสั้นที่ผมส่งประกวด

และได้รับการคัดเลือกให้ได้ตีพิมพ์  ซึ่งจะฉีกแนวไปจากแฟนตาซีอย่าง

SSS ชนิดคนละขั้วเลย นักอ่านสามารถติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหว
ของผลงานทุกเรื่องของผมได้ทางเพจ SSS สงครามวัตถุวิญญาณ ครับ

อติน : เป็นตำรวจนักเขียน ฟังดูเก๋ๆ ดีนะคะ แบ่งเวลาการเขียนอย่างไรบ้างเอ่ย  

MiYU : เนื่องจากมีสถานะทั้งเป็นตำรวจ เป็นนักเขียน เป็นนักศึกษา 

เป็นลูกที่ดี  เป็นสามีที่ดี  จึงทำให้ผมต้องแบ่งเวลาออกเป็นหลายส่วน

เพื่อให้การทำหน้าที่ในแต่ละบทบาทไม่ขาดตกบกพร่อง

ผมเขียนนิยายเรื่องนี้ตอนที่ยังทำงานและเรียนภาคค่ำ ในเวลางานก็ทำงานเต็มที่ 

หลังเลิกงานก็เรียนเต็มที่  พอกลับบ้าน ก็ใช้เวลาช่วงหัวค่ำนั้นเขียนนิยายครับ

ส่วนวันหยุด ถ้าไปเที่ยวกับภรรยา ก็จะกลับต่างจังหวัดไปหาพ่อกับแม่เพื่อทำหน้าที่ลูกที่ดี
แม้จะเหนื่อยอยู่บ้างที่ทำกิจกรรมหลายอย่าง แต่ทุกกิจกรรมเป็นสิ่งที่ผมรัก จึงมีความสุขกับมันครับ

อติน : ก่อนจากกันไป บอกลา ขอมายไอดี แล้วก็ขอลิงค์นิยายด้วยค่ะ  

 
MiYU : คนที่อยากอ่านบางส่วนของนิยายเพื่อทำความรู้จักกัน

ก็ติดตามกันได้ในเว็บไซต์เด็กดีเลยครับ
ที่ http://writer.dek-d.com/myu_immi/story/view.php?id=751006
และใน My.ID  ที่ http://my.dek-d.com/myu_immi/

ยินดีต้อนรับทุกคนครับ ^^

พี่ตินคงไม่ต้องพูดอะไรมากแระ
แค่อ่านจากคำตอบก็สัมผัสได้ถึงความมุ่งมั่น เอาจริงเอาจัง

และเชื่อแน่ว่างานเขียนนี้ก็คงมุ่งมั่นไม่แพ้คำตอบหรอก จริงไหม
 
 
ใครอ่านบทสัมภาษณ์นี้แล้ว อยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับหนังสือ SSS สงครามวัตถุวิญญาณ
ตามไปอ่านบทวิจารณ์ของพี่ตินได้ที่นี่เลยจ้า >>จิ้มๆ<<

อตินเอง