หากน้องๆ คนไหนที่เข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยแล้ว คงเคยได้ยินเพลงเชียร์มามากมาย แต่ละสถาบันก็จะมีเพลงที่แตกต่างกันออกไป และบางสถาบันอาจมีเพลงที่มีเนื้อหาลามกด้วยนะคะ มูลนิธิผู้หญิง ร่วมกับกลุ่มสื่อใส และเครือข่ายนันทนาการสร้างสรรค์ ก็เลยเรียกร้องให้หน่วยงานด้านวัฒนธรรม การศึกษา ให้ความสำคัญกับการต่อต้านการจัดกิจกรรมนันทนาการที่ส่อไปในทางลามก หยาบคาย โดยหน่วยงานต่างๆมักจะนำเพลง ท่าประกอบและเกมต่างๆ ที่ใช้ความรุนแรง กิจกรรมหรือเกมส่วนใหญ่ มุ่งเรื่องใต้สะดือ โดยเห็นเป็นเรื่องขบขัน ซึ่งจะเป็นการสร้างค่านิยมที่ผิด โดยเฉพาะสถาบันอุดมศึกษาเกือบทั้งหมดนิยมใช้เพลงแปลงในกิจกรรมรับน้อง เช่น เพลง เมียงู ไก่ย่าง นอกจากนี้เพลงลามกต่างๆ ยังมีการแปลงเพลงและสามารถโหลด ทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งค่านิยมที่ผิดๆเหล่านี้ เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาความรุนแรงทางเพศกับผู้หญิงและเด็กเพิ่มมากขึ้น นายบุญลือ ประเสริฐโสภา รักษาการ รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมรับน้องโดยใช้เพลงที่ส่อไปในทางลามก อนาจาร รวมทั้งใช้ท่าทางประกอบที่ไม่เหมาะสม เป็นเรื่องที่มหาวิทยาลัยจะต้องดูแลกวดขันไม่ให้เกิดขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาเราก็เคยมีเหตุการณ์การรับน้องด้วยเพลงท่าไก่ย่าง ซึ่งทำให้นิสิตใหม่รับไม่ได้ และเป็นสาเหตุหนึ่งของการฆ่าตัวตาย ในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ ก็จะให้สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาดูแล และพยายามไม่ให้กิจกรรมรับน้องใช้เพลงหรือท่าทางเหล่านี้มาจัด เพื่อไม่ให้นิสิตนักศึกษารุ่นใหม่ เห็นเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องปกติในระยะยาว ส่วนการแปลงเพลงและมีการโหลดทางอินเตอร์เน็ตนั้น คงต้องประสานกับกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารให้ควบคุม ด้าน ผศ.ดร.สว่าง ภู่พัฒน์วิบูลย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม จ.พิษณุโลก ในฐานะประธานที่ประชุมอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ยอมรับว่ากิจกรรมการรับน้องมีการใช้เพลงเหล่านี้บ้าง แต่มั่นใจมีไม่มากนัก เพราะอาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏดูแลการรับน้องอย่างใกล้ชิด และพยายามไม่ให้มีการนำเพลง ท่าทางประกอบเพลง หรือกิจกรรมที่ส่อไปในทางรุนแรง ลามก แม้จะมีบ้างแต่ก็พยายามดูแลให้มีน้อยที่สุด ส่วนการจะห้ามเลยนั้น คงใช้วิธีการพูดคุยน่าจะเหมาะสมกว่า อืม จะว่ากันตามตรงแล้ว เพลงพวกนี้มันก็มีมานานแล้วเนอะ ถ้าหากจะมองเป็นเรื่องตลกมันก็ตลกดี แต่หากมองเป็นเรื่องลามก พี่ปาล์มก็ว่าก็คงใช่ เอาเป็นว่าขอให้ได่บทสรุปที่ดีกับทุกฝ่ายแล้วกันค่ะ พี่ปาล์มขอบคุณข่าวจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ขอบคุณภาพประกอบจาก www.oknation.net |
แสดงความคิดเห็น
ถูกเลือกโดยทีมงาน
ยอดถูกใจสูงสุด
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการที่จะลบความเห็นนี้ใช่หรือไม่ ?
10 ความคิดเห็น
น่าไปปราบพวกเพลงใต้ดินด้วย
มันส่อถึงความลามกอย่างแรง
เห็นบางเพลงวิทยุเปิดกันให้สนั่นเลยนี่
ชาลาวัน (หรือเปล่า)
รู้สึกว่ามันไม่เหมาะ
ที่ร.ร.ก็มีเยอะ เพื่อนก็เอามาจากเน็ต มันเปิดจนจะจำขึ้นใจอยู่แล้ว
อยากบอกชื่อเพลงแต่บอกไม่ได้ มันทุเรศเกินไป
เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่าไหมคะคุณผู้ใหญ่??
บ้านเมืองจะเป็นจะตายกันอยู่แล้ว ไม่สนใจ ไม่กล้าทำอะไร
ดีแต่มานั่งยุ่งเรื่องของเด็กๆ
เพลงพวกนี้ใครๆก็ขำๆกัน
ร้องเล่นให้สุขภาพจิตสุขสันต์ โตไปจะได้ไม่เป็นผู้ใหญ่แบบนี้ -*-
เหอๆ เครียดเกินไปแล้ว!!
ไม่ทำให้ใคร ตายแล้วกัน คับ คุณผู้ใหญ่ๆ ทั้งหลาย
แบบ บางคนเค้าให้ทำท่า น่าเกลียด อุจาดลูกตาเกิน
กล้าแสดงออกในสิ่งที่ น่าชม น่ามอง จะดีกว่า
ดีกว่ามาเต้นแหกไป แหกมา รูดเป้า ไรเงี้ย
รับไม่ได้
โดยส่วนตัว ผมยอมรับว่าเพลงรับน้อง เพลงสันทนาการในระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งเริ่มแพร่หลายมาในโรงเรียนมัธยมหลายแห่ง มีเนื้อหาส่วนใหญ่มุ่งไปที่เรื่องใต้สะดือ ทั้งถ้อยคำสำนวน น้ำเสียงขณะร้อง และที่สำคัญ - ท่าทางที่ใช้เต้นประกอบเพลง - ล้วนบ่งถึงเรื่อง "อย่างว่า" ไม่มีเว้น ซึ่งดูเหมือนว่าเพลงเหล่านี้จะได้รับความนิยมมากกว่าเพลงแนว "ซึ้งกินใจ" เสียอีก เหตุผลหนึ่งคงเพราะเพลงใต้สะดือตอบสนอง "ความต้องการพื้นฐาน" โดยรวมได้มากกว่า และสนับสนุนความรู้สึกของเด็กวัยรุ่นทั่วไปว่า "ข้าโตพอจะเรียนรู้เรื่องเหล่านี้ได้แล้ว ผู้ใหญ่ไม่ต้องมาห้าม" ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ รังแต่จะเตลิดกันไปใหญ่
ถ้าถามว่าผมชอบเพลงจำพวกนี้หรือไม่ ผมตอบอย่างเต็มปากว่า "ไม่ชอบ" มาแต่แรกเข้าเรียน ไม่ว่าจะเป็นเนื้อร้องหรือท่าเต้น และไม่คิดจะเอาตัวเองเข้าไปเปลืองกับสันทนาการอย่างนี้ด้วย - นี่เป็นความคิดส่วนบุคคล - แต่ถ้าถามว่าผมจะเข้าไปห้ามไหม ผมก็คงตอบว่า "ไม่ห้าม" เพราะไม่เห็นประโยชน์อะไรที่จะเข้าไปห้ามความต้องการพื้นฐานของเขาเหล่านั้น ในเมื่อเด็กๆ ตั้งความคิดเอาไว้แล้วว่า "กรูโตแล้วเฟร้ย - เมิงอย่ายุ่ง !!" ก็สู้ปล่อยให้เด็กเรียนรู้ด้วยตัวของเขาเองจะไม่ดีกว่าหรือ ? จะเข้าไปป่วนให้เข้าตัวเองทำไม
เพียงแค่เพลง มันคงไม่กระตุ้นอะไรไปมากกว่าความสนุกสนานกระมัง หากจะกระตุ้นกันจริงๆ ผมเห็นว่ากระตุ้นกันนอกเพลงเสียมากกว่า
อีกอย่าง, เพลงจำพวกนี้แม้จะ "ต่ำ" เพียงไร ก็ยังเห็นว่าถูกใจเด็กๆ ส่วนใหญ่กันอยู่ดี หากเขาพอใจที่จะสนุกสนานกับเรื่อง "ต่ำ" บ้างก็คงไม่เป็นไรหรอก ถือเสียว่าเป็นธรรมดาของคนทั่วไปที่จะต้องรู้จักเรื่อง "ต่ำ" ก่อนจะเข้าใจเรื่อง "สูง" และเมื่อถึงวันหนึ่งที่เขาเข้าใจเรื่อง "สูง" แล้ว เขาคงรู้ด้วยตัวเองแหละว่าจะเลือกพอใจกับเรื่องแบบไหนมากกว่ากัน
ผมเชื่อว่า เด็กๆ รู้จักผิดชอบชั่วดีพอที่จะเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้องครับ
ขอบคุณ