สวัสดีค่ะน้องๆ... ผ่านวันแม่ไปแล้ว ไปทำอะไรให้คุณแม่กันบ้าง เล่าให้ฟังหน่อยสิ ส่วนพี่มิ้นท์ก็เข้าครัวทำอาหารให้แม่ทานแหละ แต่ไม่รู้ว่าหลังจากทานไปแล้ว ท้องเสียรึป่าว ฮ่าๆ เมื่อตอนที่แล้ว พี่มิ้นท์ ค้างถึงเดือนที่ 4 ที่อยู่ในท้องแม่ วันนี้ก็เลยจะมาต่อในเดือนที่ 5-9 ว่าชีวิตที่เราอยู่ในท้องแม่ในช่วง 5 เดือนหลัง เราทรมานแม่แค่ไหนกัน (ถ้าใครยังไม่อ่านตอนที่ 1 คลิกที่นี่เลย)
ภาพทารกในครรภ์เมื่ออายุได้ 5 เดือน
การตั้งครรภ์เดือนที่ 5 ผ่านมา 4 เดือนอาการของคุณแม่เริ่มแพ้ท้องลดลง แต่จะมีอาการอื่นๆ ที่ทรมานยิ่งกว่าเพิ่มมากขึ้น เริ่มตั้งแต่ ปวดหัว ร่างกายอ่อนเพลีย ท้องผูก ทารกในท้องที่โตขึ้น ส่งผลให้ท้องมีขนาดใหญ่ขึ้น ช่วงนี้เรียกได้ว่าคุณแม่ทั้งหลายต้องยอมหมดสวยเพื่อเราเลย เพราะไม่ใช่แค่ท้องที่ใหญ่ขึ้นเท่านั้น ต้นขาและน่องก็ใหญ่ขึ้นด้วย นอกจากนี้เม็ดสีของร่างกายก็จะเปลี่ยนแปลงเป็นสีเข้ม ทำให้บริเวณท้อง หน้าอก หรือใบหน้าบางจุดเข้มขึ้น ตามที่เคยได้ยินกันมาว่า เวลาท้องจะมีฝ้าหรือกระนั่นเอง ส่วนคุณลูกอย่างเราๆ ก็โตขึ้นตามลำดับ สามารถแยกเพศได้แล้ว แขนขา กระดูกมีความแข็งแรง ทำให้มีการเคลื่อนไหวมากขึ้น ในตอนนี้มือไม้เราเริ่มจะไม่อยู่สุข (แค่อย่าไปบีบสายสะดือของตัวเองก็พอ ฮ่าๆ) ช่วงนี้แม่อาจจะเจ็บท้องเพราะการเคลื่อนไหวของเราอยู่บ่อยครั้ง นอกจากนี้ในเดือนที่ 5 เราสามารถจำเสียงของคุณแม่ได้แล้วด้วยนะ และอาจจะมีการสนองตอบเสียงภายนอกด้วย เช่น มีการเคลื่อนไหวเมื่อได้ยินเสียงเพลง (น่ารักอ่ะ^^)
ภาพอัลตราซาวด์ครรภ์อายุ 6 เดือน
การตั้งครรภ์เดือนที่ 6 เดือนที่ 6 คุณแม่มีสิทธิ์ท้องลายแล้วถ้าดูแลร่างกายไม่ดี เพราะมดลูกขยายใหญ่ขึ้น ผิวหนังหน้าท้องก็เลยขยายใหญ่ตาม ผิวหนังก็เลยแตกค่ะ นอกจากนี้แม่อาจจะรู้สึกเจ็บชายโครงกับกระเพาะปัสสาวะ เพราะลูกดิ้นไปกระแทกนั่นเอง ด้านคุณลูกผู้น่ารักก็กำลังซน ร่างกายเริ่มแข็งแรงขึ้นก็เลยดิ้นอย่างเพลิดเพลิน ทำให้คุณแม่เจ็บอยู่บ่อยๆ แต่เวลานี้กลับเป็นช่วงที่แม่มีความสุขที่สุดนะ หลายๆ ครั้งที่ลูกจะเคลื่อนไหวสนองตอบการกระตุ้นของแม่ เช่น ถ้าแม่ขยับตัวเร็วก็จะดิ้นตอบ เป็นต้น ส่วนอื่นๆ ก็มีการเปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน เช่น เริ่มมีลายนิ้วมือและนิ้วเท้าแล้ว และสามารถลืมตาได้แล้วด้วย ถ้าเราจำความรู้สึกนั้นได้ก็คงดีสิเนอะ จะได้เห็นท้องแม่ว่าเป็นยังไง
ภาพครรภ์อายุ 7 เดือน ขดตัวได้ที่ |
การตั้งครรภ์เดือนที่ 7 ช่วงนี้ท้องแม่จะใหญ่ขึ้นอีกตามตัวของเราค่ะ เรียกได้ว่า แทบจะเดินอุ้ยอ้ายเหมือนเป็ดเพราะเดินไม่สะดวกนั่นเอง มีอาการเจ็บท้องเป็นระยะๆ บางครั้งก็ขับถ่ายไม่สะดวก ยังคงทำให้เป็นริดสีดวงเหมือนเดือนก่อนๆ อยู่ นอนก็นอนได้ไม่เต็มที่ เพราะถ้าทารกตื่นแม่ก็รู้สึกตามไปด้วย พูดง่ายๆ ก็คือ ทำอะไรก็ไม่สะดวกแล้วล่ะตอนนี้ นอกจากนี้ในด้านของจิตใจ แม่ของเราอาจจะเกิดอาการกังวลกลัวการคลอด รวมถึงอาจจะกลัวเราออกมาไม่ครบ 32 ด้วย เห็นมั้ยว่าแม่เจ็บขนาดนี้ยังเป็นห่วงเราอยู่เลย ส่วนลูกๆ อย่างเรา ตอนนี้เลิกนอนแอ้งแม่งแล้วค่ะ เพราะว่าแขนขา ลำตัวที่ยาวขึ้น ทำให้ต้องขดตัวอยู่ในท้องแม่ น้ำหนักตัวของเราก็หนักถึง 1 กิโลกรัมแล้ว แม้ว่าตัวจะใหญ่ขึ้น แต่ก็ยังมีการเคลื่อนไหวอยู่ และแม่ก็จะรับรู้ถึงการเคลื่อนไหวได้ดีกว่าเดิม นอกจากนี้สมองและต่อมรับรู้รสก็พัฒนา จนสามารถแยกแยะ เสียง แสง รสชาติหวาน เปรี้ยว ไปจนถึงรู้สึกเจ็บ และร้องไห้ได้แล้วด้วย
ภาพครรภ์อายุ 8 เดือน อวัยวะสมบูรณ์เกือบ 100% แล้ว
การตั้งครรภ์เดือนที่ 8 ในขณะที่ลูกกำลังสนุกกับการเคลื่อนไหว แต่คุณแม่ของเรานี่สิเริ่มทรมานกับการเคลื่อนไหว เพราะท้องขนาดใหญ่ยังทำให้คุณแม่เดินอุ้ยอ้าย หรือแม้แต่จะลุก นั่ง นอนก็แสนจะลำบาก หายใจก็ไม่ค่อยสะดวก มดลูกขยายทำให้ยอดของมดลูกอยู่สูงถึงซี่โครงชิ้นล่างสุดและดันกระบังลมของแม่ขึ้นไป ทำให้อึดอัดหรือรู้สึกว่าหายใจไม่พอ นอกจากนี้แม่จะเริ่มอ้วนขึ้น แต่อ้วนอันนี้ไม่ได้มาจากท้อง ที่ใหญ่ขึ้นนะ แต่อ้วนเพราะเกิดจากการบวมของอวัยวะต่างๆ ที่มีของเหลวมาสะสมอยู่ เช่น ใบหน้า มือ ขา ริมฝีปาก เป็นต้น (จะคลอดเราออกมาแล้ว แม่ก็ยังไม่ได้สวยอีก!!) ตอนนี้ทั้งสมองและร่างกายของลูกเรียกได้ว่าพัฒนาจนสมบูรณ์ ทั้งภายใน เช่น ปอด หรือ อวัยวะภายนอก เช่น แขนขา นิ้วมือที่มีเล็บขึ้นเต็มพอดี อวัยวะเพศก็มีครบสมบูรณ์ ตอนนี้ลูกๆ อย่างเราก็เหมือนรู้งาน จะหมุนตัวกลับเอาหัวลงไปที่เชิงกรานของแม่ เพื่อเตรียมสำหรับคลอดในเดือนหน้า แต่บางคนก็ดื้อนะไม่ยอมกลับหัวมา ก็เดือดร้อนแม่ของเราต้องผ่าตัดอีก ><!!
การตั้งครรภ์เดือนที่ 9 ใกล้คลอดเข้ามาเต็มที่แล้วสำหรับแม่ของเรา แม่จะรู้สึกปวดมากขึ้นบริเวณปากมดลูก เพราะหัวของทารกที่เคลื่อนต่ำลงมาเป็นน้ำหนักถ่วงนั่นเอง และก็จะรูสึกปวดปัสสาวะอยู่บ่อยๆ ด้วย นอกจากนี้ทารกก็จะดิ้นน้อยลงแต่แรงกว่าปกติ จึงเกิดอาการเจ็บอยู่บ่อยๆ ในเดือนนี้มีหลายๆ ของคุณแม่ที่เปลี่ยนไปเพื่อรอการคลอด เช่น ปากของมดลูกจะอ่อนนุ่มขึ้นเพื่อเตรียมที่จะขยายออก (น่ากลัว T^T) หรือช่องคลอดก็จะขยายความยาวขึ้น เรียกได้ว่าสัญชาตญาณของความเป็นแม่มีขึ้นตั้งแต่ลูกยังไม่ออกมาเลยนะเนี่ย ส่วนทารกก็สมบูรณ์เกือบ 100% มีน้ำหนักเฉลี่ยถึง 3 กิโลกรัม ช่วงนี้เราจะเริ่มเป็นเด็กที่น่ารักขึ้น หน้าอ้วนกลม แก้มยุ้ย เพราะมีชั้นไขมันสะสมไว้ ตัวจะแดงหลังคลอด มีการเปลี่ยนแปลงในระบบไหลเวียนเลือด ปอดขยายตัวออก ทำให้เลือดมีการไหลผ่านไปที่ปอด เริ่มมีกระบวนการหายใจที่สมบูรณ์ หลังจากนี้ก็เตรียมตัวออกมาโลกภายนอก เป็นเด็กตัวน้อยๆ ที่มีคนรักมากมาย^^
จบไปแล้ว 9 เดือนกว่าจะออกมาเป็นพวกเรากันทุกวันนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยใช่มั้ยล่ะ นับเป็นเรื่องมหัศจรรย์อีกเรื่องนึงของร่างกายมนุษย์ ที่หล่อเลี้ยงและฟูมฟักจากสิ่งที่เป็นแค่เชื้อจนก่อร่างสร้างเป็นคน แต่จะออกมาเป็นคนที่สมบูรณ์ไม่ได้ ถ้าไม่มี "แม่" ที่คอยดูแล ทะนุถนอมเรามาทั้ง 9 เดือน ไม่สิ!! น่าจะตลอดทั้งชีวิตของแม่นั่นแหละ เห็นแล้วใช่มั้ยคะว่าแม่ของเรานั้นประเสริฐขนาดไหนกัน ยอมลำบากทั้งเจ็บ ทั้งปวด ทรมานตั้งแต่นาทีแรกที่มีเราอยู่ในท้อง จนกระทั่งวินาทีสุดท้ายที่เราฝากชีวิตไว้ในท้อง และลืมตาออกมาดูโลกในที่สุด บทความนี้ พี่มิ้นท์ ตั้งใจที่จะมอบสาระดีๆ ทั้งในเรื่องของวิทยาศาสตร์ที่ทำให้เห็นถึงพัฒนาการต่างๆ ของทารกในครรภ์จนออกมาเป็นมนุษย์อย่างในทุกวันนี้ แต่อีกมุมหนึ่งก็เพื่อให้น้องๆ ระลึกถึงบุญคุณของคุณแม่ แม้จะผ่านวันแม่มาแล้ว แต่ก็ขอให้น้องๆ รักคุณแม่ทุกวันนะคะ^^
ปล.หลังจากที่ พี่มิ้นท์ ทำบทความนี้เสร็จ ก็รู้สึกไม่อยากมีลูกขึ้นมาทันที T^T มีใครรู้สึกเหมือนกันบ้างมั้ยอ่า...
อ้างอิงข้อมูลและรูปภาพจาก
http://www.perfectwomaninstitute.com/
http://www.love4home.com/
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=singlethailadies&month=10-2009&date=23&group=7&gblog=10 |
71 ความคิดเห็น
ม้าเรามีลูกยาก แล้วก็ไม่อยากมี ไม่อยากอยู่บ้านเลี้ยงลูก แต่ป่าป๊าอยากมี แม่ก็เลยยอม สุดท้ายต้องไปฉีดยาทรมานสารพัด สุดท้ายต้องทำกิฟท์ ม้ายื่นคำขาดเลยว่าครั้งนี้ไม่ติดก็ไม่เอาแล้ว ปรากฏติดมาเป็นแฝดเลย
ท้องแล้วก็ทรมานเพราะท้องใหญ่มาก แฝดเรามันดิ้นมากด้วย ถีบทีออกมาเป็นรูปเท้า ม้าบอกเจ็บบรรลัย - - " แพ้ท้องมากจนเป็นเลือด(เส้นเลือดฝอยที่คอแตก) ต้องทนกินของที่ไม่ชอบ ถึงเวลาคลอดต้องผ่าอีก เพราะเรานั่นแหละซ่า ไม่ยอมกลับหัว ผ่าเสร็จป๊าบังคับให้เดินแผลจะได้หายเร็วๆ เจ็บจนน้ำตาร่วง
เสร็จสรรพแม่เราทำหมันทันทีโดยไม่มีลังเล อะไรจะลำบากลำบนปานนี้ ว่าไปก็รู้สึกแย่ที่เคยดื้อกับแม่ขึ้นมากะทันหัน
กลัวตอนคลอดที่สุดเลยยย :((((
น่ากลัวจัง
หมายถึงตอนคลอดอ่ะนะ
อยากมีลูกแต่ไม่อยากท้องอ่ะ ได้มะ
รับบุตรบุญธรรมดีกว่า สบายใจกว่าเยอะ
อยากจะร้องไห้มาก
แต่พี่อะตอมเลี้ยงน้องไข่เด็กวัดเจดีย์มากกว่า ขอบคุณค่า????????