สวัสดีค่ะน้องๆ... เมื่อไม่นานมานี้ พี่มิ้นท์ ไปอ่านเจอกระทู้จากเว็บไซต์แห่งหนึ่ง เนื้อหาค่อนข้างดราม่าเกี่ยวกับเด็กไทยช่วงหลังๆ นิยมออกไปติวหนังสือตามร้านอาหารประเภทฟาสต์ฟู้ด ทำให้คนที่มากินกลับไม่มีที่นั่งซะอย่างนั้น เลยเกิดคำถามเล็กๆ ว่า ทำไมน้องๆ ถึงต้องไปอ่านข้างนอก ทั้งๆ ที่อ่านในบ้านน่าจะสะดวกกว่า
อ่านคอมเม้นท์ไปเรื่อยๆ ก็ดราม่าจริงๆ ค่ะ เพราะความคิดเห็นแตกออกเป็น 2 กลุ่ม ในส่วนกลุ่มของลูกค้าทั่วไปก็ให้เหตุผลว่า มากินทั้งทีก็อยากนั่งกินในร้าน แต่ไม่มีที่นั่ง เพราะเจอเด็กนั่งอ่านหนังสือเต็มร้าน ไม่มีท่าทีจะลุกกันซักนิด เพราะไม่มีคนไล่ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะค่านิยมในเรื่องรสนิยมรึป่าวว่าออกมาอ่านข้างนอกแล้วดูดี อ่านไปถ่ายรูปไป อัพเดทเป็นวินาที แบบนี้อ่านจริงหรอ??
ส่วนตัวแทนคอมเม้นท์คนที่นั่งติวหนังสือในร้าน ก็บอกว่าที่ไปอ่านข้างนอก ไม่ใช่เพราะความเก๋ไก๋สไลเดอร์หรอกค่ะ แต่อ่านที่บ้านไม่ได้จริงๆ ซึ่งมันก็เป็นสิทธิส่วนบุคคล ตัวเขาก็ซื้อของที่ร้านกินเหมือนกัน ก็ไม่เห็นจะผิดตรงไหน อีกอย่างคือ มาอ่านหนังสือจริงๆ และได้มาติวกับเพื่อน จะได้อธิบายกันได้
จากกระทู้นี้ พี่มิ้นท์เลยสังเกตมาสักพักก็เห็นว่ามีน้องๆ นั่งอ่านและติวหนังสือตามร้านฟาสต์ฟู้ดเยอะจริงๆ ก็เลยอยากรู้ว่า ชาว Dek-D.com คนไหนที่อ่านหนังสือในบ้านไม่รู้เรื่อง จนต้องออกไปอ่านข้างนอกบ้าง?? และเหตุผลที่อ่านในบ้านไม่รู้เรื่องเป็นเพราะอะไร
โดยปกติแล้ว "การอ่านหนังสือ" ให้ได้ผลดี สภาพแวดล้อมในการอ่านเป็นปัจจัยสำคัญอันดับต้นๆ โดยสภาพแวดล้อมในการอ่านที่ดี ควรมีแสงพอเหมาะ อากาศดี ปลอดเสียง ปลอดสิ่งที่จะกระตุ้นความสนใจ เช่น คอมพิวเตอร์ เกมส์ การ์ตูน ฯลฯ
จากที่ได้ลองถามน้องๆ บางคนก็ให้เหตุผลว่า เพราะที่บ้านมีทีวี มีคอมพิวเตอร์ จะอ่านทีไร จะถูก IT ดูดความตั้งใจไปเกือบหมด จึงเลือกออกไปอ่านหนังสือข้างนอก อย่างน้อยก็เป็นการตัดใจจากสิ่งรบกวนเหล่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ถ้าไปตามห้างหรือร้านอาหาร ก็มีทั้งเสียงเพลง เสียงคน คนเดินพลุกพล่าน ซึ่งก็เป็นสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะแก่การอ่านหนังสืออีกเหมือนกัน แต่ที่น้องๆ รู้สึกว่าอ่านข้างนอกแล้วรู้เรื่องกว่าอ่านในบ้าน คงเป็นเพราะเกิดความเคยชินในระดับนึง และอีกเหตุผลคือ เทคโนโลยีเป็นสิ่งก่อกวนการอ่านเกือบ 100% นอกเหนือจากนี้ คือ ง่วง!
ดังนั้นหากมองที่ปัญหาว่าเทคโนโลยีคือ สิ่งที่รบกวนสมาธิ เราก็ควรแก้ที่ปัญหา ลองจัดสภาพแวดล้อมในบ้านให้เหมาะกับการอ่านหนังสือมากขึ้น เช่น ย้ายของที่ไม่จำเป็นออกจากโต๊ะ ให้มีแต่หนังสือและอุปกรณ์การเรียนเท่านั้นพอ หรือ ลองออกมาอ่านหน้าบ้าน หรือ อ่านในห้องที่ไม่มีทีวี คอมพิวเตอร์ อย่านอนอ่านที่เตียง ไม่งั้นหลับแน่!!
พี่มิ้นท์เชื่อว่าหากลองปรับตัวและสภาพแวดล้อมให้เป็นแบบนี้ ร่างกายและความรู้สึกของเราก็จะชินไปเอง ไม่เกิน 3 เดือน น้องๆ ก็จะสามารถอ่านหนังสือที่บ้านได้รู้เรื่องแน่นอน ส่วนคนที่อยากอ่านกับเพื่อนๆ วิธีแก้ก็ไม่ยากอีกเช่นกัน ชวนเพื่อนๆ มาติวที่บ้านสิคะ อย่างน้อยก็ติวได้อย่างเต็มที่ เสียงดังก็ไม่ต้องพะวงว่าจะมีคนว่า (ยกเว้นแม่ดุ ฮ่าๆ)
หรืออีกหนึ่งวิธีสำหรับคนที่อ่านในบ้านไม่ได้จริงๆ อยากให้ลองเปลี่ยนไปอ่านตามสวนสาธารณะ ที่อากาศสดชื่นๆ พกขนมหรือของว่างไปกินเพลินๆ ก็ได้ หรือ ห้องสมุด เพราะเงียบและมีหนังสือให้ค้นคว้าอีกมากมาย เรียกว่าเป็นสองสถานที่ที่น่าอ่านหนังสือมากๆ ยังไงก็ฝากชาว Dek-D.com ลองไปปรับใช้ดูนะคะ จะได้ไม่ต้องเสียเงินซื้ออาหารเพื่อแลกกับที่อ่านหนังสือ
48 ความคิดเห็น
แต่ถ้าอ่านตอนไหน แล้วมีเสียงแม่บ่น นี่โอ้วววว ฮ่าๆๆ
ที่เหลือก็ที่อื่นอ่ะ
สิ่งยุเยอะทั้งเกมส์ ทั้งทีวี หนังสือการ์ตูน ทุกอย่างเลยค่ะ
แล้วโดยส่วนตัวก็เป็นคนขี้เกรียจจัดโต๊ะด้วย
พอจะอ่านหนังสือทีไร เป็นต้องล้มเลิกทุกที
ใครมีวิธีช่วยเราบ้าง เข้าไอดีเราแล้วช่วยแนะนำเราหน่อยนะคะ^^
ยิ่งตอนเห็นหนังสือเรียนยิ่งปวดหัว เพาระไม่เข้าใจ
แต่ก็โดนบ่นประจำ เพราะว่า นอนดึกนี่ล่ะค่ะ
เมืองไทยน่าจะมีแบบเกาหลีคือร้านสำหรับอ่านหนังสือโดยเฉพาะ
ร้านนั้นจะจัดไว้ให้เข้ากับบรรยากาศที่ผ่อนคลายที่สุด
น่าจะลองดูนะ เผื่อปัญหาจะหมดไป
เราเป็นคนหนึ่งที่ต้องไปนั่งตามร้านกาแฟ(สั่งสินค้าของเขาตามปรกติ)
เพราะจะได้ติวกับเพื่อนได้ถนัด... จะให้ไปติวที่บ้านแต่ละคนก็ไม่สะดวก
บางทีคนเยอะ ก็เกรงใจ... แต่ไม่มีที่จะย้ายไปไหน
อีกอย่างเราซื้อสินค้าเขาไม่ใช่แค่แก้วเดียวนะ
บางครั้งเป็นขนมนมเนย บางครั้งสั่งเครื่องดื่มหลายแก้ว (สั่งเรื่อยๆ)
แต่นั่งนานมากกกกกก (10โมง-บ่ายโมง)
อยากให้ประเทศไทยมีร้านนั่งอ่านหนังสืออะค่ะ ไม่อย่างนั้นก็จะมีปัญหาอย่างนี้มาอยู่เสมอ