เรียน Eng.ง่ายไม่ซับซ้อนกับ พี่กิ๊บ Trinity

     ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ชาว  Dek-D.com คงคุ้นหูและได้ยินคำว่า  AEC  หรือประชาคมอาเซียนกันอยู่บ่อยๆ  สำหรับการที่เราจะเข้าสู่  AEC นั้น  สิ่งที่เห็นได้ชัดจากเรื่องนี้  คือ เรื่องของภาษาที่จะมีบทบาทสำคัญมากขึ้น โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ หากใครมีความสามารถตรงนี้ เรียกว่าได้เปรียบคนอื่นอยู่มากทีเดียว
     แต่สำหรับน้องบางคน ไม่ว่าจะทำยังไง ภาษาอังกฤษ
ก็ยังยากสำหรับตัวเองอยู่ดี ต่อให้ขยัน หรือท่องจำขนาดไหน บางคนทฤษฎีแน่นปึ้ก สอบได้เต็ม แต่พอให้พูดกับชาวต่างชาติ กลับใบ้สนิท แล้วจะมีวิธีไหนที่ทำให้เราฝึกใช้ภาษาอังกฤษได้จริง แบบไม่ต้องเรียนจากตำราหนาๆ ไหมนะ?
    วันนี้พี่แนนมีพี่สาวใจดีนามว่า พี่กิ๊บ แห่ง Trinity School of English ที่จะมาช่วยแก้ปัญหาให้น้องๆ
ด้วยคอนเสปต์เก๋ๆ โดนใจว่า "Less is more เรียนน้อยแต่ได้มาก"เรียนแล้วต้องได้ ต้องโดนแต่จะเป็นแบบไหน ไปฟังพี่กิ๊บกันเลย


พี่แนน : สวัสดีค่ะพี่กิ๊บ ขอแอบถามประวัติสักหน่อย
ว่ามาเป็นครูสอนภาษาอังกฤษได้ยังไงคะ?

พี่กิ๊บ : ตัวพี่ชอบภาษาอังกฤษมาตั้งแต่เด็กเลยค่ะ มีครั้งหนึ่งตอนเด็กมากๆ  คุณพ่อพาไปพัทยา ก็เห็นฝรั่งนอนอาบแดดอยู่  คุณพ่อพูดอะไรก็ไม่ทราบออกมาคำหนึ่งแล้วฝรั่งหลบ  เราก็รู้สึกว่าพ่อเราเจ๋งมากๆ  พูดแล้วฝรั่งหลบให้ด้วย  เลยกลายเป็นแรงบันดาลใจว่า  อยากเก่งเหมือนคุณพ่อ (พอโตมารู้ว่าคือคำว่า "Excuse me" ฮ่าๆ) แต่จุดเปลี่ยนจริงๆก็น่าจะเป็นตอนสอบชิงทุน ตอน ม. 3 ก็ได้ไปอยู่อเมริกาหนึ่งปี ได้ไปใช้ชีวิตอยู่เมืองนอกจริงๆ ตั้งแต่ยังเด็ก  ต่อมาพี่ก็เข้าเรียนต่อในคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์  สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังค่ะ พอเรียนจบ พี่ก็ทำงานให้กับบริษัทที่เป็นผู้ผลิตเครื่องประดับให้  Wal*Mart ทำให้ต้องบินไปเจรจา ธุรกิจที่อเมริกาบ่อยมากๆ  ทำงานอยู่ 5 ปีก็ได้ทุน  full scholarship ไปเรียน MBA ที่ University of Oxford หลังจาก เรียนจบกลับมาก็คิดว่าอยากจะทำ อะไรที่เป็นความชอบของเรา จึงมาเปิดโรงเรียน สอนภาษาอังกฤษ Trinity School of English ค่ะ
พี่แนน : ขอถามถึงชื่อ  Trinity รวมทั้งคอนเสปต์ของ ร.ร. ที่ว่า Less is more  ว่ามีที่มายังไงคะ?

พี่กิ๊บ : "Less is more" พูดง่ายๆ คือ เรียนน้อยแต่ ได้ผลมาก จริงๆ ที่มาของคำนี้มาจากสถาปนิกด้านการดีไซน์ท่านหนึ่ง เป็นแนวคิดที่ใช้ได้ผลดีมาก จะเรียกว่าเราเป็นครู  เป็นติวเตอร์ หรือเป็นที่ปรึกษา ก็ได้ แต่สิ่งที่เราทำคือช่วยน้องๆ เตรียมตัวช่วย วิเคราะห์ข้อสอบ วิเคราะห์เวลา วิเคราะห์ตัวเขาเอง  แล้วบอกเขาว่าสิ่งไหนสำคัญ สิ่งไหนไม่สำคัญ อะไรที่เขาควรทำ ทำมาก ทำน้อย เพราะบางครั้ง ทำมากไปชีวิตก็สับสน น้องๆ และคุณพ่อคุณแม่ จะชอบตรงนี้มาก เพราะเราวางโครงสร้างหลักสูตรเรียบง่าย เข้าใจง่าย

    ทีนี้ชื่อ Trinity เป็นชื่อของ College ที่ Oxford ค่ะ เมื่อดูความหมายแล้ว สอดคล้องกับหลักการสอน ของโรงเรียน ก็เลยยืมมาตั้งชื่อสถาบัน ที่บอกว่า สอดคล้องเนี่ย คือหลักการเรียนของที่นี่จะเรียกว่า
 "Trinity Formula"  การติว สอบภาษาอังกฤษของ Trinity จะเน้นสกัดเอาแต่แก่น ของภาษาอังกฤษ และเจาะตรงเข้าถึงแนวทางของข้อสอบ ทำให้นักเรียน มองเห็นภาพชัดเจน ไม่หลง เสียเวลากับประเด็น ปลีกย่อย ที่ทำให้เสียพลังงานในการเตรียมตัวสอบ ซึ่งแนวทางนี้ ประยุกต์มาจากประสบการณ์ การออกแบบและวิธีคิดทางสถาปัตยกรรม คือพี่ได้จับ กลุ่มความรู้ต่างๆ เป็น Mind Map ซึ่งเราย่อกฏต่างๆ ที่ดูซับซ้อนให้ได้เป็น  3 หัวข้อหลัก ซึ่งเมื่อพูดถึงอะไร อย่างหนึ่ง   ก็จะแตกออกไปอีกไม่เกิน 3 อย่าง ซึ่งจะช่วย  ให้น้องมองภาษาอังกฤษเป็นภาพรวมไม่แยกย่อย ยุบยิบ
พี่แนน : อย่างน้อง ม.ต้นที่มาเรียน พี่กิ๊บจะช่วยปูพื้นฐานหรือทำให้น้องเก่งขึ้นได้ยังไงคะ?

พี่กิ๊บ : สอนน้องๆ ม.ต้นนี่สำคัญมาก เพราะเรายังใส่อะไรมากนักไม่ได้ ต้องสร้างแรงบันดาลใจให้เค้าก่อน การเรียนภาษาอังกฤษให้เก่ง เราต้องเริ่มเรียนรู้จากสิ่งที่เราชอบ ดังนั้น แต่ละคอร์สของเราก็จะเริ่มจาก ความชอบของน้องๆ อย่าง Reading เรามี 2 เล่ม เล่มแรกจะไม่เน้นข้อสอบ แต่เน้นให้น้องรักการอ่าน และอ่านเป็น โดยเรื่องที่เราเอามาให้น้องอ่านก็จะเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของน้องๆ เช่น เรื่องดารา ประวัติเฟซบุค เป็นต้น  ปัญหาคือเวลาที่น้องๆ อ่าน Reading ในหนังสือข้อสอบจะรู้สึกว่าน่าเบื่อจัง นี่เราต้องอ่านและรู้เรื่องสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมด้วยหรือเนี่ย  ดังนั้นพอเค้ามาอ่านเรื่องของเรา  มันเป็นการเพิ่มความรู้นอกห้องเรียนพร้อมๆ กับการเรียนภาษาอังกฤษ เมื่อน้องๆ เริ่มชอบการอ่านเพราะรู้สึกว่าสนุก เมื่อนั้นเราก็สามารถใส่เนื้อหาเพิ่มเติมได้ ดังนั้นเล่มสองก็จะเน้นการสอบเข้าเรียนต่อในโรงเรียนดังๆ เนื้อหาก็จะเข้มข้นขึ้นค่ะ
    นอกจากนั้น เราจะไม่มีคอร์สเรียนคำศัพท์แยกเดี่ยวๆ เพราะเราไม่ค่อยเชื่อในการท่องจำค่ะ ที่นี่หลักสูตร เราชื่อว่า Reading and vocabulary เพราะมนุษย์จำศัพท์จากภาพและเรื่องราว วันไหนเราเรียนเรื่องอะไร เราจะจัดศัพท์ในหมวดหมู่นั้น เช่น เราเรียนเรื่องการรักษาธรรมชาติ เราก็จะมีศัพท์เกี่ยวกับธรรมชาติให้น้องๆ เรียนแบบนี้ รับรองว่าจำศัพท์ได้ดีกว่าแน่นอนค่ะ
พี่แนน : แล้วคอร์สของที่นี่ มีอะไรบ้างคะ?

พี่กิ๊บ : ที่นี่เราดูแลน้องๆทั้ง ม.ต้น และ ม.ปลายค่ะ ในส่วน  ม.ปลาย เราแบ่งเป็น  2 ส่วนค่ะ คือ น้องที่จะ สอบภาคไทย และภาคอินเตอร์

    สำหรับน้องภาคไทย ที่นี่จะสอนไม่เหมือนที่อื่น เพราะหลักการของเราคือ Less is more เราไม่ได้แบ่ง เป็น ม.4 เทอม 1, ม.4 เทอม 2, ม.5 เทอม 1 ฯลฯ เพราะเราคิดว่าเรียนภาษาอังกฤษ ต้องเรียนให้เห็นภาพรวม เราจึงแบ่งการเรียนตามทักษะ  เรียนให้จบ เห็นภาพรวมไปเป็นส่วนๆ  เช่น  เรียนสรุป Grammar ก่อนเล่มเดียวจบเลย  แล้วต่อด้วยการเรียน Reading and Vocabulary แต่ถ้าใครมีเวลาน้อย หรือใกล้สอบก็สามารถมาเรียน คอร์ส  Intensive ซึ่งเป็นคอร์สที่สรุปความรู้ที่จะสอบไว้ด้วยกัน ส่วนคอร์สสุดท้ายก็จะเป็นคอร์สตะลุยโจทย์   Admissions ที่เน้นทำโจทย์โดยเฉพาะค่ะ  โดยการเรียนที่  Trinity จะมีทั้งที่เป็นแบบคลาสสอนสด และคลาส Private Computeเพื่อยืดหยุ่น ให้น้องๆ ที่บางครั้งมาเรียนไม่ได้ หรือตารางเวลา ไม่ลงตัว

    ส่วนน้องที่เรียนภาคอินเตอร์  จะต้องสอบ  2 ส่วนหลักๆ  คือ  เลขและภาษาอังกฤษ  อย่างน้องที่จะสอบเลข  เราก็จะมีสอน  SAT ส่วนภาษาอังกฤษ  เราก็มีการสอน ในคอร์ส  IELTS และ  CU-TEP ,TU-GET โดยเฉพาะ  IELTS น้องๆ ที่  Trinity  จะได้คะแนนดีมาก เพราะเราเรียนห้องเล็กๆ  มีครู  native speaker สอน  Listening และ   Speaking เหมือนในห้องสอบจริงๆ ซึ่งน้องๆ และ  ผู้ปกครองจะไว้ใจเรามากโดยเฉพาะส่วนของ  Writing รับรองว่าเขียนมาแล้วตรวจให้ทุกชิ้นงาน หรือหากใครไปสอบแล้วยังไม่ได้คะแนนที่พอใจ สามารถมาเรียนซ้ำได้เลยค่ะ
พี่แนน : เทคนิคการสอนของพี่กิ๊บ มีเปิดคลิปให้ดูด้วย (คลิปแบบไหนเอ่ย?)

พี่กิ๊บ : เวลาที่พี่สอนจะมาบอกน้องว่า ให้จำแบบนี้ๆ มันทำไม่ได้ พี่ก็เลยนึกภาพว่า ทำยังไงให้น้องคุ้นเคยเวลาฝรั่งพูด เราก็ไปเอาคลิปจาก youtube มาช่วย  อย่างวันนี้จะสอนเรื่องการจองตั๋วเครื่องบิน ก็จะมีคลิปเยอะมาก เราก็เลือกมาสอนด้วย อย่างใน 100% ของการสอนคลาสหนึ่ง  อาจจะมีเปิดคลิปประมาณ 10% นอกจากนั้น  เราก็พยายามเรียนรู้ว่าน้องๆ  ม.ต้น, ม.ปลาย  เค้าจะมีความเป็นเด็กอยู่ คือ ถ้าสอนโดย เล่นเกมส์ไปด้วยแล้วจะชอบ เราก็จะใช้เกมส์และ มัลติมีเดีย มาเป็นสื่อการสอน เพราะพี่ไม่อยากให้น้องท่องจำ บางทีก็มีการเอาเรื่องประสบการณ์ตอนทำงาน กับคนอเมริกัน หรือเรื่องขำๆ ตอนเรียนที่อังกฤษมา เล่าให้ฟัง น้องๆ ก็นั่งฟังตาแป๋วเลยคะ เรียนไปด้วย ฟังกันสนุกสนานไปด้วย


พี่แนน : โอ้โฮ ฟังแล้วรู้สึกว่าบรรยากาศในห้องเรียน เวลาพี่กิ๊บสอนต้องสนุกแน่เลย

พี่กิ๊บ : คลาสเราไม่ใหญ่มากค่ะ จะได้มีปฎิสัมพันธ์กับ น้องทุกคน  รู้ว่าน้องคนนี้ตั้งใจไหม ทำการบ้านไหม เราจะได้มี Feedback เวลาบอกผู้ปกครอง อย่างพี่เอง เป็นคนง่ายๆ ตลกๆ เวลาเรียนน้องก็จะรู้สึกเหมือน เรียนกับพี่สาว ถามได้ตลอด บางทีก็น้องก็เล่นกับเรา บรรยกาศก็เป็นกันเองค่ะ
พี่แนน : พี่กิ๊บมีเรื่องประทับใจอะไรในการสอนบ้างคะ?

พี่กิ๊บ : ความประทับใจของคนเป็นครู  ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าความสำเร็จของน้องๆ มีหลายครั้งที่น้องเรียนจบแล้วไปสอบ  ก็จะมากลับมาบอกกับพี่ว่า  เค้าสอบได้แล้ว หรือบางคนที่มาเรียนเรื่อง  writing เค้าก็กลับมาบอกว่า ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเขียนอะไรได้ยาวกว่า 5 บรรทัดเลย แต่ตอนนี้เขียนเป็นแล้ว เค้าบอกว่าเราไม่ได้แค่ให้ความรู้เค้าเท่านั้น แต่ได้เปลี่ยนชีวิตของเค้า เพราะเมื่อเค้าได้ความมั่นใจ ว่าเขาก็ทำได้ และได้เห็นศักยภาพตัวเอง เค้าก็จะมั่นใจ มากขึ้นในการก้าวไปทำสิ่งอื่นๆ ในอนาคต

    พี่เชื่อว่าทุกคนมีศักยภาพในตัวอยู่แล้ว แต่เราจะมีวิธีดึงตรงนั้นออกมาได้ยังไง คือเราเป็นผู้ช่วยให้เค้า คอยสนับสนุน ดูจุดอ่อนจุดแข็งให้เค้า พี่ว่ามีไม่กี่อาชีพที่คนทำงานจะรู้สึกภูมิใจในการทำงานของตัวเอง ตลอดเวลา มีคนถามพี่ว่าไม่เบื่อเหรอกับการเป็นครู สอนเหมือนเดิมซ้ำๆ หลายๆ ปี พี่ไม่เบื่อนะคะ เพราะเด็กแต่ละคนก็เหมือนโจทย์แต่ละข้อ บางคนเก่งมาก ขยัน เราก็ดูแลเค้าแบบนึง บางคนไม่เก่งไม่ขยันก็ต้องดูแล อีกแบบ เราก็รู้สึกเหมือนเป็นความท้าทายตลอดเวลา
พี่แนน : แล้วพี่กิ๊บมีวิธีสอนน้อง หรือทำยังไงให้น้องรู้สึกว่าภาษาอังกฤษไม่ใช่เรื่องยากคะ?

พี่กิ๊บ : เด็กทุกคนตอนเกิดมาก็พูดไม่ได้  แต่พอสัก  2 ขวบ ก็พูดออกมาได้หลายคำ ภาษาอังกฤษก็เหมือนกันค่ะ ฟังบ่อยๆ ใช้บ่อยๆ แล้ววันหนึ่งน้องจะคุ้นเคยกับมัน เพียงแต่วันนี้น้องต้องเอาชนะความกลัว ภาษาอังกฤษให้ได้ก่อน ต้องมองว่าภาษาอังกฤษก็เป็นภาษาๆ หนึ่ง เหมือนภาษาไทย เราพูดภาษาไทยได้อย่างไร ภาษาอังกฤษเราก็เรียนรู้ได้เช่นกัน นั่นเพราะภาษาเป็นเรื่องของทักษะ ฝึกฟัง ฝึกใช้บ่อยๆ มันจะสะสมในสมอง และเมื่อประเทศเราไม่ได้พูดภาษาอังกฤษ เราก็ทำสิ่งแวดล้อมให้เป็นภาษาอังกฤษ ง่ายๆ  Google, Youtube ช่วยได้  เช่น  ถ้าชอบเพลง อาจไม่ต้องรู้ชื่อเพลง แค่รู้เนื้อเพลงสัก 3-4 คำ แล้วใส่คำว่า Lyrics กด  Google Search แค่นี้เนื้อเพลงก็ออกมาแล้ว  หรือ  Youtube เราก็เข้าไปฟังเพลง ฝึกสำเนียง ภาษาอังกฤษได้ ถ้าชอบรถแข่ง ก็ไปดู  Top Gear เป็นรายการตลกๆ เกี่ยวกับรถ ถ้าสนใจเรื่องดารา ก็ไปดูข่าวดาราที่เป็นภาษาอังกฤษ ดูละคร  ซีรีส์  ช่วยฝึกภาษาอังกฤษได้ แต่การเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงตัวเองก็เหมือนการปล่อยจรวด ตอนแรกต้องใช้แรงอัดเชื้อเพลิงเยอะๆ เพื่อผลักดันจรวดขึ้นไป แต่เมื่อจรวดผ่านชั้นบรรยากาศ ไปได้ ก็จะเกิดแรงส่งในตัวเอง การเรียนภาษาอังกฤษก็เหมือนกัน ตอนแรกอาจรู้สึกยากหน่อย ต้องเอาชนะ ช่วงแรกไปก่อน แล้วหลังจากนั้นจะสบาย
พี่แนน : สุดท้ายนี้อยากให้พี่กิ๊บฝากอะไรให้น้องๆ สักนิดค่ะ
พี่กิ๊บ : พี่ขอให้น้องพยายามใช้ชีวิตแบบมีหลัก อย่างเรื่องการสอบ เราจะทำ ข้อสอบได้หรือไม่  มีหลายปัจจัย ทั้งเวลา  การวางเป้าหมาย อยากเข้าคณะอะไร เมื่อเรารู้จุดมุ่งหมายแล้ว เราก็มุ่งไปทางนั้น และอย่าลืมขยันค่ะ และถ้าน้องๆ อยากปรึกษาเรื่องการเรียน มาคุยกับพี่ได้เลยที่  www.krugift.in.th นะคะ ยินดีต้อนรับเสมอ ^_^

    ฟังแล้วฮึดเลยค่ะ อย่างที่พี่กิ๊บบอกว่า ภาษาอังกฤษเป็นเรื่องของทักษะ ที่ต้องฝึกฝนกันบ่อยๆ แล้วเราก็จะทำได้เอง เริ่มต้นจากสิ่งที่เราชอบก่อน อย่างพี่แนน ขอเริ่มที่เพลงเลยค่ะ นี่ว่าจะไปพิมพ์เนื้อเพลงมาร้องแล้วนะคะนี่ หาคำแปลด้วย จะได้เหมือนท่องศัพท์ไปในตัว อาจจะนานหน่อย แต่ถ้าน้องๆ Dek-D.com ไม่ท้อและฝึกฝนต่อไป รับรองว่า speak กันไฟแล่บแน่นอนค่ะ พูดเลย!!

Dek-D Tutor
Dek-D Tutor - Columnist ติวเตอร์

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

6 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
minniesp Member 1 เม.ย. 56 20:13 น. 2
ชอบจัง อยากให้มีอาจารย์แบบนี้ที่โรงเรียนเยอะๆ ส่วนตัวเราไม่ชอบเรียนกับครูไทยที่โรงเรียน จะหลับอยู่เรื่อย แต่ชอบเพลงสากลและซีรีส์ฝรั่ง มักอ่านซับเอา บางทีก็ดูช่องfoxเป็นภาษาอังกฤษ ไม่รู้เรื่องหรอก แต่เปิดทิ้งไว้ให้คุ้นหู ตอนนี้ยังไม่เก่งอังกฤษ แต่ได้คะแนนเยอะกว่าปีที่แล้วจนมีแรงฮึดให้พยายามทำต่อไป

แก้ไขครั้งที่ 1 เมื่อ 1 เมษายน 2556 / 20:23
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากเว็บไซต์ Dek-D.com ขอสงวนสิทธิ์ในการงด โพสต์ข้อความซื้อ/ขาย/แลกเปลี่ยน/โฆษณา สินค้าทุกชนิดในเว็บบอร์ด เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้ใช้งานท่านอื่น

กำลังโหลด
siriwich 8 เม.ย. 57 14:02 น. 5
ที่นี้ดีมากเลยน่ะครับ โดยเรียน grammar ได้ error มาด้วยแบบไม่ต้องเรียนแยกเหมือนที่อื่นเลยครับ ชอบๆๆ ^^
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด