|
|
สวัสดีจ้า ชาว Dek-D.com สำหรับน้อง ม. 6 ที่กำลังจะสอบสายแพทย์ก็มีเวลาเตรียมกันอีกไม่นานแล้ว ซึ่งสนามสอบแรก ก็จะเริ่มในเดือนสิงหาคมกับ แพทย์ ม.ขอนแก่น หลังจากนั้นก็จะมีการสอบตามมา อีกเรื่อยๆ ตลอดปี ดูแล้วน้องๆ ที่อยากเข้าสายแพทย์นี้ หนักตลอดปีเลยทีเดียว
คณะทางสายแพทย์ ก็ยังเป็นคณะยอดฮิต ทั้งหมอ เภสัช ทันตะ หรือสัตวแพทย์ ระดับคะแนนเฉลี่ยสูงลิ่ว
ทุกปี ใครที่อยากสอบเข้าจึงต้องฟิตมาเป็นพิเศษ เพื่อจะ
ได้มีโอกาสติดชัวร์ วันนี้พี่แนนแลยขอไปคุยกับ ผู้ก่อตั้ง สถาบัน I'M SMART ACADEMY CENTER หรือ i-SAC
พี่เอด - เอกศิษฐ์ ศิริกุลเลิศรัฐ และ พี่บอย - องอาจ พุทธรักษา ที่มีประสบการณ์การสอน มากว่า 15 ปี และมุ่งติวน้องๆ ที่สนใจเข้าสอบใน คณะทางการแพทย์โดยเฉพาะ และล้วงเทคนิค เคล็ดลับ มาฝากน้องๆ เช่นเคย ไปดูกันเลย!! |
|
|
|
|
พี่แนน : สวัสดีพี่เอดกับพี่บอยนะคะ อยากทราบความเป็นมาของสถาบันสักนิดค่ะ ว่ามีความเป็นมายังไง?
พี่บอย : ความเป็นมาของ i-sac เกิดขึ้นจากที่พี่และพี่เอด เราสอนพิเศษกันมานาน ได้เล็งเห็นว่า คณะทางสายแพทย์ เป็นคณะที่น้องๆส่วนใหญ่ มุ่งหวังอยากจะติดกันมาก แต่ด้วยคะแนนที่สูง หากเตรียมตัวมาไม่ดี ก็พลาดได้ พวกพี่เลยคิดว่าเราน่าจะเป็นที่ปรึกษาให้กับน้องๆ ในเรื่องการวางแผนและเตรียมตัว สำหรับน้องๆ ที่อยากเข้าคณะแพทย์ ทันตะ เภสัช เพราะด้วยประสบการณ์และสอนมากว่า 15 ปี ได้มีโอกาสได้วางแผนให้น้อง สำหรับการเตรียมสอบคณะทางสายแพทย์ มากกว่า 7 ปี ได้รวบรวมข้อมูลสนามสอบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับคณะทางการแพทย์ เทคนิค การทำโจทย์ แนวข้อสอบจริง ไม่ว่าจะเป็นการสอบตรงหรือการสอบส่วนกลาง ทำให้มีแนวทางเพื่อเตรียมตัวน้อง ว่าทำอย่างไร หากอยากติดคณะสายแพทย์ สถาบัน i-sac จึงเกิดขึ้น ด้วยความตั้งใจนี้ครับ
พี่เอด : สถาบัน i-sac ของเรา จะมีการวางแผนให้น้องๆ เป็นลำดับครับ เริ่มด้วยการสอบ Pre-test เพื่อเป็นการกระตุ้น และทำให้ทราบครับว่าน้องมีพื้นฐานแค่ไหน จากนั้นก็จะมีการพูดคุย วางแผนการเรียนโดยดูจากตารางเวลาของน้องเอง และกำหนดการสอบของแต่ละสนาม โดยจะให้ข้อมูลเรื่องสนามสอบ และประเมินว่าควรเตรียมตัวแต่ละสนามอย่างไร ต้องเก็บเนื้อหาอะไร เมื่อวางแผนแล้วก็ให้น้องทำตามแผนที่วางไว้ ช่วยแก้ไขพื้นฐานเรียนเนื้อหา และเริ่มตะลุยโจทย์ ระหว่างนี้ทางสถาบันก็จะคอย ตรวจเช็คการพัฒนา ในการเรียนของน้องเป็นระยะๆ เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนจะยังคงอยู่ในเป้าหมาย |
|
|
|
|
พี่แนน : การสอน i-SAC เป็นยังไง มีคอร์สอะไรเด็ดๆ บ้างคะ?
พี่เอด : ปัจจุบันทางสถาบันของเรา มีการสอนตั้งแต่ ระดับ ม.4, ม.5 และ ม.6 ครับ โดยน้องในชั้น ม.4-ม.5 จะมีเวลาเตรียมตัวเยอะหน่อย มีเวลาให้ปรับพื้นฐาน และสอนเนื้อหาให้เข้าใจ ทำโจทย์ยากๆ ได้ ซึ่งทาง
เรา จะให้ลงเป็นคอร์สเตรียมแพทย์ ซึ่งหลักสูตรนี้จะ
เป็นการวางแผนและเตรียมตัว ว่าน้องๆ จะต้องเก็บ
อะไร เสริมตรงไหน เตรียมความพร้อมจนถึงวันสอบ
ส่วนน้อง ม.6 ขึ้นอยู่กับเวลาของน้องๆ แต่ละคน
ที่เข้ามาครับ ว่ามีมากน้อยแค่ไหน ทางเราก็จะจัด
คอร์สให้เหมาะสมกับเวลาที่มี ซึ่งก่อนอื่นเลย เราจะ
เรียกน้องมาคุยกันก่อนว่า อยากเข้าที่ไหนบ้าง มีเวลา เหลือในการเตรียมตัวแค่ไหน เช่น ถ้ามีเตรียมตัวทั้งปี อันนี้จัด ให้ลงคอร์ส “ชัวร์ทุกสนาม” ครับ ถ้ามีเวลา ประมาณ 4 เดือน ก็จะมีคอร์ส“ ชัวร์ Part 1” ที่เหมาะ แต่ถ้าเหลือเวลาเพียง 1 เดือน ถึง เดือนครึ่ง ก็อาจจะ
ให้ลงเป็นคอร์สตะลุยโจทย์ ที่มีการสรุปเนื้อหาให้และ
สอนทำข้อสอบในสนามนั้นๆ ครับ
สำหรั คอร์ส “ชัวร์ทุกสนาม”, “ ชัวร์ Part 1”จะเริ่มต้นด้วยการเก็บเนื้อหาพื้นฐาน 7 วิชาหลัก จากนั้น
ต่อด้วยความถนัดแพทย์ และตะลุยข้อสอบสนามต่างๆ |
|
|
|
|
พี่แนน : เห็นว่าที่สถาบัน มีโปรแกรมลัดสูตรพิเศษช่วย พัฒนาน้องอย่างได้ผล เป็นยังไงคะ?
พี่เอด : สถาบันเราเน้นการสอบเข้าสายนี้โดยตรงครับดังนั้น เรื่องของการเรียนการสอน เราจะใช้หลักสูตรที่เรียกว่า "S Program" เป็นหลักสูตรที่พัฒนาน้องส่วนบุคคล เป็นหลักสูตรที่พัฒนาน้องโดยตรง
พี่บอย : โดยปกติเวลาน้องเรียนพิเศษก็มี 2 แบบ คือ สอนแบบกลุ่มใหญ่ ข้อดี คือ บรรยากาศการเรียน แต่ถ้าน้องหลุด ก็อาจจะยาว อีกแบบ คือ เรียนเดี่ยว ซึ่งน้องสามารถสอบถามได้ตลอดเวลา แต่อาจจะ ไม่ทราบว่าน้องอยู่ในระดับไหน ซึ่งที่นี่มีทั้งสองแบบและคลอบคลุม น้องจะเรียนสดก็ได้ แต่หากเรียนไม่ทัน หรือช้า
ก็ดูวิดิโอได้ ซึ่งทางสถาบันจะมีการเก็บข้อมูลด้วย
ตรงนี้จะทำให้เรารู้มาตรฐานน้องตั้งแต่เริ่มเข้ามาเรียน จนปัจจุบัน ว่าน้องมีพัฒนาการยังไงบ้าง พอน้องเรียนไป ก็จะมีการสอบด้วย หากสอบไม่ผ่าน น้องก็ต้องสอบ ให้ผ่านให้ได้ ตรงนี้ก็จะเป็นความรับผิดชอบของน้อง กับอาจารย์ที่ดูแลด้วย แล้วน้องที่มาเรียน ก็มีติดเกือบ ทุกที่ เพราะการสอบมีตลอดปีครับ |
|
|
|
|
พี่แนน : สอนสายแพทย์ที่ดูแล้วหนักทีเดียว เวลาสอนจะเครียดไหมคะนี่?
พี่บอย : ที่นี่เราสอนดันแบบพี่-น้อง ครับ เพราะน้องๆ
ที่มาเรียนมีหลายแบบ มีทั้งที่ชอบเข้าหา ชอบมาถาม แบบนี้จะสนิท ดูแลกันง่าย แต่น้องบางคนคุยไม่เก่งพูดไม่เก่ง ถ้าวางตัวดูเป็นอาจารย์เกินไปน้องก็ไม่กล้าคุย ไม่กล้าเข้ามาถาม เราเลยปรับให้ดูเป็นพี่เป็นน้อง เพื่อที่เวลาเค้ามีปัญหาหรือสงสัยอะไร ก็จะกล้าเข้ามาปรึกษาเราได้ครับ
พี่แนน : สำหรับน้องๆ ที่อยากสอบเข้าในคณะสายแพทย์ให้ติดชัวร์ พี่ๆ ทั้ง 2 มีวิธีแนะนำยังไง บ้างคะ?
พี่เอด : สิ่งสำคัญคือเวลาที่มีในการเตรียมตัวครับ
พี่แนะนำว่า ถ้าเตรียมตัวสอบได้ตั้งแต่ ม. 4 ก็จะดีมาก มีเวลาเตรียมตัว เยอะจะได้ไม่เครียด สนามแรกที่ต้อง สอบจะเริ่มตอนเทอม 1 ช่วง ส.ค. ของทุกปี ดังนั้น ควรเก็บเนื้อหา ม.4-6 ให้จบในช่วงซัมเมอร์ หลังจากนั้นก็มาทบทวน แบบฝึกหัดและทำโจทย์ เยอะๆ เจาะข้อสอบ แต่ละสนาม
พี่บอย : พี่ขอเน้นให้น้องๆ ขยันทำโจทย์กับทำแบบ ฝึกหัดเยอะๆ ครับเพราะส่วนใหญ่ที่ออกข้อสอบ ไม่ได้ออกตรงกับข้อสอบเป๊ะๆ แต่จะเป็นเพียงแนวที่จะออก การทำแบบฝึกหัดเยอะๆ จะช่วย ให้เราเข้าใจเรื่องนั้น มากขึ้น การทำโจทย์ จะช่วยให้มองแนวออก ถ้าจะให้ดี ทำข้อสอบแอดมิชชั่นแต่ละวิชาย้อนหลังสัก 10 ปี
ถ้าทำได้ แอดมิชชั่นติดแน่ครับ |
|
|
|
แต่ตัวน้องเองก็ไม่ได้ชอบทุกวิชา ตรงนี้เลยกลายเป็นจุดอ่อนว่าวิชาที่เค้าไม่ชอบ ก็จะไม่อยากทำ เลยได้คะแนนน้อย แล้วจะไปดึงให้คะแนนรวมต่ำ โดยที่
i-sac เราพยายามแก้ไขปัญหานี้ โดยสำหรับน้องที่มีเวลาเตรียมตัวกับเรามาก เราก็จะมีการปูพื้นฐานให้ทุกวิชา โดยเฉพาะน้องที่จะสอบ กสพท. ต้องติวหมด
ทุกเรื่อง และไม่อยากให้น้องประมาท เพราะถึงแม้เราจะมีแนวข้อสอบให้ แต่ว่าข้อสอบในแต่ละปีมันก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ถ้าพื้นฐานความรู้ไม่ดี ก็ไม่สามารถนำไปใช้ ทำข้อสอบได้ สุดท้ายอาจจะไม่ได้ เป็นหมอตามที่ ฝันครับ
สำหรับวิชาความถนัดแพทย์ เราสอนดึงแนวคิดและให้น้องทำแบบฝึกหัดมากๆ ต่อเนื่องอย่างน้อย 5 เดือน เพื่อจะปรับกระบวนการคิดเค้าใหม่ ไม่ได้ปรับแค่ว่าทำข้อสอบยังไง แต่ปรับตั้งแต่แนวการคิดของคนเป็นหมอว่าต้องคิดยังไง |
|
|
|
|
พี่แนน : คลุกคลีกับน้องๆ มานาน มีประสบการณ์อะไรที่อยากบอกน้องๆ ที่อยากสอบเข้าสายแพทย์ บ้างไหมคะ?
พี่บอย : อยากฝากเรื่องการฝึกสอบ และฝึกแบบ
จับเวลาเหมือนเวลาเข้าสอบจริง อันนี้สำคัญมาก
เพราะอาการที่น้องๆ มักจะเป็นกันเวลาไปสอบ คือ ตื่นเต้น จิตตกกังวลกับการเข้าห้องสอบ ถ้าหากน้องไม่เคยมีการฝึกการสอบ แล้วจะไปสอบในสนามจริงทันทีเลย พี่ไม่แนะนำ ควรจะไปลองสอบสนามอื่นก่อนจะได้ดูสถานการณ์ และตัวเองจะได้ทราบว่า ถึงเวลาจริงทำข้อสอบทันไหม จะได้ปรับตัว และได้
เช็คตัวเอง ทำให้คุ้นชินกับบรรยากาศสนามสอบได้
ดี ที่ i-sac คำนึงเรื่องนี้มาก สถาบันจึงมีการจัดสอบ
อยู่เรื่อยๆ เพื่อเป็นการฝึกฝนและจำลองสถานการณ์ ให้กับน้องๆ ได้ปรับตัว และเตรียมพร้อมครับ
พี่เอด : อีกเรื่องที่อยากฝากนะครับ อย่างในวันสอบจริง น้องๆ ควรไปให้ก่อนเวลาเข้าสอบครับ บางคนไปพอดีเวลา เลยทำให้เกิดอาการลน เสียสมาธิ พี่อยากแนะนำให้เผื่อเวลาไปเตรียมตัว ที่สนามสอบ ก่อนเข้าห้องสอบ เราจะได้ปรับตัว ปรับสมาธิ เตรียมใจก่อนเข้าห้องสอบนะครับ |
|
|
|
|
พี่แนน : สุดท้ายนี้ อยากให้พี่ทั้ง 2 คน ฝากอะไรถึงน้องๆ ชาว Dek-D.com สักนิด โดยเฉพาะน้อง ม.6 ที่จะสอบสายแพทย์ในอีกไม่นานนี้ค่ะ
พี่บอย + พี่เอด : พี่รู้ว่า น้องๆ ส่วนใหญ่มีความตั้งใจ และมีเป้าหมายที่ดีอยูแล้ว ก็ขอให้มุ่งมั่นต่อไปครับ อาจจะมีพลาดบ้างล้มบ้าง ก็ขอให้เข้มแข็ง พยายาม และปรับตัวให้ได้ หาข้อมูลของคณะที่เราจะสอบ ว่า ต้องรู้อะไรบ้าง สอบที่ไหน เมื่อไหร่ สอบอะไรบ้าง แล้วทุ่มเทเต็มที่กับมัน อย่างตอนนี้ยังมีเวลาเหลือ ยังมีเวลาเริ่มทัน ขยันอีกสักนิด แอดมิชชั่นติดแน่นอนครับ |
|
|
|
|
ได้ฟังทั้ง 2 อาจารย์แล้ว ไฟลุกพรึบ อยากไปเรียนทันทีเลยค่ะ โดยเฉพาะตอนนี้ที่เด็ก ม.6 เตรียมตัวกันแล้ว บางคนอ่านหนังสือจบแล้ว บางคนยังกึ่งจบกึ่งไม่จบ บางคนเกือบจะไม่ทัน ยังไงก็ขอให้น้องๆ เตรียมพร้อม และเต็มที่กับมัน ครั้งหนึ่งในชีวิต ทำเพื่อความฝัน ผลที่ได้คุ้มค่าแน่นอนค่ะ!! |
|
|
|
I'm SMART ACADEMY CENTER (i-SAC) 1/824 ม.17 Garden Home Plaza หมู่บ้านการ์เด็นโฮม
ถนนพหลโยธิน ซ.พหลโยธิน 60 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี 12130
โทรศัพท์: 02-5323342-3 ,085-9727379
เวลาเปิดทำการ i-SAC
อังคาร-ศุกร์ เวลา 11.00 – 20.30
เสาร์ –อาทิตย์ เวลา 9.00 – 18.30
email: i-sac@windowslive.com
www.i-sac.net
|
|
|
|
18 ความคิดเห็น
พอดีเพื่อนแนะนำมา มันติดเภสัช มศวไปแระ เราเลยมีไฟ ซิ่วตามความฝันบ้าง