8 เทคนิคผ่อนคลายสมอง เพิ่มความจำ

          สวัสดีค่ะน้องๆ ใกล้สอบเข้ามาทุกที เครียดกันเข้าไปทุกทีๆ เหลือเวาอีกประมาณ 1 เดือนก่อนสอบนะคะ วันนี้พี่เมษ์เลยเอาเคล็ดลับแหวกแนวเรียนเก่งเทพแบบผ่อนคลาย แต่จะช่วยให้เรียนเก่งได้อย่างไรมาดูกันเลยค่ะ
  
          
เหตุผลที่การผ่อนคลายมาเกี่ยวข้องกับการเรียนเก่ง นั่นก็เพราะว่าสมองคนเราก็คล้ายๆ กับคอมพิวเตอร์นั่นแหละค่ะ ถ้าใช้งานเยอะๆ หนักๆ ก็รวนได้ เออเร่อได้เหมือนกัน ต้องพักบ้าง
          สังเกตดูสิคะ เวลาเราเครียดมากๆ จะเกิดอาการตื้อๆ คิดไม่ออก เบลอๆ มึนๆ นอกจากนี้อ่านหนังสือนานๆ ยังส่งผลต่อสายตาด้วย ทำให้เมื่อยตา ปวดตา ปวดหัว จนถึงขึ้นจะคลื่นไส้อาเจียนเลยนะ ซึ่งการเครียดต่อไปก็ยิ่งทำร้ายสุขภาพของเรานั่นแหละค่ะ จึงต้องพักผ่อน ให้มีการผ่อนคลายสมองบ้าง เทียบกับคอมพิวเตอร์ก็เหมือนการรีสตาร์ทเครื่องหรือพักเครื่องเพื่อให้โปรแกรมสามารถรับได้ตามปกติและทำงานได้ดีขึ้นนั่นเอง

 
รู้แล้วว่าทำไมต้องผ่อนคลาย 
มาดูกันดีกว่าว่ามีวิธีการใดบ้างที่จะผ่อนคลายสมองกันบ้าง
ทำจิตใจให้สงบ
          ตรงนี้พี่เมษ์ขอข้ามเรื่องการนั่งสมาธิไปนะคะ เพราะเชื่อว่าน่าจะเป็นคอมมอนเซ้นส์ที่ใครๆ ก็พูดถึงถ้าต้องการสมาธิ แต่ถ้าต้องการอ่านหนังสือให้จำแม่น ต้องจัดการธุระส่วนตัวให้เรียบร้อยซะก่อน จะได้สบายใจ สดชื่น ไม่ว่าจะเป็นอาบน้ำ ทานข้าว จัดการการบ้านทุกอย่าให้เรียบร้อยก่อนเริ่มอ่านหนังสือ จะได้ไม่มีอะไรมาคอยทำให้กังวลใจ
          อ้อ ,, อีกอย่างนึงที่สำคัญคืออ่านหนังสือให้สบายที่สุด นั่งให้ถนัด ในที่ๆ ผ่อนคลาย บรรยากาศเหมาะกับการอ่านหนังสือ จะได้อ่านได้อย่างเต็มที่ค่ะ
ฟังเพลง
          เปิดเพลงเบาๆ คลอการอ่านหนังสือกันไป ถือเป็นเทคนิคดนตรีบำบัด ที่ช่วยผ่อนคลายอารมณ์ น้องๆ สามารถเลือกให้ถูกใจตัวเองได้เลยค่ะ อยากฟังเพลงแนวไหนก็จัดไปเลย แต่ขอเป็นเพลงซอฟท์ๆ easy listening จะแจสเบา โมสาซ อาร์แอนด์บี หรือเพลงที่น้องๆ ชอบก็ได้ค่ะ แต่อย่าโหดมาก บีทแน่น เบสตุ้บๆๆๆ เหมือนอยู่ในปาร์ตี้ไม่งั้นแทนที่จะสบายๆ เหมาะกับการอ่านหนังสือ จะกลายเป็นลุกขึ้นมาเต้นสติแตกกระเจิงแทนนะคะ 
เปิดรับธรรมชาติ
          ห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ มันก็ดูอึดอัดและกดดันว่ามั้ยคะ หลายคนจึงเลือกออกไปอ่านตามสวนสาธารณะที่มีลมพัดเบาๆ บรรยากาศดีมีออกซิเจน เพราะส่งผลต่อการสูบฉีดโหิตที่ส่งผลต่อสมองของเรา แถมลดความกดดัน คลายเครียดด้วยสีเขียวๆ ของต้นหญ้า แค่ฟังก็ฟิน อยากไปนั่งอ่านหนังสือให้ฉ่ำปอดไปเลยใช่มั้ยละคะ แต่ถ้าไม่สามารถออกไปหาสถานที่แบบนี้จริงๆ ละก็ จำลองมาไว้ในห้องด้วยการเปิดเสียงจำพวกดนตรีธรรมชาติบำบัดดูก็ได้ค่ะ ก็พอสร้างบรรยากาศได้พอสมควรเลยหละ
เล่นกีฬา
          เมื่อเราเล่นกีฬาสมองจะหลั่งสารเอ็นโดรฟินที่จะทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายทำให้ไม่เครียด ดีต่อสุขภาพทั้งกายและจิต น้องๆ ก็แค่อาบน้ำให้ร่างกายสดชื่น แล้วก็ค่อยกลับมาอ่านหนังสือ จะได้สดชื่น สดใส และกระตือรือร้น มีสติพร้อมสำหรับการอ่านหนังสือ แต่อย่าหักโหมเล่นไปนะคะ เดี๋ยวจะหมดแรงก่อนอ่านซะอีก เอาเบาๆ พอดีๆ ก็พอค่ะ
พักสายตา
          อ่านหนังสือนานๆ ก็ต้องล้าบ้าง เมื่อยบ้าง ดังนั้นเมื่ออ่านไปได้ระยะหนึ่งจนรู้สึกล้า อย่างฝืนนะคะต้องพัก ให้ตัวเองผ่อนคลาย ลุกขึ้นยืน เดินยืดเส้นยืดสาย พักสายตาซะหน่อย หรืออาจจะแวะไปเติมพลังทานขนม น้ำหวานนิดๆหน่อยๆ ก่อนกลับมาตั้งหน้าตั้งตาลุยกันต่อคะ
Take a nap
          อันนี้จัดหนักสำหรับน้องๆ ที่บอกว่า อ่านไหวแล้วง่วงจัง ,,,, ง่วงก็ต้องนอนค่ะ ให้ตัวเองหลับสัก 15-20 นาที ให้สมองได้พักผ่อน ช่วยลดความเครียด ลดอาการเหนื่อยล้า ทำให้น้องๆสดชื่น ตื่นตัว พร้อมสำหรับเรียนรู้ต่อ แต่อย่าเกินไปกว่า 20 นาทีนะคะ เพราะถ้างีบหลับนานไป แทนที่จะสดชื่น จะกลายเป็นง่วง มึน เบลอมากกว่าเดิมนะคะ
หาแรงบรรดาลใจ
          บ่อยครั้งที่เครียดจนท้อ หมดกำลังใจ ไม่มีความหวัง อยากหยุดทุกอย่างเอาไว้แค่ตรงนั้นเพราะท้อแล้ว ดังนั้นจงผ่อนคลายค่ะ หยุดเอาไว้ตามที่ตัวเองต้องการ แล้วหาแรงบันดาลใจ ปลุกไฟในตัวเอง ยกตัวอย่างอย่างพี่เมษ์เองจะมีคำคมติดไว้บนโต๊ะ พร้อมรูปของมหาวิทยาลัยที่ตัวเองหวังเอาไว้บนโต๊ะตลอด ถ้าเหนื่อยหรือท้อเมื่อไหร่ก็หันไปมองดู จะได้รู้ว่าเราทำเพื่ออะไรอยู่ แล้วฮึดสู้กันอีกครั้ง
ให้รางวัลตัวเอง
           เหนื่อยมากๆ เครียดมากๆ ก็ตามใจตัวเองซักหน่อย อ่านมาเยอะก็ให้ตัวเองไปทำสิ่งที่ชอบบ้าง อย่างแว๊บไปอ่านการ์ตูน ดูคลิป ฟังเพลง กินขนม ทานน้ำสักหน่อย ก็ถือว่าผ่อนคลายตัวเอง ก่อนจะตั้งหน้าอ่านกันใหม่ จะได้ไม่เครียดจนเบลอค่ะ

     
             ทั้ง 8 เทคนิคนี้ทำเพื่อการผ่อนคลาย เพื่อช่วยให้เราปลอดโปร่งขึ้น สามารถจดจำสิ่งต่างๆ ได้ง่ายขึ้นเท่านั้นแต่อย่าเพลินเชียวล่ะ เพราะไม่งั้นแทนที่จะเป็นการผ่อนคลาย จะเป็นการเสียเวลาไปโดยไม่รู้ตัวนะคะ
             แล้วน้องๆ ล่ะคะ มีเทคนิคในการผ่อนคลายอื่นๆอีกมั้ยค่ะ มาบอกกันที่นี่เลย เราจะได้เรียนเก่ง เจ๋งสุดๆ ไปพร้อมๆ กันค่ะ
พี่เมษ์
พี่เมษ์ - Columnist คอลัมนิสต์ฝ่ายการศึกษา

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

พลอย 8 ส.ค. 57 17:58 น. 7
มีอ.เคยบอกค่ะ^^ ก่อนอ่านนส.ให้บริหารลูกตาก่อนนะคะ กลอกลูกตาไปทางซ้าย ขวา บน ล่าง รวมแล้วประมาณ 30วินะคะ จะทำให้เลือดไปเลี้ยงส่วนตา และ ช่วยให้จดจำได้ดีขึ้นค่ะ ย้ำนะคะ ก่อนอ่านนส.หรือทบทวนบทเรียน อ่านอะไรก็ตามช่วยได้ดีเทียวแหละ ลองเอาไปใช้ดูนะคะ
2
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Rx'21 8 ส.ค. 57 21:34 น. 14
เราใช้วิธีเปิดเพลงดังๆ มันจะทำให้มีสมาธิมาก แต่ต้องเป็นเพลงต่างประเทศ เพราะเวลาฟังเราจะได้ไม่คิดตามเนื้อเพลง ปล.เพราะไม่รู้ความหมาย แล้วการอ่านหนังสือของเรา เราจะอ่านให้ได้ตามเป้า แบบวันละ4ชั่วโมง แต่ก้ไม่ใช่อ่านครั้งเดียวรวด บางทีกินข้าวเสร็จได้5นาที ก้จดไว้ ว่างๆครั้งละ10-20นาทีก้ได้ ให้มันครบไปเอง เราใช้วิธีนี้ตั้งแต่มัธยม จนเรียนเภสัชก้ยังใช้วิธีนี้อยู่ ลองเอาไปทำกันดุได้ ^^
1
กำลังโหลด
กำลังโหลด

26 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
แบ็คแจ๊ค 8 ส.ค. 57 17:33 น. 5
ฟังเพลง อาบน้ำ กินโยเกิร์ตเย็นๆหรือผลไม้เย็นๆ ค่ะ แต่ถ้าไม่ไหวจิงๆก็งีบค่ะ 15-20 นาทีกำลังดี ตื่นมาสดชื่นมากแล้วอ่านหนังสือต่อ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
พลอย 8 ส.ค. 57 17:58 น. 7
มีอ.เคยบอกค่ะ^^ ก่อนอ่านนส.ให้บริหารลูกตาก่อนนะคะ กลอกลูกตาไปทางซ้าย ขวา บน ล่าง รวมแล้วประมาณ 30วินะคะ จะทำให้เลือดไปเลี้ยงส่วนตา และ ช่วยให้จดจำได้ดีขึ้นค่ะ ย้ำนะคะ ก่อนอ่านนส.หรือทบทวนบทเรียน อ่านอะไรก็ตามช่วยได้ดีเทียวแหละ ลองเอาไปใช้ดูนะคะ
2
กำลังโหลด
Ped'z Please! Member 8 ส.ค. 57 18:28 น. 8

เวลาที่ง่วงๆตอนอ่านหนังสือ หนูชอบเดินไปเดินมา หรือไม่ก็ไปซื้ออะไรมาทาน จะช่วยให้ตื่นมากขึ้นค่ะ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
black swan Member 8 ส.ค. 57 20:37 น. 12

เราใช้วิธี เลิกเรียนมาแล้วนอน นอนแล้วต้องตื่นเอง อย่าให้ใครมาปลุกเพราะเรายังนอนไม่เต็มที่ จากตื่นมาแล้วสดชื่นจะกลายเป็นปวดหัวแทน

ตื่นมาก็อาบน้ำ ทำธุระให้เรียบร้อย แล้วอย่าลืมเอาสิ่งเร้าออกไปห่างๆด้วยล่ะ 

ปล.วิธีนี้ทำให้ไม่ง่วงตอนดึกๆ yes

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Rx'21 8 ส.ค. 57 21:34 น. 14
เราใช้วิธีเปิดเพลงดังๆ มันจะทำให้มีสมาธิมาก แต่ต้องเป็นเพลงต่างประเทศ เพราะเวลาฟังเราจะได้ไม่คิดตามเนื้อเพลง ปล.เพราะไม่รู้ความหมาย แล้วการอ่านหนังสือของเรา เราจะอ่านให้ได้ตามเป้า แบบวันละ4ชั่วโมง แต่ก้ไม่ใช่อ่านครั้งเดียวรวด บางทีกินข้าวเสร็จได้5นาที ก้จดไว้ ว่างๆครั้งละ10-20นาทีก้ได้ ให้มันครบไปเอง เราใช้วิธีนี้ตั้งแต่มัธยม จนเรียนเภสัชก้ยังใช้วิธีนี้อยู่ ลองเอาไปทำกันดุได้ ^^
1
กำลังโหลด
กำลังโหลด
AprilT.May Member 11 ส.ค. 57 11:53 น. 16-1
อ่านไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ชิน ช่วงแรกๆ จะหลับเพราะเราไม่เข้าใจ ไม่ชอบ เหมือนฝืน แต่ก็เหมือนับเรากินข้าวนั่นแหละ ทำทุกวัน จะเป็นนิสัย เป็นส่วนหนึ่งของเราไปในที่สุด ^^ อาจจะเริ่มจากเวลาสั้นๆ ก่อนก็ได้นะคะ
0
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด