5 ข้อคิดก่อนทำ Part Time + ประสบการณ์ เด็กไทย เด็กนอก

เราก็ทำงานพาร์ทไทม์นะ รู้สึกโอเคมาก เป็นกันเอง ทำงานเป็นทีมมีความสุขดี พนักงานทุกคนก็โอเค เล่นได้เหมือนอยู่ในครอบครัว (ยิ่งกับพวกดิวตี้ทีม โดยเฉพาะผู้จัดการนี่ชอบแกล้งมาก สนุกดี) ถึงจะเหนื่อยช่วงวันหยุดแต่ก็คุ้ม แบบทำงานจริงๆไม่ได้อยู่เฉยๆ ตัวเรารับผิดชอบเรื่องเครื่องดื่ม ทำแก้วแตกไปก็เยอะ มีการปรับเงินเหมือนกันแต่ว่าสิ่งสำคัญคือพนักงานจะห่วงที่เรามากกว่าแก้วที่แตกเพราะกลัวว่าเราจะโดนเศษแก้วบาด มันคือสุดยอดของทีมเวิร์คมากนะ (คหสต.)

ตอนนี้ก็ทำพาร์ทไทม์เหมือนกันค่ะทำอยู่The Pizza Companyเป็นCook บอกเลยว่าสนุกมากกกกกก เป็นการเจอประสบการณ์ใหม่ที่ดีมากจริงๆบวกกับพนักงานส่วนใหญ่ก็มีแต่เด็กมัธยมกะมหาลัยที่ไปทำพาร์ทไทม์เหมือนกัน มันเลยสนิทกันเร็วคุยกันง่าย จากปกติที่เราเป็นคนพูดน้อย ขี้อาย ไม่กล้าแสดงออก แต่พอมาทำงานที่นี่นิสัยพวกนี้คือถูกละลายหมดเลย5555 เพราะเราทำงานกับคนอื่นเราต้องรู้จักถาม รู้จักสังเกต ต้องคล่องแคล่วว่องไว (เพราะว่าเราเป็นCook จะมาเงียบๆไม่ได้ บางทีเราทำออร์เดอร์ที่ลูกค้าสั่งแล้ว แต่เพื่อนที่ทำด้วยกันไม่รู้ว่าเราทำแล้ว ก็ทำอีกกลายเป็นออร์เดอร์ซ้ำไป เวลาปรุงอะไรก็ต้องบอกกันตลอด ตอนนี้เลยกลายเป็นคนพูดเยอะและถามทุกสิ่งเลย 5555)

-ข้อดีอื่นๆ 1.เราได้เจอสังคมใหม่(ที่ทำงานvsที่เรียน แตกต่างอย่างสิ้นเชิง) 2.เพื่อนใหม่(มาจากหลากหลายโรงเรียน มีตั้งแต่เด็กเรียน ยันเกรียนได้โล่) 3.ได้การปรับตัว(เมื่อเรามาจากต่างที่ ความคิดเราก็ย่อมต่างกัน แต่เมื่อทำงานร่วมกันเราต้องรู้จักปรับตัว เพื่อให้งานที่เรารับผิดชอบออกมาดี) 4.การควบคุมอารมณ์(บางทีลูกค้าก็แบบ...นู่นไม่ได้ นี่ไม่เอา อยากเพิ่มนี่ อยากลดนั่น แต่เราในฐานะที่เป็นพนักงานเราก็ต้องรู้จักการควบคุมอารมณ์ เค้ามาใช้บริการของเรา เราก็ต้องบริการให้ดี เหมือนกับเวลาที่เราไปกินไปใช้บริการที่ร้านอื่นเราก็ต้องการการบริการที่ดีเหมือนกัน) 5.สอนให้คิดเร็วทำเร็ว ตัดสินใจเร็ว(ไม่อยากให้ลูกค้ารอนาน) 6.ช่วยแบ่งเบาภาระของที่บ้าน มีเงินซื้อของที่อยากได้โดยไม่ต้องฟังเสียงบ่นของแม่ว่าใช้ตังค์เปลือง(หาเองใช้เอง ไม่มีใครมาบ่นอยู่แล้ว555)

-ข้อเสีย คือ ส่วนใหญ่เราได้ทำกะดึกคือช่วงห้าโมงเย็นถึงสี่ทุ่ม การขับรถกลับหอดึกๆคนเดียวก็ค่อนข้างอันตราย แล้วก็ไม่ค่อยมีเวลาไปไหนมาไหนกับเพื่อนๆเหมือนเมื่อก่อน ยิ่งทำงานมากเท่าไหร่เราก็ยิ่งรู้สึกว่าเราห่างกันมากขึ้นเพราะไม่ค่อยได้ใช้เวลาด้วยกัน(นอกจากเวลาเรียน) แต่มันก็สอนเราไปในตัวว่า ยิ่งเราโตขึ้นมากเท่าไหร่เราก็ยิ่งต้องพึ่งตัวเองมากขึ้นเท่านั้น เพราะเราต้องเจอสังคมใหม่ เพื่อนร่วมงานใหม่ในอนาคตอยู่แล้ว

อยากทำ แต่อายุยังไม่ถึง18ไม่ค่อยมที่ไหนรับเลยค่ะ TT

สุดยอดค่ะ ก็อยากทำอยู่ค่ะ แต่เดินทางไปไหนไม่ค่อยสะดวก T^T

เคยเหมือนกันค่ะ จะบอกว่าประสบการณ์ได้เยอะมาก ๆ ฝึกความอดทนสุด ๆ ปกติไม่ใช่คนยอมใคร แต่ถ้าเรื่องงานเราก็ขัดหัวหน้าไม่ได้ (เดี๋ยวจะมีผลต่อหน้าที่การงาน) เพราะงั้นพอเราได้ลองทำงานตรงนี้ บอกตามตรงว่าได้เงินเดือนก้อนแรกแทบไม่อยากใช้เลยค่ะ นึกถึงวันที่ต้องทำงานทั้งเดือนแล้วได้เงินมา มันใช้ไม่ลงจริง ๆ ฝึกอะไรหลายๆ อย่าง การจัดการการใช้จ่ายของตัวเอง รวมถึงการทำงานกับคนหมู่มาก แล้วก็ความรู้จากงาน ถึงจะเหนื่อยแต่ก็คุ้มมากๆ

สุดยอดค่ะ ก็อยากทำอยู่ค่ะ แต่เดินทางไปไหนไม่ค่อยสะดวก T^T

เราก็ทำงานพาร์ทไทม์นะ รู้สึกโอเคมาก เป็นกันเอง ทำงานเป็นทีมมีความสุขดี พนักงานทุกคนก็โอเค เล่นได้เหมือนอยู่ในครอบครัว (ยิ่งกับพวกดิวตี้ทีม โดยเฉพาะผู้จัดการนี่ชอบแกล้งมาก สนุกดี) ถึงจะเหนื่อยช่วงวันหยุดแต่ก็คุ้ม แบบทำงานจริงๆไม่ได้อยู่เฉยๆ ตัวเรารับผิดชอบเรื่องเครื่องดื่ม ทำแก้วแตกไปก็เยอะ มีการปรับเงินเหมือนกันแต่ว่าสิ่งสำคัญคือพนักงานจะห่วงที่เรามากกว่าแก้วที่แตกเพราะกลัวว่าเราจะโดนเศษแก้วบาด มันคือสุดยอดของทีมเวิร์คมากนะ (คหสต.)

เคยเหมือนกันค่ะ จะบอกว่าประสบการณ์ได้เยอะมาก ๆ ฝึกความอดทนสุด ๆ ปกติไม่ใช่คนยอมใคร แต่ถ้าเรื่องงานเราก็ขัดหัวหน้าไม่ได้ (เดี๋ยวจะมีผลต่อหน้าที่การงาน) เพราะงั้นพอเราได้ลองทำงานตรงนี้ บอกตามตรงว่าได้เงินเดือนก้อนแรกแทบไม่อยากใช้เลยค่ะ นึกถึงวันที่ต้องทำงานทั้งเดือนแล้วได้เงินมา มันใช้ไม่ลงจริง ๆ ฝึกอะไรหลายๆ อย่าง การจัดการการใช้จ่ายของตัวเอง รวมถึงการทำงานกับคนหมู่มาก แล้วก็ความรู้จากงาน ถึงจะเหนื่อยแต่ก็คุ้มมากๆ

ตอนนี้ผมเองก็ทำงานพาร์ทไทม์อยู่เหมือนกัน ผมว่ามันเป็นสิ่งที่ดีนะเพราะมันทำให้เราเป็นคนที่แข็งแกร่งขึ้น อดทนขึ้น (เมื่อก่อนผมเป็นพวกเฉื่อยแฉะ ปวกเปียก) พอเวลาที่เราท้อ เราก็จะรู้สึกว่า เรื่องแค่นี้เองต้องผ่านไปให้ได้สิ

แต่ตอนนี้ผมมีปัญหากับทางบ้านเพราะพวกท่านไม่อยากให้ผมทำต่อ(ทั้งๆที่ตอนแรกก็เห็นด้วย) บอกว่ามันกระทบการเรียน ตอนนี้กำลังทะเลาะกันใหญ่เลย

เคยทำงานพาร์ทไทม์ที่ ร้านอาหารในโฮมโปร >>วันแรกๆๆ รู้สึกเลยว่าเหนื่อยมากๆๆๆ แล้วเพื่อนร่วมงานก็เอาเปรียบ เพราะเราเป็นเด็กใหม่ แต่พอทำไปสักพักก็ไม่ได้สนใจอะไร(นอกจากเงิน) จนวันใกล้จะกลับก็จองตั๋วเครื่องบินไว้ เพื่อมาrelax จากการทำงาน ผจก. เค้าก็บอกว่าขอให้อยู่ต่ออีกหน่อยได้ไหมเค้าจะจ่ายค่าตั๋วให้และบวกเงินให้เพิ่มอีกสัปดาละ 500 ตอนแรกเราว่าจะพอล่ะ (จะพักผ่อนด้วยแหละ) ก้เลยตัดสินใจตกลง (เห็นแก่เงินนะ) ##ทำให้เป็นที้รักของ ผจก มาก จนเด็กในร้านลาออก เพราะเราเหรออออออ

เราก็เคยนะ อืมม สนุกดีทำงานเสริฟนี่แหละแรกๆก็เหนื่อยนะ(ทำตอนปิดเทอมใหญ่)ทำไปได้ซัก2-3เดือนก็ว่าจะออก แต่คราวนี้คุยกับพวกพี่ๆผจก.แล้วแบบ นี่เราชอบพี่เขาตั้งแต่เมื่อไหร่ เลยตัดสินใจทำต่อ ทำมาปีกว่าๆก็เออพอล่ะเหนื่อย เรียนอย่างเดียวดีกว่า(ตอนนี้อยู่ม.2แล้วว)แต่ก็ยังมีคุยๆกับพี่ผจก.อยู่ สนุกดี ถามว่าตอนทำงานมีเผลอทำจานแตกมั้ย ไม่อยากจะโม้ ไม่มี มีแต่แก้วแตก 5555 แต่พวกพี่เขาใจดีมากเถอะ ไม่ต้องห้เราใจ ชอบตรงนี้แหละได้เงินแล้วไม่ต้องจ่ายค่าเสียหาย มีแอบไปเที่ยวบ้าง(กลางวัน)แต่แม่ก็ไม่ค่อยปลื้มพี่คนนี้นะ เศร้าเลยย

เราไปทำงานพาร์ทโดยไม่รู้อะไรมากที่สวนสนุกแห่งหนึ่ง มันเป็นบทเรียนอย่างดีเลยค่ะ เพราะ ก่อนไป คนป่าวประกาศบอก ค่าจ้าง 300 เอาเข้าจริงๆ 265 หรือเท่าไหร่ไม่รู้จำไม่ได้ค่ะ มันเป็นพาร์ทไทม์ครั้งแรกที่ไม่สวยเอาซะเลยค่ะ ทำเอาเราไม่อยากทำอีกเลย ปิดเทอมหน้ากะว่าจะไปทำอีก(แต่ไม่เอาสวนสนุกนั่นอีกแล้ว)

เราเป็นคนนึงที่ทำงานพาร์ทไทม์ ทำตอนมอสี่เทอมสอง ตอนนี้มอห้าเทอมหนึ่งละ...ก็ยังทำอยู่ ตอนนั้นคิดแค่ว่าอยากแบ่งเบาภาระพ่อ พ่อจะได้ไม่เหนื่อยมาก ช่วงแรก ๆ ก็โอเคนะ ทำไปเรียนไป วันแรกได้ค่าแรกบวกติ๊บด้วย 1,050 บาท เราแบบอึ้งกิมกี่อะ แต่พอนานไป..มันทั้งง่วงทั้งไม่มีเวลาอ่านหนังสือ ทำให้การเรียนค่อนข้างไม่โอเหมือนเมื่อก่อน แต่ยังดีที่เราแบ่งเวลาได้ การเรียนจึงไม่เลวร้ายมาก ก็ใครที่ิยากทำขอให้มีใจรักจริง ๆ แบ่งเวลาเป็น แล้วมีความอดทนและรักในการบริการนะคะ

ตอนนี้ก็ทำพาร์ทไทม์เหมือนกันค่ะทำอยู่The Pizza Companyเป็นCook บอกเลยว่าสนุกมากกกกกก เป็นการเจอประสบการณ์ใหม่ที่ดีมากจริงๆบวกกับพนักงานส่วนใหญ่ก็มีแต่เด็กมัธยมกะมหาลัยที่ไปทำพาร์ทไทม์เหมือนกัน มันเลยสนิทกันเร็วคุยกันง่าย จากปกติที่เราเป็นคนพูดน้อย ขี้อาย ไม่กล้าแสดงออก แต่พอมาทำงานที่นี่นิสัยพวกนี้คือถูกละลายหมดเลย5555 เพราะเราทำงานกับคนอื่นเราต้องรู้จักถาม รู้จักสังเกต ต้องคล่องแคล่วว่องไว (เพราะว่าเราเป็นCook จะมาเงียบๆไม่ได้ บางทีเราทำออร์เดอร์ที่ลูกค้าสั่งแล้ว แต่เพื่อนที่ทำด้วยกันไม่รู้ว่าเราทำแล้ว ก็ทำอีกกลายเป็นออร์เดอร์ซ้ำไป เวลาปรุงอะไรก็ต้องบอกกันตลอด ตอนนี้เลยกลายเป็นคนพูดเยอะและถามทุกสิ่งเลย 5555)

-ข้อดีอื่นๆ 1.เราได้เจอสังคมใหม่(ที่ทำงานvsที่เรียน แตกต่างอย่างสิ้นเชิง) 2.เพื่อนใหม่(มาจากหลากหลายโรงเรียน มีตั้งแต่เด็กเรียน ยันเกรียนได้โล่) 3.ได้การปรับตัว(เมื่อเรามาจากต่างที่ ความคิดเราก็ย่อมต่างกัน แต่เมื่อทำงานร่วมกันเราต้องรู้จักปรับตัว เพื่อให้งานที่เรารับผิดชอบออกมาดี) 4.การควบคุมอารมณ์(บางทีลูกค้าก็แบบ...นู่นไม่ได้ นี่ไม่เอา อยากเพิ่มนี่ อยากลดนั่น แต่เราในฐานะที่เป็นพนักงานเราก็ต้องรู้จักการควบคุมอารมณ์ เค้ามาใช้บริการของเรา เราก็ต้องบริการให้ดี เหมือนกับเวลาที่เราไปกินไปใช้บริการที่ร้านอื่นเราก็ต้องการการบริการที่ดีเหมือนกัน) 5.สอนให้คิดเร็วทำเร็ว ตัดสินใจเร็ว(ไม่อยากให้ลูกค้ารอนาน) 6.ช่วยแบ่งเบาภาระของที่บ้าน มีเงินซื้อของที่อยากได้โดยไม่ต้องฟังเสียงบ่นของแม่ว่าใช้ตังค์เปลือง(หาเองใช้เอง ไม่มีใครมาบ่นอยู่แล้ว555)

-ข้อเสีย คือ ส่วนใหญ่เราได้ทำกะดึกคือช่วงห้าโมงเย็นถึงสี่ทุ่ม การขับรถกลับหอดึกๆคนเดียวก็ค่อนข้างอันตราย แล้วก็ไม่ค่อยมีเวลาไปไหนมาไหนกับเพื่อนๆเหมือนเมื่อก่อน ยิ่งทำงานมากเท่าไหร่เราก็ยิ่งรู้สึกว่าเราห่างกันมากขึ้นเพราะไม่ค่อยได้ใช้เวลาด้วยกัน(นอกจากเวลาเรียน) แต่มันก็สอนเราไปในตัวว่า ยิ่งเราโตขึ้นมากเท่าไหร่เราก็ยิ่งต้องพึ่งตัวเองมากขึ้นเท่านั้น เพราะเราต้องเจอสังคมใหม่ เพื่อนร่วมงานใหม่ในอนาคตอยู่แล้ว

อยากทำงานพาททามบ้าง ช่วงนี้ต้องใช้เงินเยิะเพราะอยุ่มอปลายแล้วแต่ก้ไม่อยากรบกวนแม่เยอะ ฐานะที่บ้านไม่ค่อยดี แต่ไม่รุ้จะเริ่มยังไง ใครมีที่ดีๆแนะนำเราหน่อยยยย

อยากทำ แต่อายุยังไม่ถึง18ไม่ค่อยมที่ไหนรับเลยค่ะ TT

ขอแค่มีบัตร เชาก็รับแล้ว ในห้าง เราทำ มา ที่ีง งาน ขาย แคชเชียร์ ทำอาหาร สนุก มากเลย ได้อะไร เยอะๆๆ มาก ........... รู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่ขึ้น

17 ปีเขาก็รับแล้วพาทไทม์แต่เป็นบางที่นะ ตอนที่เราไปทำเราแค่17เอง แถมตัวเล็กอีก TT สูงอยู่แค่150เอง เราเข้าไปทำช่วงปิดเทอมเป็นพนักงานเสิร์ฟอยู่ร้านบาร์บีคิวพลาซ่า เป็นอะไรที่ตื่นเต้นมากเพราะเป็นครั้งแรกของการทำงานคนเดียวแบบว่าไปสมัครเองคนเดียวไรงี้ หลังจากสมัครเขาก็สัมภาษณ์แล้วเขาก็แนะนั้นแนะนี้ว่าต้องทำอะไรยังไง พาร์ทไทม์เขาจะให้ทำแค่4ช.มบ้าง 6ช.มบ้าง เฉพาะจันทร์-ศุกร์ ส่วนเสาร์อาทิตย์ก็ทำ8ช.ม(ถ้าพนักงานน้อยเขาจะให้ทำเต็ม8ช.ม) จะมีวันหยุด1วัน/อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์เราจะไม่ได้หยุดแต่เราจะได้ค่าแรง2เท่า เช่น เราได้325บาทก็จะได้เพิ่มอีก325 บาทไรงี้ จะมีทิปให้พนักงานทุกคนเป็นทิปรวมนะ ทำงานพาร์ทไทม์เป็นอะไรที่สนุกมากเลยแหละ มีเพื่อนใหม่ๆเรื่อยๆมากหน้ารายตา ได้ฝึกความอดทน ได้ฝึกมารยาทด้วยนะเช่น เราจะลงอาหารเราก็ต้องบอกว่า ขออนุญาติลงอาหารนะค่ะ 555 ต้องขออนุญาตกะขอโทษตัลหลอดดดพอลูกค้าลุกออกไปเราก็ต้องเตรียมพวกช้อนถ้วยจานชุดใหม่มาและต้องวางให้ถูกด้วยนะนั้นแหละถือเป็นการฝึกมารยาทการจัดโต๊ะอาหารเลยแหละ ซุปเปอร์บริการเขาจะจัดงานให้เราว่าจะได้ทำงานอะไรพอเราเสิร์ฟจนชำนาญแล้ว หรือมีคนใหม่เข้ามาแทนก็จะให้เราออกไปทำงานอื่นเช่นเป็นม้าเหล็ก คือเป็นคนคอยเคลียร์โต๊ะอาหารไรงี้ หรือไม่ก็เป็นคนคอยเท็คลูกค้าไรงี้(สบายสุด)แต่ก็ต้องรับอารมณ์ลูกค้าให้ได้ แต่ก็สนุกดีนะได้เจอคนหลายๆแบบ ถือเป็นประสบการณ์ชีวิตอย่างหนึ่งเลยแหละ การทำงานพาร์ทไทม์ทำให้เราคิดได้ว่า เราควรตั้งใจเรียนนนเพราะมันเหนื่อยยมันเป็นการใช้แรงงาน -//-มากกว่าใช้สมองงง ตอนนี้เราม.6แล้ววปิดเทอมเราก็ว่าจะไปทำพาร์ทไทม์ทำฆ่าเวลาาากว่ามหาลัยจะเปิดคงเบื่อแน่ล่ะถ้าไม่ได้ทำอะไ

เราเคยได้มีโอกาสทำงานพาร์ทไทม์เหมือนกันเราได้ทำประมาณสองเดือน ช่วงรอประกาศแอด เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ ได้ทั้งประสบการณ์ มิตรภาพ และ บทเรียน เพื่อนร่วมงานดีมากๆแฮปปี้สุดๆ ได้ทำตั้งแต่เสิร์ฟ บาร์น้ำ แคชเชียร์ แจกใบปลิว ยันช่วยงานในครัว ถึงแม้จะเหนื่อยจะท้อหรือเจอเรื่องแย่ๆ ถึงขั้นเดินเข้าไปนั่งร้องไห้ในห้องน้ำ แต่เราก็ยังอยากจะทำงานต่อไปเพราะเรามีความสุขกับงานบริการ เพราะยังได้เจอลูกค้าน่ารักๆอีกมาก แต่ตอนนี้เราไม่ได้ทำแล้วล่ะ ถ้ามีโอกาสได้ทำก็อยากจะไปทำอีก

อยากทำนะเเต่ทำไม่ได้อ่ะ อายุไม่ถึงกับถือบัตรนักเรียนของประเทศนึงอยู่ เขามีกฎว่าถ้าถือบัตรนี้ห้ามสมัครทำพาร์ทไทม์ เซ็งเลย

เราเคยไปทำตอนรอผลที่ปิดหกเดือนเหมือนกันเป็นแคชเชียร์อยู่ที่ห้างแห่งหนึ่ง ทำพาร์ทไทม์ 4 ชม. ตอนเข้าไปทำ 10 วันแรกได้ ชั่วโมงละ 40 (วันละ 160) พอตั้งแต่วันที่ 11 ก็เป็น ชั่วโมงละ 50 (วันละ 200) ต้องจำว่าปุ่มนี้มีไว้ทำอะไร ต้องคอยเช็คเงินในเครื่องว่ายังพอสำหรับทอนรึเปล่า ถ้าทำช่วงเช้าๆ หรือบ่ายๆ ในวันธรรมดาคนจะไม่เยอะเท่าไหร่ บางครั้งไปทำก็แทบจะยืนว่างเลยก็มี แต่ถ้าเป็นพวกวันหยุด วันสำคัญๆ คนจะเยอะมาก สแกนบาร์โค้ดกันมือเป็นระวิงเลยแหละ อ้ออออออ... เรื่องสแกนบาร์โค้ด ต้องสแกนให้เร็วด้วย เพราะเค้าจะมีคอยเช็คว่าวันนึงเราสามารถรองรับสินค้าได้กี่ชิ้น จะเป็นการเช็คไม่ให้เราเอาเปรียบพนักงานคนอื่น และพยายามอย่าสแกนให้พลาดด้วย ไม่เช่นนั้นเจอ จม.เตือนแน่ๆ ไม่ว่าจะเป็นการทอนเงินขาด ทอนเงินเกิน สแกนบาร์โค้ดผิดจากราคาแพ็คกลายเป็นราคาชิ้นเดียว (ประสบการณ์ตรง 55555) เค้าก็จะเตือนก่อน ถ้าครบสองครั้งแล้วยังทำพลาดอีกก็โดนออก ตอนนั้นทำสัญญาพาร์ทไทม์ไป สองเดือน ทำเสร็จก็พอละ ไม่ขอต่อสัญญา (แต่บางทีก็แอบเสียดายที่ไม่ต่อ)55555555555555 มันก็เหนื่อยดีนะ เจอทั้งลูกค้าที่ใจดีและลูกค้าที่เข้มงวด หัวหน้างานที่เอ็นดูเราและหัวหน้างานที่ทำเป็นเอ็นดูเรา แต่พูดจาประชดประชันตลอดดดดดดด ก็นะ มีท้อบ้างอ่ะ แต่เราก็เป็นเลือกที่จะเข้ามาทำเอง สิ่งที่เราจะได้กลับไปไม่ใช่แค่เงิน แต่เป็นประสบการณ์ และชีวิตแบบใหม่ที่ยังไงเราก็ต้องเจอแน่ๆตอนที่เราได้ทำงาน ไม่ว่าจะงานอะไรก็ตาม