เวลาพวกเราเรียกคนที่เรียนสายอาชีพ เราจะเรียกรวมๆ ว่า "เด็กอาชีวะ" ใช่ไหมคะ แต่เวลานึกภาพเด็กอาชีวะ เราก็จะนึกภาพถึงกลุ่มผู้ชายวัยรุ่นที่ดูขึงขังใส่เสื้อชอปน้ำตาลหรือน้ำเงินใช่ไหมคะ แล้วถ้านึกถึงเรานึกถึงคนที่เรียนสายอาชีพ แต่เป็นผู้หญิงล่ะ ไม่ว่าใครๆ ก็ต้องนึกถึง "เด็กพาณิชย์" แน่นอนคะ วันนี้พี่เกียรติจะในท้องเรื่อง "5 เหตุการณ์ฝังใจ ที่คนไทยติดภาพเด็กพาณิชยฯ-อาชีวะในแง่ลบ" แบบพี่แป้งในคอลัมน์สายอาชีพ/อาชีวะเมื่อสัปดาห์ก่อนเลยนะคะ แต่ขอโฟกัสที่ "ผู้หญิงเรียนสายอาชีพ (พาณิชย์)" กันค่ะ เด็กพาณิชย์ก็ถูกเหมารวมในแง่เด็กเรียนสายอาชีพต้องเป็นกลุ่มแย่ๆ เหมือนกันนะคะ ซึ่งพี่เกียรติขอย้ำนักย้ำหนาอีกหลายๆ รอบว่า "ห้ามเหมารวม" ค่ะ
.jpg)
>> เด็กพาณิชย์ตบตีกัน
ในขณะที่ข่าวเด็กอาชีวะ (ผู้ชาย) ทะเลาะกันถูกตีข่าวออกหน้าหนึ่งในสังคมกันไม่เว้นแต่ละเดือนภาพนี้ก็เหมารวมว่าเด็กสายอาชีพไม่ดีไปมากแล้ว ข่าวประจำสำนักโชเชียลมีเดียคลิปเดียวแพร่สะพัดในกรณีเด็กพาณิชย์ตบตีแย่งแฟนกันก็ไม่น้อยหน้า ทำให้ยิ่งถูกเหมาว่าเด็กสายอาชีพพฤติกรรมไม่เหมาะสมเข้าไปอีก ผู้ปกครองก็ไม่อยากส่งลูกหลานเข้าเรียนค่ะ ทั้งที่จริงๆ แล้วกรณีทะเลาะกันและอัดคลิปแพร่ไปทั่ว ก็ไม่ได้มีแค่เด็กสายอาชีพ เด็กโรงเรียนอื่นๆ หรือคนผู้ใหญ่วัยทำงานก็มี อยากให้ทราบว่า เด็กพาณิชย์ทุกคนไม่ได้มีนิสัยเกะกะเกเรค่ะ แต่ถ้าสังคมยิ่งผลักดันให้ "เด็กสายอาชีพเป็นเด็กแย่ๆ" ผ่านสื่อต่างๆ มากเท่าไหร่ คนส่วนใหญ่ก็ยิ่งมองภาพสายอาชีพแย่เท่านั้นค่ะ
>> จริงๆ เด็กพาณิชย์ไม่เคยตีกับโรงเรียนอื่นค่ะ
พอสังคมชอบเหมารวมว่าเด็กอาชีวะชอบตีกัน เด็กพาณิชย์เลยถูกเหมารวมไปด้วย จริงๆ เด็กพาณิชย์มักมีแต่ผู้หญิงเรียนนะคะ และส่วนใหญ่โรงเรียนสายที่เน้นด้านช่างก็มักแยกออกจากสายพาณิชย์ด้วย หรือต่อให้อยู่สถาบันเดียวกันก็ยังแยกกลุ่มออกมาอยู่ดีค่ะ สายพาณิชย์จึงไม่ได้มีเรื่องกับสถาบันอื่นค่ะ เรื่องดักตบตีกับสถาบันอื่นที่หน้าปากซอยใครจึงแทบไม่มีเลยค่ะ (แถมรักกันดีและสนิทกันมาตั้งแต่สมัยมัธยมต้นด้วยซ้ำ) ผู้ปกครองหรือคนที่สนใจเรียนไม่ต้องกังวลในข้อนี้ แต่หากมีการทะเลาะกันในโรงเรียนบ้าง ก็เพราะเป็นเรื่องส่วนบุคคลค่ะ "ห้ามเหมารวม" ไปทั้งโรงเรียน
>> ถ้ามีแว้นบอยเป็นเด็กเทคนิค สก๊อยเกิร์ลก็ไม่พ้นเด็กพาณิชย์รั้วตรงข้าม
วัยรุ่นเรียนเทคนิคขี่มอเตอร์ไซค์เป็นเรื่องปกติค่ะ เพราะส่วนใหญ่เด็กอาชีวะที่เรียนทางด้านช่าง ชอบเครื่องยนต์กลไก จึงมีรถจักรยานยนต์คู่ใจให้ดูแลอยู่แล้ว แต่การมีรถมอเตอร์ไซค์ไว้ครอบครองก็ไม่ใช่ทุกคนจะต้องเป็นแว้นบอยที่ระรานสังคมค่ะ แต่ที่แน่ๆ ไปกว่านั้นคือ เด็กแว้นไม่จำเป็นมีสก๊อยคู่ใจเป็นเด็กพาณิชย์นะคะ เด็กพาณิชย์ที่ไม่ชอบสายซิ่งก็มีเหมือนกัน ฮ่าๆ จริงๆ ก็อาจจะแค่นั่งซ้อนมอเตอร์ไซค์ไปทำงานพาร์ทไม์ที่ไหนก็ได้ ไม่ได้ไปซิ่งระราน หยุดเหมารวมซะที! แต่ถ้าใครจะมีรถมอเตอร์ไซค์ไว้ก็ควรใช้งานไม่ว่าหญิงหรือชาย ก็ใช้ให้เหมาะสมด้วยนะคะ อย่าให้ใครว่าเราว่ามีเงินซื้อได้ แต่ไม่รู้จักใช้ให้เป็นค่ะ
>> เด็กพาณิชย์แต่งตัวแต่งหน้าจัดแลดูเหมือน...
เหมือนอะไรคะ เหมือนอะไรไม่รู้ แต่มันแรงมากๆ เลยนะ! มันเป็นภาพติดลบมากๆ สำหรับการแต่งกายมองว่าเด็กพาณิชย์ต้องนุ่งสั้นทาปากแดง ทั้งๆ ที่อยู่ในชุดเครื่องแบบของสถาบัน แต่เดี๋ยวก่อนนะคะ! ขอชี้แจงเรื่องการแต่งหน้าสักนิด จริงๆ การแต่งหน้าเป็นพื้นฐานของวิชาชีพเด็กพาณิชย์ค่ะ สายพาณิชย์ของอาชีวะ คือกลุ่มเลขานุการ การขาย ท่องเที่ยวโรงแรม ฯลฯ ซึ่งกลุ่มนี้เป็นสายงานบริการที่ต้องพบปะผู้คนค่ะ ดังนั้นการมีบุคลิกที่ดีจึงดีต่อผู้พบเห็นค่ะ น้องๆ ลองนึกภาพพี่ๆ พนักงานโรงแรมจริงๆ สิคะ มีใครแต่งกายไม่สวยบ้าง เราจะอยากคุยกับพนักงานที่แต่งกายเลอะเทอะ อายแชโดว์เลอะเหมือนเพิ่งร้องไห้มาหรือเปล่า เช่นเดียวกันแม้ว่าจะยังเรียนอยู่ น้องๆ ที่เรียนพาณิชย์ก็ต้องรู้จักพื้นฐานของการดูแลตัวเอง ทั้งหน้าตาและการแต่งกายด้วยค่ะ ในหลายสถาบันมีวิชาพัฒนาบุคลิกภาพ (รวมถึงการแต่งหน้า) บรรจุไว้ในหลักสูตรเลยนะคะ แต่มือใหม่หัดแต่งแรกๆ อาจจะแต่งไม่สวย มิกซ์สีปากกับสีตาพลาดไปบ้าง สังคมต้องให้อภัยค่ะ อย่าเพิ่งเหมารวม มันเป็นสังคมของการเรียนส่วนหนึ่งจริงๆ ค่ะ
ที่สำคัญโรงเรียนพาณิชย์ก็มีกฎระเบียบค่ะ เรื่องนุ่งสั้น ทำสีผมก็ผิดระเบียบเช่นกันค่ะ เและไม่อยากให้มองกันว่า โรงเรียนพาณิชย์นุ่งสั้นรัดติ้วทำสีผมได้ เพราะจริงๆ คือ คนที่ทำผิดระเบียบเหล่านี้ก็แอบทำเหมือนกันค่ะ
.jpg)
>> เด็กพาณิชย์ชอบดูถูกตัวเอง
ข้อนี้ขอให้กำลังใจกันเสียหน่อยนะคะ น้องๆ ที่มาเรียนสายอาชีพหลายๆ คนก็เพราะว่าเรียนวิชาสามัญกันไม่ไหว และคิดว่าตัวเองเรียนไม่เก่ง ซึ่งเป็นการดูถูกตัวเองไปโดยปริยายค่ะ แต่จริงๆ คนเราทุกคนมีความสามารถแตกต่างกันค่ะ เรียนวิชาการไม่เก่ง ไม่ได้แปลว่าโง่ค่ะ เราเพียงต้องหาทักษะของตัวเองให้เจอ และพัฒนาทักษะของเราค่ะ เด็กพาณิชย์ต้องมีความรับผิดชอบในมุมที่แตกต่าง ต้องเรียนด้วย ทำงานด้วย (ฝึกงานหรือพาร์ทไทม์) ต้องแบ่งเวลาเป็นและรับผิดชอบตัวเองให้ได้ทักษะของวิชาที่เรียนก็ต่างกัน นี่เป็นสิ่งที่แตกต่างในคนช่วงวัยเดียวกันแล้วค่ะ ถ้าไม่ใช่ความตั้งใจต่อให้ฉลาดแค่ไหนก็เรียนพาณิชย์ไม่รอดค่ะ เพราะฉะนั้นเด็กสายอาชีพและน้องๆ พาณิชย์ที่คิดว่าหนีมาเรียนสายนี้ เพราะคิดว่าตัวเองโง่ จงเลิกดูถูกตัวเองค่ะ คนที่โง่คือคนที่ดูถูกตัวเองต่างหากค่ะ
จริงๆ แล้วการเหมารวม มันก็เป็นเรื่องปกติของสัตว์สังคมอย่างเราๆ นะคะ เพียงแต่ว่าอยากให้เปิดใจสักนิด หากน้องๆ หรือลูกหลานตนเองอยากเรียนสายอาชีพ ก็อย่าเพิ่งตีค่าว่าชีวิตในอนาคตจะย่ำแย่ค่ะ แต่แน่นอนว่า...น้องๆ สายอาชีพก็เช่นกัน ถ้าอยากให้ภาพลักษณ์พวกเราดีขึ้น ไม่ใช่แค่การเรียกร้องค่ะ ต้องมาจากการปฏิบัติตัวด้วยค่ะ จริงๆ ภาพลักษณ์สายอาชีพดีขึ้นมาก และสังคมเปิดกว้างในการประกอบอาชีพมากขึ้นแล้วด้วยค่ะ เส้นทางของคนเราอาจแตกต่างกันไป สายอาชีพ/อาชีวะ เด็กเทคนิค เเด็กพาณิชย์ก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะผลักดันขับเคลื่อนสังคมไปในทางที่ดีเช่นเดียวกันค่ะ อย่ามองแต่ภาพด้านลบของเด็กสายอาชีพเลยค่ะ
แหล่งข้อมูล, ภาพประกอบ:
- facebook.com/pages/สุดยอดคนพันธุ์-R/141900952526672
- ttc.ac.th/activity125.html
- ttc.ac.th/activity125.html
บทความสายอาชีพ
บอร์ดสายอาชีพ
@Paengdekd
สมัยเรียนก็โดนคนนอกมองแบบนี้เลย อะฮรึก ที่เราแต่งหน้าก็เพราะเราต้องเตรียมพร้อมสู่สังคมการงานในอนาคตค่ะ
9 ความคิดเห็น
มีแต่พวกผู้ใหญ่โลกสวยงามในประเทศไทยนี่แหละค่ะ
ที่ "เหมารวม" ว่าเด็กพาณิชย์กับเด็กอาชีวะเป็นคนไม่ดีทุกคน
เราไม่เคยมองพวกเขาว่าเป็นคนเลว
เราออกจะอิจฉาพวกเขาด้วยซ้ำที่ขยันทำงานหาเงินเลี้ยงหาตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งพาพ่อแม่
สู้ๆนะคะ เราเป็นคนเรียนสายสามัญค่ะ(ตอนรี้เรียนคบ.ปี1) เพราะไม่แข็งแรง ทำงานหนักๆไม่ไหวเลยเรียนสายอาชีพไม่ได้ แต่เราไม่เคยคิดว่าสายอาชีพแย่นะ เราว่ามันอยู่ที่ตัวบุคคลค่ะ พวกสายสามัญ นุ่งสั้น ตบตี มีถมไป คนดีๆก็มีเยอะเหมือนกันเนอะ^^ มันอยู่ที่ใครจะเลือกปฏิบัติแบบไหนค่ะ ทำแลบไหนก็ได่แบบนั้นแหละ
น้ำตาจะไหล
สมัยเรียนก็โดนคนนอกมองแบบนี้เลย อะฮรึก ที่เราแต่งหน้าก็เพราะเราต้องเตรียมพร้อมสู่สังคมการงานในอนาคตค่ะ
บอกเลยว่ากว่าจะแต่งหน้าเป็นด้วยลิปสติคแท่งเดียวเนี่ย ต้องอบรมและเชิญวิทยากรมานะคะ
สำหรับกฎของวิทยาลัยที่เรียนอยู่ตอนนั้นคือห้ามนุ่งสั้นเกินหัวเข่า(ยกเว้นการท่องเที่ยว เรียนจบเลขานุการมาค่ะ) ผมก็ห้ามทำสีนะคะ ตอนนั้นไปยืดผมแล้วช่างเค้าหยิบแปรงผิดผมกลายเป็นสีทองนิดหนึ่งก็ต้องทำสีทับ(ฝ่ายปกครองตาดีละเกิน)
โดยส่วนมากตอนที่เรียนอยู่วิทยาลัยให้แต่งหน้าได้แต่ต้องแต่บางๆ ค่ะ แต่งแบบว่าหน้าตาดูดีมีสุขภาพไม่ใช่ซีดโทรมเป็นศพ หรือแต่หน้าจัดทาปากแดงแป้ดดด (อันนั้นส่วนมากแต่งกันหลังเลิกเรียนค่ะ)
หนูไม่ใช่สก็อยค่ะ แต่บางที่หนูก็ต้องแว๊นซ์มาวิทยาลัยเพราะวิทยาลัยเข้า 7.30 ตื่นสายก็แว๊นซ์หน่อย
ส่วนเรื่องตบตีนี่ก็ส่วนมากขเม่นกันเองในวิทยาลัยนี่ค่ะ ธรรมชาติมากๆ ไฟท์กับวิทยาลัยอื่นเหรอคะ
ไม่อะคะไปรอดักตบหน้าวิทยาลัย
ยิ่งเรียนปี 2-3 (ปวช.) ปี 1-2 (ปวส.) แล้วละก็เลิกคิดเรื่องตบตีกันไปได้เลยค่ะ 2 เทอมนี่ฝึกงานทุกเทอมนะคะ
ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้ใหญ่ทุกคนคะโปรดอย่า #เหมารวม ค่ะ เพราะพวกคุณทั้งหลายเหมารวมกลายเป็นว่ามันสร้างอคติไปเรื่อยๆ ค่ะ
เห็นด้วยเลย ตั้งแต่เมื่อก่อนจนถึงปัจจุบันก็ชอบมองว่าไม่ดี ทั้งที่จริงๆ แล้ว บางอย่างมันเป็นกฎที่เราต้องทำ
เรื่องตบตี ก็มีทุกคนนั่นละเรื่องธรรมชาติผู้ใหญ่ บลาๆ แทงกันตาย ก็เป็นข่าวแต่ไม่ดังมากแค่นั้นเอง พอเรื่องเด็กๆ นี่ประโคมกันหนักมากนะครับ
เราเรียนพาณิชย์ เอกบัญชีค่ะ เด็กพาณิชย์ไม่มีไปดักตบตีใครแน่นอน แต่ถ้าที่เดียวกันอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับคนสองคนค่ะ เขม่นกันเองนี้เป็นเรื่องธรรมชาตินะคะ คาดว่าคงมีหมดทุกที่แหละค่ะ แล้วยิ่งปีนี้หลักสูตรใหม่ ฝึกงาน1เทอมเต็ม (ปวช.3) แถมมีวิชาโครงการอีก ตัดเรื่องที่คิดจะตบตีไปได้เลยค่ะ วิทยาลัยที่อยู่นี่คือเข้าแถว 07.00 น. ก็ต้องมีบิดมีซิ่งกันบ้าง ไม่งั้นอาจโดนแถวสายและโดนทำโทษ แถมถ้าขาดเข้าแถวบ่อยมีสิทธิ์ตกกิจกรรมวิทยาลัยอีก1ตัวอีกต่างหาก ส่วนเรื่องนุ่งสั้น ทำสีผม ทางวิทยาลัยที่เรียนอยู่ห้ามทำสีค่ะ ส่วนสั้นมันก็มีประปรายนะคะ สั้นแต่พอดีพองามค่ะ แต่งหน้าก็มีนะคะ ไม่ได้ถึงกับห้าม คือจะเน้นออกทางใสใส ไม่แต่งหน้าหนาหรือทาปากแดงแปร๊ดค่ะ ถุงเท้าก็ห้ามใส่ข้อสั้นนะคะ ฝ่ายปกครองที่นี่โหดมากก ผิดระเบียบมานี่คือยึดค่ะและอาจจะตัดคะแนนคว่ามประพฤติด้วย ชุดนักเรียนที่นี่จะเหมือนชุด ม.ปลายค่ะ ถ้าใครที่เคยเห็นก็อาจจะรู้จัก ยังไงก็ขอให้มองเด็กพาณิชย์ในมุมใหม่ด้วยนะคะ กราบขอบพระคุณงามๆค่ะ ^^