กีฬาๆเป็นยาวิเศษ...ฮ้าไฮ้...ฮ้าไฮ้...เปิดตัวด้วยกราวกีฬาต้อนรับฤดูกาลงานกีฬาสีกันเลย ช่วงนี้กระแสรักสุขภาพมาแรงมากค่ะ ไม่ว่าพี่เมก้าจะไปไหนก็เห็นแต่น้องๆพูดถึงงานกีฬาสีกันให้อึกทึกครึกโครม
วันนี้พี่เมก้าเลยถือโอกาสชวนน้องๆมาพูดคุยแลกเปลี่ยนกันถึงประสบการณ์ต่างๆ แต่เป็นประสบการณ์เคล้าน้ำตากับเรื่องดราม่าในงานกีฬาสีนะคะ เชื่อว่าแทบทุกโรงเรียนน่าจะเผชิญเหตุการณ์เดียวกัน เรามาย้อนความจำกันเถอะ
1. ดราม่างบประมาณ
ไม่มีงบประมาณแล้วจะจัดงานได้ยังไง ปัญหาก็เกิดจากตรงนี้แหละค่ะ บางโรงเรียนงบน้อยจัดสรรค่าใช้จ่ายมาให้ไม่พอ นักเรียนก็ต้องทำเรื่องขอสปอนเซอร์เอง พอหาไม่ได้ก็ต้องควักกระเป๋าสตางค์มาจ่ายเพิ่มอีก ด้วยความรักศักดิ์ศรี สีเราต้องชนะ! ผลคือหลักร้อยก็ยอมจ่าย หลักพันก็ยอมจ่าย ทุ่มทุนขนาดนี้คนไม่มีก็ต้องดิ้นรนหามาจ่ายให้เพื่อนจนได้ ดราม่าหนักไปอีก
อีกอย่างที่แย่กว่างบน้อยคืองบบานปลายค่ะ ใช้จ่ายร่วมหลักแสน ผิดใจกันเรื่องเงินก็มีมาแล้ว หลายคนบอกขูดเลือดขูดเนื้อกันไปเลยเถอะ!
2. ดราม่าเรื่องการเรียน
ส่วนใหญ่งานกีฬาสีของแต่ละโรงเรียนก็จะเลือกจัดช่วงเดือน พ.ย. นี่แหละค่ะ เพราะน้องๆเพิ่งเปิดเทอมมาได้ไม่นานและไม่ได้อยู่ในช่วงสอบ แต่บางทีก็มีช่วงชะตาขาดเหมือนกันนะคะ เช่น กีฬาสีเสร็จปุ๊บก็มีตารางสอบมารอจ่อคิวปั๊บเลย
น้องๆบางโรงเรียนเจอปัญหาครูไม่ให้คาบเรียนจะเตรียมกิจกรรมก็ทำไม่ได้ บางโรงเรียนครูให้คาบมาแต่สอนไม่ทันก็ต้องเรียนเสริมทีหลัง และบางโรงเรียนสนับสนุนให้ทำกิจกรรมมาก ขู่เลย ใครไม่เข้าร่วมกีฬาสีจะถูกปรับตกคะแนนกิจกรรม งานเข้าอีก!
3. ดราม่าชิงดาวเด่น
1. ดราม่างบประมาณ
ไม่มีงบประมาณแล้วจะจัดงานได้ยังไง ปัญหาก็เกิดจากตรงนี้แหละค่ะ บางโรงเรียนงบน้อยจัดสรรค่าใช้จ่ายมาให้ไม่พอ นักเรียนก็ต้องทำเรื่องขอสปอนเซอร์เอง พอหาไม่ได้ก็ต้องควักกระเป๋าสตางค์มาจ่ายเพิ่มอีก ด้วยความรักศักดิ์ศรี สีเราต้องชนะ! ผลคือหลักร้อยก็ยอมจ่าย หลักพันก็ยอมจ่าย ทุ่มทุนขนาดนี้คนไม่มีก็ต้องดิ้นรนหามาจ่ายให้เพื่อนจนได้ ดราม่าหนักไปอีก
อีกอย่างที่แย่กว่างบน้อยคืองบบานปลายค่ะ ใช้จ่ายร่วมหลักแสน ผิดใจกันเรื่องเงินก็มีมาแล้ว หลายคนบอกขูดเลือดขูดเนื้อกันไปเลยเถอะ!
2. ดราม่าเรื่องการเรียน
ส่วนใหญ่งานกีฬาสีของแต่ละโรงเรียนก็จะเลือกจัดช่วงเดือน พ.ย. นี่แหละค่ะ เพราะน้องๆเพิ่งเปิดเทอมมาได้ไม่นานและไม่ได้อยู่ในช่วงสอบ แต่บางทีก็มีช่วงชะตาขาดเหมือนกันนะคะ เช่น กีฬาสีเสร็จปุ๊บก็มีตารางสอบมารอจ่อคิวปั๊บเลย
น้องๆบางโรงเรียนเจอปัญหาครูไม่ให้คาบเรียนจะเตรียมกิจกรรมก็ทำไม่ได้ บางโรงเรียนครูให้คาบมาแต่สอนไม่ทันก็ต้องเรียนเสริมทีหลัง และบางโรงเรียนสนับสนุนให้ทำกิจกรรมมาก ขู่เลย ใครไม่เข้าร่วมกีฬาสีจะถูกปรับตกคะแนนกิจกรรม งานเข้าอีก!
3. ดราม่าชิงดาวเด่น
ถ้าพูดถึงงานกีฬาสีหลายคนก็จะนึกถึงกลุ่มคนหน้าตาดีหรือดาวเด่นในงานทั้งดรัมเมเยอร์ เชียร์ลีดเดอร์ คนถือป้าย บรรดาสาวสวยหนุ่มหล่อที่พากันยกขบวนมาเพียบ ซึ่งกว่าจะมาถึงวันงานได้นั้น น้องๆอาจไม่เชื่อว่าเคยมีเหตุการณ์ทะเลาะกันรุนแรงถึงขั้นตบตีแย่งชิงกันมาแล้ว เรียกได้ว่ากีฬาสีปีนี้ฉันต้องสวย ต้องเริด ต้องเด่นที่สุดในงาน แต่พี่เมก้าว่าเหนือความสวยคือความสามารถค่ะ ถ้าน้องไม่เจ๋งจริงผ่านการคัดเลือกมาไม่ได้หรอก
4. ดราม่าเรื่องหน้าที่
อย่างที่ทราบกันดีว่าหน้าที่ในงานกีฬาสีแบ่งออกเป็นหลายฝ่าย ทั้งฝ่ายอาร์ต ฝ่ายกองเชียร์ ฝ่ายสวัสดิการ ฝ่ายกีฬา ฝ่ายการเงินและบัญชี ฯลฯ แล้วเวลาทำงานใหญ่ร่วมกัน หลายคนหลายความคิดก็ต้องมีความเห็นต่างไม่ตรงกันบ้าง บางทีเกิดการก้าวก่ายหน้าที่กันบ้าง หรือเกี่ยงงานกันทำบ้าง กลิ่นดราม่าก็จะเริ่มตามมาแล้วค่ะ
ยิ่งน้องบางคนโดดบ่อย กลับบ้านเย็นไม่ได้ ติดเรียนพิเศษ ติดทำธุระกับพ่อแม่ก็จะโดนเพื่อนมองด้วยสายตาประณามแล้วว่าไม่ช่วยงานส่วนรวม! ไม่เสียสละ!! เห็นแก่ตัว!!! เจ็บไปสิ
5. ดราม่างานประชุม
ขอมอบดราม่านี้ให้เสาหลักอย่างประธานนักเรียน ประธานสี รองประธานสี ประธานเชียร์ และท่านที่มีตำแหน่งใหญ่ต้องรับผิดชอบในงานกีฬาสีทุกคนค่ะ คือแบบนี้นะคะน้องๆ เวลาประชุมคณะสีหรือประชุมกับอาจารย์ ท่านประธาน รองประธาน และเลขาชอบแอบไปงุบงิบงุงิกันสองสามคน ไม่ยอมมาขยายให้ลูกทีมฟังค่ะ ซึ่งทุกคนก็อยากรู้มากว่าทีมเราจะต้องวางแผนอะไรต่อ กลายเป็นว่าไม่รู้อะไรเลย พอผิดพลาดขึ้นมาก็ทะเลาะกันใหญ่โต พาดราม่าจนได้
6. ดราม่ากับรุ่นพี่
4. ดราม่าเรื่องหน้าที่
อย่างที่ทราบกันดีว่าหน้าที่ในงานกีฬาสีแบ่งออกเป็นหลายฝ่าย ทั้งฝ่ายอาร์ต ฝ่ายกองเชียร์ ฝ่ายสวัสดิการ ฝ่ายกีฬา ฝ่ายการเงินและบัญชี ฯลฯ แล้วเวลาทำงานใหญ่ร่วมกัน หลายคนหลายความคิดก็ต้องมีความเห็นต่างไม่ตรงกันบ้าง บางทีเกิดการก้าวก่ายหน้าที่กันบ้าง หรือเกี่ยงงานกันทำบ้าง กลิ่นดราม่าก็จะเริ่มตามมาแล้วค่ะ
ยิ่งน้องบางคนโดดบ่อย กลับบ้านเย็นไม่ได้ ติดเรียนพิเศษ ติดทำธุระกับพ่อแม่ก็จะโดนเพื่อนมองด้วยสายตาประณามแล้วว่าไม่ช่วยงานส่วนรวม! ไม่เสียสละ!! เห็นแก่ตัว!!! เจ็บไปสิ
5. ดราม่างานประชุม
ขอมอบดราม่านี้ให้เสาหลักอย่างประธานนักเรียน ประธานสี รองประธานสี ประธานเชียร์ และท่านที่มีตำแหน่งใหญ่ต้องรับผิดชอบในงานกีฬาสีทุกคนค่ะ คือแบบนี้นะคะน้องๆ เวลาประชุมคณะสีหรือประชุมกับอาจารย์ ท่านประธาน รองประธาน และเลขาชอบแอบไปงุบงิบงุงิกันสองสามคน ไม่ยอมมาขยายให้ลูกทีมฟังค่ะ ซึ่งทุกคนก็อยากรู้มากว่าทีมเราจะต้องวางแผนอะไรต่อ กลายเป็นว่าไม่รู้อะไรเลย พอผิดพลาดขึ้นมาก็ทะเลาะกันใหญ่โต พาดราม่าจนได้
6. ดราม่ากับรุ่นพี่
มีมาทุกปีกับปัญหารุ่นพี่รุ่นน้องทะเลาะกัน โดยส่วนใหญ่งานกีฬาสีจะมีพี่ใหญ่ ม.6 เป็นคนคุม รุ่นพี่ก็จะคิดว่าตัวเองมีประสบการณ์มากกว่า อยากทำอะไรดีๆให้เต็มที่ในปีสุดท้ายก็เลยซุ่มซ้อมทั้งเชียร์ทั้งกีฬาแบบจัดหนักจัดเต็มกันเลย
บางทีเห็นว่าน้องยังซ้อมไม่เต็มที่ ร้องเพลงเชียร์ไม่ได้ หรือเสียงเบาไปก็กลัวจะแพ้สีอื่น เลยต้องมีวิธีกระตุ้นด้วยการเรียกดราม่าชวนทะเลาะหรือตวาดเสียงดัง ซึ่งบางทีรุ่นน้องก็เหมือนคลื่นใต้น้ำที่รอวันระเบิดนะคะ ถ้าโดนบังคับหรือระบายอารมณ์ใส่มากๆก็ต้องมีโต้กลับบ้างแหละ
7. ดราม่ากับพ่อแม่
ช่วงกีฬาสีโดยเฉพาะใกล้ถึงวันงาน เป็นเวลาเข้ากะดึกค่ะ น้องบางคนกลับบ้านเย็นย่ำค่ำมืด บางคนถึงขั้นนอนค้างที่โรงเรียนไม่กลับบ้านกลับช่องก็มีกันมาแล้ว ทุ่มเทมากๆ พี่เมก้าอยากบอกว่าเพื่อนอยู่ข้างเราแต่พ่อแม่ไม่เข้าใจนะคะ กลับบ้านไปยังมีดราม่าต่อ "แม่ถามหน่อย กับเรื่องเรียนตั้งใจแบบนี้มั้ย? มีเวลาทำการบ้าน อ่านหนังสือรึเปล่า" เรียกได้ว่าเหนื่อยจากกิจกรรมแล้วยังต้องมานั่งหูชาเพราะโดนพ่อกับแม่อบรมอีก
8. ดราม่าอุบัติเหตุ
"หากว่านายเจ็บ ฉันก็เจ็บ เพื่อนเจ็บ ฉันก็เจ็บเหมือนกัน" งานเพลงต้องมา เพลงบอกอายุสุดๆ ฮ่าๆ จากงานกีฬาสีสนุกๆ ถ้ามีเพื่อนได้รับบาดเจ็บระหว่างแข่งขัน เรื่องดราม่าจะตามมาทันทีค่ะ ถ้าพลาดเจ็บตัวเองอาจจะแค่น้ำตาคลอ แต่ถ้ามีใครมาทำเพื่อนเราเจ็บโดยเฉพาะสีคู่ตรงข้ามละก็ ได้เห็นดีกันแน่!
9. ดราม่าเรื่องการโกง
เราต้องคว้าแชมป์! งานกีฬาสีแข่งขันกัน ซ้อมกันเอาเป็นเอาตาย แต่พอชนะกลับโดนตราหน้าว่า "โกง" เป็นแบบนี้กีฬาจบคนเลยไม่จบไงคะ พี่เมก้ามีตัวอย่างการโกงในงานกีฬาสีมาฝากน้องๆด้วยค่ะ แต่ละรูปแบบที่โกงเรียกดราม่าได้ทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการขโมยท่าเต้น ก็อปท่อนร้องเชียร์ ลอกเลียนชุด ดัดแปลงคอนเซปต์สแตนด์เชียร์ เล่นสกปรกในการแข่งกีฬา และที่ร้ายแรงคือโกงเงินห้อง ช่างทำกันได้!
บางทีเห็นว่าน้องยังซ้อมไม่เต็มที่ ร้องเพลงเชียร์ไม่ได้ หรือเสียงเบาไปก็กลัวจะแพ้สีอื่น เลยต้องมีวิธีกระตุ้นด้วยการเรียกดราม่าชวนทะเลาะหรือตวาดเสียงดัง ซึ่งบางทีรุ่นน้องก็เหมือนคลื่นใต้น้ำที่รอวันระเบิดนะคะ ถ้าโดนบังคับหรือระบายอารมณ์ใส่มากๆก็ต้องมีโต้กลับบ้างแหละ
7. ดราม่ากับพ่อแม่
ช่วงกีฬาสีโดยเฉพาะใกล้ถึงวันงาน เป็นเวลาเข้ากะดึกค่ะ น้องบางคนกลับบ้านเย็นย่ำค่ำมืด บางคนถึงขั้นนอนค้างที่โรงเรียนไม่กลับบ้านกลับช่องก็มีกันมาแล้ว ทุ่มเทมากๆ พี่เมก้าอยากบอกว่าเพื่อนอยู่ข้างเราแต่พ่อแม่ไม่เข้าใจนะคะ กลับบ้านไปยังมีดราม่าต่อ "แม่ถามหน่อย กับเรื่องเรียนตั้งใจแบบนี้มั้ย? มีเวลาทำการบ้าน อ่านหนังสือรึเปล่า" เรียกได้ว่าเหนื่อยจากกิจกรรมแล้วยังต้องมานั่งหูชาเพราะโดนพ่อกับแม่อบรมอีก
8. ดราม่าอุบัติเหตุ
"หากว่านายเจ็บ ฉันก็เจ็บ เพื่อนเจ็บ ฉันก็เจ็บเหมือนกัน" งานเพลงต้องมา เพลงบอกอายุสุดๆ ฮ่าๆ จากงานกีฬาสีสนุกๆ ถ้ามีเพื่อนได้รับบาดเจ็บระหว่างแข่งขัน เรื่องดราม่าจะตามมาทันทีค่ะ ถ้าพลาดเจ็บตัวเองอาจจะแค่น้ำตาคลอ แต่ถ้ามีใครมาทำเพื่อนเราเจ็บโดยเฉพาะสีคู่ตรงข้ามละก็ ได้เห็นดีกันแน่!
9. ดราม่าเรื่องการโกง
เราต้องคว้าแชมป์! งานกีฬาสีแข่งขันกัน ซ้อมกันเอาเป็นเอาตาย แต่พอชนะกลับโดนตราหน้าว่า "โกง" เป็นแบบนี้กีฬาจบคนเลยไม่จบไงคะ พี่เมก้ามีตัวอย่างการโกงในงานกีฬาสีมาฝากน้องๆด้วยค่ะ แต่ละรูปแบบที่โกงเรียกดราม่าได้ทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการขโมยท่าเต้น ก็อปท่อนร้องเชียร์ ลอกเลียนชุด ดัดแปลงคอนเซปต์สแตนด์เชียร์ เล่นสกปรกในการแข่งกีฬา และที่ร้ายแรงคือโกงเงินห้อง ช่างทำกันได้!
10. ดราม่าคณะสี
เรื่องนี้มียาว ดราม่าคณะสีมีมาทุกยุคสมัยค่ะน้องๆ สีนี้เป็นพันธมิตรกับสีนี้ สีนี้เป็นศัตรูกับสีนี้ ปลูกฝังกันมาตั้งแต่รุ่นพี่ปีสูงยันรุ่นน้อง ความแตกแยกก็ตามมาจนหลายคนถึงขั้นตั้งคำถามว่า "กีฬาสีสร้างความสามัคคีจริงหรือ" พี่เมก้าขอตอบว่า "กีฬาสีสร้างความสามัคคีจริง" อาจจะยังไม่ชัดทุกโรงเรียน แต่อย่างน้อยทุกคนทุกฝ่ายที่มีส่วนร่วมในงานก็รักคณะสีของตัวเอง แล้วสุดท้ายเมื่องานจบลงน้องก็จะเห็นคุณค่าของสิ่งที่ทำเองค่ะ
ดราม่าในงานกีฬาสีอีกเรื่องหนึ่งที่พี่เมก้าไม่ได้พูดถึงก็คือดราม่าเรื่องเพื่อนเนี่ยล่ะค่ะ ทุกงานต้องมีผิดใจกัน ไม่เข้าใจกันตลอดๆ อยากให้มองในแง่ดีว่ากีฬาสีเป็นเพียงกิจกรรมหนึ่งที่จัดขึ้นเพื่อความสนุกสนาน เรื่องดราม่ากีฬาสีอาจทำให้น้องๆเสียน้ำตาเสียอารมณ์กันไปบ้าง แต่หลายคนบอกเลยนะคะว่านี่แหละจะทำให้เราโตขึ้น
เพราะกีฬาสีให้อะไรกับเราหลายๆอย่าง ทั้งการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า การรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย ที่สำคัญคือสอนให้เราเปิดใจ เรียนรู้ที่จะเข้าใจ และยอมรับความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ต่อไปนี้น้องๆก็มาสนุกกับฤดูกาลกีฬาสีให้ครึกครื้นกันไปเลยนะคะ
เรื่องนี้มียาว ดราม่าคณะสีมีมาทุกยุคสมัยค่ะน้องๆ สีนี้เป็นพันธมิตรกับสีนี้ สีนี้เป็นศัตรูกับสีนี้ ปลูกฝังกันมาตั้งแต่รุ่นพี่ปีสูงยันรุ่นน้อง ความแตกแยกก็ตามมาจนหลายคนถึงขั้นตั้งคำถามว่า "กีฬาสีสร้างความสามัคคีจริงหรือ" พี่เมก้าขอตอบว่า "กีฬาสีสร้างความสามัคคีจริง" อาจจะยังไม่ชัดทุกโรงเรียน แต่อย่างน้อยทุกคนทุกฝ่ายที่มีส่วนร่วมในงานก็รักคณะสีของตัวเอง แล้วสุดท้ายเมื่องานจบลงน้องก็จะเห็นคุณค่าของสิ่งที่ทำเองค่ะ
ดราม่าในงานกีฬาสีอีกเรื่องหนึ่งที่พี่เมก้าไม่ได้พูดถึงก็คือดราม่าเรื่องเพื่อนเนี่ยล่ะค่ะ ทุกงานต้องมีผิดใจกัน ไม่เข้าใจกันตลอดๆ อยากให้มองในแง่ดีว่ากีฬาสีเป็นเพียงกิจกรรมหนึ่งที่จัดขึ้นเพื่อความสนุกสนาน เรื่องดราม่ากีฬาสีอาจทำให้น้องๆเสียน้ำตาเสียอารมณ์กันไปบ้าง แต่หลายคนบอกเลยนะคะว่านี่แหละจะทำให้เราโตขึ้น
เพราะกีฬาสีให้อะไรกับเราหลายๆอย่าง ทั้งการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า การรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย ที่สำคัญคือสอนให้เราเปิดใจ เรียนรู้ที่จะเข้าใจ และยอมรับความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ต่อไปนี้น้องๆก็มาสนุกกับฤดูกาลกีฬาสีให้ครึกครื้นกันไปเลยนะคะ
62 ความคิดเห็น
เราโดนข้อ 4 ตอนเรียนอยู่ม.ปลาย
เรากับคนอื่นๆที่ไม่มีหน้าที่อะไรก็อยากจะกลับบ้านอยู่แล้ว
ต้องพยายามหลบเลี่ยงไปอยู่ห้องสมุดและเขียนใบขออนุญาตอ้างว่าไปทำธุระ
แต่โดนทางโรงเรียนกักตัวไม่ให้กลับบ้านต้องอยู่ในโรงเรียนจนถึง 4 โมงเย็นถึงจะปล่อย
อาจารย์บางคนหาว่าเราเห็นแก่ตัว ไม่ช่วยเพื่อน ไม่ทำตัวสมกับเป็นรุ่นพี่
พ่อแม่ทุกคนคงไม่อยากให้ลูกของตัวเองกลับบ้านดึกๆอยู่แล้วใช่เหรอเปล่าล่ะ
ตอนอนุบาล 3 จนถึงม.3 โรงเรียนเรียกประชุมเชียร์กีฬาสีเฉพาะช่วงตอนพักกลางวัน
และโรงเรียนที่เราเรียนตั้งแต่อนุบาล 3 จนถึงม.3 จัดแข่งกีฬาสีเพียงแค่ 1-3 วัน
(ตอนอนุบาลกับประถมมีแข่งแค่วันเดียว ส่วนตอนม.ต้นมีแข่งกีฬาแค่ 3 วัน)
แต่โรงเรียนที่เราเรียนตอนม.ปลาย อย่าพูดถึงเลยค่ะ
เชื่อว่าพวกน้องๆกำลังเจอปัญหาแบบนี้เหมือนกับเราสมัยยังเรียนอยู่ม.ปลาย
เรามีปัญหาน้องๆเขาไม่ช่วยร้องกันค่ะ เรากับเพื่อนก็ต้องมานั่งแหกปากร้องอะค่ะ แล้วคือเราเห็นน้องที่นั่งสแตนชั้นที่ 2 ตรงหน้าเรา (เราซึ่งอยู่ชั้น 3 สแตนมี 3 ชั้น ) เขาไม่ร้องเพลง เราก็บ่นน้องเขาว่า 'ทำไมไม่ช่วยร้อง?' น้องเขาก็ยังเมินค่ะ ปีนี้เลยตัดสินใจเป็นสตาฟนำร้องเพลงเลยค่ะ จะได้คุมพฤติกรรมเด็กๆพวกนี้หน่อย
ของเราก็ดราม่าหนัก มันเป็นช่วงที่ได้เพื่อนใหม่ ช่วงที่รู้นิสัยใจคอธาตุแท้เลย ทุกคนมีหน้าที่ของตัวเอง มันจะไม่เกิดเรื่องถ้าแบ่งงานกันได้ ไม่ก้าวก่ายงานกัน และทำงานตรงนั้นให้จบ ดราม่าโกงเงินก็มี งบสีเราต้องได้ แต่สุดท้ายพวกเราก็ควักเงินกันเอง ครูให้เงินมาให้พวกเราซื้อข้าว แต่อีกกลุ่มเอาเงินไปซื้อขนมกินกันเอง งานจบเรื่องมันไม่จบ มันกลายเป็นเรื่องบาดหมางเล็กๆในใจกันเลยก็ว่าได้ แต่ก่อนห้องรวมกันนะ แต่หลังกีฬาสีหลังจบปีนั้นทั้งห้องแบ่งเป็นฝ่ายๆกันไปเลย
ปีตอนเรา ม.5 มีดราม่า เรื่อง สีแดงกล่าวหาว่าสีฟ้า(สีเรา)เล่นของ คือ ตอนนั้นเป็นประเด็นหนักมาก กล่าวหากันลอยว่า สีเราเล่นของใส่สีต่างๆ เพราะ สีเราจะมีประธานสีเป็นคนที่ชอบของเก่าๆแบบล้านนา คือมีอะไรเกิดอุบัติหตุกับสีเขานิดหน่อย เอาล่ะมาหาเรื่องด่าโน่นนี่นั่น แล้วบังเอิญนักวิ่งสีม่วงไปประสบอุบัติเหตุก่อนงานจริงประมาณ2-3สัปดาห์ได้มั้ง สีแดงก็ดหมไฟข่าวลือใหญ่ ยิ่งวันจริงคือ นักวิ่งของสีแดง(ที่แทบจะไม่ซ้อมเลยเวลาแดดออก) ดันมีคิววิ่งตอินแดดตอนเที่ยงทีนี้ก็ร่า่งกายเคยชินแต่เวลาวิ่งในร่มๆก็เป็นลมสิ แล้วยัง สใส่เกือกมาเป็นลมหน้าซุ้มแสตยสีเราอีก -*- พอตอนแข่งสแตน1สีได้เวลาคนล่ะ5นาทีสีเราก็ร้องๆไปแปรอักษรไป ปรากฏว่าสีแดงสาดน้ำหนึ่งกระติกมาใส่สีเราขณะที่กำลังแข่งจนต้องชะงัก คือ เล่นสกปรกมาก ทำแบบนีไ้ด้ไง สุดท้ายตอนจบงานปิดสีเราก็บอกน้องๆบอกทุกคนว่าอย่าไปสนใจงานปิดเขาเปิดเพลงเต้นกันสนุกสนานมีแต่สาีแดงที่ไม่สนุก ตอนที่สีแดงปล่อยข่าวสีเราก็พยายามอยู่เฉยๆ ไม่พูดไม่จา ไม่แก้ตัวปล่อยเขาไป เพราะ คนที่จะถูกมองไม่ดีก็คือตัวเขาเอง พอจบปุป๊ สีแดงโดนครูทุกคนด่ายับเยิน หลักคือเรื่องปล่อยข่าวแล้วก็กล่าวเรื่องสีเราเล่นของนี่แหละ ทั้งๆที่สีแดงส่วนใหญ่คือ ห้องสาย วิย์-คณิต ส่วนพวกเราก็อยู่แบบเริ่ดๆไปสิ 555
แต่รร.เราแบบ คือไม่ได้ว่าอะไรนะ เรื่องงบ รร.เราไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่ แต่นี่แบบ ปีนี้พี่ม.ปลายบังคับเป็นพาเหรด แบบไม่เวิร์คอ่ะ คือไม่ได้อยากเดินเลยเว้ย สีเราสีเดียวที่ให้เด็กประถมเดินกับมัธยม สีอื่นให้แต่เด็กประถม เหมือนแบบอยากให้สีเด่นๆ มีคนเดินเยอะกว่าสีอื่น พอขอออกก็ไม่ให้ออก บอกไม่มีเหตุผล แล้วก็บ่นๆๆ เรียนก็ไม่ได้เรียน คือไม่ได้ชอบเรียนเท่าไหร่ แต่ไม่ชอบที่พวกพี่บ่นแบบนี้ อยู่ใกล้ๆก็ตะโกนบ่นยังกะยาย โครตน่าเบื่อ ปีนี้รร.เราไม่ดีเลย พี่พวกนี้เหมือนแบบไม่มีความเป็นโปรเลยอ่ะ ตะโกนใส่หน้าเด็ก ไม่ให้เด็กกลับบ้าน คือแบบ สีอื่นมันก็ปล่อยกลับปะ เลิกแล้ว ไม่ได้บอกก่อนด้วยว่าจะเลท วันซ้อมช่วงแรกก็ซ้อมแบบเอื่อยๆ พอใกล้จะถึงงานก็มาบ่น อะไรวะ..สีอื่นก็แบบ ขอออกให้ออก ไม่แฟร์เลยอ่ะ พี่พวกนี้ใช้แต่อารมณ์ ไม่เคยคิดถึงใจเด็กเลย คือเรียนก็มีปะ รู้ว่าอยากให้ออกมาดีๆ แต่พูดดีๆไม่เป็น? คิดว่าเป็นเด็กแล้วไม่รู้อะไรเลยอ่อ? อยากชนะจนต้องบังคับคนอื่นเลยหรือไง? #เหมือนออกมาบ่น
ข้อ9อ่ะสิพอสีชนะเพื่อนบอกว่า"ไอโกงไม่ต้องมายุ่ง"(เราไม่ได้เล่นอะไรเลย)
เหยยยยย เรื่องดราม่าของโรงเรียนเรามีไม่กี่เรื่องเองนะ55555 เราว่ามันสนุกนะ มีกีฬาสีก็มีการซ้อมไม่ว่าจะแข่งอะไร ตอนที่ซ้อมอ่ะก็เหนื่อย เหนื่อยมากๆกลับบ้านเย็นมากกเกือบ6โมง แต่เราก็อยากซ้อม เพราะอยากชนะ ไม่รู้สิ รู้สึกแค่อยากแสดงให้ทุกคนเห็นว่าสีเราก็มีศักยภาพเหมือนกันนะแกร5555555 แต่ก็จะมีปัญหาเฉพาะคนที่ไม่ยอมมาซ้อมเนี่ยแหละ เอาจริงๆอยากบอกจากใจจริงว่าเนี่ยคือเห็นแก่ตัว ไม่โอเคกับการกระทำแบบนี้นะฮ้า ถึงจะไม่อยากลงก็ไม่ควรหนีแบบนี้นะเห้ย
(ขอกล่าวถึงเพื่อนคนนึงนะคะ) คือแบบ ไม่ใช่แค่เพื่อนคนนึงหรอกแต่หลายคนเลยล่ะ ประมานว่า แก๊งพวกนี้เด็กเรียนก็ไม่ใช่ กิจกรรมก็ทำเฉพาะที่อยากทำ ไม่ใส่ใจอะไรเลย มาเรียนหรือมาแรดก็ไม่รู้ แต่ถ้าถามถึงนิสัยก็เป็นคนดีนะ ร่าเริง ชอบแหกปาก เราชอบนิสัยแต่ไม่ชอบพฤติกรรมนางๆอ่ะ ขนาดวันที่ต้องมาซ้อมนางก็ไม่เคยมา พี่สตาฟก็ด่าๆๆๆแต่พี่เค้าไม่ได้ด่าคนมาซ้อม ด่าคนที่มันไม่มานั่นแหละแต่เราเนี่ยต้องมานั่งฟัง แล้วมีพี่สตาฟคนนึงก็บอกว่า "น้องรู้รึเปล่าคะว่าเพื่อนน้องที่ชื่อ___มันไม่มาซ้อมแต่มันไปไหน?" ไอเราก็ไม่รู้ก็นั่งฟังอย่างเดียว เพราะแก๊งนี้พอเลิกเรียนเสร็จก็แอบกลับบ้านไปก่อนเลย หรือถ้าประตูยังไม่เปิดก็แอบไปหลบอยู่ห้องสมุดบ้างล่ะ "เมื่อวานพี่เห็นมันนั่งซ้อนท้ายผู้ชายอยู่ค่ะ เอาเวลาไปแรด แต่ไม่มาซ้อม..."แล้วก็บลาๆๆ ซึ่งเราก็เพิ่งรู้ว่ามันเป็นแบบนี้ ก็นะ มันทำให้เรารู้สึกว่าที่พี่เขาทุ่มเทให้เขาตั้งใจ เราก็ไม่ควรทิ้งความตั้งใจนั้น จนกว่าจะแข่งเสร็จเนอะ สู้ๆกันดีกว่าทั้งเรื่องเรียนและกีฬาสี555555