ไม่ต้องอ่านหนัก! รวม 10 สูตรเด็ดที่แค่ทำในห้องเรียนก็ได้คะแนนเต็ม


          ใครก็รู้ว่าการตั้งใจเรียนในห้องเป็นสิ่งที่ควรทำที่สุด แต่หลายคนกลับไม่ใช้เวลาตรงนี้ให้คุ้มค่า หลายคนโทษว่าอาจารย์สอนน่าเบื่อ หลายคนโทษว่าบรรยากาศไม่น่าเรียน แต่หลายคนกลับลืมย้อนมามองตัวเอง ว่าตั้งใจเรียนในห้องมากแค่ไหน

          วันนี้พี่อีฟก็เลยมาพร้อม
 10 สูตรเด็ดที่แค่ทำในห้องเรียนก็ได้คะแนนเต็ม หลายคนอาจจะมองข้ามไป หลายคนอาจจะแค่คิด แต่ไม่เคยลงมือทำ บอกเลยว่าเคล็ดลับเหล่านี้ เป็นเคล็ดลับที่พี่อีฟรวบรวมจากรุ่นพี่ที่ประสบความสำเร็จมากมาย และยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า การตั้งใจเรียนในห้องนั้นดีที่สุด! ทำตามเมื่อไหร่ รับรองว่าเกรด 4 เป็นของเราแน่นอน ไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ ว่ามีอะไรบ้าง
 

           เข้าเรียนทุกครั้ง
          เรียกได้ว่าง่ายยิ่งกว่าง่ายอีกนะคะ สำหรับข้อแรก เพราะแค่เราเข้าเรียนทุกคาบ อาจารย์ก็จะมองเราว่าเป็นคนมีความรับผิดชอบแล้วค่ะ ยิ่งถ้าเป็นวิชาที่เช็กชื่อแล้ว ยังไงก็มีคะแนนเข้าห้องชัวร์ๆ ค่ะ นอกจากนั้น หลายโรงเรียนยังประเมินผลการมีหรือไม่มีสิทธิ์สอบของนักเรียนจากการเข้าเรียนในห้องเรียนด้วย นี่แค่เริ่มก้าวเข้าห้องเรียนนะคะ คะแนนเต็มก็ลอยมาแล้วค่ะ เริ่มต้นก็ง่ายขนาดนี้แล้ว เลิกนิสัยขาดเรียนบ่อยๆ ดีกว่าค่ะ

          • ตามองกระดาน มองคุณครู
          ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อนะคะ ว่าวิธีง่ายๆ แค่นี้ จะทำให้เราอาจจะได้คะแนนเต็มก็ได้ วิธีนี้เป็นวิธีที่คุณครูพี่อีฟยืนยันมาเองเลยนะคะ ว่าใครที่ตั้งใจมองกระดาน มองหน้าคุณครู ขณะที่สอน เป็นสิ่งที่แสดงถึงความตั้งใจเรียน แม้ตอนนั้นใจอาจลอยไปที่อื่น แต่ถ้าคุณครูเห็นเราสบตา ตั้งใจมองกระดาน ตอนนั้นคุณครูคงจะรู้สึกว่า เราสนใจการเรียนที่สุด ส่วนใครที่กลัวว่า การสบตาคุณครู อาจนำไปสู่การเรียกตอบคำถาม บอกไว้ได้เลยค่ะ ว่าจริงๆ แล้วคุณครูจะเรียกแค่คนที่ไม่สนใจเรียนเท่านั้น หรือถ้าคุณครูเรียกเราจริงๆ ถ้าตั้งใจเรียน ก็ต้องตอบได้กันใช่ไหมคะ :)
 

          • หนังสือเรียนเตรียมพร้อมบนโต๊ะ
          หลายคนที่ตั้งใจเองหรือชอบลืมเอาหนังสือเรียนมาเรียน พี่อีฟขอให้เปลี่ยนนิสัยนี้ด่วนๆ ค่ะ เพราะการที่เรามีหนังสือเรียนทุกคาบ และหยิบหนังสือขึ้นมาวางบนโต๊ะ นอกจากจะทำให้เราใส่ใจกับเนื้อหาในหนังสือด้วยตัวเองมากขึ้นแล้ว ทุกครั้งของการเรียน เราจะได้รู้ว่าคุณครูสอนถึงเรื่องไหน คุณครูพูดอะไรเพิ่มเติมจากในหนังสือบ้าง และจะทำให้คุณครูมองเห็นว่าเราใส่ใจและมีความรับผิดชอบด้วยค่ะ นอกจากนั้นพี่อีฟแอบบอกเลยว่าคุณครูหลายท่าน อาจจะหักคะแนนเราจากการลืมเอาหนังสือมาก็ได้นะคะ เพราะแสดงถึงความไม่รับผิดชอบได้ค่ะ ดังนั้นอย่าพลาดคะแนนเพราะเรื่องเล็กน้อยแค่นี้เลยนะคะ

          • เปลี่ยนบรรยากาศมานั่งหน้าห้อง
          อีกหนึ่งเคล็ดลับที่หลายคนรู้ แต่มองข้ามไป เพราะการนั่งหน้าห้องเป็นสิ่งที่นักเรียนส่วนใหญ่ขยาดกัน ถ้าเข้ามาถึงห้องคนแรก ที่แรกที่น้องๆ ส่วนใหญ่จะเลือกนั่งกลับเป็นหลังห้อง จริงๆ แล้วไม่ว่าจะนั่งหน้าห้องหรือหลังห้อง ถ้าเราจะแอบไม่ตั้งใจเรียน คุณครูที่ยืนอยู่หน้าห้อง ก็เห็นทั้งหมดอยู่ดีค่ะ ดังนั้น ใครที่เคยนั่งหลังห้องประจำ ลองเปลี่ยนบรรยากาศย้ายมาหน้าห้องบ้างค่ะ นอกจากอาจจะฟังที่คุณครูสอนเข้าใจมากขึ้น ก็ยังได้ยินเสียงครูชัดเจนขึ้น มองกระดานชัดแจ๋วขึ้น รวมไปถึงผลการเรียนก็อาจจะพุ่งกระฉูดมากขึ้นด้วยค่ะ!

         
• จดความรู้ที่ครูพูดทุกอย่าง
          หลายครั้งสิ่งที่คุณครูสอนไม่มีเขียนไว้ในหนังสือ เพราะครูอาจถ่ายทอดสิ่งต่างๆ จากประสบการณ์ที่สั่งสมมา หรือเป็นข้อมูลที่คุณครูเรียบเรียงมาให้เราแล้ว หรือแม้กระทั่งแอบเน้นย้ำข้อสอบให้เราโดยที่เราเองไม่รู้ตัว (อ่านเพิ่มได้ที่ 10 ประโยคเด็ดบอกใบ้จากคุณครู! ว่านี่แหละ ออกสอบแน่ ) นักเรียนหลายคนที่ชอบโดดเรียน เพราะคิดว่าอ่านเองที่บ้านก็ได้ หรือคิดว่าไปเรียนเพิ่มก็ได้ พี่อีฟขอบอกเลยค่ะว่า ยิ่งเราได้รับความรู้จากหลากหลายทางมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นประโยชน์กับตัวเราเท่านั้น และข้อสอบในโรงเรียน คุณครูเราก็เป็นคนออกข้อสอบเอง ดังนั้น ตั้งใจฟังคุณครูตั้งแต่ในห้องเรียนดีกว่าค่ะ
 

          • งดสิ่งรอบตัวที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเรียน
          สิ่งรอบตัวที่พี่อีฟหมายถึงนี้ รวมไว้ทุกอย่างเลยนะคะตั้งแต่ สมาร์ทโฟน อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ หนังสือนิยาย การ์ตูน รวมไปถึงเพื่อนๆ ที่ไม่ตั้งใจเรียนด้วยค่ะ เพราะเพื่อนบางกลุ่มมักจะชวนเราคุยเวลาเรียน ชอบเล่าเรื่องต่างๆ รวมไปถึงส่งเสียงดังรบกวนสมาธิของเราด้วย ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่ากว่า 40% ที่พี่อีฟสอบถามน้องๆ ที่เรียนไม่รู้เรื่อง บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเพราะเพื่อนๆ ชวนคุยในห้องเรียน! ดังนั้นใครที่มีเพื่อนประเภทนี้ ก็บอกเพื่อนๆ ว่า ของดคุยกันตอนเรียนดีกว่า เก็บไว้คุยเวลาพักดีกว่าค่ะ สนุกกว่าเยอะ 

          • แยกเล่มสมุดจด
          ยกมือสารภาพมาเลยดีกว่าว่าใครจดทุกอย่างรวมกันในสมุดเดียวบ้าง ไม่ควรทำอย่างยิ่งค่ะ! นอกจากจะทำให้เราสับสนเมื่อกลับมาอ่าน ไม่รู้ว่าวิชาไหนเป็นวิชาไหน และการเรียนแต่ละวิชาก็จะมีความต่อเนื่องกันในบทนั้นๆ ด้วยค่ะ เช่น ถ้าตัวอย่างของโจทย์เลขวันนี้ที่ต้องต่อกับทฤษฎีบทสัปดาห์ที่แล้ว อยู่ห่างกันไป 10 หน้า พี่อีฟรับรองได้เลยว่าเรียนยังไงก็ไม่เข้าใจแน่นอน ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดที่พี่ๆ หลายคนแนะนำมา ก็คือ ถ้าวิชาไหนไม่ต้องส่งสมุด ก็อาจจะจดใส่สมุดเล่มเล็ก เพื่อประหยัดพื้นที่พกพาในกระเป๋าก็ได้ค่ะ หรือถ้าวิชาไหนต้องส่งสมุด ก็จดเฉพาะใจความสำคัญก็ได้ค่ะ จดนะคะ ไม่ใช่ลอกทั้งหมดค่ะ :)
 

          • คิดเรื่องเรียน
          มานั่งอยู่ในห้องเรียนแล้วทั้งที ถ้าคิดเรื่องอื่นก็คงไม่ได้ประโยชน์อะไรใช่ไหมคะ วิธีที่ง่ายที่สุด แต่น้องๆ ชอบมองข้ามที่สุด ก็คือการจดจ่ออยู่กับเรื่องที่เรียน หลายคนที่เจอปัญหารถติดตอนเช้า ปัญหาเรื่องรักในใจ ฯลฯ ให้วางไว้ก่อนเข้าห้องเรียนนะคะ ถ้าอยู่ในห้องเรียนแล้ว ก็ไม่ควรเหม่อลอย ควรมีสมาธิกับเรื่องที่เรียน และตั้งใจกับการเรียนที่อยู่ตรงหน้าค่ะ ถ้าเราตั้งใจเรียน เก็บครบทุกอย่างที่ครูพูดในคาบแล้ว บอกเลยว่าแทบจะไม่ต้องเสียเวลาอ่านเพิ่มเติมค่ะ

          • ถามทันทีที่สงสัย
          อีกหนึ่งประโยชน์ของการเข้าห้องเรียนและตั้งใจเรียนในห้องที่พี่ๆ หลายคนบอกว่า มันดีกว่าการที่เราอ่านเองอีก ก็คือ เราสามารถสอบถามคุณครูได้ทุกครั้งเวลาที่ไม่เข้าใจ น้องๆ หลายคนคงเคยท้อใจ และหยุดอ่าน หยุดทำโจทย์ เวลาที่เราพบว่าเราทำไม่ได้ เราไม่เข้าใจ ซึ่งปัญหานี้จะหมดไปค่ะ ถ้าเราตั้งใจเรียนในห้อง และถามคุณครูเมื่อถึงจุดที่ไม่เข้าใจ บอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องน่าอายหรือเรื่องที่ผิดนะคะ ถ้าเราไม่เข้าใจแล้วถาม แต่พี่อีฟว่าการที่เราไม่เข้าใจ แล้วเก็บความไม่เข้าใจนั้นไว้ตลอดไป คงแย่กว่าค่ะ :)

          • เรียนวิชาไหน ทำงานวิชานั้น
          เป็นข้อสุดท้ายที่มีให้เห็นทุกยุคทุกสมัยเลยค่ะ ที่น้องๆ หลายคน ชอบเอางานวิชาอื่นขึ้นมาทำในเวลาเรียนวิชาอื่น ซึ่งข้ออ้างยอดนิยมก็คือทำไม่เสร็จ ทำไม่ทัน งานเยอะเกินไป แต่รู้ไหมคะ ว่าการเอางานอื่นขึ้นมาทำนั้น นอกจากทำให้เราเรียนไม่รู้เรื่องในวิชานั้นแล้ว บางทีงานที่เอาขึ้นมาทำก็ไม่ได้เสร็จค่ะ เผลอๆ คุณครูในวิชานั้นยึดงานเราอีกต่างหาก เพราะถือว่าการเอางานวิชาอื่นขึ้นมาทำในห้องเรียนเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำค่ะ เป็นการไม่ให้เกียรติครูผู้สอน ดังนั้น ถ้าเป็นการบ้าน ก็ควรจะทำให้เสร็จตั้งแต่ที่บ้านนะคะ หรือถ้าไม่ทันจริงๆ เวลาพักก็ยังมีเวลาทำค่ะ
 

          เป็นยังไงกันบ้างคะ พี่อีฟมั่นใจมากเลยนะคะว่า 10 ข้อนี้ เป็น 10 ข้อที่น้องๆ หลายคนก็รู้อยู่แล้ว แต่มักจะมองข้ามไป ลองเริ่มต้นใหม่ตั้งแต่วันนี้กันดูนะคะ ปรับวันละข้อก็ได้ค่ะ แค่ตั้งใจเรียนในห้องเรียน น่าจะไม่ยากเกินความสามารถของน้องๆ ใช่ไหมคะ ใครไปปรับใช้แล้วเกรดดีขึ้นทันตาเห็น มาแชร์ให้พี่อีฟแล้วก็เพื่อนรู้ด้วยนะคะ :)
 
พี่อีฟ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

7 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
Little Jennie Member 9 ก.พ. 59 21:50 น. 2

ปกติหนูก็ใช้วิธีคล้ายๆแบบนี้นะคะ แต่ไม่ครบทุกข้อหรอก ทำแล้วได้ผลจริงๆ ขอบคุณสำหรับเคล็ดลับนะคะ จะลองนำไปใช้ทั้งหมดเยยยยยรักเลยรักเลยว้าย

0
กำลังโหลด
kanyarat attano 10 ก.พ. 59 16:29 น. 3
เรียนวิชาไหนทำงานวิชานั้น......ถ้าครูสั่งงานทุกวิชา คงมีการบ้านทุกวิชาค่ะ เพราะยังไงก็ไม่มีทางเสร็จในชั่วโมง เยี่ยม
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากเว็บไซต์ Dek-D.com ขอสงวนสิทธิ์ในการงด โพสต์ข้อความซื้อ/ขาย/แลกเปลี่ยน/โฆษณา สินค้าทุกชนิดในเว็บบอร์ด เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้ใช้งานท่านอื่น

กำลังโหลด
fammy123 Member 27 มี.ค. 59 16:49 น. 6
ขอโทษนะค้า ขอถามหน่อยย รร. เราให้นั่งเรียนบนพื้นง่ะ จัดโต๊ะไว้ข้างๆ เวลา เอาสมุดไปจด ก็เบียดเพื่อน ควรทำยังไงดีค้า
0
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากมีเนื้อหาไม่เหมาะสม

กำลังโหลด
กำลังโหลด