สวัสดีค่ะ หลายโรงเรียนปิดเทอมแล้ว เป็นช่วงเวลาที่ดีของการอยู่บ้านอ่านหนังสือนะคะ แต่น่าแปลกที่ยิ่งมีเวลามากแค่ไหน น้องๆ หลายคนก็ยิ่งขี้เกียจค่ะ บางคนไม่ชอบอ่าน แต่บางคนก็รู้สึกไม่อยากอ่าน ถ้าใครกำลังมีพฤติกรรมแบบนี้ต้องรีบปรับด่วนเลยค่ะ เพราะการอ่านในช่วงนี้สำคัญมากจริงๆ
ใครที่ยังเป็นคู่ปรับกันกับการอ่านหนังสืออยู่ วันนี้พี่อีฟก็เลยขอรวม 6 เทคนิคง่ายๆ ฝึกนิสัยให้สนุกกับการอ่าน มาให้น้องๆ ลองฝึกกัน จะมีอะไรบ้าง เราไปดูกันเลยค่ะ
.jpg)
1.พกหนังสือติดตัว
เริ่มต้นง่ายๆ เลย ด้วยการเลือกหนังสือที่เราสนใจมาหนึ่งเล่ม แล้วพกมันไปด้วยทุกที่ค่ะ หลายครั้งที่เราใช้ข้ออ้างว่าไม่มีเวลาในการอ่านหนังสือ แต่ถ้าเราพกหนังสือติดตัวไว้ เวลาที่เรามีเวลาว่างเมื่อไหร่ ก็หยิบขึ้นมาอ่านได้ตลอด
สมมติว่าเป็นหนังสือเรียน ยิ่งถ้าเป็นช่วงใกล้สอบแล้ว แค่หยิบมาอ่านวันละนิดละหน่อย เดี๋ยวก็จบเล่มค่ะ ดังนั้น ใครที่เคยหยิบมือถือขึ้นมาเล่นบนรถไฟฟ้า ลองเปลี่ยนเป็นหยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน พี่อีฟเชื่อว่าเวลา 5-20 นาที ในการเดินทางของเรา อาจจะทำให้เราอ่านหนังสือจบเล่มไปแบบไม่รู้ตัวเลย
2.ค้นคว้าสิ่งสนใจเพิ่มเติมจากหนังสือ
อีกหนึ่งวิธีที่เราจะอ่านหนังสือให้สนุก คือ อย่ารู้แค่เรื่องในหนังสือ เพราะยิ่งเรารู้นอกเหนือจากในหนังสือมากเท่าไหร่ก็ยิ่งสนุกมากเท่านั้นค่ะ เช่น ถ้าเราอ่านหนังสือ แล้วเจอชื่อบุคคลสำคัญ นอกจากจะรู้ว่าคนๆ นั้นทำอะไร เรายังไปค้นคว้าเพิ่มเติมได้อีกว่าประวัติของคนนั้นเป็นยังไง เรื่องราวในชีวิตน่าสนใจแค่ไหน หรือ ถ้าเราอ่านไปเจอชื่อพืชที่ไม่รู้จัก ก็ค้นคว้าเพิ่มเติมได้ว่าพืชนี้หน้าตาเป็นยังไง ฯลฯ ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่พี่อีฟแนะนำมาก เพราะเคยใช้ได้ผลมาแล้ว สนุกแถมไม่น่าเบื่อด้วยค่ะ
3.ให้หนังสือเป็นของขวัญตัวเอง
ใครเคยตั้งเป้าหมายอะไรไว้ แล้วตั้งใจจะให้รางวัลตัวเอง ถ้ายังไม่รู้จะให้อะไร ลองเปลี่ยนมาเป็นให้หนังสือกับตัวเองดูค่ะ อาจจะเริ่มจากหนังสือที่เราสนใจ ใครชอบทำอาหาร ก้ซื้อหนังสือวิธีทำอาหารเป็นของขวัญสักเล่ม หรือใครชอบดูภาพยนตร์ ก็อาจจะหาหนังสือที่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์เรื่องนั้นมาลองอ่านดู แค่นี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการฝึกนิสัยรักการอ่านให้เราได้แล้ว ไม่แน่นะ ถ้ารักการอ่านขึ้นมาจริงๆ เป้าหมายของน้องๆ ก็จะสำเร็จมากขึ้น เพราะอยากได้หนังสืออีกเป็นสิบๆ เล่มเป็นรางวัลนัั่นเอง
4.สร้างบรรยากาศการอ่าน
เดี๋ยวนี้มีหลายกิจกรรมเลยค่ะที่จัดขึ้นเพื่อคนรักหนังสือโดยเฉพาะ เช่น งานสัปดาห์หนังสือฯ, งานเปิดตัวหนังสือ, กิจกรรมแลกเปลี่ยนประสบการณ์การอ่านหนังสือ เป็นต้น แต่ถ้าใครที่ไม่ชอบหนังสือ ลองหาโอกาสไปร่วมงาน หรือไม่ก็แค่ลองไปเดินๆ ผ่านดูบ้าง หรือถ้าใครไม่ชอบกิจกรรมนอกบ้าน ก็ลองสร้างบรรยากาศการอ่านในบ้านของเราเอง เช่น มุมหรือโซนหนังสือ เป็นต้น พี่อีฟมั่นใจว่า ถ้าลองไปเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ หรือลองจัดบรรยากาศในบ้านแล้ว น้องๆ น่าจะหันมาชอบการอ่านหนังสือขึ้นบ้างไม่มากก็น้อยค่ะ
งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 44 ลองเข้าร่วมงานเพื่อสร้างบรรยากาศของการอ่านได้ !
5.ให้การอ่านเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน
ใครที่ไม่ชอบหยิบจับหนังสือขึ้นมาอ่าน ก็เริ่มจากอะไรง่ายๆ เช่น อ่านป้ายระหว่างทาง เมนูอาหาร คู่มือเครื่องใช้ไฟฟ้า ถุงขนมต่างๆ หรือถ้าใครชอบดูทีวี เล่นอินเตอร์เน็ต ก็ลองอ่านจากกิจกรรมที่เราขอบก็ได้ค่ะ เรียกได้ว่า ลองทำสิ่งง่ายๆ รอบตัวเป็นประจำ ทำทุกวัน ก็อาจจะกลายเป็นนิสัยไปโดยไม่รู้ตัวเลยนะคะ
6.หาความชอบนำไปสู่การอ่าน
สุดท้ายแล้วจริงๆ ใครที่ไม่ชอบอ่านเลย ลองสำรวจตัวเองดูก่อนนะคะ ว่าเราชอบอะไรมากที่สุด บางคนชอบเลี้ยงสัตว์ บางคนชอบศิลปะ หรือจะเล่นดนตรี กีฬา แต่งหน้า หรืออะไรก็ได้ ลองนำความชอบเหล่านี้ มาเป็นตัวช่วยให้เราฝึกค้นคว้าหาข้อมูลบ่อยๆ เพราะนอกจากปฏิบัติเราจะเยี่ยม ทฤษฎีหรือเทคนิคเราก็ต้องเป๊ะด้วยนะคะ
ดังนั้น การอ่านจึงเป็นสิ่งสำคัญอีกหนึ่งสิ่งที่จะทำให้เรารู้ลึก รู้จริงในสิ่งที่เราชอบ เรียกว่าได้ทั้งรู้จักสิ่งที่เราชอบแถมยังได้ฝึกนิสัยการอ่านให้สนุกอีกด้วยค่ะ
เป็นยังไงกันบ้างคะ กับเทคนิคฝึกนิสัยการอ่านให้สนุก เริ่มง่ายๆ จากการอ่านสิ่งที่เราชอบ แล้วลองเอาไปปรับใช้กับการอ่านหนังสือเรียนให้สนุกบ้าง ใครมีเทคนิคการอ่านอะไรช่วงปิดเทอมนี้ ลองมาแนะนำให้พี่อีฟและเพื่อนๆ ลองเอาไปใช้กันได้นะคะ จะได้เปิดเทอมมาเป็นคนใหม่ ที่มีความรู้อัดแน่นเพราะการอ่านอย่างสนุกนั่นเอง :D
5 ความคิดเห็น
เพราะว่าพ่อแม่หวงมาก ถ้าไม่มีหนังสือเราคงเก็บกดน่าดูเลย
งานหนังสือเราไปทุกปีนะ ได้ความเหนื่อยมากกว่าได้ความรู้