สวัสดีค่ะ ถึงแม้ช่วงนี้จะเป็นช่วงปิดเทอมของน้องๆ แต่พี่อีฟก็ยังใส่ใจในเรื่องการเรียนของน้องๆ เหมือนเดิมนะคะ ปิดเทอมนี้เลยอยากชวนน้องๆ มาอ่านหนังสือ เตรียมตัวสำหรับเปิดเทอมในชั้นใหม่กันค่ะ แต่อย่าเพิ่งเบือนหน้าหนีกันล่ะ รับประกันว่าไม่น่าเบื่อแน่นอน
บอกแล้วว่าพี่อีฟยังใส่ใจในการเรียนของน้องๆ เสมอ วันนี้พี่อีฟก็เลยมีเคล็ดลับมาฝากค่ะ บอกเลยว่าถ้ามี 7 สิ่งนี้ให้อยู่ใกล้ๆ ตัวเองและใกล้สายตา จะทำให้น้องๆ ตั้งใจอ่านหนังสือมากขึ้นแน่นอน จะมีอะไรบ้าง รีบไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ
• หนังสือ
ข้อนี้ต้องมีแน่นอนอยู่แล้วใช่ไหมคะ เพราะจะอ่านหนังสือทั้งที แต่ไม่มีหนังสือ จะอ่านได้ยังไง น้องๆ คนไหนที่ตั้งใจอ่านหนังสือเต็มที่ ทำตารางอ่านหนังสือมาพร้อม แต่ถามว่าหนังสืออยู่ไหน ยังหาไม่เจอเลย แบบนี้ต้องรีบเปลี่ยนด่วนเลยนะคะ
อย่างแรกเลย ให้น้องๆ คัดเลือกหนังสือ สำรวจหนังสือ ว่าเรามีเล่มไหนบ้าง วิชาอะไรบ้าง หลังจากนั้นให้นำหนังสือมาจัดเรียงให้เป็นระบบ หรือให้มองหาได้ง่าย จะได้เลือกใช้ได้เหมาะสม ไม่เสียเวลาในการหา และสะดวกในการหยิบมาอ่านด้วยค่ะ บอกเลยว่ารุ่นพี่บางคนมีเหตุผลในการเลือกหยิบหนังสือมาอ่าน เพราะตื่นเช้ามาเห็นหนังสือเป็นอย่างแรกค่ะ !
• ตารางอ่านหนังสือ
ถ้าใครยังไม่เคยลองทำ พี่อีฟแนะนำให้น้องๆ ลองทำตารางอ่านหนังสือดูนะคะ ลองวางแผนดูว่า วันนี้จะอ่านช่วงเวลาไหน วันนี้จะอ่านเรื่องอะไร หรือวันนี้จะอ่านเล่มไหน อาจจะวางแผนสั้นๆ เป็นช่วงอาทิตย์ หรือวางแผนยาวๆ เป็นช่วง 1 เดือน หรือ 2 เดือนก็ได้ค่ะ ควรเลือกช่วงเวลาการอ่านที่เรารู้สึกว่าเข้าใจและจำได้ง่าย บางคนชอบช่วงเช้า บางคนชอบกลางคืน ก็แล้วแต่ความสะดวกเลย
หลังจากนั้น ให้วางหรือติดตารางอ่านหนังสือไว้บริเวณโต๊ะ ผนังห้อง หน้ากระจก หรือบริเวณที่มองเห็นได้ง่าย พยายามทำตามตารางอย่างสม่ำเสมอ ถ้าเรามีการวางแผนการอ่านที่ดี ก็จะช่วยให้เรารู้ว่าจะเริ่มต้นอ่านตรงไหน หรือรู้ว่าจะต้องอ่านมากน้อยแค่ไหน บอกเลยว่าถ้าใครเริ่มอ่านอย่างเข้าใจ อาจจะอ่านเพลินจนวางไม่ลงเลยนะคะ
• คำคมโดนใจ
ใครที่เริ่มท้อแท้หรือหมดกำลังใจในการอ่านหนังสือ ให้มองหาแรงบันดาลใจที่จะทำให้เรากลับมาฮึดสู้อีกครั้ง ซึ่งแรงบันดาลใจเหล่านี้อาจจะมาจากบุคคล เพลง หนังสือ หรือคำพูดสั้นๆ ที่เรารู้สึกว่าช่วยให้กำลังใจเราได้เป็นอย่างดี
บางคนอาจจะเลือกหากำลังใจหรือแรงบันดาลใจจากสิ่งภายนอก แต่พี่อีฟบอกได้เลยค่ะ ว่าสิ่งเหล่านี้ เราสามารถสร้างได้ด้วยตัวเอง เช่น บอกตัวเองว่า "เราทำได้","เราจะทำให้คนที่รักเราภูมิใจ","เราจะไม่ยอมแพ้" ฯลฯ คำพูดเหล่านี้นอกจากจะช่วยให้น้องๆ มีแรงกระตุ้นในการอ่านหนังสือแล้ว ถ้าเรามองเห็นทุกวัน ยังช่วยทำให้เรามองโลกในด้านบวกมากขึ้นด้วยค่ะ
• เครื่องเขียนน่ารัก
อาการเดียวกันกับที่เราเห็นเครื่องเขียนน่ารักๆ ในร้านแล้วอยากซื้อมาเลยค่ะ ถ้าเราลองวางเครื่องเขียนน่ารักๆ ไว้ใกล้ตัว เราจะรู้สึกอยากใช้มันขึ้นมาทันที และอีกหนึ่งวิธีดีๆ ที่เราจะได้ใช้ปากกาเมจิก หรือปากกาไฮไลท์ที่เราซื้อมา ก็คือการได้มาเน้นข้อความ หรือเขียน short note ลงบนหนังสือที่เราอ่านใช่ไหมคะ
น้องๆ คนไหนเป็นเหมือนพี่อีฟบ้างไหมคะที่ยิ่งเครื่องเขียนน่ารักเท่าไหร่ จะรู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่ใช้งานเลยค่ะ อยากจะหยิบหรือจับขึ้นมาบ่อยๆ ยิ่งถ้าเพื่อนถามว่าซื้อมาจากไหน ยิ่งมีความสุขค่ะ 55555 ดังนั้น ลองจัดวางเครื่องเขียนบนโต๊ะของเราใหม่ ให้มองเห็นง่าย วางไว้ใกล้ตา พี่อีฟรับรองว่า จะต้องอยากหยิบเครื่องเขียนมาใช้ ไปพร้อมๆ กับการอ่านหนังสือแน่นอนค่ะ
• รูปภาพสร้างแรงบันดาลใจ
จะว่าไปก็คล้ายกับคำคมโดนใจนะคะ จะแตกต่างกันตรงที่ครั้งนี้จัดเต็มกว่าค่ะ เพราะมาเป็นรูปภาพเลย หลายคนอาจจะสงสัยว่าเป็นรูปภาพอะไรได้บ้าง จริงๆ แล้วได้หมดเลยนะคะ ถ้าสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้เราได้ อาจจะเป็นอาชีพในฝัน คณะที่เราชอบ รูปคุณพ่อคุณแม่ หรือรูปโอปป้าที่เราอยากเจอสักครั้ง ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ล้วนสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้เราทั้งสิ้นค่ะ
ถ้าเราได้เห็นรูปภาพเหล่านี้บ่อยๆ จากที่เคยขี้เกียจอ่าน จากที่เคยไม่อยากตั้งใจเรียน อาจจะทำให้เปลี่ยนความคิดไปได้เลย เพราะการพยายามเพื่ออะไรสักอย่าง พี่อีฟว่ามีค่ามากเลยนะคะ และถ้าเรามีจุดมุ่งหมายที่แน่วแน่ตั้งแต่ตอนนี้ เราก็จะสามารถอ่านหนังสือได้เต็มที่และอ่านได้ถูกต้องกับเป้าหมายเราค่ะ
• นาฬิกา
การตั้งนาฬิกาไว้ใกล้ตัวใกล้ตา เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะทำให้เราอยากอ่านหนังสือมากขึ้นค่ะ ยิ่งใครที่ทำตารางอ่านหนังสือมาแล้ว จะรู้ตัวเองเลยว่าเวลาไหนเป็นเวลาที่เราต้องอ่านหนังสือแล้ว เวลาไหนเป็นเวลาที่เราต้องทำโจทย์ โดยเฉพาะคนที่ไม่รู้ว่าตัวเองใช้เวลาไปกับอะไรบ้าง ลองพกนาฬิกาติดตัวดูค่ะ จะช่วยได้เยอะเลย
ถ้าใครวางแผนว่าในแต่ละวัน เราจะอ่านหนังสือกี่เล่ม กี่ชั่วโมง ก็ใช้นาฬิกานี้แหละค่ะในการจับเวลาการอ่าน บางคนตั้งใจจะอ่าน 2 ชั่วโมง แต่ลองจับเวลาจริงๆ อ่านเพลินๆ ได้ 5 ชั่วโมง แบบนี้คงภูมิใจน่าดูเลยใช่ไหมคะ หรือถ้าใครกลัวตัวเองขี้เกียจ ลองมีเป้าหมายว่าจะอ่านกี่ชั่วโมง แล้วจับเวลาแบบถอยหลัง ก็จะช่วยให้เราสามารถเอาชนะใจตัวเองได้ง่ายๆ เลย
• เพื่อนคู่หูในการอ่าน
บางอย่างทำคนเดียวก็อาจจะยากเกินไป การอ่านหนังสือก็เช่นกันค่ะ ดังนั้น ลองเปลี่ยนมาอ่านกับเพื่อนดูสิคะ ถ้าอ่านหนังสือคนเดียวแล้วขี้เกียจ หรือไม่มีแรงกระตุ้นในการอ่าน ให้หาเพื่อนคู่หูที่อยากจะตั้งใจอ่านหนังสือเหมือนกันค่ะ ไม่จำเป็นจะต้องเพื่อนสนิทกันก็ได้นะคะ ถ้าเพื่อนสนิทเราจะชวนเราคุยทุกครั้ง ก็คงไม่ได้อ่านกันสักที
เราควรจะเลือกเพื่อนที่รู้สึกสนุกที่จะได้อ่านหนังสือ หรือเพื่อนที่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและมุมมองกับเราได้ หรือถ้าใครขี้เกียจเมื่อไหร่ เพื่อนก็ต้องช่วยกระตุ้นการอ่านช่วยกันได้ค่ะ ใครที่หาเพื่อนคู่หูแล้วไม่มี พี่อีฟแนะนำอีกหนึ่งวิธีดีๆ คือการพาตัวเองไปอยู่ในที่ที่มีคนอ่านหนังสือค่ะ บรรยากาศรอบข้างที่ทุกคนอ่าน จะช่วยเราได้มากเลย ลองดูกันได้นะคะ
เป็นยังไงกันบ้างคะ กับ 7 สิ่งที่ควรมีใกล้ตัวใกล้ตา เพื่อช่วยให้เราอ่านหนังสือได้มากขึ้น น้องๆ คนไหนมีไอเท็มอะไรนอกจากนี้ เอามาแชร์กันได้เลยค่ะ แต่ก็อย่าลืมนะคะว่าถึงจะมีสิ่งรอบตัวเราที่ช่วยทำให้เราอยากอ่านมากแค่ไหน สุดท้ายก็อยู่ที่ตัวเราค่ะ ว่าจะเลือกอ่านหรือไม่อ่าน ช่วงปิดเทอมแบบนี้ มีเวลาว่างทั้งที ลองหยิบมาอ่านสักนิด รู้ตัวอีกที เราอาจจะอ่านจบเล่มแล้วก็ได้นะคะ :)
8 ความคิดเห็น
วางแก้วน้ำไว้ด้วยค่ะ...ไว้สาดหน้าตอนจะเคลิ้มหลับ
เรามีเกือบทุกอย่างเลยค่ะยกเว้นเพื่อนคู่หูอ่านหนังสือ5555 ตอนอ่านสิ่งที่ควรวางไว้ห่างที่สุดคือโทรศัพท์เลยค่ะ นี่เป็นคแบบหันไปเห็นแล้วต้องหยิบมาเล่นทุกทีT_T //ปาโทรศัพท์ทิ้ง
นี่มีเกือบทุกอย่าง.. แต่ก็ยังนิ่งเฉย 5555555
รูปฝรั่งหล่อๆ ล่ำๆ บึ้กๆ ขอรับ เอาไว้เป็นกำลังใจตอนอ่าน
อาจเพิ่มลูกเล่นใส่กรอบคำพูด คำคมเด็ดๆแปะไว้ เหมือนฝรั่งคนนั้นมาเตือนสติ ให้กำลังใจเรา ขอร้าบบ >w< ตย.เช่น ....... " เฮ้อ .. เบื่อคนไม่ยอมอ่านหนังสือจัง " (ฝรั่งพร้อมซิกแพ็คไม่ได้กล่าวไว้)
เอร้ยยยยยยยยยยยย ที่ขาดไม่ได้คือเพื่อนคู่หูหล่อๆ แอ้ะ! ไม่ใช่ดิ5555
เคยทำมาหมดทุกข้อแแล้วค่ะ ที่ขาดคือสมอง+ความขยัน สองอย่างนี้ถ้าไม่มี ทำอะไรไม่ได้จริมๆ U.U
ของเรา อยากอ่านตอนไหนก็อ่าน แบบ...ไม่มีไรทำก็หยิบหนังสือมาอ่าน