ยาย : ไปหยิบถังสีเขียวที่หลังบ้านให้หน่อยสิ
สีบนโลกนี้มีเป็นล้านๆ สี หรือ ถ้าพูดให้ถูกก็คือ มีจนนับไม่ถ้วน ซึ่งตาของคนเรามองเห็นได้ไม่ครบทุกสีที่มีค่ะ โดยการมองเห็นสีต่างๆ นอกจากจะขึ้นอยู่กับเซลล์รูปกรวยในเรตินาของตาแล้ว แสงก็เป็นอีกองค์ประกอบนึงที่มีผลต่อการมองเห็นสีของวัตถุ กลับมาที่ปัญหาการเรียกระหว่างสีฟ้าและสีเขียวนั้นก็มีคำอธิบายจากงานวิจัยอยู่หลายชิ้น มีทั้งที่อธิบายเกี่ยวกับการมองเห็นโดยตรง และคำอธิบายที่เกี่ยวกับการใช้ภาษา หรือที่เรียกว่า ภาษาศาสตร์สังคม (Sociolinguistics)
สมมติฐานแรกเป็นของ Delwin T. Lindsey และ Angela M. Brown นักวิจัยของมหาวิทยาลัยโอไฮโอ ได้เสนอว่า เหตุผลที่คนมองสีผิดเพี้ยนไป อาจเป็นเพราะได้รับอิทธิพลจากรังสียูวีบีในแสงแดด โดยเฉพาะคนในแถบเขตร้อนจะได้รับมากกว่าคนในแถบอื่นๆ บนโลก เป็นไปได้ว่ารังสีตัวนี้อาจทำให้เลนส์ตาเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ขุ่นมากขึ้น เพราะได้รับสารสีเหลืองเพิ่มขึ้น จึงรับรู้แสงสีน้ำเงินได้น้อยลงนั่นเอง ซึ่งสมมติฐานนี้ก็มีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยค่ะ คนที่ไม่เห็นด้วยก็มองว่า สาเหตุนี้คงไม่ได้ทำให้มองเห็นสีเพี้ยนจากสีนึงไปเป็นอีกสีนึงได้ ไม่งั้นก็คงมองเห็นท้องฟ้าเป็นสีเขียวไปแล้ว คงวุ่นวายกันน่าดู
อีกสมมติฐานที่ดูมีน้ำหนักมากกว่า จะเป็นเรื่องของภาษาศาสตร์สังคม ที่อธิบายสาเหตุว่ามาจากคำที่ใช้เรียกสีล้วนๆ ตาไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด ในสมมติฐานนี้ บอกเราว่า จริงๆ เราก็มองเห็นสีเป็นสีเดียวกันนั่นแหละ เขียวก็คือเขียว ฟ้าก็คือฟ้า แต่ปัญหาอยู่ที่ ไม่มีคำเรียกแยกระหว่าง 2 สีนี้ ก็เหมารวมไปว่ามันคือ สีเขียว คล้ายๆ กับที่ผู้หญิงสามารถแยกเฉดสีได้ละเอียด เช่น สีชมพูบานเย็น ชมพูเข้ม ชมพูพีช ฯลฯ ในขณะที่ผู้ชายมองว่า ทั้งหมดเรียกว่าสีชมพู
ปัญหาเรื่องสีเขียว-สีฟ้า ไม่ใช่เกิดขึ้นเฉพาะบ้านเรานะคะ หลายประเทศก็มึนงงระหว่างการเรียกสีสองสีนี้เหมือนกัน พวกเรารู้ภาษาอังกฤษว่าสีเขียวคือ Green และสีฟ้าคือ Blue แต่ภาษาบนโลกใบนี้ไม่ได้แยก 2 สีแบบนี้ทั้งหมด (อย่างไทยเอง Blue ก็ยังได้ทั้งสีฟ้าและสีน้ำเงิน) ถ้าลองแยกภาษาบนโลกใบนี้ จะแบ่งได้เป็น 3 กลุ่มหลักๆ คือ
- กลุ่มภาษาที่แยกคำเรียกสีเขียวและสีฟ้าอย่างชัดเจน มักจะอยู่ในโซนยุโรปเป็นส่วนใหญ่ แต่ไทยก็ขออยู่ในกลุ่มนี้ด้วย
- กลุ่มภาษาที่เรียกสีเขียวและสีน้ำเงิน ด้วยคำๆ เดียวกัน ประเทศที่อยู่ในกลุ่มนี้ จะอยู่ในแถบใกล้เส้นศูนย์สูตรเป็นส่วนใหญ่
- กลุ่มที่เรียกสีน้ำเงินว่าสีมืด
เพื่อให้เห็นภาพอีกนิด พี่มิ้นท์ขอยกตัวอย่างชนเผ่าฮิมบาแห่งนามิเบีย เคยมีการทดลองเกี่ยวกับการเรียกสีฟ้าและสีเขียวที่ชนเผ่าแห่งนี้ เพราะที่นี่มีความพิเศษ คือ ยังไม่มีศัพท์เรียกสีฟ้า แต่มีศัพท์เรียกสีเขียวหลายชื่อมากกก ทดลองด้วยกัน 2 ภาพ ภาพแรกเป็นรูปสี่เหลี่ยมสีเขียวหลายๆ รูป และมีสีฟ้าโผล่มา 1 รูป ผลที่ออกมาคือ เขาไม่สามารถแยกสีออกมาได้ และเรียกทุกอันว่าสีเขียวค่ะ
ในขณะที่อีกรูปนึง เป็นสี่เหลี่ยมสีเขียวทั้งหมด (ในสายตาเรา) แต่เขากลับหาสีที่แตกต่างออกมาได้ง่ายและเร็วมาก ซึ่งโจทย์นี้กลายเป็นว่ายากสำหรับเราแทน ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า คำศัพท์ของสีมีผลต่อการเรียกสีค่ะ ถ้าไม่มีคำเฉพาะ เราก็มองเป็นสีเดียวกันนั่นเอง
ส่วนสาเหตุที่ว่า เรากับปู่ย่าตายายของเรา ก็อยู่ประเทศเดียวกัน ทำไมยังเรียกไม่เหมือนกันอีกล่ะ? ก็ต้องขยายความว่า คำเรียกสีแต่ละสี ไม่ได้เกิดขึ้นมาพร้อมๆ กันค่ะ สีฟ้าเป็นคำเรียกที่ตามมาทีหลัง คนสมัยก่อนจึงไม่ได้เรียกสีฟ้าว่าสีฟ้า แต่เรียกว่าสีเขียวนั่นเอง ไม่แน่ว่าในอนาคตเราอาจจะมีชื่อเรียกสีใหม่ๆ ออกมา ถึงวันนั้นเราอาจจะต้องไปเถียงเรื่องสีกับลูกหลานเราก็ได้นะ ฮ่าๆ
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก
http://languagelog.ldc.upenn.edu/nll/?p=17970,
https://en.wikipedia.org/wiki/Blue%E2%80%93green_distinction_in_language,
หนังสือจิตพิกล คนพิลึก. ดร.บัญชา ธนบุญสมบัติ,
www.scimath.org,
www.pixabay.com
หลาน : (วิ่งกลับมา) ไม่เห็นมีเลยยาย มีแต่สีฟ้า
ยาย : ไม่มีได้ไง นี่ไง!
หลาน : นั่นมันสีฟ้า!!
ชาว Dek-D.com คนไหนเคยเถียงกับคนรุ่นปู่ย่าตายายเกี่ยวกับสีของสิ่งของเหมือนสถานการณ์ข้างบนมั้ยคะ โดยเฉพาะ "สีเขียว VS สีฟ้า" เป็นสีคู่ปรับยังกับเป็นศัตรูกันมาแต่ชาติปางก่อน ในขณะที่เรามองยังไงก็เป็นสีฟ้า แต่ทำไมผู้ใหญ่หลายๆ คนถึงมองเห็นเป็นสีเขียว ตาเราหรือตาใครกันแน่ที่มีปัญหา หรือ มีปัญหาทั้งคู่?
ยาย : ไม่มีได้ไง นี่ไง!
หลาน : นั่นมันสีฟ้า!!
ชาว Dek-D.com คนไหนเคยเถียงกับคนรุ่นปู่ย่าตายายเกี่ยวกับสีของสิ่งของเหมือนสถานการณ์ข้างบนมั้ยคะ โดยเฉพาะ "สีเขียว VS สีฟ้า" เป็นสีคู่ปรับยังกับเป็นศัตรูกันมาแต่ชาติปางก่อน ในขณะที่เรามองยังไงก็เป็นสีฟ้า แต่ทำไมผู้ใหญ่หลายๆ คนถึงมองเห็นเป็นสีเขียว ตาเราหรือตาใครกันแน่ที่มีปัญหา หรือ มีปัญหาทั้งคู่?
สีบนโลกนี้มีเป็นล้านๆ สี หรือ ถ้าพูดให้ถูกก็คือ มีจนนับไม่ถ้วน ซึ่งตาของคนเรามองเห็นได้ไม่ครบทุกสีที่มีค่ะ โดยการมองเห็นสีต่างๆ นอกจากจะขึ้นอยู่กับเซลล์รูปกรวยในเรตินาของตาแล้ว แสงก็เป็นอีกองค์ประกอบนึงที่มีผลต่อการมองเห็นสีของวัตถุ กลับมาที่ปัญหาการเรียกระหว่างสีฟ้าและสีเขียวนั้นก็มีคำอธิบายจากงานวิจัยอยู่หลายชิ้น มีทั้งที่อธิบายเกี่ยวกับการมองเห็นโดยตรง และคำอธิบายที่เกี่ยวกับการใช้ภาษา หรือที่เรียกว่า ภาษาศาสตร์สังคม (Sociolinguistics)
สมมติฐานแรกเป็นของ Delwin T. Lindsey และ Angela M. Brown นักวิจัยของมหาวิทยาลัยโอไฮโอ ได้เสนอว่า เหตุผลที่คนมองสีผิดเพี้ยนไป อาจเป็นเพราะได้รับอิทธิพลจากรังสียูวีบีในแสงแดด โดยเฉพาะคนในแถบเขตร้อนจะได้รับมากกว่าคนในแถบอื่นๆ บนโลก เป็นไปได้ว่ารังสีตัวนี้อาจทำให้เลนส์ตาเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ขุ่นมากขึ้น เพราะได้รับสารสีเหลืองเพิ่มขึ้น จึงรับรู้แสงสีน้ำเงินได้น้อยลงนั่นเอง ซึ่งสมมติฐานนี้ก็มีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยค่ะ คนที่ไม่เห็นด้วยก็มองว่า สาเหตุนี้คงไม่ได้ทำให้มองเห็นสีเพี้ยนจากสีนึงไปเป็นอีกสีนึงได้ ไม่งั้นก็คงมองเห็นท้องฟ้าเป็นสีเขียวไปแล้ว คงวุ่นวายกันน่าดู
อีกสมมติฐานที่ดูมีน้ำหนักมากกว่า จะเป็นเรื่องของภาษาศาสตร์สังคม ที่อธิบายสาเหตุว่ามาจากคำที่ใช้เรียกสีล้วนๆ ตาไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด ในสมมติฐานนี้ บอกเราว่า จริงๆ เราก็มองเห็นสีเป็นสีเดียวกันนั่นแหละ เขียวก็คือเขียว ฟ้าก็คือฟ้า แต่ปัญหาอยู่ที่ ไม่มีคำเรียกแยกระหว่าง 2 สีนี้ ก็เหมารวมไปว่ามันคือ สีเขียว คล้ายๆ กับที่ผู้หญิงสามารถแยกเฉดสีได้ละเอียด เช่น สีชมพูบานเย็น ชมพูเข้ม ชมพูพีช ฯลฯ ในขณะที่ผู้ชายมองว่า ทั้งหมดเรียกว่าสีชมพู
ปัญหาเรื่องสีเขียว-สีฟ้า ไม่ใช่เกิดขึ้นเฉพาะบ้านเรานะคะ หลายประเทศก็มึนงงระหว่างการเรียกสีสองสีนี้เหมือนกัน พวกเรารู้ภาษาอังกฤษว่าสีเขียวคือ Green และสีฟ้าคือ Blue แต่ภาษาบนโลกใบนี้ไม่ได้แยก 2 สีแบบนี้ทั้งหมด (อย่างไทยเอง Blue ก็ยังได้ทั้งสีฟ้าและสีน้ำเงิน) ถ้าลองแยกภาษาบนโลกใบนี้ จะแบ่งได้เป็น 3 กลุ่มหลักๆ คือ
- กลุ่มภาษาที่แยกคำเรียกสีเขียวและสีฟ้าอย่างชัดเจน มักจะอยู่ในโซนยุโรปเป็นส่วนใหญ่ แต่ไทยก็ขออยู่ในกลุ่มนี้ด้วย
- กลุ่มภาษาที่เรียกสีเขียวและสีน้ำเงิน ด้วยคำๆ เดียวกัน ประเทศที่อยู่ในกลุ่มนี้ จะอยู่ในแถบใกล้เส้นศูนย์สูตรเป็นส่วนใหญ่
- กลุ่มที่เรียกสีน้ำเงินว่าสีมืด
เพื่อให้เห็นภาพอีกนิด พี่มิ้นท์ขอยกตัวอย่างชนเผ่าฮิมบาแห่งนามิเบีย เคยมีการทดลองเกี่ยวกับการเรียกสีฟ้าและสีเขียวที่ชนเผ่าแห่งนี้ เพราะที่นี่มีความพิเศษ คือ ยังไม่มีศัพท์เรียกสีฟ้า แต่มีศัพท์เรียกสีเขียวหลายชื่อมากกก ทดลองด้วยกัน 2 ภาพ ภาพแรกเป็นรูปสี่เหลี่ยมสีเขียวหลายๆ รูป และมีสีฟ้าโผล่มา 1 รูป ผลที่ออกมาคือ เขาไม่สามารถแยกสีออกมาได้ และเรียกทุกอันว่าสีเขียวค่ะ
ในขณะที่อีกรูปนึง เป็นสี่เหลี่ยมสีเขียวทั้งหมด (ในสายตาเรา) แต่เขากลับหาสีที่แตกต่างออกมาได้ง่ายและเร็วมาก ซึ่งโจทย์นี้กลายเป็นว่ายากสำหรับเราแทน ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า คำศัพท์ของสีมีผลต่อการเรียกสีค่ะ ถ้าไม่มีคำเฉพาะ เราก็มองเป็นสีเดียวกันนั่นเอง
ส่วนสาเหตุที่ว่า เรากับปู่ย่าตายายของเรา ก็อยู่ประเทศเดียวกัน ทำไมยังเรียกไม่เหมือนกันอีกล่ะ? ก็ต้องขยายความว่า คำเรียกสีแต่ละสี ไม่ได้เกิดขึ้นมาพร้อมๆ กันค่ะ สีฟ้าเป็นคำเรียกที่ตามมาทีหลัง คนสมัยก่อนจึงไม่ได้เรียกสีฟ้าว่าสีฟ้า แต่เรียกว่าสีเขียวนั่นเอง ไม่แน่ว่าในอนาคตเราอาจจะมีชื่อเรียกสีใหม่ๆ ออกมา ถึงวันนั้นเราอาจจะต้องไปเถียงเรื่องสีกับลูกหลานเราก็ได้นะ ฮ่าๆ
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก
http://languagelog.ldc.upenn.edu/nll/?p=17970,
https://en.wikipedia.org/wiki/Blue%E2%80%93green_distinction_in_language,
หนังสือจิตพิกล คนพิลึก. ดร.บัญชา ธนบุญสมบัติ,
www.scimath.org,
www.pixabay.com
8 ความคิดเห็น
จะว่าไป เคยบ่นแม่เรื่องเสื้อที่ท่านใส่ ท่านบอกให้หยิบตัวสีฟ้ามา แต่เราไม่เจอ พอปล่อยให้แม่มาหาเองก็หยิบตัวสีเขียวอ่อนอมฟ้าหน่อยๆ เลยบอกไปว่านั่นสีเขียว แทนที่จะโกรธกลับไม่แล้วหัวเราะพลางบอก แม่ดูผิด
ตั้งแต่พิมพ์เขียวที่ทำเอาปวดหัวแล้ว สีฟ้าชัดๆ
หูกระจงควรปลูกให้ห่างจากตัวบ้าน