สวัสดีน้องๆ ชาว Dek-D.com ทุกคนค่ะ แม้ว่าการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน "ริโอ 2016" ประเทศบราซิล จะจบลงไปสักพัก แต่พิธีปิดงานยังอยู่ในความทรงจำและเป็นที่พูดถึงทั่วโลก จากการเปิดตัวเจ้าภาพปี 2020 ที่ครีเอทสุดๆ (ใครยังไม่เคยดู ลองไปหาดูนะ^^) จนทุกวันนี้ก็ตื่นเต้นและลุ้นว่า อีก 4 ปีข้างหน้า ณ เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น จะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับวงการกีฬาโลกได้ยังไงบ้าง
การคัดเลือกเจ้าภาพโอลิมปิก จะมีขั้นตอนตั้งแต่การเสนอตัวล่วงหน้า 8-12 ปีเพื่อเป็นเจ้าภาพในโอลิมปิก จากนั้นก็จะมีการคัดเลือกเมืองที่จะเข้ารอบสุดท้าย ก่อนจะมีการประชุมคณะกรรมการโอลิมปิกสากลเพื่อลงคะแนนตัดสินเมืองเจ้าภาพ ซึ่งกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นได้ผ่านเข้ารอบ 3 เมืองสุดท้ายมาตั้งแต่ปี 2012 และได้รับการคัดเลือกในปี 2013 เพื่อเป็นเจ้าภาพในปี 2020 ที่ใกล้ถึงนี้
แต่ตอนนี้เริ่มมีการพูดถึงเจ้าภาพโอลิมปิกในปี 2085 หรือโอลิมปิกในอีก 69 ปีข้างหน้าแล้ว! แต่มาในแนว "ธรรมชาติ" เป็นผู้คัดเลือก "เมืองเจ้าภาพ" ซะมากกว่า ชวนให้นึกถึงประโยคที่ว่า อ่อนแอก็แพ้ไป ที่พี่มิ้นท์พูดแบบนี้ก็เพราะว่า มีการเผยแพร่ออกมาว่าจะมีแค่ไม่กี่เมืองที่เหมาะกับการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกปี 2085 วัดจากความเหมาะสมของสภาพอากาศล้วนๆ "ทั่วโลกร้อนจัด จนจัดโอลิมปิกไม่ได้!" นี่คือคำที่มีการพูดถึงเมื่อไม่นานมานี้
มีงานวิจัยเผยแพร่ออกมาว่า ปัญหาสภาวะโลกร้อน ใกล้จะถึงจุดที่เป็นปัญหาต่อการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก เพราะปัญหาโลกร้อนกำลังจะทำให้หลายๆ เมืองทั่วโลกมีอุณหภูมิสูงขึ้นมาก พูดง่ายๆ ก็คือ ร้อนเกินไปจนจัดการแข่งขันกีฬาไม่ได้ เพราะเกี่ยวกับความปลอดภัยของนักกีฬานั่นเองค่ะ
การศึกษานี้เป็นหัวข้อใหญ่ของการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกกลางแจ้งกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย นักวิจัยได้ใช้เครื่องมือที่มีชื่อว่า the wetbulb globe temperature (WBGT) เป็นเครื่องมือที่ใช้วัดผลกระทบของอุณหภูมิ ความชื้น การแผ่รังสีความร้อน และความเร็วลม ในการตรวจสอบสภาพของเมืองต่างๆ ในซีกโลกเหนือ ที่ดูมีแนวโน้มว่ามีศักยภาพในการแข่งขัน
ผลการทดสอบออกมาว่า มีเมืองมากกว่า 10% มีโอกาสยกเลิกการแข่งขันวิ่งมาราธอน เนื่องจากอุณหภูมิสูงเกิน 26 องศาเซลเซียส ซึ่งอุณหภูมิในระดับนี้ จะเริ่มส่งผลกระทบต่อนักกีฬา ทำให้นักกีฬาเครียด เท่านั้นไม่พอ ภาวะความชื้นสูงก็จะส่งผลให้อัตราการระเหยของเหงื่อลดลงด้วย แม้แต่ประเทศญี่ปุ่นที่จะมีศักยภาพในการเป็นเจ้าภาพปี 2020 ก็ยังไม่เหมาะที่จะเป็นเจ้าภาพในปี 2085 เลย ซึ่งนายเคิร์ก สมิธ ศาสตราจารย์ดานสิ่งแวดล้อมโลกของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ยังย้ำเพิ่มอีกว่า "เมืองที่จะเป็นเจ้าภาพโอลิมปิก ถ้าสามารถจ่ายกว่าพันล้านดอลลาร์เพื่อการเป็นเจ้าภาพได้ ก็ต้องมั่นใจว่าจะไม่ยกเลิกในนาทีสุดท้ายด้วย"
เมื่อใช้หลักการนี้วิเคราะห์และศึกษาไปเรื่อยๆ ก็จะเหลือแค่ไม่กี่เมืองที่มีสภาพอากาศเหมาะสมสำหรับการจัดกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีไทย #ร้องไห้หนักมาก โดยแบ่งเป็น 8 เมือง + 3 เมืองในอเมริกาเหนือ ได้แก่ เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย, ริก้า ประเทศลัตเวีย, บิชเคก ประเทศคีร์กีซสถาน, อูลานบาตอร์ ประเทศมองโกเลีย, เบลฟัสต์และดับลิน ประเทศไอร์แลนด์, เอดินเบอระ (เอดินเบิร์ก) และกลาสโกว ประเทศสกอตแลนด์, คาลการี และแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา และซานฟรานซิสโก แต่น้องๆ อย่าเพิ่งเสียใจไป นอกจากเมืองที่พูดถึงทั้งหมดนี้ ก็ยังมีอีก 25 เมืองในยุโรปตะวันตก ที่ยังพอถูไถเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกได้ แต่ก็ยังไม่ถึงกับเหมาะที่สุดซะทีเดียวค่ะ ก็ต้องรอดูต่อไปว่าเจ้าภาพโอลิมปิกในปี 2085 จะเป็นเมืองในนี้จริงมั้ย แต่บอกเลย พี่มิ้นท์คงเป็นยายแก่ๆ ที่จำชื่อประเทศเหล่านี้ไม่ได้แล้วล่ะ O_o
เห็นงานวิจัยชิ้นนี้แล้ว พี่มิ้นท์ก็นึกคำถามได้ 2 คำถามที่ไม่รู้จะหาคำตอบได้หรือเปล่า คือ 1.ประเทศไทยจะมีโอกาสเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกบ้างมั้ยน้า และ 2.ขนาดประเทศในโซนซีกโลกเหนือยังร้อนขึ้น แล้วคนทางนี้ในอีก 69 ปีข้างหน้า จะใช้ชีวิตอยู่ยังไงเนี่ย แค่นึกก็อยากทาแป้งเย็นแล้ว!
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพประกอบจาก
www.zmescience.com/ecology/world-problems/2085-too-hot-summer-olympics/,
www.sciencealert.com/global-warming-might-kill-off-the-summer-olympics-by-2085,
http://phys.org/news/2016-08-world-cities-off-limits-summer-olympics.html,
https://pixabay.com/
1 ความคิดเห็น
โห้ๆๆ เราคงแก่หรือไม่ก็ตายไปแล้ว 55