ไม่มีตังค์เรียนต่อ อย่างนี้ต้องขอทุน!

        สวัสดีค่ะน้องๆชาว Dek-D.com พบกับ พี่สตางค์ อีกแล้วจ้า ^0^ หลังจากที่เมื่อคราวก่อน พี่ได้พูดถึง 5 ข้อต้องคำนึงไว้ ก่อนไปเรียนต่อเมืองนอก (<<< ใครยังไม่เคยอ่าน คลิกเลย) หลายๆคนบอกว่า 5 ข้อนั้นอะไรๆก็พร้อมหมดแล้ว จะขาดก็แต่ "ทุนทรัพย์" เนี่ยสิ...โถๆ อย่าเพิ่งท้อใจกันไปค่ะ! ใครที่ขาดเงิน ขาดงบ ขอให้เข้ามาอ่านที่นี่เลย เพราะวันนี้พี่สตางค์จะขอนำเสนอเรื่องของ "ทุนการศึกษา" ค่ะ  

       ใครที่คอยติดตามข่าวสารเรื่องทุนการศึกษาต่างๆ คงจะพอทราบมาบ้างแล้วว่า ทุนการศึกษาสำหรับเรียนต่อต่างประเทศนั้นมีมากมาย ทั้งทุนจากในประเทศและต่างประเทศ แต่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่า ทุนการศึกษานั้นมีหลายประเภท และคนที่ได้รับทุนนั้น ไม่ได้หมายความว่าจะได้เรียนฟรีทั้งหมด (แต่ได้เงินทุนมาช่วยผ่อนภาระทางบ้านบ้างบางส่วนก็ย่อมจะดีกว่า จริงมั้ยคะ?) ถ้ายังไง ก่อนอื่นเราลองมาทำความรู้จักทุนการศึกษาให้มากขึ้นกันอีกซักหน่อยก่อนดีกว่า

        ทุนแบบเต็มจำนวน

        ทุนประเภทนี้เป็นแบบที่ใครหลายๆคนเคยเข้าใจ คือเป็นทุนการศึกษาแบบที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมด ทั้งค่าเล่าเรียน ค่ากินอยู่ ค่าที่พัก และค่าใช้จ่ายในการเดินทางต่างๆ ให้กันอย่างจัดเต็มไปเลย (แต่เราใช้อย่าง "จัดเต็ม" ไม่ได้ เพราะเขาให้ในงบประมาณที่จำกัดนะจ๊ะ ^^)  

        หรือจะเป็น ทุน Australian Development Scholarships (ADS) ที่มอบทุนการศึกษาจำนวนหลายทุนให้แก่นักศึกษาต่างชาติ ทั้งระดับปริญญาตรี โท เอก โดยทุนนั้นครอบคลุมทั้งค่าเล่าเรียนเต็มจำนวน ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับ ค่าตั้งรกราก รวมค่าที่พัก ค่าครองชีพ และค่าประกันสุขภาพ เป็นต้น

        ทุนแบบให้บางส่วน

        หรือเรียกอีกอย่างว่าทุนแบบไม่เต็มจำนวนนั่นเอง คือเป็นทุนที่ เราจะต้องออกเงินในบางส่วนเองด้วย เช่น ให้เฉพาะค่าเล่าเรียน หรือค่าเล่าเรียนเพียงแค่บางส่วน ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆเราต้องดูแลตัวเอง อย่างค่ากินอยู่ ค่าที่พัก เช่นนี้เป็นต้น 

        ทุนแบบที่มีภาระผูกพัน/ ทุนที่ไม่มีภาระผูกพัน

        ทุนแบบที่ไม่มีภาระผูกพันนั้น ก็คือทุนให้เปล่า คือให้ฟรีๆโดยที่เราไม่ต้องมีภาระทำอะไรคืนให้ หรือไม่มีเงื่อนไขใดๆให้ต้องปฏิบัติตาม (เยี่ยมไปเลย!) แต่ในส่วนของทุนการศึกษาบางประเภทนั้น เมื่อเขาให้เงินทุนการศึกษาเรามา ก็จะมี เงื่อนไขบางอย่างที่มาพร้อมกับทุนนั้นด้วย เช่น จะต้องกลับมาทำงานในองค์กรของผู้ที่ให้เงินทุนเป็นจำนวนกี่ปีก็ว่ากันไป หรือ ในระหว่างการศึกษานั้นจะต้องเรียนให้ได้ผลเรียนตามที่เขากำหนดไว้ ไม่เช่นนั้นจะไม่ได้รับทุนต่อเป็นต้น 

        นอกจากทุนเล่าเรียนหลวงแล้ว ประเทศไทยยังมีทุนของรัฐบาลที่จัดสรรงบประมาณแผ่นดิน ให้นักศึกษาไปศึกษาต่อต่างประเทศอีกหลายทุน โดยจะเป็นทุนที่กำหนดสาขาวิชา และประเทศ ที่จะไปศึกษาตามแผนงานที่สอดคล้องกับแนวนโยบายของรัฐบาล ทั้งในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก แต่มีข้อผูกพันเป็นเงื่อนไขให้กลับมาทำงานในส่วนราชการของประเทศไทยเป็นระยะเวลา 2 เท่าของจำนวนปีที่ไปศึกษา (เช่น ถ้าไปเรียน 4 ปี ก็ต้องมาทำงานในส่วนราชาการ 8 ปี นั่นเอง)
      

        ดังนั้น ก่อนที่เราจะสอบชิงทุน หรือสมัครขอทุนจากแหล่งเงินทุนใดๆก็ตาม น้องๆอย่าลืมศึกษาข้อมูลรายละเอียดของทุนนั้นๆให้ดีก่อนนะคะ ว่าทุนการศึกษาที่ติดต่อขอทุนไปนั้นเข้าข่ายทุนในลักษณะไหน เป็นทุนเต็มจำนวนหรือเปล่า หรือเราต้องรับผิดชอบจ่ายเองส่วนไหน แล้วมีภาระผูกพันหรือไม่ โดยการเลือกนั้นก็แน่นอนว่า ย่อมจะต้องขึ้นอยู่กับความเหมาะสมกับเราเอง เช่น เป็นทุนเรียนต่อในคณะที่เราสนใจ และที่สำคัญ...คุณสมบัติของเราตรงกับที่ทุนต่างๆนั้นได้กำหนดเอาไว้หรือไม่ (Sholarship Requirements) เช่น เกรดเฉลี่ยขั้นต่ำ คะแนนการสอบวัดระดับภาษา เรียนจบสาขาวิชา หรือมีผลงานตามที่เขากำหนด

        แล้วเราจะหาข่าวสารทุนได้จากที่ไหนบ้าง???

         อินเตอร์เน็ต

        หนังสือ

        ถ้าใครไม่ชอบอ่านในคอมพิวเตอร์ ข้อมูลข่าวสารแบบที่เป็นหนังสือก็มีนะคะ ลองมองหาหนังสือที่รวบรวมข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับทุนการศึกษาตามร้านหนังสือต่างๆ แต่อย่าลืมดูที่อัพเดตที่สุดนะคะ

        บอร์ดประกาศข่าวของมหาวิทยาลัย

        ใครที่ทุกทีเดินเมินผ่านบอร์ดข่าวของมหาวิทยาลัย หรือบอร์ดที่คณะไป จากนี้อย่าลืมหยุดแวะมองซักนิด เพราะบอร์ดมหาวิทยาลัยมักจะมีข่าวทุนต่างๆแวะเวียนมาติดแปะบอกอยู่เสมอ โดยเฉพาะพวกทุน ก.พ. หรือทุนของรัฐต่างๆ รวมถึงทุนจากองค์กรต่างๆที่ต้องการให้ทุนเฉพาะสาขาวิชา เพื่อที่จะได้กลับมาทำงานเป็นบุคคลากรในองค์กรนั้นๆ หรือทำงานใช้ทุนกับเขานั่นเอง แต่น้องๆเมื่ออ่านรายละเอียดของทุนต่างๆ อย่าลืมดูด้วยนะคะว่าหมดเขตสมัครเมื่อไหร่ บางทีอ่านมาตั้งนาน...อ้าว...ทุนของปีที่แล้วยังแปะติดอยู่เลย - -" แต่น้องๆก็อย่าเพิ่งทิ้งขว้างข้อมูลเหล่านี้นะคะ เพราะบางทุนนั้นมีทุกๆปี จดรายละเอียดของหน่วยงานที่ให้ทุน และเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ หรือเว็บไซต์ของเขาเอาไว้ได้ เพราะอาจจะมีอีกในเร็วๆนี้ก็เป็นได้นะ 

        งานนิทรรศการเรียนต่อต่างประเทศ

        ใครรู้ว่ามีงานแบบนี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่ ที่ไหน โปรดอย่าพลาด! เพราะเป็นงานที่เราสามารถเดินเข้าไปได้ฟรีๆ และยังเป็นโอกาสอันดีให้เราได้รับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเรียนต่อต่างประเทศ บางครั้งเจ้าหน้าที่ของสถาบันในต่างประเทศก็จะเดินทางมาคอยให้ข้อมูล และเปิดโอกาสให้เราได้ซักถาม ถ้าหากน้องๆมีเกรดเฉลี่ยสูงๆอยู่เป็นทุนเดิมแล้วล่ะก็ บางครั้งทางมหาวิทยาลัยก็ยื่นทุนให้เราลองสมัครชิงซะอย่างนั้นเลย ยังไงก็อย่าพลาดโอกาสเหล่านี้นะคะ 

       ใครที่อยากเรียนต่อต่างประเทศแต่ไม่มีงบประมาณ อย่าลืมมองหาข่าวสารเรื่องทุนต่างๆเอาไว้ ยิ่งใครมองหาเอาไว้แต่เนิ่นๆ ก็ยิ่งมีโอกาสที่เราจะใช้เวลาฟิตเรียนให้เกรดเฉลี่ยสูงๆ ฟิตภาษาให้ได้คะแนนสอบมากๆ  ทำผลงานเขาเราให้ได้ดีๆ  จริงมั้ยล่ะคะ  ^_^  เปลี่ยนเอาความรู้สึกน้อยใจในโชคชะตา  มาเป็นพลังขับเคลื่อนให้เราก้าวไปถึงฝันกันดีกว่า! พี่สตางค์ ขอเอาใจช่วยทุกคนเต็มที่เลยค่ะ อย่าลืมว่าความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่นนะ!