ครั้งหนึ่ง ณ ซิดนีย์ ออสเตรเลีย กับประสบการณ์ทำงาน 8 งาน!!

         สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D.com ... เจอกับ พี่เป้ และเล่าประสบการณ์เด็กนอกสนุกๆ เช่นเคย^^ สำหรับเรื่องที่นำมาฝากวันนี้เป็นประสบการณ์จากออสเตรเลียค่ะ กับรุ่นพี่คนนึงที่เคยใช้ชีวิตที่นั่นและลองทำงานมาเกือบสิบอย่าง!! โอ้โห้ จะเป็นยังไง ลองอ่านเลยจ้า


       สวัสดีค่ะ น้องๆ พี่ชื่อ “ไหมลี่” จบปริญญาตรีจากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จากธรรมศาสตร์ จบปริญญาโทที่รามคำแหง ภาคอินเตอร์ เพิ่งกลับมาจากการไป Work and Holiday Australia เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ^^

       พี่มีความฝันตั้งแต่เด็กๆ ว่าอยากลองไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศสักครั้งหนึ่งในชีวิต แต่ด้วยความที่ครอบครัวไม่เห็นด้วยและทางบ้านก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร พี่จึงตัดสินใจทำความฝันของครอบครัวให้จบนั่นคือการเรียนจบป.ตรี ป.โท ทำงานให้เรียบร้อย หลังจากนั้นก็ลุยหาข้อมูลการไปต่างประเทศจนกระทั่งมาเจอโครงการ Work and Holiday ซึ่งมันโดนเลย ตอบโจทย์มากๆ ทำทุกอย่างตามขั้นตอนจนในที่สุดก็ได้ไปค่ะ


       ก่อนไปพี่เตรียมตัวหาข้อมูล 6 เดือนนะ ก่อนไป 55+ เพราะพี่ไปลุยเดี่ยว แอบกลัว สิ่งสำคัญคือ เป้าหมายต้องชัดเจน และเป้าหมายของพี่คือ "ประสบการณ์" หาประสบการณ์ให้มากที่สุดไม่ว่าจะเป็นการทำงาน ท่องเที่ยว ภาษา และคอนเนคชั่น เพราะบางคนเป้าหมายคือการเก็บเงิน เค้าก็จะใช้ชีวิตอย่างประหยัดเพื่อเก็บ แต่เราไม่ เราขอไฮโซสักครั้ง ฮาฮ่า พี่มีความเชื่อว่า ถ้าเรามีความตั้งใจ กล้าและอดทน ไปที่ไหน เราไม่จำเป็นต้องกลัว และถ้าเราไม่เลือกงาน เราหางานได้แน่นอน มีตั้งแต่ถามรุ่นพี่ที่เคยไป Natui Gumtree และสร้างงานเอง แต่อย่าคิดว่าสบายน้า ถามงาน ส่ง Resume ไปสัมภาษณ์เยอะมาก 

       สภาพแวดล้อมที่ซิดนีย์ พี่ว่าต่างจากกรุงเทพมากมาก โดยเฉพาะระบบการคมนาคม ขนส่ง การบริการสาธารณะของเค้าได้มาตรฐาน รถไฟเข้าถึงทุกเขตพื้นที่ ทุกสถานีมีลิฟต์ สะดวกสำหรับคนชราและคนพิการ ประมาณรถไม่เยอะ ระดับของรถ การจราจร พี่ว่าคล้ายๆ ลำปางบ้านเกิดของพี่ เพราะผู้คนที่อยู่รอบนอกก็จะใช้ชีวิตแบบสบายๆ ชิลล์ๆ คือเจริญ เวลามาจอดรถในเมืองก็ต้องมีการจ่ายค่าจอดรถเป็นรายชั่วโมงไป ต้องคอยดูป้ายว่าจอดได้วันไหน กี่โมงถึงกี่โมง และที่นี่ไม่มีสะพานลอย จะเป็นทางม้าลาย เวลาเราข้ามแค่ยืนกำลังจะข้าม รถที่วิ่งมาหยุดให้ทันที สุดยอดค่ะ มีการควบคุมความเร็วในการขับขี่รถ หากเกินก็จะมีการปรับซึ่งแพงพอสมควร 


       ส่วนห้างต่างๆ จะปิดเร็วค่ะ เย็นๆ มาก็ปิดแล้ว อดช้อปเลย 55+ แต่จะมีวันหนึ่งซึ่งเรียกว่า Thursday Night เป็นอะไรที่ช้อปปิ้งได้ดึกเป็นพิเศษ ส่วนบาร์ที่นี่ พี่เคยไปบาร์คนไทยครั้งหนึ่งตีสาม มาตำรวจมาดักอยู่หน้าบาร์เลยค่ะ บอกว่า Go home, Go home Sleep time 55+

       ข้อควรระวังที่ซิดนีย์ จริงๆ เวลาไปไหนไม่ว่าจะที่ใดก็ตามเราก็ควรระมัดระวังตัวอยู่แล้วนะ ในตอนที่พี่ไปทางซิดนีย์มีข่าวผู้ก่อการร้ายจี้คน ที่คาเฟ่แห่งหนึ่ง แต่โดยรวมเป็นเมืองที่มีความปลอดภัยสูงมากนะคะ ปัญหาเล็กน้อยไปจนถึงใหญ่โต กฎหมายเค้าเข้มจริงๆ ปรับเป็นปรับ ขึ้นศาลก็ต้องขึ้น ที่นี่มีกฎหมายคุ้มครองผู้หญิงแบบดีเลิศด้วยค่ะ

        นิสัยของคนที่ซิดนีย์ ที่นี่มีคนอยู่หลายเชื้อชาติมาก ไม่ว่าจะเป็นคนออซซี่ ยุโรป แขกหรือเอเชีย มีหมดจริงๆ ค่ะ เพราะฉะนั้นเรื่องการดูถูกไม่ต้องห่วงเลย พี่ไป พี่ไม่เคยรู้สึกว่าโดนดูถูกนะคะ เค้าให้สิทธิเสรีภาพเต็มที่ เช่น เวลาที่พี่ไปเสิร์ฟอาหาร พี่กลับรู้สึกว่าคนที่นี่น่ารักมาก เค้าพูดขอบคุณตลอดค่ะ บางครั้งก็ชวนเราคุยด้วย ใจดีน่ารักสุดๆ  ทีนี้มาดูกันดีกว่าว่าพี่เคยทำงานอะไรบ้าง??


1.) งานเสิร์ฟร้านอาหารไทย 
หน้าที่หลักคือเสิร์ฟอาหาร รับออเดอร์ แนะนำอาหารแก่ลูกค้า รินน้ำให้ลูกค้า เก็บโต๊ะ เช็คบิล ชั่วโมงการทำงานจะแบ่งเป็น 2 ชิพต่อวัน ชิพเช้าและชิพเย็น ได้แก่ ชิพเช้า 10.30 - 16.30 ชิพเย็น 16.30 - 10.30 รายรับจะคิดเป็นชิพชิพละ 60 - 75$ (คูณ 25)) ถือว่าเยอะมากถ้าเทียบกับเรทสกุลเงินที่ไทย งานนี้สนุกมากค่ะ ได้ใช้ภาษาเกี่ยวกับอาหาร ได้ฝึกความอดทน ฝึกการใช้ทักษะบริการ ฝึกความจำเพราะต้องจำราคา จำรายการอาหารและอื่นๆ 

2.) งานแจกใบปลิว ร้านไอศกรีม 
งานนี้ได้โดยบังเอิญมากกก ทางร้านเค้าต้องการคนมาแจกใบปลิวในช่วงหน้าร้อน ประมาณเดือนธันวาคม ก็ไม่มีอะไรมาก แค่ไปยืนเฉยๆ ตรงทางเข้าสถานีรถไฟ เพราะร้านไอศกรีมอยู่ในนั้นพอดีและก็แจกใบปลิวเป็นโปรโมชั่นของทางร้าน ได้ชั่วโมงละ 12$ ยืนเมื่อยดี 55+ และก็จะมีคนมาทักตลอด ถามทางบ้าง ทักหนีห่าวใส่บ้างเพราะคิดว่าเป็นคนจีน สงสัยหน้าหมวยเกิ๊น

3.) งานเสิร์ฟร้านราเมงญี่ปุ่น
คือพอพี่มีประสบการณ์ในการเสิร์ฟแล้ว จากร้านไทยก็เริ่มขยับไปสมัครร้านราเมงญี่ปุ่น เรทจะให้เป็นชั่วโมง ชั่วโมงละ 12.5$ เค้าจะบอกเราเป็นสัปดาห์ไปว่าให้เรามาทำวันไหนเวลาไหนบ้าง ค่อนข้างเข้มงวดพอสมควร รายละเอียด น้ำซุปทุกชามต้องเปะมาก เวลาลูกค้าเข้ามาก็ต้องพูดว่า อิ ตา เม ชา เส ไม่รู้ถูกรึป่าวนะ มันประมาณนี้ แปลว่า Welcome ยินดีต้อนรับค้า 

4.) งาน Kitchen Hand ร้านราเมงญี่ปุ่น
ได้เป็นเด็กเสิร์ฟแล้ว ทีนี้งานเข้า เพราะ Kitchen Hand ประมาณว่าคนในครัวขาด เค้าก็เลยให้เราไปช่วย คือแบบพี่ทำอะไรไม่เป็นเลย เค้าก็สอนค่ะ ตั้งแต่หุงข้าว หั่นผัก เตรียมวัตถุดิบ และก็ได้ทำเมนูบางอย่างเช่น ข้าวปลาซาบะ ปลาแซลมอนอะไรแบบนี้ ก็สนุกดีค้า ส่วนเรทที่ให้ก็เท่ากับเด็กเสริฟ์เลย

5.) งานขายซูชิ ร้านซูชิเกาหลี
จุดเริ่มต้นคือ อยากทำซูชิค่ะ ก็เลยลองสมัครผ่านเว็บ Gumtree หลังจากนั้นเค้าเรียกไปสัมภาษณ์ ถามว่าทำได้วันไหนบ้าง มีสัญญาให้เซ็นด้วยนะคะ สุดยอด ส่วนเงินเริ่มต้น 12.5$ ค่ะ หากเราทำได้มากขึ้น ก็จะมีเพิ่มขึ้นให้ตามลำดับ เหมือนมีคำอธิบายงานพร้อมเรทรายได้ต่อชั่วโมงชัดเจน

6.) งาน Data Entry บริษัทฝรั่ง
งานนี้เงินดีมาก ประมาณ 24$ ต่อชั่วโมงแต่โดนหักภาษีไปก็เหลือ 19$ เองนะ ฮาฮ่า เนื้องานคือจะมีคอม มีหน้าจอมาให้ 2 หน้าจอ มีโปรแกรมที่บันทึกข้อมูล ตรวจสอบข้อมูลและสามารถโทรข้ามประเทศได้ สมมติว่าเป็น Project ประเทศไทย ให้ตรวจสอบข้อมูลของบริษัทในประเทศไทย เราก็ต้องโทรไปที่บริษัทและสอบถามข้อมูลว่ายังเหมือนเดิมอยู่รึป่าว มีอะไรอัพเดทบ้าง 

7.) งานสอนภาษาไทยให้ชาวต่างชาติ
เป็นการรับงานเสริม ฟรีแลนซ์ เราก็ไปโพสตามเวป Gumtree ว่ารับสอนไทยนะ ทีนี้จะมีชาวต่างชาติสนใจ เราก็ตกลงราคา สถานที่สอน เนื่อหาการสอนกัน ที่พี่เคยได้มากสุดจะอยู่ที่ 40$ ต่อชั่วโมง เยอะมากค้า คนที่มาเรียนส่วนใหญ่จะเรียนฟัง พูด เบื้องต้น เพราะจะมาเที่ยวที่ไทย มาทำงาน มาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนหรือมาทำธุรกิจ 

8.) งานสอนภาษาอังกฤษ
พอดีมีคนที่ทำงาน เค้าบอกว่าอยากเรียน ช่วยสอนให้หน่อย ก็เลยเริ่มต้้นจากจุดนี้ค่ะ เป็นภาษาอังกฤษที่ใช้ในการทำงาน ง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก ในร้านอาหาร คาเฟ่อะไรแบบนี้ และเราก็ไปโพสในเวป Natui ค่ะ พอดีมีคนไทยสนใจก็สอนค่ะ ถือว่าช่วยๆกัน คิดชั่วโมงละ 15 - 20$ ค่ะ 

       สิ่งที่ประทับใจที่สุดคือ ผู้คนที่นี่น่ารักค่ะ มีน้ำใจ เราถามอะไรก็ช่วยเหลือตลอด พี่โดนถามตั้งแต่สนามบินเลยค่ะ 55+ และก็การใช้ชีวิตค่อนข้างมาตรฐาน มีคุณภาพชีวิตที่ดีค่ะ ไม่ได้รีบเร่งจัดว่าเป็นช่วงเวลา Slow Life ของชีวิตพี่เลยก็ว่าได้

       การที่เราได้มีโอกาสไปหาประสบการณ์ที่ต่างประเทศ ไปอยู่ ไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศ สิ่งที่น้องได้รับมันคือ ประสบการณ์ที่น้องจะเก็บเป็นความทรงจำครั้งหนึ่งในชีวิต พี่รู้สึกว่าพี่สามารถพึ่งพาตัวเองได้มากขึ้น อดทนกับสิ่งต่างๆมากขึ้น เก่งขึ้น ได้ภาษา ได้เพื่อน ได้อะไรมากมาย อยากให้น้องๆ ถ้ามีโอกาสลองไปสักครั้งในชีวิตนะคะ “ Dreams don’t work unless you do ความฝันไม่มีวันเป็นจริง ถ้าไม่ลงมือทำ ”

        สำหรับน้องๆที่อยากติดตาม มาเจอกันได้ที่ www.facebook.com/MailySamonwan 
Instagram: maily_samonwan หวังว่าเราจะได้เจอกันที่ไหนสักแห่งบนโลกใบนี้นะคะ

       

        เป็นเรื่องที่อ่านแล้วรู้สึกคุ้มมากจริงๆ ได้ประสบการณ์ ได้เงินด้วย ได้ลองทำอะไรที่หลากหลาย สุดยอดไปเลยค่ะ ขอบคุณพี่ไหมลี่ด้วยที่มาเล่าเรื่องสนุกๆ ให้พวกเราได้อ่านกัน ถ้าใครอยากเล่าแบบนี้บ้าง ก็ส่งมาได้ที่ pay@dek-d.com แล้วนำมาลงให้แน่นอนจ้า
พี่เป้
พี่เป้ - Columnist มนุษย์บ้างานและบ้านวด ผู้ตกหลุมรักปลาแซลมอน การนอน และและออฟฟิศ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

8 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยเจ้าของ

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
กำลังโหลด