กลับมาต่อกันตามสัญญาแล้วจ้า กับ 10 วิธีเริ่มต้นงานเขียน อาทิตย์นี้มาต่อกันอีก 5 ข้อที่เหลือที่พี่นัทบอกไว้
สำหรับน้องๆ นักเขียนชาว Dek-d.com ที่อยากอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ว่าแล้วก็อย่ารอช้ามาเริ่มกันเลย
หากคุณเป็นนักเขียนที่เอาจริงเอาจัง คุณย่อมจะมีร่างงานเขียนที่ยังไม่แล้วเสร็จเก็บเอาไว้มากมาย หมกอยู่ในลิ้นชักฝุ่นจับหนา จงขุดมันขึ้นมาอ่านบททวนอย่างวิเคราะห์วิจารณ์ในร่างงานเขียนนั้นๆ จะต้องมีเมล็ดพันธุ์ของความเร้าใจที่คุณเขียนไว้แต่ตอนแรกอยู่แน่ๆ บางทีความบกพร่องนิดๆ หน่อยๆ ได้ทำลายงานชิ้นสำคัญของคุณไป ผู้เขียนเพิ่งจะเขียนนวนิยายเสร็จไปเรื่องหนึ่ง ซึ่งในตอนแรกได้สร้างปัญหาให้ กับผู้เขียนมากมายจนเกือบจะฉีกทั้งเสียแล้ว ผู้เขียนตั้งใจจะเขียนเรื่องเกี่ยวกับนักเต้นระบำเปลื้องผ้า โดยแสดงให้เห็นถึงความสิ้นหวังในอาชีพแบบนี้ผ่านสายตาของอดีตนักเต้นระบำเปลื้องผ้าคนหนึ่ง ผู้เขียนใช้เวลาอยู่ สี่เดือน เขียนไปได้เพียง 15 หน้ากระดาษ ผู้เขียนรู้สึกขัดเคืองใจจนต้องเก็บไว้ก่อน หลังจากผ่านเวลาไปหนึ่งเดือน ผู้เขียนหยิบขึ้นมาใหม่และรู้สึกว่าเราใช้ น้ำเสียง ผิดไป อดีตนักเต้นระบำเปลื้องผ้านั้นน่าจะเป็นตัวรอง เรื่องควรจะได้รับการบอกเล่าโดยผู้ซึ่งเพิ่งเข้ามาสู่วงการนี้ และแล้วต้นฉบับ 509 หน้ากระดาษก็พิมพ์ผ่านออกมาอย่างหลั่งไหล
คุณสามารถใช้บุคลิกของเพื่อน ญาติพี่น้อง หรือแม้แต่คนที่คุณไม่ชอบ มาเป็นบุคลิกของตัวละครได้ คุณจับเอาบุคคลจริงๆ เข้าไปไว้ในสถานการณ์ที่คุณสร้างขึ้น และคุณจะแปลกใจว่ามันไปได้ของมันเอง
เมื่อความรู้สึกและอารมณ์ของผู้พูด จงฟังเมื่อคุณมีปฏิกิริยาอย่างรุนแรงต่ออะไรก็ตาม นั่นคือเมล็ดพันธุ์ของงานเขียน ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกรัก เกลียด โกรธ ริษยา หรือหวาดกลัว ใช้ความรู้สึกเหล่านี้ทำให้มันเติบโต พินิจดูว่าอะไรทำให้เกิดปฏิกิริยาอย่างนั้น และดูซิว่าสามารถทำให้เป็นเรื่องเป็นราวได้หรือไม่
จะฟังคนอื่นๆพูดคุยกัน ถกเถียง หัวร่อต่อกระซิก จงฟังรายการสนทนาในโทรทัศน์ วิทยุ ความคิดเกี่ยวกับเรื่องที่จะนำมาเขียนอยู่รอบๆ ตัวคุณนี่แหละ สิ่งเดียวที่คุณต้องทำก็คือเงี่ยหูฟัง
นี่คือวิธีสุดท้าย เมื่อวิธีอื่นๆ ไม่ได้ผลผู้เขียนเคยใช้วิธีนี้ แต่ดูจะไม่ค่อยเหมาะกับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นหรอกนะ เมื่อคุณคิดไม่ออก คุณเปลี้ย อ่านทวนก็แล้ว ดูเค้าโครงเรื่องก็แล้ว อ่านหนังสือพิมพ์หรือดูโทรทัศน์ก็แล้ว อย่า อย่าทำเช่นนั้น คุณต้องนั่งอยู่กับพิมพ์ดีด ยกหูโทรศัพท์ออก ปิดโทรทัศน์ ไม่อ่านหนังสือพิมพ์ นั่งอยู่หน้าแป้นพิมพ์ดีดอย่างนั้นแหละ แม้จะเขียนไม่ได้ซักประโยค วางสายตาอยู่ที่เครื่องพิมพ์ดีด คุณ น้องๆ นักเขียนชาว Dek-d.com เป็นนักเขียนที่ต้องการเขียน อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นนวนิยาย เรื่องสั้น ทั้งหมดนั้นอยู่ในตัวของน้องๆทุกคนอยู่แล้ว ทั้งหมดที่น้องนักเขียนชาว Dek-d.com ต้องทำก็คือ จะต้องนำมันออกมา อ่านบทความนี้เสร็จแล้ว นักเขียนชาว Dek-d.com นั่งอยู่หน้าคอม แล้วก็เริ่มต้นเขียน หรือพิมพ์อย่างช้าๆ ในตอนแรกๆ แล้วถ้อยคำก็จะหลั่งไหลออกมาเอง ไม่เชื่อ พี่นัทท้าให้น้องๆ ทุกคนลองทำดู ฮ่าๆ
พี่นัท ขอขอบคุณ ข้อมูลจาก หนังสือ โรงรียนนักเขียน โดย เพลินตา แปล จาก เจแบรดฟอร์ด โอเลสเคอร์ |
แสดงความคิดเห็น
ถูกเลือกโดยทีมงาน
ยอดถูกใจสูงสุด
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการที่จะลบความเห็นนี้ใช่หรือไม่ ?
34 ความคิดเห็น
จะพยายามทำให้ได้คะ
มีเรื่องที่คิดไว้มากมาย แต่ยังไม่เสร็จซักเรื่อง 55
หลายเดือนหละ สู้ ๆ คะ
ไม่ได้เอาบุคลิคเพื่อนมาหรอกค่ะ
เอาตัวมันมาเลย555+
อยากเขียนอยู่เหมือนกันคะ
โครงเรื่องก็พอจะวางได้
แต่ไม่รู้ว่าจะตั้งชื่อตัวละครยังงัยอ่ะคะ
แนะนำหน่อยได้มั๊ยคะ
จริงจ้า
เราคิดออกก็เขียน เนื้อเรื่องก็เลยมั่วๆอ่ะ TT^TT
ขอบคุณมากๆเลยค๊า
เราจะพยายาม
เราจะต้องททำหั้ยได้
555+
หั้ยกำลังจัยตัวเองง
^w^" มันยากตรงประโยคนี่แหละค่ะ
บางทีนั่งจ้องคีย์บอร์ดเป็นชั่วโมง พิมพ์แล้วลบ พิมพ์แล้วลบ แต่พอประโยคแรกผ่านไปแล้ว เฮ้อ~~ โล่ง
ส่วนเรื่องเอาเพื่อนมาใช้ ตัวละครกุ๊ก 75 % คือเพื่อนกุ๊กทั้งนั้นเลย 555
เดี๋ยวก็จิ๊กเหตุการณ์เดี๋ยวก็จิ๊กความสัมพันธ์พวกมันมาเขียนให้เรื่องมันบานปลาย 555
/me เผ่นก่อนที่เพื่อนจะมาอ่านเจอ
แต่แบบว่าชอบมีอะไรมาให้เราเขว่เนี่ยสิ...
แม่เรียกอย่างนั้น เปิดเน็ตหน้าต่างๆไว้อย่างนี้...
ซักพักก็เรียกกันจัง? กำลังลื่นๆ = ='' เหอะๆ
ที่พี่บอกมาเคยทำบ้างยังไม่เคยทำบ้าง
ที่ยังไม่เคยทำจะลองเอาไปใช้ดูค่ะ!!
ขอบพระคุณสำหรับสาระดีๆเหล่านี้ค่ะ!!
ขอบคุณครับ^^ สำหรับวิธีดีๆ
ผมเองก็ประสพปัญหา หมดมุขจะเขียนอยู่บ่อยๆ
ไว้คราวหน้าต้องลองไปหยิบหนังสือพิมพ์มาดูบ้างล่ะ(ปกติอ่านแต่หน้าแรก 55+)
ของคุณค่ะๆๆ ๆ :))
และ....เราก็ทำแบบนั้นจริงๆ แหละ "นั่งอยู่จนกว่าจะเขียนได้"
แต่เดี๋ยวนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่มีเวลาให้นั่งอ่ะ ฮือๆๆๆๆ
เยี่ยมเลยค่ะ จะนำไปปฏิบัติตามนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ