เคยได้ยินน้องๆ นักเขียน Dek-D.com บ่นๆ ว่าช่วงนี้ตลาดหนังสือออกนิยายแฟนตาซีออกน้อยมากๆ ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ออกมาพร้อมๆ กับนิยายรักหวานแหวว ตรงกันข้าม เดี๋ยวนี้กลับกลายเป็นนิยายสมัยนี้ ถ้าไม่ใช่นิยายรักก็จะกลายเป็นขายไม่ออกเสียอย่างนั้น พี่แบงค์เองก็นึกแปลกใจอยู่เหมือนกันว่าทำไมแฟนตาซีถึงออกน้อยกว่าแต่ก่อน เดี๋ยวนี้สำนักพิมพ์ส่วนใหญ่เลิกรับแฟนตาซีแล้วหันไปทำแนวรักๆใคร่ๆแล้วเหรอ จนเมื่อไม่นานมานี้ พี่แบงค์ได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกับ บ.ก.เอฟ ผู้เป็นเจ้าของโครงการ New Blood Fantasia ของสำนักพิมพ์สถาพรบุ๊คส์ ซึ่งถือว่าคร่ำหวอดเรื่องนิยายแฟนตาซีเป็นอย่างดี จึงได้ซักถามแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน จนได้รู้สาเหตุว่าทำไมนิยายแฟนตาซีถึงออกน้อยลง "จริงๆ บ.ก. แทบทุกสำนักพิมพ์ก็ยังเปิดรับพิจารณาแนวแฟนตาซีอยู่นะคะ" บ.ก.เอฟกล่าว "แต่ปัญหาก็คือ ต้นฉบับนิยายที่ได้รับมา มันยังไม่มีคุณภาพดีพอที่จะนำมาตีพิมพ์ได้ น้อยมากที่จะให้ผ่าน คือถ้ามีส่งเข้ามาประมาณ 50 เรื่อง อย่างเก่งจริงๆก็มีสักเรื่องสองเรื่องเท่านั้นที่เข้าตา" แล้วจริงหรือไม่ที่นิยายรักมีโอกาสผ่านพิจารณาสูงกว่านิยายแฟนตาซี? หลังจากที่พี่แบงค์ยิงคำถามนี้ไป ก็ได้รับคำตอบว่า มันก็จริงอยู่บ้าง แต่ก็ไม่เชิงว่าจริงซะทีเดียว "เป็นความจริงที่นิยายรักจะมีโอกาสมากกว่า แต่โดยส่วนตัวไม่อยากให้เอามาเปรียบเทียบ เพราะทั้งสองแนวเจาะกลุ่มเป้าหมายคนละกลุ่มกัน นิยายรักจะมีมาตรฐานของตัวมันเอง แล้วแต่สำนักพิมพ์ว่าจะตั้งไว้ประมาณไหน ถ้าตรงตามมาตรฐานก็มีโอกาสผ่านพิจารณา แต่แฟนตาซีควรจะมีอะไรที่มากกว่าแค่ตรงตามมาตรฐาน คือต้องแตกต่างจากเรื่องก่อนๆ ที่เคยตีพิมพ์มาแล้ว" เมื่อพี่แบงค์ถามเรื่องที่น้องๆ นักเขียนอยากรู้ที่สุดก็คือ อะไรคือเกณฑ์ในการตัดสินว่านิยายเรื่องนั้นควรให้ผ่านหรือไม่ให้ผ่าน บ.ก.เอฟก็ได้จัดแจงสาเหตุ 7 ข้อที่ทำให้นิยายเรื่องนั้นไม่ผ่าน ดังนี้ 1. สำนวนภาษาที่แสนยืดเยื้อ แต่ใจความมีอยู่นิดเดียว คำผิดคำซ้ำเยอะ คำที่ใช้มักเป็นคำที่คิดว่าใช้แล้วสำนวนสละสลวย แต่ไม่ได้เข้ากับบริบทเลย "ยกตัวอย่างเช่น ลักแซมเบิร์ก บุรุษหนุ่มผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกล ซึ่งอาจจะมีอนาคตเป็นหนึ่งว่าที่นายกรัฐมนตรีแห่งรัฐวิวานดา นครแห่งการศึกษา ผู้นำพาแสงสว่างมาสู่ประชาชน ได้กล่าวกับหญิงสาวเจ้าของนัยน์ตาสีเบจว่าเขารักหล่อน จะใส่คำพรรณนามาเยอะแยะทำไม ในเมื่อใจความจริงๆ แล้วก็มีแค่ลักแซมเบิร์กบอกรักกับหญิงสาวเท่านั้นเอง" 2. พล็อตเหมือนๆ กันหมด เช่น ถ้าเขียนโรงเรียนเวทมนตร์ก็จะดำเนินเรื่องเหมือนๆกัน ถ้าเขียนแนวเกมออนไลน์ก็จะวางพล็อตไม่ต่างกัน "จริงๆ แล้วบ.ก. ไม่ได้ปฏิเสธพล็อตแนวเหล่านี้หรอกค่ะ แต่ตอนนี้มันมีเยอะจนเกินไป และดำเนินเรื่องเป็นสเต็ปเดียวกัน หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงให้ดูแหวกแนวจากเรื่องก่อนๆ มีเอกลักษณ์ที่น่าจดจำ บ.ก.ก็ไม่อาจจะให้เรื่องนั้นผ่านได้" 3. บทนำไม่น่าดึงดูด เปิดมาก็บรรยายท้องฟ้าสีคราม ใบหญ้าเขียวขจี ในน้ำมีปลาในนามีข้าว ฯลฯ "บทนำควรเป็นอะไรก็ได้ที่ดึงคนอยู่ คืออ่านอยากรู้ฉากต่อไป ไม่จำเป็นต้องปูพื้นเรื่องแบบนิทาน ทำนองว่ากาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว...อยู่มาวันหนึ่ง...และด้วยเหตุนี้... แต่การดำเนินเรื่องไปพร้อมๆ กับปูข้อมูลจะทำให้อ่านแล้วรู้สึกอินกว่า" 4. ในหนึ่งย่อหน้ามีมุมมองของตัวละครมากเกินไป ตัดไปตัดมาทำให้รู้สึกว่าอ่านแล้วถูกขัดอารมณ์อยู่ตลอดเวลา เดี๋ยวคนโน้นคิด เดี๋ยวคนนี้คิด "แนะนำว่า อย่างน้อย ควรมีมุมมองของตัวละครใดตัวละครหนึ่งแค่ตัวเดียวในหนึ่งย่อหน้า พอย่อหน้าต่อไปค่อยสลับมุมมอง จะทำให้อ่านแล้วอิน ไม่รู้สึกสับสน" 5. การกระทำของตัวละครไม่สมเหตุสมผล เช่น เป็นนักฆ่าแต่ดันกลัวเลือด จะงอนก็งอนในเรื่องที่ไม่น่าจะงอน เช่น นางเอกไม่กินเส้นกับพระเอกเพราะตอนเด็กๆพระเอกไม่ยอมไปล่าหมีขาวที่ขั้วโลกใต้ด้วย "บางคนอาจจะเขียนด้วยความตั้งใจให้เป็นอย่างนั้น เพราะคิดว่ามันคงดูตลกดี หรือแหวกแนวถ้าหากมีตัวละครที่ทำตัวไร้เหตุผลแบบนั้น ซึ่งทั้งนี้ก็ต้องดูบริบทประกอบด้วยว่าสมควรเขียนอย่างนั้นหรือไม่ ไม่ใช่แค่สักแต่เขียนเพื่อความสะใจเพียงอย่างเดียว" 6. ใส่เรื่องที่ไม่เกี่ยวหรือเป็นประเด็นสำคัญ เช่น ชีวิตความเป็นอยู่ในกลุ่มเพื่อนฝูง เรื่องรักๆใคร่ๆ ประวัติศาสตร์ชาติก่อนของบรรพบุรุษ ฯลฯ "ความจริงถ้ามีบ้างเล็กๆน้อยๆ ก็ทำให้นิยายดูมีชีวิตชีวาขึ้น แต่ถ้าหากไปโฟกัสตรงจุดนั้นมากเกินไป จนกลายเป็นเรื่องสำคัญไปพร้อมกับประเด็นหลักของเรื่อง นอกจากจะเฝือแล้วยังทำให้ผู้อ่านไม่เข้าใจว่าตกลงเรื่องจะไปทางไหนกันแน่" 7. การดำเนินเรื่องสับสน นึกอยากใส่กลอนก็ใส่ จะตัดฉากก็ตัด กระโดดข้ามไปโน่นทีนี่ที แบบไม่ง้อคนอ่าน ใส่ปริศนาเข้ามาเยอะ แต่ไม่เฉลยอะไรเลย หรือไม่ก็เฉลยมาแบบไม่สมเหตุสมผล "ส่วนมากที่บ.ก.พบเจอก็คือ เวลาเขียนเรื่องย่อ ผู้เขียนมักจะไม่ยอมเฉลยให้บ.ก.รู้ กลับบอกให้อ่านเอาเองหรือไม่ก็บอกว่าจะมีเฉลยในภาคต่อหรือภาคสุดท้าย ซึ่งหากมีปริศนาที่จะเฉลยในภาคต่อๆไป อยากให้ผู้เขียนเขียนคำเฉลยมาให้บ.ก.ได้รับทราบด้วย เพื่อที่บ.ก.จะได้เข้าใจเรื่องราวทั้งหมด ซึ่งจะสะดวกมากเวลาที่ต้องตรวจสอบเบาะแสในต้นฉบับภาคต่อซึ่งผู้เขียนได้วางเอาไว้ อีกทั้งหากปริศนาและการคลี่คลายยังดูติดขัด ไม่สมเหตุสมผล บ.ก.ก็จะได้ช่วยท้วงติงและให้คำแนะนำได้บ้าง อย่าปิดบังกันเลยค่ะ บ.ก.ไม่เอาไปสปอยล์ที่ไหนหรอก" และนี่ก็คือสาเหตุ 7 ข้อที่ทำให้นิยายแฟนตาซีไม่ผ่านพิจารณา ซึ่งมีประโยชน์มากๆสำหรับ น้องๆ นักเขียน Dek-D.com ที่มีความฝันอยากจะมีผลงานนิยายออกมาสักเล่ม สำหรับใครที่ยังไม่ผ่านพิจารณานิยายก็อย่าเพิ่งคิดว่าตัวเองไม่เก่งพอนะครับ บางทีน้องอาจจะวางเรื่องหรือเขียนอะไรผิดพลาดไป ก็ลองค้นหาและปรับปรุงแก้ไข้อีกนิด พี่เชื่อว่าต้องมีสักสำนักพิมพ์แหละ ที่จะให้นิยายของน้องได้ตีพิมพ์กับเขาบ้างแหละน่า สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณ บ.ก.เอฟ เป็นอย่างมากที่สละเวลามาให้ความรู้ดีๆแบบนี้ |
แสดงความคิดเห็น
ถูกเลือกโดยทีมงาน
ยอดถูกใจสูงสุด
โอ้ว เรารู้แล้ว เป็นแบบนี้นี่เอง!!
มิน่าล่ะ...
ไม่มีผลงานไหนมาให้ชั้นอ่านเลยซ๊ากกกกกกะเล่ม
ตอนนี้โหยหามาก จะขึ้นสวรรค์ไปฝันแฟนตาซีเอาเองละ จะแต่งเองก็กะไรอยู่
สู้ๆ ค่ะนักเขียนทุกท่าน! เป็นกำลังใจให้
Enter book จงเจริญ เมื่อไรภาคต่อแต่ละเล่มจะออกมาว้า~ แงๆๆ
มิน่าล่ะ...
ไม่มีผลงานไหนมาให้ชั้นอ่านเลยซ๊ากกกกกกะเล่ม
ตอนนี้โหยหามาก จะขึ้นสวรรค์ไปฝันแฟนตาซีเอาเองละ จะแต่งเองก็กะไรอยู่
สู้ๆ ค่ะนักเขียนทุกท่าน! เป็นกำลังใจให้
Enter book จงเจริญ เมื่อไรภาคต่อแต่ละเล่มจะออกมาว้า~ แงๆๆ
กำลังโหลด
รายชื่อผู้ถูกใจความเห็นนี้ คน
แจ้งลบความคิดเห็น
คุณต้องการที่จะลบความเห็นนี้ใช่หรือไม่ ?
85 ความคิดเห็น
มิน่าล่ะ...
ไม่มีผลงานไหนมาให้ชั้นอ่านเลยซ๊ากกกกกกะเล่ม
ตอนนี้โหยหามาก จะขึ้นสวรรค์ไปฝันแฟนตาซีเอาเองละ จะแต่งเองก็กะไรอยู่
สู้ๆ ค่ะนักเขียนทุกท่าน! เป็นกำลังใจให้
Enter book จงเจริญ เมื่อไรภาคต่อแต่ละเล่มจะออกมาว้า~ แงๆๆ
เห็นด้วยกับ คห.5 ค่ะ ไม่มีเรื่องใหม่มาให้อ่านเลย
ไปเขีนยเองดีกว่า ฟิ้ววว (จะเขียนได้มั๊ยน้อออ)
ขอบคุณค่ะ^^
คือเราไม่ได้เป็นนักเขียน เป็นแค่นักอ่านก็ยังอ่านแฟนตาซีไม่รู้เรื่อง
เหมือนเราแบบปรับสมองไม่ทัน =_=;;
นับถือนักเขียนแนวแฟนตาซี (แม้จะไม่เคยอ่านเลยก็เถอะ) เพราะคุณมีจิตนาการสูงมาก
และ (น่าจะ) เขียนได้มันส์สะใจ ชวนติดตาม
ถึงเราจะไม่ได้อ่าน แต่จะเป็นกำลังใจให้ค่ะ :)
ไว้อนาคตเขียนแนวแฟนตาซีจะได้เขียนได้ ตรงใจคะ ^^
คือเราไม่ได้เป็นนักเขียนเองหรอก
แต่เป็นนักอ่านอ่ะ แล้วยังไม่เห็นผลงานแฟนตาซีจะผ่านได้ง่าย ๆ
มันต้องอ่านแล้วได้ความรู้สึกว่าใช่จริง ๆ อ่ะ ถึงจะปล่อยผ่านได้
อย่างนี้นี่เอง
(แหม! เสียด๋ายจั๋ง เฮ้อ!เสียด๋ายจัง)
ป.ล.นิยายหนูคงไม่ผ่านตั้งแต่รอบแรกชัวร์ป๊าบ
ส่วนมากต่างประเทศจะดังมากกว่านะเราว่า
แบบคนไทยไม่ค่อยจินตนาการอะไรมากมาย ส่วนมากดัดแปลงมาทั้งนั้น
ตรงมากๆเลยครับ
ผมก็กำลังแต่งแนวนี้อยู่พอดี
รบกวนช่ยลองอ่านบทนำแล้วคอมเม้นหน่อยนะครับ >>Olygreef's ring<<<
นางเอกไม่กินเส้นกับพระเอกเพราะตอนเด็กๆพระเอกไม่ยอมไปล่าหมีขาวที่ขั้วโลกใต้ด้วย
แอบฮากับประโยคนี้แต่ขอบอกว่าจริงครับ บางเรื่องก็สร้างเรื่องงอนๆได้ ...(ละเอาไว้) มากๆๆ
จะได้เอาไปพัฒนาตัวเองด้วยค่ะ !