7 สาเหตุ ที่นิยายแฟนตาซีไม่ได้ตีพิมพ์

            เคยได้ยินน้องๆ นักเขียน Dek-D.com บ่นๆ ว่าช่วงนี้ตลาดหนังสือออกนิยายแฟนตาซีออกน้อยมากๆ ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่ออกมาพร้อมๆ กับนิยายรักหวานแหวว ตรงกันข้าม เดี๋ยวนี้กลับกลายเป็นนิยายสมัยนี้ ถ้าไม่ใช่นิยายรักก็จะกลายเป็นขายไม่ออกเสียอย่างนั้น

            พี่แบงค์เองก็นึกแปลกใจอยู่เหมือนกันว่าทำไมแฟนตาซีถึงออกน้อยกว่าแต่ก่อน เดี๋ยวนี้สำนักพิมพ์ส่วนใหญ่เลิกรับแฟนตาซีแล้วหันไปทำแนวรักๆใคร่ๆแล้วเหรอ จนเมื่อไม่นานมานี้ พี่แบงค์ได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกับ บ.ก.เอฟ ผู้เป็นเจ้าของโครงการ New Blood Fantasia ของสำนักพิมพ์สถาพรบุ๊คส์ ซึ่งถือว่าคร่ำหวอดเรื่องนิยายแฟนตาซีเป็นอย่างดี จึงได้ซักถามแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน จนได้รู้สาเหตุว่าทำไมนิยายแฟนตาซีถึงออกน้อยลง

 


            "จริงๆ บ.ก. แทบทุกสำนักพิมพ์ก็ยังเปิดรับพิจารณาแนวแฟนตาซีอยู่นะคะ" บ.ก.เอฟกล่าว "แต่ปัญหาก็คือ ต้นฉบับนิยายที่ได้รับมา มันยังไม่มีคุณภาพดีพอที่จะนำมาตีพิมพ์ได้ น้อยมากที่จะให้ผ่าน คือถ้ามีส่งเข้ามาประมาณ 50 เรื่อง อย่างเก่งจริงๆก็มีสักเรื่องสองเรื่องเท่านั้นที่เข้าตา"

            แล้วจริงหรือไม่ที่นิยายรักมีโอกาสผ่านพิจารณาสูงกว่านิยายแฟนตาซี? หลังจากที่พี่แบงค์ยิงคำถามนี้ไป ก็ได้รับคำตอบว่า มันก็จริงอยู่บ้าง แต่ก็ไม่เชิงว่าจริงซะทีเดียว

            "เป็นความจริงที่นิยายรักจะมีโอกาสมากกว่า แต่โดยส่วนตัวไม่อยากให้เอามาเปรียบเทียบ เพราะทั้งสองแนวเจาะกลุ่มเป้าหมายคนละกลุ่มกัน นิยายรักจะมีมาตรฐานของตัวมันเอง แล้วแต่สำนักพิมพ์ว่าจะตั้งไว้ประมาณไหน ถ้าตรงตามมาตรฐานก็มีโอกาสผ่านพิจารณา แต่แฟนตาซีควรจะมีอะไรที่มากกว่าแค่ตรงตามมาตรฐาน คือต้องแตกต่างจากเรื่องก่อนๆ ที่เคยตีพิมพ์มาแล้ว"

            เมื่อพี่แบงค์ถามเรื่องที่น้องๆ นักเขียนอยากรู้ที่สุดก็คือ อะไรคือเกณฑ์ในการตัดสินว่านิยายเรื่องนั้นควรให้ผ่านหรือไม่ให้ผ่าน บ.ก.เอฟก็ได้จัดแจงสาเหตุ 7 ข้อที่ทำให้นิยายเรื่องนั้นไม่ผ่าน ดังนี้
 
 


            1. สำนวนภาษาที่แสนยืดเยื้อ แต่ใจความมีอยู่นิดเดียว คำผิดคำซ้ำเยอะ คำที่ใช้มักเป็นคำที่คิดว่า​ใช้แล้วสำนวนสละสลวย แต่ไม่ได้เข้ากับบริบทเลย

            "ยกตัวอย่างเช่น ลักแซมเบิร์ก บุรุษหนุ่มผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกล ซึ่งอาจจะมีอนาคตเป็นหนึ่งว่าที่นายกรัฐมนตรีแห่งรัฐวิวานดา นครแห่งการศึกษา ผู้นำพาแสงสว่างมาสู่ประชาชน ได้กล่าวกับหญิงสาวเจ้าของนัยน์ตาสีเบจว่าเขารักหล่อน จะใส่คำพรรณนามาเยอะแยะทำไม ในเมื่อใจความจริงๆ แล้วก็มีแค่ลักแซมเบิร์กบอกรักกับหญิงสาวเท่านั้นเอง"


            2. พล็อตเหมือนๆ กันหมด เช่น ถ้าเขียนโรงเรียนเวทมนตร์ก็จะดำเนินเรื่องเหมือนๆกัน ถ้าเขียนแนวเกมออนไลน์ก็จะวางพล็อตไม่ต่างกัน

            "จริงๆ แล้วบ.ก. ไม่ได้ปฏิเสธพล็อตแนวเหล่านี้หรอกค่ะ แต่ตอนนี้มันมีเยอะจนเกินไป และดำเนินเรื่องเป็นสเต็ปเดียวกัน หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงให้ดูแหวกแนวจากเรื่องก่อนๆ มีเอกลักษณ์ที่น่าจดจำ บ.ก.ก็ไม่อาจจะให้เรื่องนั้นผ่านได้"


            3. บทนำไม่น่าดึงดูด เปิดมาก็บรรยายท้องฟ้าสีคราม ใบหญ้าเขียวขจี ในน้ำมีปลาในนามีข้าว ฯลฯ

            "บทนำควรเป็นอะไรก็ได้ที่ดึง​คนอยู่ คืออ่านอยากรู้ฉากต่อไป ไม่จำเป็นต้องปูพื้นเรื่องแบบนิทาน ทำนองว่ากาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว...อยู่มาวันหนึ่ง...และด้วยเหตุนี้... แต่การดำเนินเรื่องไปพร้อมๆ กับปูข้อมูลจะทำให้อ่านแล้วรู้สึกอินกว่า"


            4. ในหนึ่งย่อหน้ามีมุมมองของตัวละครมากเกินไป ตัดไปตัดมาทำให้รู้สึกว่าอ่านแล้วถูกขัดอารมณ์อยู่ตลอดเวลา เดี๋ยวคนโน้นคิด เดี๋ยวคนนี้คิด

             "แนะนำว่า อย่างน้อย ควรมีมุมมองของตัวละครใดตัวละครหนึ่งแค่ตัวเดียวในหนึ่งย่อหน้า พอย่อหน้าต่อไปค่อยสลับมุมมอง จะทำให้อ่านแล้วอิน ไม่รู้สึกสับสน"

 


            5. การกระทำของตัวละครไม่สมเหต​ุสมผล เช่น เป็นนักฆ่าแต่ดันกลัวเลือด จะงอนก็งอนในเรื่องที่ไม่น่าจะงอน เช่น นางเอกไม่กินเส้นกับพระเอกเพราะตอนเด็กๆพระเอกไม่ยอมไปล่าหมีขาวที่ขั้วโลกใต้ด้วย

            "บางคนอาจจะเขียนด้วยความตั้งใจให้เป็นอย่างนั้น เพราะคิดว่ามันคงดูตลกดี หรือแหวกแนวถ้าหากมีตัวละครที่ทำตัวไร้เหตุผลแบบนั้น ซึ่งทั้งนี้ก็ต้องดูบริบทประกอบด้วยว่าสมควรเขียนอย่างนั้นหรือไม่ ไม่ใช่แค่สักแต่เขียนเพื่อความสะใจเพียงอย่างเดียว"


            6. ใส่เรื่องที่ไม่เกี่ยวหรือเป็นประเด็นสำคัญ เช่น ชีวิตความเป็นอยู่ในกลุ่มเพื่อนฝูง เรื่องรักๆใคร่ๆ ประวัติศาสตร์ชาติก่อนของบรรพบุรุษ ฯลฯ

            "ความจริงถ้ามีบ้างเล็กๆน้อยๆ ก็ทำให้นิยายดูมีชีวิตชีวาขึ้น แต่ถ้าหากไปโฟกัสตรงจุดนั้นมากเกินไป จนกลายเป็นเรื่องสำคัญไปพร้อมกับประเด็นหลักของเรื่อง นอกจากจะเฝือแล้วยังทำให้ผู้อ่านไม่เข้าใจว่าตกลงเรื่องจะไปทางไหนกันแน่"


            7. การดำเนินเรื่องสับสน นึกอยากใส่กลอนก็ใส่ จะตัดฉากก็ตัด กระโดดข้ามไปโน่นทีนี่ที แบบไม่ง้อคนอ่าน ใส่ปริศนาเข้ามาเยอะ แต่ไม่เฉลยอะไรเลย หรือไม่ก็เฉลยมาแบบไม่สมเหตุสมผล

            "ส่วนมากที่บ.ก.พบเจอก็คือ เวลาเขียนเรื่องย่อ ผู้เขียนมักจะไม่ยอมเฉลยให้บ.ก.รู้ กลับบอกให้อ่านเอาเองหรือไม่ก็บอกว่าจะมีเฉลยในภาคต่อหรือภาคสุดท้าย ซึ่งหากมีปริศนาที่จะเฉลยในภาคต่อๆไป อยากให้ผู้เขียนเขียนคำเฉลยมาให้บ.ก.ได้รับทราบด้วย เพื่อที่บ.ก.จะได้เข้าใจเรื่องราวทั้งหมด ซึ่งจะสะดวกมากเวลาที่ต้องตรวจสอบเบาะแสในต้นฉบับภาคต่อซึ่งผู้เขียนได้วางเอาไว้ อีกทั้งหากปริศนาและการคลี่คลายยังดูติดขัด ไม่สมเหตุสมผล บ.ก.ก็จะได้ช่วยท้วงติงและให้คำแนะนำได้บ้าง อย่าปิดบังกันเลยค่ะ บ.ก.ไม่เอาไปสปอยล์ที่ไหนหรอก"
 

            และนี่ก็คือสาเหตุ 7 ข้อที่ทำให้นิยายแฟนตาซีไม่ผ่านพิจารณา ซึ่งมีประโยชน์มากๆสำหรับ น้องๆ นักเขียน Dek-D.com ที่มีความฝันอยากจะมีผลงานนิยายออกมาสักเล่ม สำหรับใครที่ยังไม่ผ่านพิจารณานิยายก็อย่าเพิ่งคิดว่าตัวเองไม่เก่งพอนะครับ บางทีน้องอาจจะวางเรื่องหรือเขียนอะไรผิดพลาดไป ก็ลองค้นหาและปรับปรุงแก้ไข้อีกนิด พี่เชื่อว่าต้องมีสักสำนักพิมพ์แหละ ที่จะให้นิยายของน้องได้ตีพิมพ์กับเขาบ้างแหละน่า

            สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณ บ.ก.เอฟ เป็นอย่างมากที่สละเวลามาให้ความรู้ดีๆแบบนี้
 
พี่แบงค์
พี่แบงค์ - Community Master Community Master ประจำเว็บไซต์ Dek-D.com

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0.00 a.m. Member 5 ส.ค. 54 19:57 น. 5
โอ้ว เรารู้แล้ว เป็นแบบนี้นี่เอง!!

มิน่าล่ะ...

ไม่มีผลงานไหนมาให้ชั้นอ่านเลยซ๊ากกกกกกะเล่ม

ตอนนี้โหยหามาก จะขึ้นสวรรค์ไปฝันแฟนตาซีเอาเองละ จะแต่งเองก็กะไรอยู่

สู้ๆ ค่ะนักเขียนทุกท่าน! เป็นกำลังใจให้

Enter book จงเจริญ เมื่อไรภาคต่อแต่ละเล่มจะออกมาว้า~ แงๆๆ

0
กำลังโหลด

85 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
0.00 a.m. Member 5 ส.ค. 54 19:57 น. 5
โอ้ว เรารู้แล้ว เป็นแบบนี้นี่เอง!!

มิน่าล่ะ...

ไม่มีผลงานไหนมาให้ชั้นอ่านเลยซ๊ากกกกกกะเล่ม

ตอนนี้โหยหามาก จะขึ้นสวรรค์ไปฝันแฟนตาซีเอาเองละ จะแต่งเองก็กะไรอยู่

สู้ๆ ค่ะนักเขียนทุกท่าน! เป็นกำลังใจให้

Enter book จงเจริญ เมื่อไรภาคต่อแต่ละเล่มจะออกมาว้า~ แงๆๆ

0
กำลังโหลด
Devil of Night Member 5 ส.ค. 54 20:28 น. 6
ขอบคุณมากๆค่ะ

เห็นด้วยกับ คห.5 ค่ะ ไม่มีเรื่องใหม่มาให้อ่านเลย

ไปเขีนยเองดีกว่า ฟิ้ววว (จะเขียนได้มั๊ยน้อออ)
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
FruittY Member 5 ส.ค. 54 22:16 น. 8
เราว่าคนที่เขียนนิยายแฟนตาซีได้จะต้องเป็นคนที่มีจิตวิญญาณล้ำลึกกว่าคนทั่วไป
คือเราไม่ได้เป็นนักเขียน เป็นแค่นักอ่านก็ยังอ่านแฟนตาซีไม่รู้เรื่อง
เหมือนเราแบบปรับสมองไม่ทัน =_=;;
นับถือนักเขียนแนวแฟนตาซี (แม้จะไม่เคยอ่านเลยก็เถอะ) เพราะคุณมีจิตนาการสูงมาก
และ (น่าจะ) เขียนได้มันส์สะใจ ชวนติดตาม

ถึงเราจะไม่ได้อ่าน แต่จะเป็นกำลังใจให้ค่ะ :)
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
ingen Member 5 ส.ค. 54 22:54 น. 10
เห็นกฏเกณฑ์แล้วเขียนไม่ออกเลยเพราะมัวแต่กังวล 555 มองตัวเองแล้วรู้สึกว่าฝีมือยังต้องพัฒนาอีกเยอะเลยกว่าจะมีคุณภาพพอ แต่แม้เห็นแล้วจะถอดใจก็ยังต้องพยายามต่อไป นี่แหละน้า ความจริงมักปิดกั้นจินตนาการ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
เลิฟ คยูมิน Member 5 ส.ค. 54 23:06 น. 12
เห็นด้วยกับเหล่า บ.ก. ค่ะ ที่ว่าผลงานยังไม่ค่อยผ่าน

คือเราไม่ได้เป็นนักเขียนเองหรอก

แต่เป็นนักอ่านอ่ะ แล้วยังไม่เห็นผลงานแฟนตาซีจะผ่านได้ง่าย ๆ

มันต้องอ่านแล้วได้ความรู้สึกว่าใช่จริง ๆ อ่ะ ถึงจะปล่อยผ่านได้
0
กำลังโหลด
Nico Riona Member 6 ส.ค. 54 08:39 น. 13

อย่างนี้นี่เอง

(แหม! เสียด๋ายจั๋ง เฮ้อ!เสียด๋ายจัง)

ป.ล.นิยายหนูคงไม่ผ่านตั้งแต่รอบแรกชัวร์ป๊าบ

0
กำลังโหลด
Mega-cool Member 6 ส.ค. 54 09:18 น. 14
แนวรักส่วนใหญ่ถ้าสนุกก็จะได้เป็นละคร แนวแฟนตาซีคงยากที่จะสร้างหนังถ้าไม่ดังจริง อยากเขียนแฟนตาซีอยู่ดีแหละ
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
โลกของพี Member 6 ส.ค. 54 10:05 น. 16

ส่วนมากต่างประเทศจะดังมากกว่านะเราว่า
แบบคนไทยไม่ค่อยจินตนาการอะไรมากมาย ส่วนมากดัดแปลงมาทั้งนั้น

0
กำลังโหลด
SeveruZ- Member 6 ส.ค. 54 12:27 น. 17

ตรงมากๆเลยครับ

ผมก็กำลังแต่งแนวนี้อยู่พอดี

รบกวนช่ยลองอ่านบทนำแล้วคอมเม้นหน่อยนะครับ >>Olygreef's ring<<<


0
กำลังโหลด
blue label Member 6 ส.ค. 54 12:36 น. 18
 การกระทำของตัวละครไม่สมเหต​ุสมผล
‘นางเอกไม่กินเส้นกับพระเอกเพราะตอนเด็กๆพระเอกไม่ยอมไปล่าหมีขาวที่ขั้วโลกใต้ด้วย’
แอบฮากับประโยคนี้แต่ขอบอกว่าจริงครับ บางเรื่องก็สร้างเรื่องงอนๆได้ ...(ละเอาไว้)  มากๆๆ 


0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด