6 ก้าวสู่การเป็นนักเขียนหน้าใส ตอน 1 การเปิดเรื่อง

เปิดเรื่องยังไงให้กระแทกใจคนอ่าน

ก้าวแรกสู่การเป็นนักเขียนหน้าใส วันนี้ขอเสนอตอน "เปิดเรื่องยังไงให้กระแทกใจคนอ่าน"

ปกติแล้วเวลาเราซื้อหนังสือสักเล่ม เราก็มักจะดูที่ปกก่อนว่าสวยไหม ชื่อเรื่องดูน่าสนใจไหม ใช่คนเขียนที่เราชอบหรือเปล่า แต่หลังจากที่ซื้อไปแล้วนี่สิ ปราการด่านแรกที่จะตัดสินว่าคนอ่านจะอ่านนิยายของเราต่อไหมก็คือบทแรกนั่นเอง

วันนี้เรามีนักเขียนพี่เลี้ยงสี่คนจาก "โครงการนักเขียนหน้าใส ปีที่ 6"

มาให้คำแนะนำการเปิดนิยายรักให้โดนใจคนอ่านกันค่ะ

คุณแสงอรุณ วรรณจู

นามปากกา Hideko_Sunshine

ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนนะคะว่าทริคที่เขียนและบอกกล่าวในบทความนี้ไม่ได้อ้างอิงตำราใดๆ แต่เป็นสิ่งที่เราใช้ เราปฏิบัติจริง และมาจากการเรียนรู้ในตลอดระยะเวลาที่เขียนนิยายมาซึ่งได้ลองผิดลองถูกด้วยตนเองค่ะเอาเป็นว่าอาจไม่ใช่วิธีที่สุด แต่น่าจะพอช่วยเป็นแนวทางให้กับคนที่กำลังเริ่มแต่งนิยายหรือที่กำลังแต่งนิยายอยู่แล้วแต่อยากลองวิธีของเราบ้างนะคะหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับคนที่เข้ามาอ่านไม่มากก็น้อยค่ะ

 

การเปิดเรื่องนั้นมีอยู่หลายแบบด้วยกัน แล้วแต่ความถนัด แล้วแต่ความพอใจของนักเขียน และแล้วแต่แนวเรื่องด้วยค่ะ แต่ที่เราใช้บ่อยๆ น่าจะเป็นสี่แบบใหญ่ๆ ดังนี้นะคะ

การเปิดเรื่องด้วยการให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องราวและปูความสัมพันธ์ตัวละคร...ข้อดีคือจะทำให้นักอ่านเข้าใจเรื่องราวได้ง่าย ถ้าผ่านช่วงนี้ไปได้พอเข้าสู่ช่วงดำเนินเรื่อง เข้าพล็อต และเข้าปมใหญ่ๆ ต่อไปจะเขียนง่ายค่ะ เพราะเราปูเรื่องไว้ตั้งแต่ตอนต้นแล้ว แต่วิธีนี้อาจมีข้อเสียอยู่บ้างคือ เรื่องอาจอืดอาดหรือช้าไปนิดสำหรับช่วงตอนต้น คนอ่านอาจเซ็งๆ และไม่อ่านต่อ โดยเฉพาะในกลุ่มคนอ่านที่กวาดสายตาอ่านช่วงแรกๆ และให้ความสำคัญกับช่วงเปิดเรื่อง ซึ่งเราอาจแก้ปัญหาด้วยการดึงประโยคเด่นในเรื่องหรือดึงคาแร็กเตอร์ตัวละครหลักมาโปรยไว้ตั้งแต่ตอนต้นเรื่อง (ก่อนเข้าเนื้อหา) เพื่อดึงความสนใจไว้ก่อนก็ได้...การเปิดเรื่องแนวนี้ที่เห็นได้ชัดๆ ก็เช่นเรื่อง “Love and Independence คุมขังหัวใจให้เสพติดความร้าย!”

เปิดเรื่องเร็ว กระชับ เข้าพล็อตและปมเรื่องอย่างรวดเร็ว...คนจะได้ลุ้นตั้งแต่ต้นเรื่อง จากนั้นจึงค่อยให้ข้อมูลควบคู่ไปกับการดำเนินเรื่อง ข้อดีคือดึงความสนใจจากคนอ่านได้ตั้งแต่ต้นเรื่อง เปิดเรื่องไม่ยืดยาด แต่อาจมีข้อเสียนิดหน่อยตรงที่ความสมจริงหรือเขียนๆ ไปแล้วคนแต่งเองอาจลืมให้ข้อมูลบางอย่าง จังหวะการดำเนินเรื่องสะดุด...ซึ่งแก้ปัญหาได้ด้วยการเขียนพล็อตเรื่องและทรีตเม้นท์เรื่องไว้ตั้งแต่ต้นจนจบก่อน จะช่วยทำให้เราเห็นภาพรวมของเรื่องและรู้ว่าจังหวะไหนควรใส่ปมย่อย ปมหลัก ไคลแมกซ์หรือให้ข้อมูลอะไรกับคนอ่านได้อย่างพอดี ตัวอย่างเช่น “Ruthless Leo ปิดบัญชีรักเคลียร์คดีหัวใจนายเจ้าเสน่ห์!”

  1.      เปิดเรื่องให้แตกต่างและเป็นที่น่าจดจำด้วยเหตุการณ์หรือในสถานที่ที่ไม่ค่อยน่าจะเกิดขึ้นในเรื่องอื่น...ข้อดีคือดึงความสนใจจากคนอ่านได้ง่าย เพราะอะไรที่แตกต่างมักมีความน่าสนใจอยู่ในตัวมันเอง แต่ข้อเสียคืออาจทำให้ไม่ค่อยสมจริง การแก้คือต้องดูเนื้อเรื่องของเราด้วยว่าหากเปิดด้วยวิธีนี้จะส่งเสริมกับเรื่องของเรามั้ย มันขัดกับเนื้อหาหรือตัวละครของเราหรือเปล่า ตัวอย่างการเปิดเรื่องแนวนี้คือ  “Romantic Summer ฝ่าฝืนกฎเหล็กตัวหัวใจยัยร้ายเดียงสา!” โดยเรื่องนี้เปิดเรื่องที่สถานีขนส่งหมอชิตค่ะ

เปิดเรื่องด้วยการยกเหตุการณ์สำคัญหรือเหตุการณ์เด่นๆ ซึ่งมีผลต่อเรื่องขึ้นมาก่อน...จริงๆ แล้วการเขียนนิยายไม่จำเป็นต้องเดินเรื่องตามปฏิทิน (เล่าด้วยการเดินเรื่องไปข้างหน้า) ก็ได้ แต่เรายกเหตุการณ์เด่นไม่ว่าจะเป็นกลางเรื่องหรือท้ายเรื่องขึ้นมาก่อน แล้วค่อยเล่ากลับไปถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ก็ได้ ข้อดีของวิธีนี้คือเร้าความสนใจ ดึงดูดความสนใจตั้งแต่ต้นเรื่อง ชวนให้ติดตามว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้ยังไงและจะส่งผลอะไรต่อเนื้อเรื่องบ้าง ข้อเสียคืออาจเป็นการสปอยล์เรื่องหรือพล็อตเรื่องให้คนอ่านสามารถเดาพล็อตของเราได้ก่อน การแก้ปัญหาคือ...ระวังอย่ายกเหตุการณ์ที่มันสปอยล์เรื่องมาค่ะ หรือไม่อาจมีการขัดเกลาบางจุดที่จะสปอยล์เรื่องออกไปก่อน หรืออาจเปลี่ยนมุมมองการเล่าเรื่องก็ได้ ตัวอย่างการเปิดเรื่องแบบนี้คือเรื่อง “Guilty Fairy Tale ล่ารักเร้นร้ายกระชากหัวใจยัยสุดฮอต!”

คุณพราวนภา ภู่รัตนากรกุล

นามปากกา TheLittleFinger

ถ้าเป็นในเรื่องแนวความรักคิกขุ กุ๊กกิ๊ก วัยใส นี่ก็ต้องเน้นในเรื่องของการเปิดตัวของพระ-นางเลยค่ะ แต่ละคนต้องมีมุมมองที่น่าสนใจ อ่านแล้วไม่คิดว่า โอ๊ะ นางเอกแนวนี้อีกแล้วหรือพระเอกแนวนี้อีกแล้ว คือถ้าคาแร็กเตอร์คล้ายแนวก่อนๆ ก็ต้องมีวิธีเขียนให้ดูแตกต่างไป จากคำบรรยายหรือจากเหตุการณ์ โดยเฉพาะการพบเจอกันระหว่างพระเอกนางเอก ถ้ายืดไปไกลมาก อ่านไป 2-3 ตอนยังไม่เจอกันอีก คนอ่านก็อาจจะเบื่อได้จ้า

 

ส่วนถ้าเป็นเรื่องแนวสืบสวน แนวทริลเลอร์ หรือแนวดาร์กหน่อย ก็ต้องเน้นการเปิดเรื่องและตัดจบให้ดูน่าสนใจ ให้คนอ่านรู้สึกอยากอ่านต่อเข้าไว้ เช่น จบฉากบทแรกตอนนางเอกย้ายเข้าเมืองใหม่ หรือฉากการพบบางอย่างที่คิดว่าน่าจะเป็นต้นเหตุของปัญหาที่จะเกิดต่อไปในเรื่อง อย่างเช่นในเซ็ต Relationship (Brother Relation, Sister Relation, Friend Relation) ที่เป็นแนว Drama-Thriller บทนำของเรื่องก็จะเป็นการยกเอาเหตุการณ์บางเหตุการณ์ที่เกิดภายในเรื่องและเป็นต้นเหตุของปมในเรื่องนั้นขึ้นมา แต่ตัดมาเพียงแค่ส่วนที่เป็นไคลแมกซ์แบบลอยๆ เท่านั้น ไม่ยกมาทั้งหมด ทำให้นักอ่าน อ่านแล้วรู้สึกว่า เอ๊ะ มันจะเป็นยังไงต่อนะ ต้องติดตามอ่านไม่อย่างนั้นก็จะไม่รู้แบบนั้นเป็นต้น

 

คุณชลธิชา บุญรัตนพิทักษ์

นามปากกา ลูกชุบ

เทคนิคการเปิดเรื่องให้น่าสนใจสำหรับชุบคือ การดำเนินเรื่องไวๆ หรือเข้าถึงฉากที่น่าสนใจไวๆ ตอนแรกเป็นตอนที่ทำให้คนอยากอ่านของเราต่อไปทำให้ต้องงัดสถานการณ์ที่คิดว่าน่าสนใจออกมา ส่วนรายละเอียดอื่นๆ อาจจะมาใส่ได้ในตอนถัดไป ยกตัวอย่างเช่น ตอนหนึ่งเปิดมาเป็นนางเอกกำลังวิ่งหนีเจ้าหนี้และกระโดดขวางรถพระเอกอะไรแบบนั้น พอตอนสองค่อยมาอธิบายว่าก่อนหน้าจะโดนวิ่งไล่ตาม นางเอกทำอะไรมา และหนี้ก้อนนั้นเอาไปทำไม เป็นต้นค่ะ

คุณกานตริน ลีละหุต

นามปากกา เจ้าหญิงผู้เลอโฉม

โดยส่วนตัวเป็นคนชอบเปิดเรื่องเร็ว BOOM! BOOM! BOOM! จะชอบปาระเบิดใส่ในบทแรกรัวๆ และจะจบทิ้งท้ายบทด้วยปมหลักที่ทำให้เรื่องของเราแตกต่างจากคนอื่น เพราะการเปิดเรื่องก็เหมือนเป็น First Impression เป็นหน้าเป็นตาของนิยายทั้งเรื่อง เป็นด่านแรกที่คนอ่านจะใช้ตัดสินว่า อยากจะเปิดอ่านต่อหรือวางมันลง เพราะตัวอายเองถ้าจะอ่านหนังสือสักเล่มก็อยากจะเลือกเรื่องที่ดึงดูดให้อยากติดตามต่อตั้งแต่บทแรก เทคนิคที่ใช้ประจำคือจะต้องเริ่มด้วยประโยคเด็ด สั้นๆ แต่สะกิดให้คนรู้สึกสนใจขึ้นมา เช่นในเรื่อง "10 Lies แผนร้ายอุบายลวง"

การเปิดเรื่องก็คล้ายกับการตกปลา ถ้าเราสามารถใช้เหยื่อล่อที่น่าสนใจและน่าค้นหา ปลาก็จะงับเหยื่อได้ง่ายขึ้นค่ะ เรื่องนี้เป็นแนวลึกลับซับซ้อนที่ชวนให้คนอ่านค้นหาว่าตัวละครตัวไหนในเรื่องกันแน่ที่โกหก บทแรกควรจะเปิดปมและแนะนำตัวละครหลักในเรื่อง แต่ไม่ควรเผยไต๋ทั้งหมดออกไป แค่แง้มๆ พอเป็นกระษัย พอให้คนอยากอ่านต่อ นึกภาพว่าถ้าเรารู้หมดแล้วว่าอะไรเป็นยังไงมายังไง...ความตื่นเต้นที่จะได้ค้นหาความจริงก็จะลดลงใช่มั้ยคะ ก็เหมือนกับนิยาย ถ้าอธิบายซะหมดเปลือกแต่แรกก็ไม่เหลืออะไรให้ตามต่อ เช่นเดียวกับการไม่เผยอะไรเลย ไม่มีทั้งปมและปัญหาให้ขบคิด...คนอ่านก็จะไม่มีแรงจูงใจให้อ่านต่อค่ะ

และในส่วนของแนวรักหวานแหววมุ้งมิ้งงุงิ...เทคนิคที่ใช้ก็ต้องเป็นอีกแบบเพราะไม่สามารถใช้การเปิดปมยั่วคนอ่านได้แล้ว อันนี้จะต้องเน้นที่คาแร็กเตอร์ตัวละครค่ะ คาแร็กเตอร์ต้องชัด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องไม่ธรรมดา การเปิดเรื่องด้วยนางเอกตื่นนอนไปโรงเรียนสามารถทำได้ ถ้าคุณมีเทคนิคการบรรยายและการดำเนินเรื่องที่แปลกใหม่ มีคาแร็กเตอร์ที่ล้ำและเป็นตัวของตัวเอง ควรเข้าเรื่องอย่างรวดเร็ว ไม่ควรเวิ่นเว้อถึงสภาพอากาศ สภาพจราจร หรือสีหน้าของคุณป้าข้างบ้านมากเกินไป มันไม่จำเป็น นักอ่านไม่ได้อยากรู้ ณ ตอนนั้น สิ่งที่นักอ่านอยากรู้คือ "นางเอกคือใคร นิสัยยังไง แล้วพระเอกเป็นใคร ฮอตแค่ไหน สองคนเจอกันได้ยังไง แล้วจะเป็นยังไงต่อ" เช่นเดียวกับคำถามอีกคำถามที่สำคัญมากคือ "ทำไมฉันต้องอ่านเรื่องนี้ต่อ?”

 

ได้เคล็ดลับกันไปแบบนี้ ทั้งคนที่กำลังประกวดนักเขียนหน้าใสอยู่ และคนที่กำลังเขียนนิยายรักกุ๊กกิ๊กคงได้เทคนิคดีๆ ไปใช้กันแล้วสินะคะ สำหรับผู้ที่ผ่านเข้ารอบ 20 คนและกำลังขะมักเขม้นกับการแต่งตอนต่อไปเพื่อเอาลงในสัปดาห์นี้ พี่ๆ ทุกคนก็ขอเป็นกำลังใจให้ และขอเชิญชวนชาว Dek-D มาร่วมเชียร์ ร่วมโหวตผลงานที่ถูกตาต้องใจ อยากดันใครให้เป็นนักเขียนหน้าใสคนต่อไป เชิญได้ที่นี่เลยจ้า

นักเขียนหน้าใส
นักเขียนหน้าใส - Columnist นักเขียนหน้าใส

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

Oun_piya_ Member 15 ต.ค. 56 09:58 น. 26

ไอดอลหนูทั้งนั้นนนน!! >[++++++++]<.  หนูชอบผลงานพวกพี่ๆม้ากมาก พี่ๆเก่งมากเลยย หนูจะพยายามมมมมมมม กริ๊ดดดดดด~~~~~. รักเลย

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด

37 ความคิดเห็น

‰๏Lจ้ากะลๅ๏ Member 10 ก.ย. 56 16:56 น. 1

><   ขอบคุณมากๆเลยค่ะ

ทั้งหมดเป็นนักเขียนในดวงใจเราหมดเลย  #ปาหัวใจใส่~~~~~~~~

พี่โอ๋รู้สึกเหมือนจะให้ทริคเยอะสุด  แต่ของคนอื่นก็มีแต่ดีๆทั้งนั้นเลย

จะนำไปปรับใช้นะค่ะ ^ ^

เย้

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยเจ้าของ

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
ลูกปลากัด Member 12 ก.ย. 56 22:26 น. 13

เฟี้ยวววมากก แต่ก็นะมันทำยากมากค่ะยังไงๆก็ต้องอ่านเยอะๆแล้วก็หัดเขียนเยอะๆเป็นพื้นฐาน >.< มีแต่คนที่เค้าชอบทั้งนั้นเลยย รักเลย

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
chocolate Milk Member 14 ก.ย. 56 09:34 น. 15

ขอบคุณมากเลยค่า ><~~~ มีแต่นักเขียนที่เราชอบทั้งนั้น เฮ~

เราชอบมีปัญหาตรงที่แต่งแล้วคนที่อ่านครั้งแรกจะไม่เข้าใจ TOT

จะแก้ไขยังไงดีคะ TOT~~~เสียใจ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด