สวัสดีจ้า น้องๆ ชาวเด็กดีทุกคน และแล้วก็ถึงเวลาที่เรารอคอย การเปิดตัวคอลัมน์ใหม่เอี่ยมของเรา นั่นก็คือ กลเม็ดเคล็ดลับ ฉบับ เอ็กซ์คลูซีฟ (พูดแบบเน้นคำด้วย 55) เปิดบ้านให้นักเขียนไฟแรงทั้งหลาย ได้มาร่วมแชร์ประสบการณ์ดีๆ เกี่ยวกับการเขียนของพวกเขากัน ^___________^
 
        สำหรับครั้งแรก พี่ตินขอเปิดด้วยหัวข้อ “กลยุทธ์การตั้งชื่อนิยาย ต้องตั้งอย่างไร ถึงจะโดนใจและฟินสุดๆ” เพราะก่อนที่เราจะเริ่มเขียน อย่างแรกที่เราคิด ก็คือ “ชื่อเรื่อง” ดังนั้น ชื่อเรื่องจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด จะได้จะโดนหรือไม่ ชื่อเรื่องมีส่วนช่วยอยู่ไม่น้อยเลยนะ
 
        เอาละ หลายคนคงสงสัยอยากรู้ว่า “คนดังนั่งคุย” ของเราเป็นใครบ้าง พวกเขาต่างก็เป็นนักเขียนรุ่นพี่ที่ต่างก็ผ่านการลงนิยายในเว็บของเรามาแล้ว และทุกวันนี้ก็กลายเป็นที่รู้จัก มีชื่อเสียงในวงการนักเขียนยุคใหม่ ขอแนะนำสั้นๆ รวดเดียวนะ เจ้าปลาน้อย, ปองวุฒิ, มาภา และ Season Cloud นั่นเอง และเทคนิคของแต่ละคนจะเป็นอย่างไร น่าสนใจขนาดไหน อยากรู้ก็ตามพี่ตินมาเลยจ้า
 

เจ้าปลาน้อย

ขอเปิดด้วย “เจ้าปลาน้อย” เจ้าแม่นิยายรักกุ๊กกิ๊กแห่งสำนักพิมพ์แจ่มใส ถามว่าเจ๋งแค่ไหน ขอบอกว่าน้องเขามีผลงานมามากกว่า 60 เล่ม! เพราะงั้น เรียกว่าโปรการตั้งชื่อสุดๆ (จริงไม่จริงไม่รู้ คิดไว้ก่อน 55) และเจ้าปลาน้อย ก็บอกเคล็ดลับมาว่า
             
        “เทคนิคในการคิดชื่อเรื่องของปลาน้อยคือ... เอาบุคลิกของพระเอกมาเป็นเกณฑ์ และพยายามใช้คำภาษาอังกฤษที่สอดคล้องมาไว้นำหน้าชื่อ แต่บางเรื่อง ก็เลือกที่จะใช้ชื่อพระเอกเป็นธีมหลัก เช่น พระเอกชื่อทศกัณฑ์ ชื่อเรื่องก็อาจจะเป็น “ฉันนี่แหละหัวใจทศกัณฑ์” และด้วยความที่ปลาเขียนนิยายแนวรักกุ๊กกิ๊ก ชื่อเรื่องก็มักจะยาววววววว การตั้งชื่อให้มีสัมผัสในประโยคจะช่วยได้ ทำให้อ่านได้ง่ายขึ้น บางครั้งก็เอาข้อความในชีวิตประจำวันมาปรับ เช่น หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ ปลาน้อยก็เอามาปรับใหม่เป็นชื่อเรื่องว่า Devil inside me ปิศาจที่ท่านรักกำลังติดต่อได้ในขณะนี้ เป็นต้น แต่อีกหนึ่งเคล็ดลับที่สำคัญมากของปลาน้อยก็คือ... ให้เพื่อนช่วย (หัวเราะก๊ากกก) เพราะส่วนใหญ่ เพื่อนจะช่วยคิดค่ะ”
 

ปองวุฒิ

คนที่สองของเราเป็นผู้ชาย หนุ่มแว่นสุดเท่ ปองวุฒิ นักเขียนผู้สร้างสรรค์ผลงานหลากหลาย ทั้งแนวสืบสวน ระทึกขวัญ แนวรัก เรื่องสั้น เรียกว่าเหมามาทุกแนวแล้ว ดังนั้น ก็ต้องตั้งชื่อเรื่องมาหลายแนวมากๆ เพราะฉะนั้น ประสบการณ์ย่อมมากมายก่ายกองแน่นอน ลองฟังดูนะว่า พี่เขามีไอเดียอะไรมาฝาก  
 
        “หลักการตั้งชื่อนิยายให้ดีนั้น โดยพื้นฐานคือการเอาองค์ประกอบหลักสามอย่างมารวมอยู่ด้วยกัน หนึ่งคือ เลือกใช้ประโยค ถ้อยคำ สำนวนที่คนส่วนใหญ่ติดหูคุ้นเคย สองประโยคนั้นเกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องถ้าเป็นการสรุปให้นิยามทั้งเรื่องให้อยู่ในประโยคสั้นจะดีมาก สามสุดท้ายคือหาทางบิดพลิกให้มันแตกต่างไปจากปกติ ขอยกตัวอย่างผลงานตัวเองเช่นเรื่อง ’Milly Mall ห้างศพสินค้า’ แค่อ่านชื่อคนก็จะเข้าใจได้ว่ามันเป็นเรื่องเกี่ยวกับห้างที่มีผีสิง มีความตาย หรือวิญญาณอยู่ ซึ่งเกิดจากการบิดคำว่า “ห้างสรรพสินค้า” เป็น “ห้างศพสินค้า” จะเห็นได้ว่าแค่เปลี่ยนคำสั้นๆ ตัวเดียวก็อาจให้ผลยิ่งใหญ่ได้ หรืออีกตัวอย่างเช่น “Fakebook เน็ตเวิร์คชวนตาย” เรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์โซเชียลเน็ตเวิร์คอาถรรพ์ที่ใช้การหลอกลวงแทนการนำเสนอตัวเองอย่างจริงใจ ซึ่งชื่อภาษาอังกฤษนั้น คนเห็นปราดเดียวก็จะพอเข้าใจได้ว่ามันดูเหมือน Facebook น่าจะเกียวข้องกับเรื่องทำนองนี้ รวมทั้งชื่อภาษาไทยต่อหลังที่สะท้อนถึงความน่ากลัว”  
 

มาภา

ต่อไป มาภา ชื่อนี้นี่พูดถึงปุ๊บ เชื่อว่าชาวเว็บเด็กดีร้องอ๋อ เพราะนิยายของเธอติดอยู่อันดับต้นๆ ท็อปเท็นมาตลอด และแต่ละเรื่องก็ชื่อติดหูทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น “หนาวหวาน”  “เก็บรัก” “มนต์ลวงรัก”   “มนต์ธารา”  ฯลฯ เรียกว่าชื่อสั้นกระชับได้ใจความมากๆ ณ ตอนนี้ ทั้ง 4 ชื่อที่พูดมา ตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ อรุณ เรียบร้อยแล้ว มาดูเคล็ดลับการตั้งชื่อเก๋ๆ ของมาภากันเลย   
      
        “เวลาตั้งชื่อเรื่อง จะคิดว่าชื่อเรื่องต้องเป็นเรื่องย่อได้ด้วย พยายามเลือกคำที่จะตรงกับประสบการณ์ที่คนอ่านจะได้รับ สื่ออารมณ์ สื่อโทนเรื่อง สื่อแนวเรื่องให้ง่ายต่อการตัดสินใจอ่าน ยกตัวอย่างเช่น 'หนาวหวาน' คำว่า หนาว เพื่อให้เข้ากับฉากฤดูหนาวในอังกฤษ และ หวาน สื่อว่าเรื่องนี้จะอยู่ในโทนความรักละมุนละไม คงไม่มีใครคิดว่า หนาวหวาน เป็นเรื่องการผจญภัยในแอฟริกาหรอกใช่ไหมคะ อันที่จริงคำที่จะสื่อก็มีอีกหลายคำนะ แต่สองคำนี้น่ารักตรงที่พยัญชนะ น.หนู กับ ว.แหวน มันสลับที่กันพอดี
 
        ชื่อเรื่องน่าจะเป็นคำธรรมดา กระชับ แปลได้ทันที และเมื่ออ่านออกเสียงไม่รู้สึกสะดุด ไม่ต้องทวนเป็นครั้งที่สองหรือเป็นคำพ้องเสียงที่แปลได้เป็นคำอื่น อย่างเช่น ซ่อม หรือ ส้อม ภพ หรือ พบ กาล หรือ การ อะไรแบบนั้น มักหลีกเลี่ยงคำยอดนิยม เช่น ซาตาน เทพบุตร วิวาห์ เสน่หา เพราะส่วนตัวรู้สึกจำยาก แล้วก็สับสนได้ง่าย แต่ยังไงสำคัญที่สุด ให้เลือกชื่อที่เราชอบ ไม่ใช่คนอื่นชอบ เพราะจะทำให้ไม่มีความสุขเวลาเขียน...จริงๆ นะ o(>,<)o”
 

Season Cloud

ปิดท้ายคนที่ 4 กับนักเขียนแฟนตาซีที่ตั้งชื่อได้เก๋ไม่แพ้ใครอย่าง Season Cloud  คนนี้มีผลงานมาหลากหลาย ได้แก่ ความลับแห่งทวีปสาบสูญ Abyss Rider  D.W.O. 7 การ์ดราชันย์ครองพิภพ  ฯลฯ ดูจากชื่อแล้ว เราก็พอจะเดาได้ว่า ไม่ธรรมดา เพราะตั้งได้ทั้งชื่อไทยและอังกฤษ คำตอบของ Season Cloud ค่อนข้างยาว พี่ตินเคยต้องตัดทอนออกบ้างบางส่วน แต่ยังไงก็เนื้อหาอัดแน่นปึ้กๆ มากๆ เรียกว่าใครมีปัญหาเรื่องตั้งชื่อเรื่อง ถ้าได้มาอ่านรับรองเข้าใจอย่างถ่องแท้แน่นอน ไปลองอ่านกันดูนะ  
 
        “ขอแยกวิธีการตั้งชื่อให้กับมือใหม่ ซึ่งยังไม่พอใจกับชื่อนิยายตัวเองที่ถูกตั้งขึ้นเป็น 4 วิธีใหญ่ๆ ครับ
 
  1. ตั้งโดยใช้ชื่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งอันมีความสำคัญกับเรื่อง ยกตัวอย่างที่ตรงกับประเด็นนี้เต็มๆ เซวีน่า ไมรอน บารามอส ดราก้อนบอล วันพีช เรื่องเหล่านี้ใช้เพียงคำสั้นๆ ซึ่งมาจากสิ่งสำคัญในเรื่อง เป็นการตั้งชื่อที่ง่ายมากครับ มือใหม่สามารถทำได้ โดยอยู่ภายใต้เงื่อนไขดังนี้
  • ชื่อต้องเท่พอจะจั่วหัวแปะหน้าเรื่องของเรา แต่ไม่ควรจะยาวมากนัก ‘สองพยางค์จำง่าย สามพยางค์กำลังดี สี่พยางค์พอโอเค ห้าหกพยางค์จงข้ามการตั้งชื่อแบบนี้ไปตั้งแบบอื่นเพราะมันยาวเกิน’
  • ชื่อที่จะใช้ตั้งต้องเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลกับเนื้อเรื่อง จะเป็นชื่อตัวเอกก็ไม่ผิด ชื่อเมืองก็ได้ ชื่อสถานที่ก็ไม่มีปัญหา แต่... ต้องเป็นสิ่งที่สำคัญและมีการกล่าวถึงบ่อย ถ้ากล่าวถึงเพียงสองสามครั้งตลอดทั้งเรื่องนี่ก็ไม่ไหว ควรใช้ชื่ออื่น
  • หากจะใช้วิธีนี้แบบแอดวานซ์ สามารถนำชื่อที่ว่ามาผนวกกับคำอื่นเช่น หัวขโมยแห่ง+บารามอส โรงเรียนเสนาธิการแห่ง+อานาธีเซีย ลินคอร์น+ไดอารี่ เห็นไหมครับ ชื่อเรื่องดังเหล่านี้ เกิดจากการนำแค่สองส่วนมาผสมกัน หากเราอยากผสมคำเป็นชื่อเรื่องก็ไม่ได้ยากเย็น บัลลังก์แห่ง+ฮาเดส ปีกแห่ง+อาร์คแองเจิ้ล น้ำตา+เทวทูต อะไรก็ว่าไป แต่ที่สำคัญ ควรบอกบางส่วนของเรื่องได้ หากจะใช้คำผสมเช่นที่ว่ามา ถ้าผสมแล้วบอกเนื้อเรื่องอะไรไม่ได้ แนะนำว่า กลับไปใช้เพียงชื่อสั้นๆ จะติดหูกว่าครับ
     
  1. การตั้งชื่อสื่อเนื้อหา วิธีนี้จะยากนิดหน่อย เพราะต้องบอกเนื้อหาของเรื่องคร่าวๆ เช่น ผู้พิทักษ์อลเวง เพลงสุดท้ายของนางเงือก Dragon Delivery ผู้เสกทราย ชื่อเหล่านี้ตั้งมาโดยบอกกล่าวเนื้อหาของเรื่องผ่านตัวอักษรไม่กี่ตัว แต่ได้ใจความ เช่น Dragon Delivery นั้น ก็พอรู้ว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับร้านขนส่งที่เกี่ยวข้องกับมังกร ผู้พิทักษ์อลเวง ก็บอกกล่าวแล้วว่าเป็นเรื่องวุ่นวายของผู้พิทักษ์ แต่ผู้พิทักษ์นั้นคืออะไร ต้องมีคุณสมบัติอะไร ก็ต้องติดตามในเรื่อง
        ข้อแม้ของวิธีตั้งชื่อแบบนี้...
  • อย่ายาวมาก สั้นๆ กระชับๆ ได้ใจความ
  • ระวังอย่าใช้คำที่ไม่ค่อยเกี่ยวกับเนื้อเรื่องมาใช้ ยกตัวอย่างเรื่องของผมเอง มหาสงครามใต้ยอดหญ้า เป็นเรื่องของสิ่งมีชีวิตเล็กกว่าแมลง ที่กำลังทำสงครามอันโหดร้าย เกิดผมตั้งชื่อว่า ‘เล็กจิ๋วผจญภัย’ แบบนี้อารมณ์จะเปลี่ยน และแทนที่จะได้กลุ่มเป้าหมายที่อยากเสพเรื่องราวจริงจัง กลับได้กลับที่อยากเสพอะไรน่ารักๆ พอเขาเปิดเข้าไปอ่านก็จะผิดหวัง เนื่องจากไม่ใช่แนวที่ตามหา จะทำให้เราเสียโอกาสได้กลุ่มผู้อ่านที่ใช่ด้วยเช่นกัน ดังนั้น...เลือกคำให้ชัดเจน และสื่อความหมายตรงกลุ่ม
  • คล้ายข้อที่แล้ว การตั้งชื่อ ถ้านิยายของเราตลก ก็ควรใช้ชื่อที่มีคำติดตลก บ๊อง เกรียน บ้า รั่ว หากนิยายเราติดสยองขวัญ ก็ใช้คำให้ถูกต้อง ผวา อาถรรพ์ อาฆาต อะไรไปตามเรื่องครับ ลองคิดสภาพนะครับ นิยายสยองขวัญ...แต่ชื่อเรื่อง...บ้านผีรั่ว...อันนี้คนอ่านไม่คาดหวังความสยองแน่ครับ...ผมรับประกัน
     
  1. วิธีนี้คือการใช้อย่างที่ 1 และ 2 รวมกัน เช่น ตั้งชื่อเป็นภาษาอังกฤษ ตามด้วยภาษาไทย เช่น Nelf มหาสงครามใต้ยอดหญ้า...Nelf เนล์ฟ ในเรื่องเป็นชื่อผืนแผ่นดินที่เกิดเรื่องราว มหาสงครามใต้ยอดหญ้า เพราะเรื่องที่ว่าเป็นสงครามของเผ่าที่มีขนาดเล็กกว่าแมลง ต่ำกว่ายอดหญ้า สังเกตดูครับ ชื่อที่ว่าใช้ชื่อเฉพาะในวิธีที่ 1 ตั้งชื่อภาษาอังกฤษ และใช้การตั้งชื่อไทยให้สื่อเนื้อเรื่อง ซึ่งวิธีนี้เป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก ส่วนข้อสังเกตมีเพียงว่า คำแปลไทยนั้น ไม่จำเป็นต้องแลตรงตัวคำอังกฤษก็ได้ไม่ผิดกติกา และอีกหนึ่งวิธี...ที่ผมอยากจะเสนอก็คือ
     
  1. อันนี้ง่ายมากครับ เมื่อน้องๆ สามารถตั้งชื่อในวิธีที่ 1 และ 2 ได้แล้ว และมีความชำนาญมากขึ้น...จะสามารถตั้งชื่อนอกเหนือกฎเกณฑ์ได้เอง โดยไม่ต้องทำอะไรทั้งสิ้นครับ ฝึกสองวิธีแรกให้ชำนาญ แล้วหนทางที่สามจะปรากฏ “ความคิดแปลกแหวกแนวส่วนมาก เกิดจากฐานความเชื่อเดิม เพียงแค่มองในมุมที่แตกต่าง”
     
        ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ...ขออนุญาตใช้นิยายตัวเองนะครับ เนื่องจากหากใช้เรื่องของท่านอื่นจะกลายเป็นการผิดมารยาท นิยายเรื่องหนึ่งของผมเกี่ยวกับการดำน้ำลึกในยุคอนาคต ผมตั้งชื่อให้ว่า... ‘Abyss Rider ดิ่งมฤตยูใต้นที’
        Abyss นั้นตามไบเบิลหมายถึงนรกขุมที่มืดดำและลึกที่สุด ผมจึงนำมาเปรียบกับท้องทะเลที่ดำมืด และการลงไปก้นทะเลก็เหมือนดำสู่ขุมนรก
        Rider ว่ากันตามศัพท์แล้ว หมายถึง ผู้ขับขี่ แต่ในทางอ้อม ผมใช้เพื่อบอกว่า เรื่องนี้คือเรื่องเกี่ยวกับผู้โลดแล่นไปในขุมนรกสุดหยั่ง”
 

        จบลงไปแล้วกับบทสัมภาษณ์ในหัวข้อตั้งชื่อเรื่องของเรา นักเขียนทั้ง 4 ต่างก็มีเคล็ดลับเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใครมาบอกเล่า และทุกคนก็มีคำแนะนำดีๆ กันทั้งนั้นเลย อ่านแล้วก็ลองเอาไปปรับใช้กับนิยายของเราดูนะจ๊ะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับน้องๆ บ้าง ไม่มากก็น้อย
 
        สำหรับครั้งหน้า ใครจะมาพูดคุยกับเราบ้าง และเป็นหัวข้ออะไร ก็รอลุ้นกันนะ ใบ้ให้นิดๆ ว่า หัวข้อนั้นเกี่ยวกับอะไรสยองๆ ด้วยล่ะ อิอิ
 
        แล้วพบกันใหม่ครั้งหน้าจ้า

อตินเอง 

พี่อติน
พี่อติน - Writer Editor ผู้ดูแลหมวดนักเขียนที่หลงใหลการอ่านแบบสุดๆ และไม่เคยพลาดทุกข่าวสารในวงการวรรณกรรม!

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

กำลังโหลด
Merry Go Down Member 6 ก.พ. 58 17:25 น. 4

ของผมมักจะ...เอ่อ...ใช้ศัพท์เปรียบเทียบ แปลตรงตัว เอาอะไรมายำๆ กัน

เช่น (นิยายที่แต่งอยู่)

Evil Eye ดวงตามรณะ (สั้นๆ เอาแค่แกนที่มี แต่แกนจริงๆ ไม่อยู่ในเรื่อง)

The Curious Story of Bloodsucker แวมไพร์สายพันธุ์เพี้ยน (พระเอกมีลักษณะตามชื่อเรื่อง แปลตรงตัวก็ "เรื่องประหลาดของผีดูดเลือด")

เช่น 2 (นิยายในหัวที่มีเยอะมาก)

MR. KAMISAMA -Mr. God- ปฏิบัติการพระเจ้าจอร์จบึ้มสนั่นโลก (แนวเสียดสีสังคม ก่อการร้าย หาอะไรไม่ได้ยัดให้หมด)

Abstract Nonsense หนุ่มซื่อบี้อกับสาวพันธุ์ร็อค (แนวเรื่องบ้าๆ ตามชื่ออังกฤษ และเน้นพระเอกนางเอกตามชื่อไทย)

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด

20 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยเจ้าของ

กำลังโหลด
Chanyanuch Member 6 ก.พ. 58 16:31 น. 2

เราตั้งชื่อเรื่องเป็นภาษาไทยก่อนแล้วเอาชื่อเรื่องภาษาไทยไปแปลเป็นภาษาอังกฤษอีกที

พอเอามารวมกันก็มีความหมายตรงตัวพอดีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ

แต่คนอ่านอย่ายึดติดกับชื่อเรื่องมากเกินไปว่าทำไมเนื้อเรื่องไม่ตรงกับชื่อเรื่อง

มิติแห่งกาลเวลา (Dimension of Time)

0
กำลังโหลด
cannelt Member 6 ก.พ. 58 17:13 น. 3

กำลังตันเรื่องชื่อนิยายพอดีเลยครับ- - ไม่มีพี่ตีบตันบ้างเหรอครับ คิดถึงพี่ตีบตันจัง *ฮา* ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆครับ

1
กำลังโหลด
Merry Go Down Member 6 ก.พ. 58 17:25 น. 4

ของผมมักจะ...เอ่อ...ใช้ศัพท์เปรียบเทียบ แปลตรงตัว เอาอะไรมายำๆ กัน

เช่น (นิยายที่แต่งอยู่)

Evil Eye ดวงตามรณะ (สั้นๆ เอาแค่แกนที่มี แต่แกนจริงๆ ไม่อยู่ในเรื่อง)

The Curious Story of Bloodsucker แวมไพร์สายพันธุ์เพี้ยน (พระเอกมีลักษณะตามชื่อเรื่อง แปลตรงตัวก็ "เรื่องประหลาดของผีดูดเลือด")

เช่น 2 (นิยายในหัวที่มีเยอะมาก)

MR. KAMISAMA -Mr. God- ปฏิบัติการพระเจ้าจอร์จบึ้มสนั่นโลก (แนวเสียดสีสังคม ก่อการร้าย หาอะไรไม่ได้ยัดให้หมด)

Abstract Nonsense หนุ่มซื่อบี้อกับสาวพันธุ์ร็อค (แนวเรื่องบ้าๆ ตามชื่ออังกฤษ และเน้นพระเอกนางเอกตามชื่อไทย)

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
maru-sama Member 6 ก.พ. 58 21:43 น. 6

ผมตั้งไว้ยาวมา ครั้นจะเปลี่ยนตอนนี้ก้ลังเลว่ามันจะดีไหม? แล้วชื่อที่จะเปลี่ยนเราควรเอาชื่อที่มันเกี่ยวข้องกับตัวเอกหรือปมหลักของเรื่องดี? งง แล้วชื่อที่คิดไว้มันก็สปอยเนื้อเรื่องส่วนหนึ่งด้วย คิดไปคิดมาเลยใช้ชื่อเดิมอีกนั่นแหละ(ฮา)

 เมืองแห่งโอกาสกับสามโรงเรียนจอมเวท

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
อควารอยด์ Member 8 ก.พ. 58 00:03 น. 8

เอาแล้วๆ ปกติเวลาตั้งชื่อนิยายก็ไม่ค่อยได้คิดถึงเรื่องพวกนี้ซะด้วยสิ ที่แท้แล้วมันสำคัญฉันนี้นี่เอง! ปกติแล้วมักจะคิดชื่อได้ประมาณว่า... ไม่ได้เข้ากับเนื้อเรื่องสุดๆ

Angelic Wars ไม่แน่นะ... เธออาจเป็นนางฟ้าก็ได้ (สงครามนางฟ้า)
Dual-crosser สมบัติลับแห่งสัตว์ในตำนาน
Revamp ศึกนางฟ้าสยบทวยเทพ 

(เพิ่งจะรู้ในภายหลังว่า Revamp มีความหมายว่า "ต่อต้าน" ซึ่งตรงกับเนื้อเรื่องสุดๆ)

Dive Gear ศึกนี้เดิมพันด้วยชีวิต
Offline โลกที่เกมไร้ซึ่งชีวิต
F.C.O. (Freedom in the Cage Online) โลกอิสระภายใต้กรงขัง

H.O.E สวรรค์อยู่หนใด
(ความจริงแล้ว ชื่อภาษาอังกฤษออกเสียงและสะกดคล้ายกับคำที่ความหมายไม่ดีสุดๆ "HO" เป็นคำแสลงที่แปลว่า "โสเภณี")

โธ่เอ๊ย..! นี่ถ้าผมก้าวมายังเส้นทางนักอยากเขียนให้เร็วกว่านี้ แล้วก็มีเซนส์ในการแต่งดีกว่านี้สักนิดละก็!

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Don' HaPpY Member 14 ก.พ. 58 23:28 น. 11

รู้สึกว่าเราชั่งอ่อนด้อยด้านการตั้งชื่อเรื่องเสียจริง นิยายก็มีเรื่องเดียวเเท้ๆ อย่าง" KaRfLuCK สงครามล่าโลหิต ณ สองดินเเดนต่างมิติ " อืม.. คิดชื่อใหม่ดีกว่า [==]~ pl. ยังไม่ได้เปลี่ยนเป็รชื่อนี้ในเด็กดีเลยวุ้ย 555+

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
Atara_Mayumi Member 27 เม.ย. 58 09:39 น. 13

ของหนูเกี่ยวกับเนื้อเรื่องแค่นิดเดียวเองค่ะ ชื่อเรื่องแนวหลุดไปอีกโลกเพราะนางเอกหลุดมาจากอีกโลกแต่นางเอกรั่วเกินไป ทั้งที่ความจริงเป็นแนวโรงเรียน(= =')

0
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
กรกนก 20 พ.ค. 58 14:20 น. 15
พี่ค้ะถ้าตั้งชื่อภาษาไทยไม่เหมือนภาษาอังกฤษมันจะเป็นไงอ้ะค้ะ เช่น The Twin Devil สงคราม/ความรัก/ซาตาน มันดูแปลกๆไหมง่ะ อยากรู้
0
กำลังโหลด
แอปเปิ้ลน้อย Member 28 มิ.ย. 58 15:27 น. 16

ชื่อนิยายของเราส่วนมากไม่ค่อยมีหลักเกณฑ์สักเท่าไหร่หรอก *หัวเราะ* แต่ส่วนมากจะเกี่ยวกับเนื้อเรื่องซะมากกว่า ตอนนี้ก็กำลังเขียนเรื่อง "Sleeping Lover อุบัติเหตุร้ายกระซิบหัวใจให้บอกรัก" จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับโรคเจ้าหญิง/เจ้าชายนิทราค่ะ *ขำตัวเอง* เรื่องนี้เปลี่ยนชื่อมา 3-4 รอบแล้วเพิ่งตกลงใช่ชื่อนี้เมื่อไม่กี่อาทิตย์ก่อนเองค่ะ

0
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยเจ้าของ

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด