รวมเทคนิคพิชิตอาการ “เขียนไม่ออก” จาก 21 นักเขียนดังๆ ทั่วโลก
ใครกำลังเขียนไม่ออก แนะนำให้เข้ามาอ่านบทความนี้เลย มีทางออกดีๆ จัดไว้ให้
อีกหนึ่งข้อความยอดฮิตที่เจอบ่อยมากในเพจไรเตอร์ (นักเขียนเด็กดี : DekDWriter) ก็คือคำว่า “เขียนไม่ออก” และพี่ตินก็มั่นใจแรงมากว่า... ปัญหา “เขียนไม่ออก” เป็นเรื่องใหญ่จี๊ดใจนักเขียนเด็กดีทุกคน และเพราะอย่างนี้ พี่ตินก็เลยจัดการรวบรวมเคล็ดลับเด็ดพิชิตอาการ “เขียนไม่ออก” ของนักเขียนดังๆ จากทั่วโลกมาไว้ ณ ที่นี้ ให้น้องๆ ทุกคนได้อ่านกัน เผื่อจะเก็บไว้เป็นไอเดีย ช่วยเราได้ในยามเขียนไม่ออก (ฟังแล้วเจ็บหนึบๆ ชอบกล) ใครที่เขียนไม่ออกอยู่ตอนนี้ ก็ลองมาอ่านด้วยกันนะ มามะ ตามมาๆ
“เวลาเขียนไม่ออก ผมจะห้อยหัวลงต่ำ ฟังแล้วอาจจะแปลกๆ แต่ว่า... วิธีนี้ ช่วยให้ออกซิเจนไหลลงไปเลี้ยงสมอง และคุณยังสามารถมองโลกในมุมที่แตกต่างอีกด้วย ถ้าเขียนไม่ออก ลองเอาหัวเดินต่างเท้าดูนะ”
เจ. จี. บัลลาร์ดบอกว่า...
“ด้วยหน้าที่และความรับผิดชอบทางอาชีพ ต่อให้เมาค้างหรือป่วยแค่ไหน ก็ต้องเขียนให้ได้วันละ 1,000 คำ เพราะงั้น คำว่าเขียนไม่ออกจึงไม่อยู่ในพจนานุกรมของผม ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร ก็ต้องเขียนให้ออก”
สตีเฟ่น คิงบอกว่า...
“ช่วงที่เขียนไม่ออกหนักที่สุดคือตอนเริ่ม พอผ่านไปได้ หลังจากนั้นก็จะดีขึ้นเรื่อยๆ”
แกเบรียล การ์เซีย มาร์เกวซบอกว่า...
“ย่อหน้าแรกเป็นเรื่องที่ยากที่สุด บางทีฉันใช้เวลาเขียนอยู่ตั้งหลายเดือน ลบแล้วลบอีก แต่พอผ่านไปได้แล้ว ต่อจากนั้นก็จะง่ายขึ้น”
นีล ไกแมนบอกว่า...
“ถ้าเขียนไม่ออก ขอให้ทิ้งต้นฉบับไว้ก่อน สักสองสามวัน หรือจะนานกว่านั้นก็ได้ ไปทำอย่างอื่นก่อน อย่าเพิ่งคิดถึงมัน เมื่อกลับมาอีกครั้ง ให้ปรินท์ออกมาทั้งเรื่อง แล้วค่อยๆ นั่งอ่านใหม่ ทำเหมือนเราไม่เคยอ่านมาก่อน ถ้าเห็นจุดไหนผิดปกติ ให้วงปากกาแดงเอาไว้ พออ่านจบครบทั้งเรื่อง ค่อยย้อนกลับมาอ่านจุดที่เราวงแดงไว้ แล้วดูว่าจะแก้ไขปรับเปลี่ยนอย่างไร”
จอห์น สไตน์เบ็คบอกว่า...
“ถ้าเขียนไม่ออก ให้ลองคิดว่า กำลังเล่าเรื่องให้คนใกล้ชิดฟัง เช่น เพื่อน น้องสาว พี่สาว พี่ชาย คนในครอบครัว หรือใครก็ได้ อย่าไปคิดว่ากำลังเขียนงานส่งสำนักพิมพ์ ส่งบก. หรือเขียนให้คนไม่รู้จักอ่าน”
มาร์กาเร็ต แอทวู้ดบอกว่า...
“ถ้าเอาแต่รอคำว่า “สมบูรณ์แบบ” คงไม่ต้องเขียนอะไรแล้วหละ”
วิลเลี่ยม ฟอล์คเนอร์บอกว่า...
“ผมจะเขียนหนังสือเฉพาะช่วงที่มีแรงบันดาลใจ และเวลานั้นคือเก้าโมงเช้าของทุกวัน”
“หลายครั้งพอเขียนไปสักพัก คุณจะเข้าสู่ช่วงว่างเปล่า คิดอะไรไม่ออก บอกตัวเองว่า “ไม่เอาแล้ว ไม่เขียนแล้ว” เหมือนจิตใต้สำนึกส่งคำเตือนมาว่า “ไม่เอาแล้ว เขียนอะไรไม่เห็นเข้าท่า คนอื่นจะชอบหรือเปล่า เขียนไปไม่เห็นได้อะไรเลย” บอกเลย คุณโดนจิตใต้สำนึกหลอนแล้วหละ การเขียนหนังสือ เราทำเพื่อความสนุกและความสุขของเรา ไม่ใช่ทำเพื่อประโยชน์สูงส่งอะไรขนาดนั้น เพราะฉะนั้น เขียนต่อได้เลย”
เออร์เนสต์ เฮมมิ่งเวย์บอกว่า...
“เคล็ดลับการแก้อาการเขียนไม่ออกคือ... เขียนไปเรื่อยๆ อย่าหยุด จนกว่าจะแน่ใจว่ารู้แล้วว่าตอนต่อไปจะเขียนอะไร ทำแบบนั้นทุกวัน ก็จะไม่มีวันเจอทางตัน จงหยุดตอนที่กำลังไปได้สวย และพล็อตแล่นมาแรงๆ อย่าไปกลัวว่า... พรุ่งนี้จะเขียนไม่ออก พอมีพล็อตรออยู่ในหัว จิตใต้สำนึกของคุณก็จะทำงานต่อเนื่อง และคิดอะไรใหม่ๆ ออกมาได้มากมาย แต่ถ้าไม่มีพล็อตรอไว้ สมองจะล้าไม่อยากคิดต่อ หรือถ้าคิดได้ก็ต้องใช้เวลานาน”
ฮิลลารี่ เมนทัลบอกว่า...
“ถ้าเขียนไม่ออก ก็ลุกจากโต๊ะเลย ไปเดินเล่น อาบน้ำ นอนหลับ ทำพาย วาดรูป ฟังเพลง นั่งสมาธิ ออกกำลัง ทำอะไรก็ได้ที่อยากทำ อย่ามัวแต่นั่งคิดซ้ำๆ ซากๆ แต่ไม่ควรโทรศัพท์หรือว่าออกไปปาร์ตี้ การได้สนทนาหรือพูดคุยกับคน จะทำให้คุณเสียสมาธิ ไม่ว่าจะทำกิจกรรมอะไร ขอให้อยู่คนเดียว ได้อยู่กับตัวเอง มันจะช่วยให้คิดพล็อตต่อไปออกได้ง่ายขึ้น”
ชาร์ลส์ บูคาวสกี้บอกว่า...
“ถ้าเขียนไม่ออก ก็ลองบรรยายดูสิว่าทำไมเขียนไม่ออก อย่างน้อยๆ ก็ดีกว่าไม่ได้เขียนเลยนะ”
ราล์ฟ วาลโด เอเมอร์สันบอกว่า...
“ก่อนเขียน เราก็ต้องหาเวลาตระเตรียมไอเดีย ค้นหา ตามหา คิดให้รอบคอบว่าเราอยากจะนำเสนออะไร เมื่อใดที่เขียนไม่ออก ให้ย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้น และคิดใหม่ทำใหม่”
มายา แองเจลูบอกว่า...
“ถ้าเขียนไม่ออก ทางออกคือ เขียนต่อไป ฟังแล้วอาจจะงงๆ แต่ฉันคิดว่าถ้าอดทนต่อ ฝึกฝนตัวเองต่อ จะเป็นการสร้างวินัย และทำให้การเขียนคงที่ได้ในที่สุด”
เจมส์ เอลรอยบอกว่า...
เอริก้า จองบอกว่า...
“เขียนไม่ออกนั้นจริงๆ แล้วเป็นปัญหาทางจิตวิทยา เราไม่กล้าเขียนเพราะกลัวว่าคนอื่นจะหาว่างานของเราไม่ดี ลองคิดใหม่ว่า... ไม่มีใครมาอ่านงานของเราหรอก มีแต่เราที่เป็นผู้กำกับ ผู้จัดการทุกอย่างในเนื้อเรื่อง ถ้าคิดแบบนี้ การเขียนน่าจะไปได้สวยมากขึ้น”
มาร์ติน เอมิสบอกว่า...
“เขียนไม่ออกเป็นเรื่องปกติ ถ้าเขียนไม่ออก ให้ลองย้อนกลับไปอ่านใหม่ตั้งแต่ต้น สังเกตดูว่าระหว่างทาง เราใช้วิธีไหนในการเขียน บอกตัวเองว่า “ใจเย็นๆ ค่อยๆ คิด” การได้อ่านทวน อาจจะช่วยให้เราเข้าใจเนื้อเรื่องมากขึ้น”
ฟิลิป พูลแมนบอกว่า...
“งานเขียนเป็นเรื่องยาก เวลาเขียนไม่ออก ลองเปรียบตัวเองกับอาชีพอื่นดู ช่างประปา ก็ยังเจอท่อตัน ต้องหาวิธีทะลวงมัน หมอเอง ก็เจอปัญหา หาสาเหตุการป่วยไม่เจอเช่นกัน เพราะฉะนั้น ไม่แปลกอะไรที่นักเขียนจะพบปัญหาเขียนไม่ออก ทุกอาชีพมีปัญหาทั้งนั้น แต่เราต้องผ่านมันไปให้ได้”
ออร์สัน สก็อตต์ การ์ดบอกว่า...
“เวลาเขียนไม่ออก เหมือนจิตใต้สำนึกกำลังเตือนว่าเราไปผิดทางแล้ว และงานที่เราเขียนก็ไม่สามารถไปต่อได้ เพราะงั้น ถ้าเขียนไม่ออก ลองปรับพล็อต เปลี่ยนอะไรเล็กๆ น้อยๆ แล้วเขียนใหม่ เลือกการเขียนที่จะทำให้เราตื่นเต้นและรู้สึกสนใจมากกว่าเดิม”
แอนน์ ลาม็อตต์บอกว่า...
“วิธีที่แนะนำให้ใช้ตอนเขียนไม่ออกคือ ลองเขียนบันทึกความรู้สึกของตัวเองตอนเขียนไม่ออกออกมา อย่างน้อยๆ ก็ยังได้เขียน และพอเขียนไปสักพัก เรื่องเล่าอาจจะเยอะจนคุณไม่รู้สึก “เขียนไม่ออก” อีกเลย”
มาร์ค ทเวนบอกว่า...
“สิ่งที่ยากที่สุดคือ การเริ่มต้น และการกระจายพล็อต ถ้าเขียนไม่ออกเมื่อไหร่ ต้องย้อนกลับไปดูว่าเราทำสองอย่างนี้ดีแล้วหรือยัง”
อตินเอง
เครดิตภาพจาก หรรษา
และขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก
และขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก








32 ความคิดเห็น
เจมส์ เอลรอย พูดสั้นง่ายแต่ได้ใจความ 5555
ย่อหน้าแรกหรือฉากเปิดเรื่องเป็นอะไรที่เขียนยากที่สุดจริงๆ คือ plot อะไรๆมันมาหมดแล้วแต่คิดไม่ออกว่าจะเริ่มยังไง หยุดอยู่ตรงนี้นานมาก แต่พอเริ่มได้นี่ฉลุยเลย อารมณ์แบบแรงเสียดทานที่ตอนใกล้จะเคลื่อนที่จะมี coefficient มากที่สุด
พี่หรร! คนเขียนเว็บตูนเรื่องbuddy marryใช่มั้ยค่าาา หนูชอบอ่านม้ากกก อ่านตั้งแต่ตอนยังเป็นชาเลนลีกซ์จนมาเป็นแบบของจิงเลยค่ะ อยากเจอพี่หรรมาก ถ้ามีโอกาศจะขอถ่ายรูปเลยยย พี่เป็นไอดอลหนูเลยค่าา><

มีประโยชน์มากๆเลยค้าบบ >////<
เป็นเทคนิคที่ดีมากคะ น่านำไปใช้พูดแล้วก็เอาไปใช้เลยแล้วกัน ตอนนี้กำลังคิดภาษาเรียบเรียงไม่ถูกอยู่เลย สมองตื้อมากก็ว่าจะไปนอนล่ะ ฮะๆ //แล้วแกจะมาบอกคนอื่นเขาทำไม !!!
มีประโยชน์มากเลยค่ะ 0w0!! ตอนนี้กำลังตันอยู่พอดี แฮะๆ ^^; ขอบคุณค่ะ! T^Tb
เเดนบราวข้อเเนะนำของท่านนั้นลํ้าลึกนัก จะฮาใช่ไหมเนี่ยยยย
///ว่าเเล้วก็เอาหัวเดิน
ชอบของคนที่2มากเลยอ่ะ
สำหรับเรา เขียนไม่ออกต้องอ่านนิยาย!!//สุดท้ายลืมเขียน
ขอบคุณมากๆค่ะ สุดๆ
"เวลาเขียนไม่ออก ให้นึกถึงค่าใช้จ่าย" โดนมาก 555555
โกหก...
Steven King เวลาเขียนหนังสือไม่ออกจะเล่นโคเคน
Ernest Hemmingway ก็ติดเหล้า
ฯลฯ
นักเขียนที่กล่าวมาในบทความนี้ เกินครึ่งใช้สารเสพติด
ชอบของ เอริก้า จอง,ชาร์ลส์ บูคาวสกี้ มากเลยๆค่ะ ขอบคุณนะค่ะ รู้สึกมีแรงบันดาลใจขึ้น
ประมานวาตรงตัวเลย
ขอบคุณสำหลับข้อมูลดีๆที่เอามาให้อ่านกัน

รูซึกเหมือนจะมีไฟขึ้มาแล้ว
มีประโยชน์มากเลย ขอบคุณค่ะ ><
ประทับใจของเอริก้า จองมากกกก
ขอบคุณนะคะ ^^