สวัสดีค่ะ หลังจากการประกาศผลแอดมิชชั่น 59 ไปเมื่อวาน พี่อีฟก็เชื่อว่าคงมีทั้งน้องๆ ที่ดีใจที่สอบติดคณะในฝัน หรือเสียใจที่พลาดหวังจากคณะที่ตั้งใจ เพราะแน่นอนค่ะว่าในทุกสนามสอบแข่งขัน เมื่อมีคนสมหวัง ก็ย่อมต้องมีคนผิดหวังเป็นธรรมดา แต่อย่าปล่อยให้ความเสียใจอยู่กับเรานานค่ะ เพราะนี่เป็นแค่จุดเริ่มต้น ไม่ได้เป็นตัวตัดสินทุกอย่างในอนาคต
อย่าปล่อยให้ความผิดหวังและความเสียใจมาทำให้เราไม่กล้าเดินต่อไปค่ะ วันนี้พี่อีฟขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้กับน้องๆ ด้วยการรวบรวม 5 ทางรอดเมื่อแอดมิชชั่นไม่ติด จะมีอะไรกันบ้าง ลองเลือกไปทำตามกันได้เลยค่ะ
1. รับตรงหลังแอดมิชชั่น
เป็นหนึ่งทางเลือกที่เปิดรับเยอะทุกปีเลยนะคะ สำหรับรับตรงหลังแอดมิชชั่น ซึ่งก็มีทั้งภาคปกติและภาคพิเศษ ให้น้องๆ ได้เลือกเรียนกัน จะสมัครกี่ที่ก็ได้ ส่วนใหญ่แล้วจะคัดเลือกโดยใช้เกรด คะแนน O-NET คะแนน GAT PAT หรือวิชาสามัญ แถมรับตรงแบบนี้จะประกาศผลค่อนข้างเร็วค่ะ ไม่ต้องลุ้นนาน ซึ่งตอนนี้ที่พี่อีฟเห็นเปิดรับก็มี 33 โครงการ รวมกว่า 10,000 ที่นั่งแล้ว ! ยังไม่นับรวมที่นั่งที่น้องๆ อาจจะสละสิทธิ์ในรอบแอดมิชชั่นกันอีกนะคะ รอติดตามกันให้ดี ถ้ามีเพิ่มเติมเมื่อไหร่ พี่ๆ จะนำมาอัพเดทแน่นอนค่ะ แต่ตอนนี้น้องๆ สามารถค้นหารับตรงที่กำลังเปิดรับได้เลยที่ "โครงการรับตรงหลังแอดฯ 59"
2. มหาวิทยาลัยเปิด
อีกสองมหาวิทยาลัยคุณภาพที่มีน้องๆ เลือกเข้าเรียนต่อทุกปีเลย สำหรับมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช หรือ มสธ. และ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่เปิดรับน้องๆ เข้าเรียนโดยไม่ต้องสอบเข้าเลย แถมเปิดรับแบบไม่จำกัดจำนวน และมีค่าเทอมที่ถูกมากด้วย ใครที่ไม่สะดวกเข้าเรียนก็เลือกเรียนทางไกลกับ มสธ. ได้เลย แต่ถ้าใครจะเรียน ม.รามฯ อย่าลืมเช็กดูให้ดีนะคะ ว่าคณะไหนต้องเข้าเรียนบ้าง จะได้ไม่พลาดคะแนนค่ะ แต่บอกไว้เลยว่าเข้าง่ายแต่ไม่ได้จบง่ายนะคะ เพราะต้องมีความตั้งใจและความรับผิดชอบX2 เลย ดังนั้น คุณภาพการเรียนเข้มข้นไม่แพ้ที่อื่นแน่นอนค่ะ
3. มหาวิทยาลัยเอกชน
ถึงแม้น้องๆ หลายคนจะมีเป้าหมายเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนตั้งแต่รอบแอดมิชชั่น แต่นี่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางสำหรับน้องๆ รอบหลังแอดมิชชั่นนะคะ เพราะตอนนี้มีมหาวิทยาลัยเอกชนเปิดรับเยอะมาก มีทั้งแบบเรียนภาคปกติ ภาคพิเศษ หรือนานาชาติ สนใจแบบไหน ก็เลือกเรียนแบบนั้นกันได้เลย ถึงแม้น้องๆ หลายคนจะกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายของมหาวิทยาลัยเอกชนที่อาจจะสูงไปบ้าง แต่หลายๆ มามหาวิทยาลัยก็ทุนสนับสนุนหลายประเภทค่ะ หาข้อมูลจากสถาบันต่างๆ ได้เลยค่ะ
4. เรียนต่อต่างประเทศ
ในแต่ละปีมีน้องๆ ที่ตัดสินใจไปเรียนต่อต่างประเทศเป็นจำนวนมาก ทั้งที่ได้รับทุนฯ จากโครงการต่างๆ หรือการเดินทางจากค่าใช้จ่ายส่วนตัว น้องๆ ที่เลือกไปเรียนต่อต่างประเทศ อาจจะต้องเจอทั้งข้อดีและข้อเสีย ที่ต้องลองชั่งน้ำหนักดูว่าแบบไหนมีมากกว่ากัน จะเป็นข้อดีที่ได้เจอการเรียนหลักสูตรใหม่ๆ ที่แตกต่างจากไทย ได้ฝึกการใช้ชีวิต ได้ลองดูแลตัวเองทุกอย่าง ฯลฯ หรือจะเป็นข้อเสียเรื่องค่าใช้จ่าย ที่ช่วงแรกต้องใช้งบค่อนข้างเยอะ และยังต้องฝึกภาษาของประเทศนั้นๆ ให้เก่ง แถมการเดินทางไกลบ้าน อาจทำให้เรามีอาการคิดถึงบ้านแน่ๆ ฯลฯ ลองนำข้อดีและข้อเสียมาชั่งน้ำหนักกันดู เชื่อว่านี่จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้น้องๆ ได้ค่ะ
.jpg)
5. รอซิ่วสอบใหม่
ทางเลือกสุดท้ายสำหรับน้องๆ ที่ไม่อยากทิ้งความฝัน ลองเปิดใจแล้วก็พบว่าไม่มีคณะไหนที่จะเป็นตัวเรามากไปกว่าคณะที่เราเคยพลาดมา ก็อาจจะขอหยุดเรียนเพื่อพยายามทำตามความฝันสักครั้ง เรียกได้ว่าใครเลือกทางนี้ต้องมีจิตใจที่เข้มแข็งและมีพลังใจที่ดีนะคะ เพราะการซิ่วแต่ละครั้งต้องอาศัยพลังใจมาจริงๆ ทั้งต้องอดทนกับความกดดันจากคนรอบข้าง รวมไปถึงความกดดันจากตัวเราเอง ถ้าใครตัดสินใจจะเลือกทางนี้แล้ว ก็อย่าปล่อยเวลาให้เสียเปล่าค่ะ เริ่มอ่านหนังสือตั้งแต่วันนี้เลย เพราะการสอบรอบต่อไป อยู่อีกไม่ไกลแล้ว !
อย่าลืมว่าการแอดมิชชั่นไม่ติด ไม่ใช่ทุกอย่างในชีวิต ถ้าแอดมิชชั่นติด แต่ไม่ใช่คณะที่เราชอบ เชื่อแน่ว่าน้องๆ ก็คงไม่มีความสุขแน่นอน แต่ถ้าเป็นคณะที่เราชอบ ถึงเราจะแอดมิชชั่นไม่ติดรอบนี้ รอบต่อไปก็ยังมีโอกาสได้พยายามเพื่อความฝัน สิ่งเหล่านี้อยู่ที่ตัวน้องๆ เท่านั้น ว่าจะตัดสินใจยังไงกับความฝันของตัวเอง พี่อีฟขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้นะคะ :)
4 ความคิดเห็น
ถ้าแอด60 จะลงสมัครนี่ต้องเลือกสมัครทุนมัธยมหรือทุนป.ตรีคะ ?????????????????????????????????????