วัยรุ่นเป็นช่วงวัยที่มีความแปรปรวนของอารมณ์ค่ะ บางทีก็น่ารักบางทีก็ต่อต้าน บ่อยครั้งพูดไพเราะกับคนอื่น แต่พูดห้วนกับพ่อแม่ตัวเอง บางครั้งเชื่อเพื่อนมากกว่าพ่อแม่ ดูดื้อด้านและเชื่อมั่นในตัวเอง แต่จริงๆ ก็อยากปรึกษาพ่อแม่และต้องการกำลังใจเมื่อจะทำอะไรเสมอนะคะ
แม้ลักษณะข้างต้นจะเหมือนๆ กันในวัยรุ่นส่วนใหญ่ แต่ทุกคนก็มีความแตกต่างกันค่ะ แต่ละคนมักมีมุมอ่อนแอหรือบุคลิกนิสัยด้านลบที่แตกต่างกันไป ซึ่งลักษณะเหล่านั้นส่วนหนึ่งมาจากการเลี้ยงดูจากพ่อแม่ค่ะ แน่นอนว่าสิ่งแวดล้อมและประสบการณ์อื่นๆ ก็เป็นเครื่องบ่มเพาะคนเราเช่นกัน แต่โดยพื้นฐานเราทุกคนแล้ว บุคลิกนิสัยความรู้สึกภายในที่แท้จริงมาจากพ่อแม่หรือผู้ใหญ่ที่เป็นแบบอย่างที่เลี้ยงเรามาตั้งแต่ต้นค่ะ ดังนั้นลองมาสำรวจกันดีกว่าว่าเรามีนิสัยหรือบุคลิก(ด้านลบ)อย่างไร มาจากพ่อแม่แบบไหน ใช่แบบนี้หรือเปล่าค่ะ
แบบที่ 1
นิสัย/บุคลิกด้านลบ รู้สึกทำอะไรไม่เป็น ไม่ค่อยกล้าตัดสินใจทำอะไรหรือถ้าต้องทำอะไรก็ไม่มั่นใจตัวเองมีความเชื่อ มั่นใจตัวเองน้อยมาก ลักณะแบบไม่รู้จักโต หรือบางคนกลับกันเลยมีลักษณะเอาแต่ใจตัวเอง หรือแสดงภาพภายนอกว่ามั่นใจในตัวเองสุดๆ แต่จริงๆ แล้วมักต้องให้พ่อแม่หรือคนอื่นออกหน้าแทนเสมอเพราะลึกๆ แล้วไม่มั่นใจอะไรเลย |
|
เกิดจาก เด็กและวัยรุ่นที่มีลักณะแบบนี้ ส่วนมากได้รับการเลี้ยงดูจากพ่อแม่ที่เลี้ยงลูกแบบไข่ในหิน หรือเป็นลูกหลานคนสุดท้องที่ให้ญาติผู้ใหญ่เลี้ยง เป็นพ่อแม่ประเภทรักมากและปกป้องมากเกินไป ดูแลลูกเหมือนเป็นเด็กเล็กๆ ตลอดเวลา แม่ว่าจะเข้าสู่วัยรุ่นก็ยังตามดูแลไม่ห่าง ไม่ยอมให้ทำอะไรเลยเพราะกลัวจะเป็นอันตราย ลูกไม่ต้องคิดหรือตัดสินใจทำอะไรเลย พ่อแม่จะเป็นคนจัดการให้หมด
|
|
แบบที่ 2 |
นิสัย/บุคลิกด้านลบ เป็นคนที่เอาแต่ใจตัวเอง ขาดความอดทน ทนอยู่กับคนอื่นๆ ไม่ได้เลย จริงๆ อาจจะไม่ได้ตั้งใจจะเอาแต่ใจตัวเอง แต่เพราะไม่อยากเข้าไปพบปะผู้คนที่ไม่คุ้นเคย รู้สึกไม่อยากเปลี่ยนแปลงสังคม ไม่อยากย้ายโรงเรียน ไม่อยากออกไปเจอญาติพี่น้องที่ไม่รู้จักมากกว่า อยู่ร่วมกันกับผู้อื่นได้ยาก ซึ่งอาจกลายเป็นปัญหาในการปรับตัว และทำให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมาได้ |
|
เกิดจาก เด็กและวัยรุ่นที่มีลักณะแบบนี้ ส่วนมากได้รับการเลี้ยงดูจากพ่อแม่ที่เลี้ยงลูกแบบตามใจมาก เลี้ยงด้วยวัตถุทุกอย่างเท่าที่ฐานะจะเอื้ออำนวย ไม่ขัดไม่สอนไม่อบรม อาจมาจากทั้งพ่อแม่ที่ไม่มีเวลา ปล่อยปละให้อยู่กับวัตถุเป็นส่วนมาก ลูกเองเวลาอยู่กับวัตถุก็มีความสุขดี เลยไม่ได้สนใจเข้าไปทำกิจกรรมกลุ่มกับผู้อื่น นานวันเข้าเลยบ่มเพาะให้เป็นคนที่ปรับตัวกับผู้อื่นยากนั่นเอง
|
|
แบบที่ 3
นิสัย/บุคลิกด้านลบ รู้สึกมีปมด้อยตลอดเวลา หรือรู้สึกว่าตัวเองไม่มีอะไรดี กลัวคนอื่นผิดหวังในตัวเองไปหมด กลัวคนที่ตัวเองรักจะไม่พอใจ ไม่ค่อยยืดหยุ่นเมื่อเจอปัญหา เด็กบางคนอาจถึงขั้นไม่กล้าลงมือทำอะไร เพราะกลัว ผิด บางคนภายนอกไม่มีอะไร ร่าเริงสดใสดี แต่ภายในใจจะกลัวพ่อหรือแม่มาก กลัวพ่อแม่บอกว่าผิด และจะถูกลงโทษ ถูกลดความรัก |
|
เกิดจาก เด็กและวัยรุ่นที่มีลักษณะแบบนี้ ส่วนมากได้รับการเลี้ยงดูจากพ่อแม่เจ้าระเบียบจัด พ่อแม่แบบนี้จะเป็นคนระเบียบจัดต้องการให้ทุกอย่าง เรียบร้อย เป็นระเบียบถูกต้องเหมือนสังคมตำรวจทหาร ที่ กฎต้องเป็นกฎไปหมดทุกอย่าง ไม่รู้จักผ่อนปรนให้ ถ้าลูกทำไม่ได้ดังใจก็จะโกรธและตำหนิรุนแรง คอยย้ำซ้ำซากหรือจุกจิกจู้จี้กับลูก แม้ในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ การย้ำเรื่องกฎระเบียบช่วยให้คนเรามีวินัยก็จริง แต่หากไม่รู้จักยืดหยุ่น เมื่อเจอปัญหาใหม่ๆ อาจแก้ไขพลิกแพลงไม่ได้่ เพราะเคยแต่ทำอะไรตามกรอบมาตลอดค่ะ
|
|
แบบที่ 4 |
นิสัย/บุคลิกด้านลบ มีความวิตกกังวลเกินไปกับทุกๆ เรื่อง ไม่ว่าเรื่องจะใหญ่โตหรือเล็กน้อยแค่ไหน ทั้งเรื่องตัวเองและเรื่องคนอื่น หวาดกลัวห่วงใยในเหตุการณ์ต่างๆ จนไม่มีความสุข ยิ่งถ้าเป็นคนที่เอื้อ อารียิ่งเป็นกังวลกับคนรอบข้างจนแทบไม่มีความสุข เลย ไม่ว่าจะตัดสินใจทำอะไร ก็กลัวแต่ว่าจะทำคนอื่นเจ็บ ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ดี แต่หากไม่สนใจหัวใจตัวเอง แถมยังขี้กังวลอีก หากแก้ไขใจไม่ได้ก็จะยิ่ง ลำบาก แถมมักจะเป็นติดขี้น้อยใจเสียอีกด้วย |
|
เกิดจาก เด็กและวัยรุ่นที่มีลักษณะแบบนี้ มักมีต้นแบบจากคุณพ่อคุณแม่จอมดราม่า ดราม่าเรื่องโน้นนี้ ถามย้ำถามปฏิบัติต่อลูกในทุกเรื่อง วิตกกังวลหวาดกลัวมากเกินกว่าเหตุ แค่ลูกเดินไปซื้อขนมปาก ซอยก็กลัวจะหกล้มหกลุก ตีตนไปก่อนไข้ ถ้าลูกไม่ทำอะไรตามที่ต้องการก็น้อยใจใส่ลูกแทนที่จะบอกเหตุผล หาว่าไม่รักพ่อแม่ หรือแสดงความกังวลไปทุกเรื่อง จนลูกเองก็พลอยวิตกไปด้วยและติดเป็นนิสัย ไม่มั่นใจกับสถานการณืรอบตัวเช่นกัน
|
|
แบบที่ 5 |
นิสัย/บุคลิกด้านลบ ภายนอกเป็นเด็กที่ก้าวร้าว ขี้หงุดหงิด ชอบทะเลาะวิวาท และมีลักษณะต่อต้านสังคม และมักนำตัวเองเข้าไปอยู่ในจุดสุ่มเสี่ยงต่างๆ ทั้งยาเสพติด เหล้า การพนัน ลักขโมย ไม่ว่าพื้นฐานจิตใจจะเป็นคนอย่างไร แต่วัยรุ่นกลุ่มนี้ภายนอกจะแข็งกร้าวดุดัน แต่ก็ไม่เห็นคุณค่าในตัวเองเลย จึงต้องทำตัวแข็งกร้าวเพื่อปกปิดความอ่อนแอของตัวเอง |
|
เกิดจาก พ่อแม่ไม่ต้องการลูก อาจเกิดเนื่องการตั้งครรภ์แบบที่ไม่ต้องการ ไม่พร้อม หรือพอลูกเกิดมาแล้วทำให้พ่อแม่รู้สึกลำบาก พ่อแม่ก็จะพลอยโทษลูก พาลลูกว่าเป็นตัวลำบาก คอยแต่ถากถางลูก ไม่ดูแลลูกเท่าที่ควร ทิ้งขว้าง อาจถึงขั้นตบตีลูกหลาน ลูกก็รับรู้ว่าพ่อแม่เกลียดตัวเอง ซึ่งทั้งมวลทำให้ลูกฝังใจ จนกระทั่งเกิดเป็นบุคลิกภาพที่ไม่เหมาะสมค่ะ
|
|
จริงๆ ถ้าอ่านชื่อหัวข้อแล้ว เหมือนจะปรักปรำพ่อแม่หรือผู้ใหญ่ที่เลี้ยงดูเรามาไปเสียหน่อย แต่ก็เพราะพ่อแม่หรือผู้ใหญ่ที่เลี้ยงวัยรุ่นมาจะเป็นทั้งแบบอย่างและจุดเริ่มต้นของนิสัยที่แสดงออกทั้งในปัจุบันและอนาคตค่ะ ดังนั้นถ้ามีวิธีการอบรมเลี้ยงดูลูกที่ไม่เหมาะสม ก็จะทำให้วัยรุ่นมีพัฒนาการทางบุคลิกภาพที่ไม่เหมาะสมได้ค่ะ แต่ไม่ได้หมายความว่าถ้าผู้ใหญ่ไม่ดี ตัวเราจะต้องเป็นคนไม่ดีนะคะ ไม่อยากให้ลูกหลานที่อ่านบทความนี้รู้สึกว่า ต้องโทษพ่อแม่ที่ทำให้ตัวเองมีนิสัยบางอย่างที่ไม่ดีนะคะ
อย่าลืมว่าเมื่อเราโตมาจนถึงวัยที่มีความคิดเป็นของตัวเองได้แล้ว เราก็ต้องคิดและทำสิ่งที่ถูกต้องได้ด้วยตัวเองด้วยเช่นกันค่ะ ถ้ามีอะไรที่ติดขัด อย่าโทษที่คนอื่น ให้แก้ไขที่ตัวเองก่อน เราแก้ไขตัวเอง เราก็จะได้ดีเองค่ะ การโทษคนอื่น โดยเฉพาะผู้ใหญ่ที่เรารักเองด้วย ไม่ได้ทำให้ตัวเราดีขึ้นหรือรู้สึกดีขึ้นอย่างถาวรค่ะ ในขณะที่ถ้าผู้ใหญ่อ่านก็เพียงชี้ให้เห็นจุดที่ตัวเราอาจบกพร่องและนำไปแก้ไขได้เท่านั้นค่ะ
แหล่งข้อมูล, ภาพประกอบ:
- sheknows.com/parenting/
- rama4.mahidol.ac.th/ramamental/generalknowledg
53 ความคิดเห็น
เย้ เม้นแรก เอ๊ย ไม่ใช่ เราเป็นอย่างละนิดละหน่อย หลายๆอันรวมกัน เราว่ามันธรรมดานะ ชิลๆ กาลเวลาเปลี่ยนคนเปลี่ยน ไม่มีอะไรแน่นอน ไม่มีอะไรยั่งยืน
เราแบบหลังๆปนกัน
แต่พ่อแม่ไม่สอนแบบนั้นนะ
มันมาจากเราเนี่ยแหละที่กดดันตัวเอง ดราม่าตัวเอง ดูถูกตัวเองเอง
แก้ยังไงดีคะ
เราจะแคร์คนอื่นมากไปบ้าง ไม่ก็จะแบบ ลืมมองคนอื่น ไม่ก็ มองคนอื่นมากไป 5555 แบบไหนดีเนี่ยT[]T
เป็นแบบที่ 1 พ่อกับแม่จะเป็นแนวแบบ ไม่ให้ออกไปเที่ยวไหนกับเพื่อนเลย
ไปทำงานที่โรงเรียนเสาร์อาทิตย์ก็มักจะขับรถไปส่ง บางทีถึงกับไปนั่งเฝ้า
เมื่อก่อนขึ้นรถเมล์ไม่เป็นเลย ยิ่งกว่านั้นคือหน้าบางมาก แค่ซื้อของก็ไม่ค่อยกล้า (ตอนนี้หายแล้ว)
ตั้งแต่ขึ้นม.6 เราก็เริ่มกบฏ พ่อกับแม่ก็เริ่มปล่อย #แต่ก็ยังไม่ยอมให้ไปเที่ยวกับเพื่อนอยู่ดี
รู้สึกว่าเป็นอย่างละนิดละหน่อยอ่ะ 5555 บางอย่างก็ไม่ถึงกับแย่และก็ไม่ได้ดีเกินไปนะสำหรับตัวเรา อย่างพ่อเราก็ใจเย็นเกิ๊นน ส่วนแม่เราก็ออกแนวทำอะไรรวดเร็วทันใจ ใจร้อน แล้วเป็นพวกสุดโต่งมาก โดยเฉพาะเรื่องกิน รู้สึกว่าได้นิสัยแม่มาเต็มๆเลยแต่ก็เฉพาะเรื่องกินอ่ะนะ 55555
1 กับ 4 ครึ่งต่อครึ่งค่ะ ค่อนข้างกังวลอยู่เหมือนกัน
เราแบบไงดีอะ เราไม่ได้เปนแบบทั้ง 4ข้อเลย ถามว่าเอาแต่ใจไหมก้อเอาแต่ใจ แต่ก้อเหมือนเด็กทั่วไปอะ วิตกกังวลไม่เคยมีอยู่ในหัวเลยด้วยซ้ำ ยิ่งเรื่องดราม่าน้ำตาแตกก้อไม่ค่อยมี อีกอย่างเวลาไปเที่ยวหรือไปทำงานกับเพื่อนพ่อแม่ก้อไห้ไปแต่ก้อยกเว้นไปดูหนังคนเดียวที่พ่อแม่ไปอนุญาติอะนะ
ปกติเราไม่ค่อยเป็นนะ เพราะเราจะพยายามปรับตัวเข้ากับทุกอย่างอันไหนไม่ไหวจริงๆ เราก็พยายามเลี่ยออกมา
เราเป็นเเบบที่3 กับ 4 เเต่พ่อเเม่เราไม่เจ้าระเบียบมากมายนะ ไม่ดราม่าด้วย
อาจเป็นเพราะเราที่ดราม่าเอง กดดันเองมากกกว่าเเหละ
#เอ๊ะหรือยังไง
ไม่เป็นซักกะแบบ ว่ะฮะๆๆๆ ขอบคุณ คุณพ่อกับคุณแม่ครับ
แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีปัญหาในชีวิตนะ มีพอๆกับคนทั่วไปแหละ
1234 รวมกันเลยจ้า 555+