รู้จัก 5 มหา’ลัยใน ‘โปแลนด์’ ประเทศน่าเรียนต่อในยุโรป แถมค่าครองชีพไม่แพงด้วย!

มีชาว Dek-D คนไหนที่ฝันอยากจะไปเรียนต่อในยุโรปบ้างมั้ยคะ~ ถึงจะไม่ได้เห็นน้องๆ ตอบทันที แต่พี่พันตาก็เชื่อว่ามันน่าจะเป็นความฝันของใครหลายคนๆ เลยค่ะ แต่พอไปส่องค่าครองชีพของภูมิภาคนี้ บวกกับคำนวณความต่างของค่าเงินบาทและยูโรแล้ว บางคนก็ฝันสลาย เพราะการไปยุโรปไม่ใช่เรื่องง่ายซะทีเดียวเลย

แต่ใช่ว่าทุกที่ในยุโรปจะต้องใช้ค่าใช้จ่ายที่แพงเสมอไปค่ะ เพราะวันนี้พี่พันตาจะพาน้องๆ ไปรู้จักกับ 5 มหาวิทยาลัยใน ‘โปแลนด์’ ประเทศในยุโรปที่ขึ้นชื่อเรื่องปราสาทเก่าแก่ มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน แถมค่าเล่าเรียนก็ถูกว่าหลายๆ ประเทศในแถบนี้เป็นเท่าตัว! ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คุ้มค่ามากๆ ค่ะ จะมีมหาวิทยาลัยในโปแลนด์น่าเรียนบ้าง รีบตามไปส่องข้างล่างกันได้เลย! 

…….........……..

ส่อง 5 เหตุผลทำไมต้องโปแลนด์?

1. การศึกษาที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก

แม้ว่าคนไทยส่วนใหญ่จะไม่ค่อยคุ้นเคยกับชื่อสถาบันต่างๆ จากโปแลนด์ แต่การศึกษาของที่นี่ก็ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกเลยนะคะ เพราะนอกจากจะเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป และมีมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ติดอันดับโลกแล้ว หลักสูตรการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ก็เป็นภาษาอังกฤษ เรียกว่าตอบโจทย์ชาวต่างชาติสุดๆ

2. ค่าครองชีพถูก

ต้องบอกว่าค่ากินค่าอยู่และค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของโปแลนด์ต่ำกว่าประเทศส่วนใหญ่ในสหภาพยุโรปมากๆ รวมทั้งค่าเล่าเรียนของที่นี่ยังเริ่มต้นเพียงแค่ 2,000 ยูโรต่อปี (หรือประมาณ 75,000* บาท) ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของสหภาพยุโรปถึง 2-3 เท่าเลยทีเดียว

3. ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน

โปแลนด์เป็นประเทศที่เรียกว่าอยู่ได้โดยไม่ต้องหวาดระแวง เพราะนอกจากที่นี่จะปลอดภัยกว่าประเทศในยุโรปส่วนใหญ่แล้ว อัตราการเกิดอาชญากรรมก็ยังน้อยกว่าประเทศแถบนอร์ดิกอีกด้วยค่ะ

4. มรดกเชิงวัฒนธรรม

พูดถึงโปแลนด์แล้วจะขาดเรื่องวัฒนธรรมอันรุ่งเรืองของที่นี่ไปไม่ได้เลย ประเทศนี้มีประวัติยาวนานกว่าพันปี แถมยังเป็นแหล่งกำเนิดของนักแต่งเพลงคลาสสิกชื่อดังอย่าง Karol Szymanowski, Fryderyk Chopin และ Ignacy Paderewski รวมถึงยังมีนักเขียนรางวัลโนเบลอีกถึง 5 คนเลยล่ะ

5. ให้ความสำคัญกับศิลปะ

โปแลนด์ให้ความสำคัญกับวงการศิลปะและอุตสาหกรรมบันเทิง ดังนั้นเราจะได้พบเห็นเทศกาลต่างๆ เช่น งานหนังสือ คอนเสิร์ต งานแสดง การประกวด และงานบันเทิงอื่นๆ ที่นี่ได้บ่อย ยิ่งใครเป็นสายอาร์ตคือจอยสุดๆ แน่นอน

…….........

เปิดวาร์ป 5 มหา’ลัยในโปแลนด์ที่คุณไม่ควรพลาด!

1. Jagiellonian University

ถ้าพูดถึงมหาวิทยาลัยขึ้นชื่อของโปแลนด์ หนึ่งในนั้นต้องมี ‘Jagiellonian University’ (UJ) ในลิสต์แน่นอน เพราะมีประวัติก่อตั้งยาวนานมาตั้งแต่ปี 1364 จนปัจจุบันนับรวมอายุได้เกิน 650 ปีแล้ว นับว่าเก่าแก่ที่สุดในประเทศและเป็นอันดับ 13 ของโลก

นอกจากเรื่องความเก๋าแล้ว คุณภาพของ UJ ยังจัดเป็น ม.ท็อปของประเทศที่สภาพแวดล้อมน่าเรียนมากกก เพราะตั้งอยู่ใน ‘Kraków’ เมืองหลวงเก่าอันเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรม ซึ่งภายหลังเมืองนี้ก็ถูกจัดให้เป็นหนึ่งในมรดกโลกด้วย ดังนั้นชีวิตนักศึกษา UJ จึงเป็นโอกาสดีที่ได้เสพสุนทรีย์กับศิลปะแบบฟินสุดๆ!

สำหรับสาขาวิชาเรียนที่ทางมหาวิทยาลัยการันตีไว้ว่าคุณภาพไม่เป็นรองใครนั้นได้แก่ เภสัชศาสตร์, ปรัชญา, ฟิสิกส์ ดาราศาสตร์ และวิทยาการคอมพิวเตอร์ประยุกต์, คณิตศาสตร์และวิทยาการคอมพิวเตอร์, เคมี, ชีวเคมี ชีวฟิสิกส์ และเทคโนโลยีชีวภาพค่ะ

2. University of Warsaw

มาลุยกันต่อกับ ‘University of Warsaw’ (UW) แห่งเมือง Warsaw ที่นี่ถือว่าตีคู่มากับ UJ เลยนะคะ เพราะขึ้นชื่อว่าเป็น ม.ที่ใหญ่ที่สุดและมีศูนย์วิจัยที่ดีที่สุดในโปแลนด์ มาพร้อมบรรยากาศที่มีความอินเตอร์สูง เพราะมีโปรแกรมต่างชาติถึง 19 โปรแกรมที่ถูกจัดลำดับใน QS World University Rankings // สำหรับวิชาที่เด่นที่สุดของมหา’ลัยนี้ก็หนีไม่พ้นฟิสิกส์และคณิตศาสตร์อีกเช่นเคยค่ะ ประเทศนี้เค้าเด่นสายนี้จริงๆ

ยังไม่หมดเพียงเท่านี้นะคะ เพราะ UW ยังเป็นหนึ่งในม.ที่คว้ารางวัล ‘HR Excellence in Research’ จากคณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งหมายความว่า UW ได้นำหลักการจาก European Charter for Researchers มาใช้อย่างจริงจัง จึงมั่นใจได้เลยว่าสภาพแวดล้อมที่นี่เหมาะกับการทำงานสายวิจัยมากจริงๆ

3. Adam Mickiewicz University, Poznań

ถัดมาที่ ‘The Adam Mickiewicz University’ (AMU) มหาวิทยาลัยในเมือง Poznań ซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1611 และมีชื่อเสียงจากการเป็นศูนย์กลางทางปัญญาที่สำคัญในช่วงยุค Positivism ค่ะ ปัจจุบันทางมหาวิทยาลัยกำลังตีพิมพ์วารสารวิจัยมากกว่า 79 ฉบับและมีบันทึกงานวิจัยมากกว่า 23,704 รายการ ด้วยเหตุนี้เอง AMU จึงเป็น ม.วิจัยชั้นนำของโปแลนด์ที่ชื่อเสียงที่มีมายาวนานกว่า 100 ปี

แรกเริ่มเดิมทีแล้ว AMU  มีชื่อว่า Piast University และได้เปลี่ยนเป็น University of Poznań แต่สุดท้ายก็มาลงเอยกับชื่อ Adam Mickiewicz University อย่างที่เห็นปัจจุบัน โดยได้แรงบันดาลใจมาจาก Adam Mickiewicz กวีแนวโรแมนติกชาวโปแลนด์ ซึ่งเป็นผู้อุปถัมภ์มหาวิทยาลัยคนใหม่ตั้งแต่ปี 1955 นั่นเองค่ะ

4. University of Wroclaw

มาถึงคิวของ ‘University of Wroclaw’ (UWr) ที่ตั้งอยู่ใน Wroclaw กันบ้างค่ะ (เล่าเกร็ดประวัติศาสตร์เล็กน้อย: จริงๆ แล้วมหาวิทยาลัยนี้เกิดจากการสร้างทับที่ University of Breslau ของเยอรมนี ภายหลังจากมีการเปลี่ยนแปลงเขตแดนของประเทศ)

จุดเด่นของ UWr คือโด่งดังเรื่องคุณภาพการเรียนการสอน และความยึดมั่นเรื่องเสรีภาพในการแสดงออก นักศึกษาที่นี่จึงสามารถพูดคุยในประเด็นอ่อนไหวได้อย่างเปิดกว้าง จึงไม่แปลกค่ะเลยที่ในคลาสมักจะมีการอภิปรายเรื่องภูมิศาสตร์และวัฒนธรรมระหว่างโปแลนด์ เช็ก และเยอรมนีอยู่บ่อยๆ // อย่างที่เล่าว่าที่นี่เกิดจากการสร้างเพิ่มจากมหาวิทยาลัยของเยอรมนี เลยยิ่งทำให้มีเรื่องพูดคุยกันเยอะไปอีก

  อีกความน่าสนใจคือเป้าหมายของ UWr ที่เน้นสนับสนุนงานวิจัยเป็นพิเศษ เป็นศูนย์กลางทางด้านวิทยาศาสตร์ ปัญญา และวัฒนธรรม และยังร่วมมือกับสถาบันอุดมศึกษาและองค์กรธุรกิจทั้งในและต่างประเทศมากมาย จึงนับเป็นอีกแห่งที่สายวิจัยไม่ควรพลาดค่ะ

5. Medical University of Warsaw 

ถ้าพูดถึงโปแลนด์แล้ว ต้องบอกว่าคณะแพทยศาสตร์คือฮิตมากๆ ในหมู่นักเรียนไทย ดังนั้นเราเลยขอปิดท้ายบทความนี้ด้วยกับ ‘Medical University of Warsaw’ (MUW) มหาวิทยาลัยสายด้านการแพทย์ที่โด่งดังมากของประเทศ  ซึ่งถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อในปี 1809 พร้อมกับโดยมีภารกิจที่ยิ่งใหญ่อย่าง ‘คือการมอบการศึกษาที่ดีที่สุดให้กับเหล่าว่าที่คุณหมอในอนาคต’ ซึ่ง(การศึกษาที่ดีที่สุดนี้เขาอิงจากการแพทย์เชิงนวัตกรรมและการวิจัยระดับแนวหน้าเลยค่ะ)

นอกจาก MUW ติดท็อปมหาวิทยาลัยแพทย์ที่ใหญ่และเก่าที่สุดในโปแลนด์แล้ว คณาจารย์ยังได้รับการยอมรับในระดับสากล และอาจารย์ของที่นี่ก็ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ หลายคนดำรงตำแหน่งเป็นถึงที่ปรึกษาทางการแพทย์แห่งชาติด้วยค่ะ เพราะฉะนั้นแล้วถ้ามาเรียนที่นี่ก็การันตีด้วยคุณภาพแน่นอน ถ้าใครอยากเรียนต่อหมอ อย่าลืมจดเก็บลิสต์ MUW ไว้เป็นตัวเลือกด้วยนะคะ ^^

………………

หลังจากทัวร์ตัวอย่างมหาวิทยาลัยเด็ดๆ ในโปแลนด์แล้ว รู้สึกเหมือนกันมั้ยคะว่าที่นี่ก็นับเป็นประเทศที่น่าค้นหาและเหมาะกับนักศึกษา(โดยเฉพาะสายวิทย์)ไม่น้อยเลย เอาเป็นว่าถ้าน้องๆ ยังมีที่ว่างในใจ เก็บโปแลนด์ไว้พิจารณาก็ดีเหมือนกันนะคะ หวังว่าบทความนี้จะเป็นอีกทางเลือกในการเรียนต่อยุโรปให้หลายๆ คนได้ //  ไว้เจอกันใหม่ในบทความหน้าค่ะ!

************