รถเมล์ขึ้นราคา

นายสุรชัย ธารสิทธิพงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการขนส่งทางบกกลาง เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขนส่งทางบกกลาง ซึ่งมีขึ้นเมื่อวันที่ 9 ต.ค. ว่า ที่ประชุมได้มีมติอนุมัติให้รถร่วม ขสมก. รถขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และรถมินิบัสปรับค่าโดยสารเพิ่มขึ้นได้อีก 50 สตางค์/คน/เที่ยววิ่ง ส่วนรถปรับอากาศให้ปรับค่าโดยสารเพิ่มขึ้นอีกช่วงละ 1 บาท/คน/เที่ยววิ่ง ส่วนรถร่วมโดยสารและรถบริษัทขนส่ง จำกัด ให้ปรับราคาค่าโดยสารเพิ่มขึ้น 3 สตางค์/กิโลเมตร ทั้งนี้ การปรับราคาค่าโดยสารดังกล่าว ให้มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค.นี้เป็นต้นไป แต่หากในช่วงที่ยังไม่มีการปรับราคาค่าโดยสารเพิ่มขึ้น ราคาน้ำมันมีการปรับลดลงกว่าที่เพดานกำหนดให้ปรับค่าโดยสารได้ที่ 26.86 บาท/ลิตร ผู้ประกอบการรถต่างๆ ก็ไม่สามารถปรับราคาค่าโดยสารได้ 

นายสุรชัยกล่าวต่อว่า สำหรับอัตราค่าโดยสารที่ผ่านมา มีการปรับขึ้นแล้ว 4 ครั้งคือ โดยครั้งล่าสุด ได้ปรับขึ้นในวันที่ 27 ก.ค. 2549 และมีผลวันที่ 1 ส.ค. 2549 แต่เมื่อมีการคัดค้านจาก พล.อ.ชัยนันท์ เจริญศิริ รมช.คมนาคมขณะนั้น ไม่ให้ขึ้นค่าโดยสารตามมติคณะกรรมการขนส่งทางบกกลาง ต่อมาในวันที่ 23 พ.ย. 2549 คณะกรรมการขนส่งทางบกกลางจึงได้ประชุมและมีมติให้ลดค่าโดยสารลงมาเท่าเดิมโดยมีผลในวันที่ 1 ธ.ค. 2549 ซึ่งขณะนั้นราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ลิตรละ 23.50 บาท-24.71 บาท ส่วนปัจจุบันราคาน้ำมันดีเซล อยู่ที่ลิตรละ 27.34 บาท ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงเรียกร้องให้ปรับขึ้นค่าโดยสารอีกครั้ง 

สำหรับราคาค่าโดยสารที่จะต้องปรับราคาขึ้นจะประกอบไปด้วย รถร่วม ขสมก.ธรรมดา จากคนละ 8 บาท/เที่ยววิ่ง เป็น 8.50 บาท รถร้อน ขสมก. ครีมแดง จากราคาคนละ 7 บาท/เที่ยววิ่ง เป็นคนละ 7.50 บาท/เที่ยววิ่ง รถมินิบัสจากคนละ 6.50 บาท/เที่ยววิ่ง เป็นคนละ 7 บาท/ เที่ยววิ่ง ส่วนรถสองแถว จะให้ปรับได้ไม่เกินคนละ 6.50 บาท/เที่ยววิ่ง สำหรับรถร่วม ขสมก.ปรับอากาศจะให้ปรับเพิ่มขึ้นช่วงละ 1 บาท โดยจะเริ่มต้นจาก 11 บาท เป็น 12 บาท  

นายศิลปชัย จารุเกษมรัตนะ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ขั้นตอนต่อไปกรมการขนส่งทางบกจะต้องทำความเข้าใจ และชี้แจงให้ประชาชนรับทราบว่า จะมีการปรับราคาค่าโดยสารเพิ่มขึ้น ทั้งรถร้อนและรถปรับอากาศ แต่หากผู้โดยสารไม่ได้รับความเป็นธรรม จากการให้บริการ สามารถร้องเรียนได้ที่ฮอตไลน์สายด่วน 1584 นอกจากนี้ คณะกรรมการขนส่งทางบกกลางยังได้มีแนวคิดที่จะให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) นำตั๋วเดือนกลับมาใช้ เนื่องจากจะช่วยลดภาระให้กับประชาชนผู้มีรายได้น้อย นอกจากนั้น การนำตั๋วเดือนมาใช้ก็จะให้ ขสมก.เพิ่มแรงจูงใจด้วยการให้มีการลดราคาลงจากปกติอีก 10% 

ด้าน พล.ร.อ.ธีระ ห้าวเจริญ รมว.คมนาคม กล่าวว่า การปรับอัตราค่าโดยสารของรถร่วม ขสมก. และรถ ขสมก.ให้เพิ่มขึ้นนั้น ผู้ประกอบการจะต้องมีการปรับปรุงคุณภาพของการให้บริการและคุณภาพรถให้ดีขึ้นกว่าเดิม  

ขณะที่นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้จัดการใหญ่ บริษัทขนส่ง จำกัด (บขส.) กล่าวว่า ต้องรอดูนโยบายจากนายสรรเสริญ วงศ์ชะอุ่ม รมช.คมนาคมก่อน โดยในวันที่ 10 ต.ค.นี้ ผู้บริหาร บขส.จะเข้าไปชี้แจงเรื่องของต้นทุนค่าโดยสารรถ บขส.ให้นายสรรเสริญรับทราบ หากกระทรวงคมนาคมมีความต้องการให้ บขส.ตรึงราคาค่าโดยสาร บขส.ก็พร้อมที่จะรับนโยบาย ในช่วงที่ผ่านมาที่ราคาน้ำมันสูงขึ้น และผู้ประกอบการรถร่วม บขส.ขึ้นค่าโดยสาร แต่ บขส.ก็ไม่ได้ปรับราคาค่าโดยสารขึ้นตามที่ผู้ประกอบการรถร่วม บขส.ขึ้นแต่อย่างใด เพราะต้องการช่วยเหลือประชาชนไม่ให้ได้รับความเดือดร้อน 

ส่วนนายพิเณศวร์ พัวพัฒนกุล ผอ.ขสมก. กล่าวว่าจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุมบอร์ด ขสมก.ในวันที่ 12 ต.ค.นี้ และรับฟังนโยบายจากนายสรรเสริญ หากบอร์ด และ รมช.มีความเห็นอย่างไรก็พร้อมปฏิบัติตาม