|
วันนี้ผู้เขียนมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับ Facebook ถือเป็นเว็บยอดนิยมในสังคมออนไลน์ หลายคนใช้ชีวิตอย่างมีความสุขบน Facebook วัยรุ่นก็สนุกอยู่กับการแชร์ โพสต์ กด Like บนบทความหรือรูปภาพที่ชอบ ออกจะแปลกใจอยู่บ้างที่คนเราพบปะกันน้อยลงในชีวิตจริงกันมากขึ้น แต่ใกล้ชิดกันมากขึ้นเมื่อมีคอมพิวเตอร์กั้นกลาง ผู้ใหญ่กับเด็กก็เช่นเดียวกัน...
แต่ก่อนอินเทอร์เน็ตคือโลกของวัยรุ่นเท่านั้น แต่ปัจจุบันนี้ผู้ใหญ่ก็สามารถเชื่อมหาลูกหลานได้ด้วย Facebook หรือเว็บเหล่านี้เช่นกัน บางทีก็ใช้สื่อสารกับลูกหลานได้มากกว่าการพูดกันจริงๆ แม้จะอยู่ในบ้านหลังเดียวกันเสียอีก ก็ถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของสังคมไทยก็ได้ แต่ด้วยบริบทสังคมไทย อินเทอร์เน็ตก็ยังไม่ใช่เรื่องเข้าถึงทุกคนนัก พ่อแม่ที่ใช้คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตไม่เป็นก็ยังมีอีกมากทีเดียว ในขณะที่ลูกใช้เป็นทุกคน บางทีผู้ปกครองก็อาจไม่ทันลูก...
1. อย่าตกอกตกใจที่พ่อแม่ Add Friend
2.ให้ตรวจสอบว่าตัวเองมีข้อความหรือรูปที่ไม่ดีหรือไม่
3.ให้รับ Add ไป อย่าเพิกเฉย อย่างไรเขาก็เป็นผู้ปกครองของเรา
และก็ยังมีข้อต่อๆ ไปจนกระทั่งการถึงการบล็อกพ่อแม่ตัวเอง หรือแม้แต่การยกข้อกฎหมายสิทธิส่วบุคคลว่าจะรับหรือไม่รับใครเป็นเพื่อนใน Facebook ก็ได้
การที่ลูกหลานออกมาเขียนบทความนี้ได้ ในมุมมองหนึ่ง คือการแสดงถึงการพัฒนาของเทคโนโลยีที่เข้าถึงได้ทุกคนไม่ว่าเด็ก ผู้ใหญ่ วัยรุ่น วัยดึก วัยไหนก็สามารถใช้อินเทอร์เน็ตอย่างเสรี และแสดงให้เห็นถึงความกล้าแสดงความคิดเห็นด้วยวิธีการที่เหมาะสม คือผ่านการแสดงทัศนะบนเว็บไซต์สาธารณะด้วยข้อความที่ผ่านการคัดกรองแล้ว ไม่ใช่การระบาย ไม่ใช้คำหยาบ หรือส่งต่อทางอีเมลอย่างลับๆ อีกทั้งมีการเปิดรับความคิดเห็นจากทุกคนอีกด้วยค่ะ แต่ในอีกทางก็คือการแนะแนวช่องทางที่ไม่เหมาะสม เหมือนเจตนาจะทำสิ่งไม่สมควร แถมในบริบทสังคมไทยแล้ว ยิ่งเหมือนกับเด็กไม่เคารพผู้ใหญ่ เพราะทำอะไรข้ามหน้าข้ามตาหรือไม่ตอบรับคำผู้ใหญ่ค่ะ
วัยรุ่นชาติไหนก็มีพัฒนาการที่เหมือนกัน มิจฉาชีพทางอินเทอร์เน็ตก็มีเหมือนกัน แต่กรอบวัฒนธรรมเราต่างกัน การเข้าถึงของอินเทอร์เน็ต และการระมัดระวังการใช้ก็ต่างกัน ถ้าเกิดวันใดวันหนึ่งวัยรุ่นไทยออกมาเขียนวิธีการป้องกันการบุกรุกพื้นที่ส่วนตัวในโลกออนไลน์จากพ่อแม่บ้าง ผู้ใหญ่จะคิดอย่างไร และวัยรุ่นชาว Dek-D คิดเห็นเป็นประการใดคะ บทความนี้ไม่ได้มีเจตนาก่อสงครามหรือชี้นำให้วัยรุ่นออกมาเขียนบทความป้องกันหรือต่อต้านใดๆ เพียงแต่นำเสนอเรื่องราวจากมุมหนึ่งของโลกเรา และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เราทุกๆ คนจะทำการใดๆ ก็ตามโดยคำนึงถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้ค่ะ
แหล่งข้อมูล,ภาพประกอบ:
http://press.kaptest.com
www.flickr.com
|
สงคราม Facebook ระหว่าง พ่อแม่ กับ ลูกวัยรุ่น!
พี่เกียรติ
- Community Master
ถนัดแฝงตัวตามกระทู้เด็กดี มีความสนใจเป็นล้านเรื่องขึ้นอยู่กับดราม่าขณะนั้น
จะรับอีกทีดีไหม?
72 ความคิดเห็น
อยากเช็คก็เช็คไปเพราะในเฟสมีมีแต่เกม ทำงานก็เข้ากลุ่ม ส่วนรูปก็ไม่มีปัญหา
ไม่มีคำหยาบคาย
พอตอนไม่อยู่บ้านดันล็อคอินค้างไว้ ซวยเลย แม่มาเปิดดู TT หมดเลยยยยยยย
ทั้งเฟสกลุ่มหรือคุยกับเพื่อน
แล้วแม่ก็มาแอดทีหลัง ตอนแรกทำเป็นไม่เห็น แต่แม่ส่งข้อความมาว่าให้รับด้วย
แม่อุตส่าห์สมัครอีกเฟสไว้ส่องพี่น้องในบ้าน -*-
แต่เราก็ไม่มีอะไรอยู่แล้วแต่แบบบางทีเฟสมันก็เรื่องส่วนตัวอ่ะ - -
ปล.ดีใจมากที่พ่อไม่คิดจะแอดเราเป็นเพื่อน^O^/
แม่ ป้า ส่งคำขอเป็นเพื่อนมา ไม่ได้รับ พวกท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร หุหุ
แต่ไม่รับอ่ะ ไม่ได้มีอะไรเสียหายนะ ไม่พูดคำหยาบ ไม่มีรูปไม่สุภาพ
แต่แบบบางทีมีเรื่องกันในบ้านแต่อยากโพสระบายมันก็โพสไม่ได้อ่ะ
แล้วบางทีโพสรูปหรือสเตตัสอะไร พอแม่มาเม้นแล้วเพื่อนไม่ค่อยกล้าเม้นต่อ(เคยให้แอดแล้วลบออก)
แต่ตอนนี้ต้องแอบผู้ปกครองเล่นละ เพราะว่าเพื่อนๆก็ชอบส่ง Yaoi มาให้ไลค์เหมือนกัน = =!(แล้วเราก็ไลค์?)
ตอนนี้เต็มเฟสเลย สมัครเฟสอีกอันเล่นตอนพ่ออยู่ ส่วนอันที่เล่นประจำต้องแอบเล่น T.T
เฟสบุ๊คไม่ได้คนรู้จักเยอะ เพื่อน ญาติ อาจารย์ - -"