โอ้ เงินทองใกล้ตัว กับ AEC ที่ทุกคนสนใจ!

  

AEC สำคัญไฉน

---

          ประการแรกเลยเพราะเสาเศรษฐกิจมีผลกระทบต่อทุกคนที่ได้เห็นชัดเจน  (แต่จะรู้ตัวหรือเปล่าก็อีกเรื่องล่ะนะ) เพราะเสานี้เป็นเรื่องเงินๆ ทองๆ รายได้ที่จะใช้เลี้ยงชีพเรานั่นแหละค่ะ  และแม้ถึงเราที่ยังเป็นเยาวชนอาจจะไม่ใช่คนหารายได้เอง แต่หากคุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครองของเราไม่มีเงินทองหาเลี้ยงดูก็ลำบาก ถูกไหม?

---

      เจ้าเสาหลักเศรษฐกิจนี้เลยสำคัญต่อทุกคน ทุกอาชีพ ทุกการลงทุนทางการเงินเลยค่ะ ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของกิจการรายใหญ่ ลงทุนกับตลาดสินค้าเป็นพันล้าน หรือแม้จะเป็นเพียงลูกค้ารายเล็กๆ ที่ซื้อของกินของใช้ในชีวิตประจำวันเท่านั้น  AEC นี้ จะทำให้สินค้าหลากหลายขึ้นในส่งผ่านกันไปมาในภูมิภาคเดียวกันนี้ในราคาเหมาะสมมากขึ้นด้วย เรียกว่า ไม่ว่าจะเป็นใคร อยู่ในบทบาทไหน AEC ก็อยู่ในชีวิตอยู่ดีจ้า 

---

ต่อให้ไม่สนใจเรื่อง "เศรษฐกิจ" แต่เรื่องเงินทอง นี่มันก็ของใกล้ตัวล่ะนะ

 
 
          AEC นี้มีการสร้างกรอบแผนงานที่ชัดเจนในเรื่องต่างๆ ไว้ ที่บางเรื่องก็เริ่มดำเนินการไปบ้างแล้ว อย่างการเปิดเสรีการค้าในพ.ศ. 2553 (ภายใต้AFTA)  แต่ก็มีแผนที่วางไว้ว่าต้องทำให้สำเร็จในปี  2558 นี้ ด้วยกัน 4 เรื่อง  คือ

---

     1. การเป็นตลาดและฐานการผลิตเดียวกัน 

---

     2. การเป็นภูมิภาคที่มีขีดความสามารถในการแข่งขันสูง 

---

     3. การเป็นภูมิภาคที่มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่เท่าเทียมกัน 

---

     4. การเป็นภูมิภาคที่มีการบูรณาการเข้ากับเศรษฐกิจโลก 

---

ดังรายละเอียดหน้าต่อไปจ้า...

 
1. การเป็นตลาดและฐานการผลิตเดียวกัน 

          เจ้าข้อนี้ดูอลวนเพราะรวมสารพัดการเคลื่อนย้ายเสรีไว้ ได้แก่ (1)การเคลื่อนย้ายสินค้าเสรี   (2)การเคลื่อนย้ายบริการเสรี  (3)การเคลื่อนย้ายการลงทุนเสรี   (4)การเคลื่อนย้ายเงินทุนเสรีขึ้น และ(5) การเคลื่อนย้ายแรงงานฝีมือเสรี    โดยเฉพาะข้อการเคลื่อนย้ายแรงงานฝีมือเสรี ที่ส่งผลต่อการเลือกเรียนและประกอบอาชีพในอนาคต 

---

         หลักของเรื่องนี้ คือ เมื่อเรามีการทำอะไรต่างๆ ได้อย่างเสรีมากขึ้น จะทำให้มีการหมุนเวียน เปลี่ยนสรร  ทรัพยากร ทั้งธรรมชาติ บุคคล และเงินลงทุน ที่ง่ายมากขึ้น ส่งผลให้เกิดการแข่งขันและได้กระตุ้นเศรษฐกิจของภูมิภาคไปในตัวด้วย

            หลายๆ มาตรการบางอย่างได้ดำเนินการไปแล้วด้วย แต่ก็ไม่ได้มีแต่การเดินหน้าเท่านั้นหรอกนะคะ จริงๆ อาเซียนเองก็มีหน่วยระวังภัยทางเศรษฐกิจและการเงิน ที่ตั้งขึ้นเพื่อติดตามศักยภาพทางเศรษฐกิจของแต่ละชาติไว้ด้วยล่ะจ้า  อาเซียนได้กำหนด12 อุตสาหกรรมลำดับแรก ที่ให้อยู่ภายใต้ตลาดและฐานการผลิตเดียวกันของอาเซียน ได้แก่

เกษตร ประมง ผลิตภัณฑ์ยาง ผลิตภัณฑ์ไม้ สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ การขนส่งทำงอากาศ สุขภาพ e-ASEAN ท่องเที่ยว และโลจิสติกส์ รวมทั้งความร่วมมือในสาขาอาหาร เกษตรและป่าไม้

ไทยเราได้ทำ Road map ด้านการท่องเที่ยวและขนส่งทางอากาศ (การบิน) ประมาณว่าเป็นหัวหน้าในการวางแผนพัฒนาเรื่องนี้จ้า

---

12 อุตสาหกรรมนี้จะมีความสำคัญมากขึ้นในลำดับแรกๆ ซึ่งน้องๆ ก็น่าจะได้มองๆ กันไว้นะคะ

2. การเป็นภูมิภาคที่มีขีดความสามารถในการแข่งขันสูง

   เป็นการสร้างมาตรฐานเดียวกันในเรื่องต่างๆ ทำให้เกิดความสะดวกในการทำธุรกรรมมากขึ้น โดยแต่ละประเทศต้องมีนโยบายต่างๆ เช่น เรื่องการคุ้มครองผู้บริโภค  สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา มาตรการด้านภาษีในมาตรฐานเดียวกัน เป็นต้น

---

        คือ เมื่อเรามีการทำอะไรต่างๆ ภายใต้นโยบายเดียวกัน ก็จะช่วยลดอุปสรรคต่างๆ ในการลงทุนหรือทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ประสานพิธีการด้านศุลกากรให้เป็นมาตรฐานเดียว ยกเลิกภาษีศุลกากร ลดต้น ทุนต่างๆ  เพราะประเทศในภูมิภาคเรามีทรัพยากรทั้งธรรมชาติและบุคคลต่างๆ ที่นำมาใช้ได้มากมาย แต่กว่าจะเข้าถึงประเทศนั้น เข้าไปหาแรงงานประเทศนี้ พอดีชาติใหญ่อื่นๆ นำหน้าไปไหนๆ ในขณะที่อาเซียน ยังตรวจเอกสารไม่เสร็จเลย ฮ่าๆๆ ดังนั้น หากมีความร่วมมือกัน ก็จะเสริมจุดอ่อนซึ่งกันและกัน ทำให้การลงทุนง่ายขึ้น

     

3. การเป็นภูมิภาคที่มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่เท่าเทียมกัน

           

             การพัฒนาทางเศรษฐกิจที่เท่าเทียมกันมี 2 องค์ประกอบ คือ (1) การพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) (2) ความริเริ่มในการรวมกลุ่มของอาเซียน (Initiatives for ASEAN Integration: IAI) ทั้งนี้เพื่อลดช่องว่างการพัฒนา ทั้งในระดับ SME และเสริมสร้างพลังให้กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนาม สามารถดำเนินการตามแข่งขันของอาเซียนได้ รวมทั้งเพื่อให้ประเทศสมาชิกอาเซียนทุกประเทศได้รับประโยชน์จากการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจนี้อย่างเต็มที่

---

       จริงๆ ก็คือสนับสนุน ผลักดัน ให้ทุกประเทศในอาเซียน โดยเฉพาะประเทศที่ยังไม่เข้มแข็งนัก เพื่อให้ประเทศเหล่านี้ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการรวมตัวกันทางเศรษฐกิจอาเซียนอย่างเต็มที่  แบบผลักดัน และก้าวไปพร้อมๆ กัน ก็ดีกว่าไปทางใครทางมัน แล้วพอจะยิ่งใหญ่ก็มีคนเก่งน้อยกว่าคอยฉุดรั้งความรุ่งเรืองสูงสุดไงละเนอะ

4. การเป็นภูมิภาคที่มีการบูรณาการเข้ากับเศรษฐกิจโลก

          นอกจากการผลักดันกันและร่วมมือกันให้อาเซียนมีความเข้มแข็งแล้ว ก็ยังต้องรู้จักการปรับตัวต่อเศรษฐกิจโลก และภูมิภาคอื่นๆ ด้วย ดังนั้นจึงต้องมองออกไปหาความร่วมมือจากภูมิภาคอื่นๆ โดยการจัดทำแผนงานและความรว่มมือต่างๆ เช่น (1)การจัดทำเขตการค้าเสรี (FTA) และความเป็นหุ้นส่วนทำงเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด (CEP) กับประเทศนอกอาเซียน    (2)การมีส่วนร่วมในเครือข่ายห่วงโซ่อุปทานโลก  ซึ่งก็คือการที่อาเซียนจะมีส่วนในการส่งออกทรัพยากรธรรมชาติที่มีไปทำให้เกิดมูลค้ามากขึ้น หรือมีการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการต่างๆ เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจการค้า และการลงทุนระหว่างภูมิภาคแหละค่ะ  

---

       การดึงดูดให้ประเทศใหญ่อื่นๆ มาลงทุนในอาเซียนมากขึ้น อาเซียนก็จะยิ่งแข็งแกร่งเป็นผู้ผลิตของโลก หรือจะเป็นครัวของโลกในนามภูมิภาคและสังกัดอาเซียนก็ว่าไปค่ะ อิอิ

เป็นอันว่า ถึงเราจะได้ยินแต่  เออีซี เออีซี  ก็จริง แต่ AEC ก็ไม่ใช่ทั้งหมดของประชาคมอาเซียนนะคะ ยังมี ASC และ ASCC อีก ซึ่งที่จริงๆ ก็คือเรื่องความปลอดภัย การดูแลสุขภาพร่างกาย จิตใจ และรากเหง้าของชนชาติอย่างศิลปวัฒนธรรมด้วย เพียงแต่ด้านเสาเศรษฐกิจนี้เกี่ยวข้องกับปากท้องคนทุกวงการอย่างแยกไม่ออก   โดยเฉพาะอนาคตของชาว  Dek-D  เราในการเลือกประกอบอาชีพ และช่องทางทำมาหากินในอนาคตจ้า ข้อมูลเพิ่มเติม - 7 อาชีพทำได้ทั่วอาเซียน - การท่องเที่ยว อีกอาชีพน่าจับตามอง