|
|
| |
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ได้ส่งผลให้พัฒนาการของการวัดผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาในระดับชาติ ก้าวเข้ามาสู่รูปแบบที่ต้องมีข้อสอบอัตนัย จึงทำให้รูปแบบการตรวจข้อสอบด้วยคอมพิวเตอร์รูปแบบเดิมที่เคยใช้มาในอดีตนั้น ไม่สามารถรองรับได้
การสอบ O-NET และ A-NET นอกจาก มีทั้งข้อสอบปรนัยและอัตนัยแล้ว ยังมีปริมาณกระดาษคำตอบมากหลายล้านแผ่น และยังต้องได้รับการตรวจอย่างถูกต้อง ให้เสร็จสิ้นในระยะเวลาอันสั้น จึงจำเป็นต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ตรวจ โดยใช้เทคโนโลยีอ่านรู้จำลายมือจากภาพสแกน ที่มีทั้งความสามารถอ่านรู้จำลายมือที่เขียนเป็นเครื่องหมายกาตอบข้อสอบ (Optical Marked Recognition หรือ OMR) อ่านรู้จำลายมือที่เขียนเป็นตัวเลขได้ (Intelligent Character Recognition หรือ ICR) และสามารถจัดการภาพลายมือเขียนตอบเป็นข้อความ ได้อย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งลายมือที่เขียนเป็นภาษาไทย ทั้งนี้เพื่อสามารถรองรับการตรวจข้อสอบอัตนัย
การที่เครื่องคอมพิวเตอร์จะสามารถอ่านรู้จำลายมือได้ถูกต้องสูงสุดนั้น ผู้กรอกกระดาษคำตอบ ต้องทำตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด เช่นต้องใช้ดินสอ 2B ระบายเต็มวง ไม่เช่นนั้น คะแนนจะออกมาผิดเป็นต้น แต่นั่นคือข้อกำหนดตามรูปแบบที่เคยใช้กันมานาน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีนำเข้าจากต่างประเทศ ที่ไม่สามารถรองรับข้อสอบอัตนัยที่ต้องมีการตรวจโดยผู้ตรวจที่ทำงานอย่างเป็นเครือข่ายได้
สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ได้ร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ ประยุกต์ใช้โปรแกรม ScanXM ซึ่ง เป็นเทคโนโลยีจากภูมิปัญญาไทย มาใช้ตรวจข้อสอบ O-NET และ A-NET เนื่องจากสามารถรองรับข้อสอบอัตนัยได้ และที่สำคัญคือไม่ต้องใช้ดินสอ 2B ระบายเต็มวงอย่างที่เคยทำมาแต่เดิม อีกทั้งยังมี ICR คือสามารถอ่านรู้จำลายมือที่เขียนเป็นตัวเลขได้ ถ้าหากเขียนตามรูปแบบที่กำหนด จะมีความถูกต้องสูงถึง 100% แต่หากไม่ตามนั้น ก็เป็นธรรมดาที่เครื่องอ่านผิดหรืออ่านไม่ออกเช่นเดียวกันกับที่บางครั้งเรายังอ่านลายมือเราเองไม่ออก สำหรับคำตอบที่เขียนเป็นข้อความนั้น อาจารย์ผู้ตรวจยังคงอ่านลายมือนักเรียนเช่นเดิม แต่ระบบตรวจในครั้งนี้จัดภาพสแกนให้อาจารย์ผู้ตรวจอ่านอย่างเป็นระบบ สามารถกระจายผู้ตรวจได้จำนวนมาก
จากที่มีการเปลี่ยนแปลงตามที่กล่าวข้างต้น หากไม่มีการทำความเข้าใจร่วมกันเกี่ยวกับการเขียนกระดาษคำตอบ อาจเกิดความยุ่งยากมากในการตรวจ แม้ระบบจะพัฒนาเพื่อรองรับปัญหาเหล่านี้อย่างดีเพียงใด แต่หากแม้แต่ต้นฉบับก็ไม่สามารถอ่านได้นั้น ไม่ว่าการตรวจด้วยตา หรือประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใดก็ไม่สามารถรองรับได้
ดังนั้น ผู้เข้าสอบทุกคน จึงควรทำความเข้าใจรูปแบบการเขียนคำตอบตามรายละเอียดต่อไปนี้ก่อนเข้าสอบจริง เพื่อไม่เกิดความสับสนและไม่เกิดปัญหาในช่วงเวลาสอบ ทำให้สามารถเผชิญกับการสอบได้อย่างมั่นใจ
ข้อกำหนดที่กล่าวต่อไปนี้ ไม่ได้แตกต่างจากสิ่งที่นักเรียนพึงปฏิบัติในการสอบที่เคยทำมาแต่เดิมมากนัก แต่นำมาแนวปฏิบัติมาอธิบายให้ละเอียดเพื่อชี้ให้เห็นถึงรูปแบบการเขียนตอบที่พึงหลีกเลี่ยง พร้อมเหตุผลให้เกิดความเข้าใจได้ดียิ่งขึ้น กล่าวอีกนัยหนึ่ง คือแม้ตรวจข้อสอบด้วยสายตา โดยไม่มีการใช้เทคโนโลยีใดๆ การเขียนตอบตามแนวทางต่อไปนี้จะไม่ก่อปัญหาใดๆ ในการตรวจเลย |
| |
| |
|
|
| |
|
| |
|
|
| |
|
| |
|
- คำชี้แจงวิธีการเขียนตอบ ที่ปรากฏบนกระดาษคำตอบ หน้าแรก ของทุกฟอร์ม
|
| |
| 1. ใช้ปากกาลูกลื่นหมึกดำขนาด 0.5 mm. ขึ้นไป ในการเขียนตอบ |

|
| 2. ตัวเลขต้องเขียนตรงกลางช่องสี่เหลี่ยมไม่ให้ชิดเส้นกรอบ ดังนี้ |
 |
|
| 3. วิธีการขีดเครื่องหมายกากบาททับตัวเลขที่ท่านเลือก |
|
|
| |
- ตัวอย่างที่ ถูก ต้องเมื่อเลือกข้อ 4 คือ
- ตัวอย่างการกากบาท ผิด คือ
- ตัวอย่างการกากบาท เมื่อต้องการเปลี่ยนตัวเลือกจากข้อ 2 เป็นข้อ 4 |
 |
| |
| |
|
|
| |
|
|
| |
|
- เนื่องจากการตรวจข้อสอบนั้น จะนำกระดาษคำตอบมาผ่านเครื่องสแกน ซึ่งมีระบบการทำงานคล้ายเครื่องถ่ายเอกสาร ต่างกันที่ผล กล่าวคือเครื่องถ่ายเอกสารให้กระดาษสำเนาแต่เครื่องสแกนให้ไฟล์ภาพ หากเขียนด้วยดินสอหรือปากกาเส้นบาง หรือเส้นขาด หรือสีไม่เข้มพอ หรือเขียนด้วยน้ำหนักมือที่เบา จะทำให้ได้ต้นฉบับที่ไม่ชัดเจน ยังผลให้ได้ภาพสแกนที่ไม่ชัดไปด้วย หรือบางกรณีอาจถึงกับไม่สามารถอ่านได้เลย ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใช้ปากกาลูกลื่นที่มีเส้นหนา สีดำ และให้เขียนด้วยน้ำหนักมือที่หนักพอ จนมองเห็นเส้นที่คมชัด
- ต้องไม่ใช้หมึกที่ซึมผ่านกระดาษจนไปปรากฏอีกหน้าหนึ่งได้
- กรณีคำตอบที่กาเครื่องหมายกากบาท สามารถขีดฆ่าได้หากเปลี่ยนไปเลือกคำตอบอื่น แต่หากเปลี่ยนกลับมาเลือกคำตอบเดิมที่ได้ขีดฆ่าออกไปแล้ว ต้องลบรอยขีดฆ่าเดิมนั้นให้สะอาดก่อนกากบาทใหม่ลงไป เช่นเดียวกันกับคำตอบที่เขียนเป็นตัวเลขลงในช่องสี่เหลี่ยม หากมีการแก้ไขต้องลบตัวเลขเดิมให้สะอาดก่อนเขียนคำตอบใหม่เมื่อต้องการแก้ไข ดังนั้น นักเรียนต้องเตรียมยางลบหมึกเข้าห้องสอบด้วย
- เพื่อลดภาระในการลบหมึก แนะนำให้นำดินสอกับยางลบเข้าห้องสอบด้วย เพื่อใช้ร่างคำตอบโดยเขียนด้วยดินสอเพียงเบาๆ ก่อนในรอบแรก จากนั้นในรอบตรวจทาน เมื่อแน่ใจแล้วจึงเขียนทับด้วยปากกา แล้วลบดินสอออกให้สะอาด กระดาษคำตอบที่สะอาดสวยงามย่อมเป็นที่ต้องการของทุกระบบตรวจ ไม่ว่าด้วยคน หรือด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์
- ห้ามใช้น้ำยาลบหมึก (Liquid paper) โดยเด็ดขาด เนื่องจากมักพบว่าลบได้ไม่สะอาดสนิท หรือหมึกที่เขียนบนสารสีขาวนั้นไม่เข้มพอ หรืออาจหลุดลอกจากกระดาษระหว่างกระบวนการขนส่งกระดาษ ทำให้เกิดความสับสนในการอ่าน
|
|
| |
|
|
| |
|
- ต้องเขียนในกรอบสี่เหลี่ยมเท่านั้น หากเขียนนอกกรอบ จะไม่ได้รับการตรวจเลย เพราะเครื่องคอมพิวเตอร์ไม่สามารถอ่านค่านอกกรอบสี่เหลี่ยมออกมาได้
- ต้องเขียนตรงกลางช่องสี่เหลี่ยม ด้วยขนาดตัวเลขที่ใหญ่พอ แต่ไม่ให้เส้นลายมือที่เขียนชิดนั้นเส้นกรอบสี่เหลี่ยม เพราะจะทำให้ภาพผิดเพี้ยน เช่นเขียนเลข 6 จนส่วนหางออกนอกกรอบจะอ่านเป็นเลข 0 หรือเขียนหางเลข 2 แนบกรอบล่างจะอ่านเป็น 9 เป็นต้น เนื่องจากลายมือที่ออกนอกกรอ หรือชิดเว้นกรอบจะถูกลบออกก่อนการแปลลายมือ
- เขียนให้เป็นตัวเลขที่ชัดเจน อ่านได้ด้วยสายตาคนทั่วไปว่าเป็นตัวเลขใด หากเขียนกำกวม แยกแยะได้ยากว่าเป็นเลขใด อาจแปลค่าได้เป็นคนละค่ากับที่ตั้งใจ ทำให้เสียคะแนนได้
- เส้นลายมือต้องหนักและสม่ำเสมอ ไม่เช่นนั้น จะได้ภาพตัวเลขที่ขาด ไม่ต่อเนื่อง บางกรณีอาจแปลค่าได้เป็นคนละค่ากับที่ตั้งใจ เช่นเลข 9 ที่เขียนเบามากทางด้านซ้าย อาจแปลเป็น 1 หรือ 7 ได้ เป็นต้น
|
|
| |
|
|
| |
|
|
| |
|
| |
|
- หากนักเรียนกากบาทผิดวิธีโดยไม่ได้ตั้งใจ ระบบตรวจนี้ตรวจได้อย่างถูกต้องตามที่กา ในขณะเดียวกันก็สามารถตรวจได้ว่าที่ทำผิดมานั้นจงใจหรือไม่ เช่นให้เลือกได้หนึ่งคำตอบแต่เลือกมาเกินเป็นต้น กรณีหลังจะปรับผิดในข้อนั้น หากมีรูปแบบการกากบาทที่ไม่ตรงตามที่กำหนด จะยังผลให้ต้องใช้ดุลยพินิจตัดสิน ดังนั้นหากมีปัญหาดังกล่าวปริมาณมากแม้จะเกิดจากความไม่ตั้งใจ ก็อาจส่งผลให้ประกาศผลสอบได้ล่าช้าได้ เนื่องจากมีภาระการตรวจแก้จำนวนมาก
|
|
| |
|
|
|
| |
|
|
|
|
| |
|
|
|
| |
|
|
|
| |
|
- การแก้ไขเมื่อต้องการเปลี่ยนตัวเลือก
|
|
| |
|
|
|
- การเขียนคำตอบเป็นตัวเลขจำนวน (เฉพาะด้านหลังของแบบ สทศ.1เท่านั้น)
|
|
| |
-
ให้เขียนหลักหน่วยอยู่ช่องชิดจุดทศนิยมเสมอ
-
เครื่องจะอ่านลายมือตัวเลขตามที่เขียน หากไม่เขียนหรือปล่อยว่างก็คือไม่มีค่าใดๆ หากใส่เลข 0 ก็อ่านแปลเป็นเลข 0 ดังนั้นจงอย่าเข้าใจว่าค่าปล่อยว่างคือ 0 โดยเด็ดขาด
-
กรอบสี่เหลี่ยมที่เป็นค่าว่าง เช่นกรอบที่อยู่หน้าจำนวนเต็ม จะใส่ 0 หรือไม่ก็ไม่ส่งผลใดๆ เพราะ 0270 มีค่าเท่ากับ 270 จึงแนะนำว่าไม่จำเป็นต้องเขียน 0 ให้เสียเวลากรณีไม่มีค่า
-
กรณีเลขมีทศนิยม ให้ตัวเลขตำแหน่งแรกหลังจุดทศนิยม อยู่ชิดจุดเสมอ
-
ต่อไปนี้ เป็นตัวอย่างที่ ถูกต้อง
|
|
| |
|
|
|
| |
- เพื่อให้การเขียนตอบที่เป็นตัวเลขไม่ผิดพลาด แนะนำให้ร่างคำตอบด้วยดินสอก่อน เมื่อตรวจทานรอบสุดท้ายแล้วแน่ใจ จึงเขียนทับด้วยปากกา จากนั้นลบดินสอออกให้สะอาด
- หากมีการแก้ไข วิธีที่ดีที่สุดคือ ทำอย่างไรก็ได้ที่ผลสุดท้ายแล้วได้เหมือนกับภาพตัวเลขที่ให้ไว้เป็นตัวอย่างตามที่กล่าวข้างต้น
- หากมีการแก้ไข ต้องลบตัวเลขเดิมให้สะอาดด้วยยางลบหมึก แล้วเขียนเลขใหม่ทับลงไป
- ต่อไปนี้ ตัวอย่างที่ ผิด ในการเขียนตัวเลข โปรดอย่าทำตาม
|
|
| |
|
|
|
| |
|
|
|
- การเขียนคำตอบเป็นข้อความ (เฉพาะด้านหลังของแบบ สทศ.2 และ สทศ.3 เท่านั้น)
|
|
| |
- ส่วนนี้ ระบบตรวจข้อสอบจะเก็บภาพโดยตัดเอาเฉพาะบริเวณกรอบสี่เหลี่ยมที่กำหนด ไปแสดงให้ผู้ตรวจอ่านคำตอบที่เป็นภาพลายมือโดยตรง ไม่มีการแปลลายมืออกเป็นตัวอักษรหรือตัวเลขแต่อย่างใด เขียนอย่างไร ได้ภาพสู่อาจารย์ผู้ตรวจอย่างนั้น
- ให้เขียนด้วยตัวบรรจง ขนาดใหญ่พอ ชัดเจน สามารถอ่านได้ง่ายด้วยสายตาคน
- แนะนำให้ร่างคำตอบด้วยดินสอก่อน เมื่อตรวจทานรอบสุดท้ายแล้วแน่ใจ จึงเขียนทับด้วยปากกา จากนั้นลบดินสอออกให้สะอาด
|
|
| |
|
|
|
|
|
|
| |
|
- ฝึกทำ โดยทดลองเขียนกระดาษคำตอบ ให้ครบทุกรูปแบบ เพื่อสร้างความคุ้นเคย และเกิดความมั่นใจเมื่อเข้าห้องสอบ เสมือนทดลองขับรถในสนามแข่งก่อนลงแข่งจริง
- เขียนลายมือ แล้วนำไปถ่ายเอกสาร จากนั้นนำกระดาษที่ได้จากการถ่ายเอกสารนั้นไปให้คุณพ่อคุณแม่หรือญาติผู้ใหญ่อ่าน แล้วขอความเห็นท่าน เพื่อปรับปรุงลายมือและวิธีการเขียนตอบจนท่านเหล่านั้นสามารถอ่านได้อย่างไม่มีปัญหา เพราะท่านเหล่านั้นเป็นกลุ่มคนที่มีอายุใกล้เคียงกับผู้ที่จะตรวจกระดาษคำตอบส่วนที่เป็นอัตนัย
- ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมต่อไปนี้ ให้ทำเท่าที่จะทำได้ แต่ถ้าไม่ทำก็ไม่ส่งผลเสียใดๆ ต่อนักเรียน
|
|
| |
|
|
| |
:: ( S O U R C E : ntthailand.com )* ::
25 ความคิดเห็น
จากระบบเก่าที่ใช้ 2B ในการตอบก็ดีอยู่แล้ว พอมาเปลี่ยนให้ใช้ปากกาเนี่ย .. คิดว่าเด็กไทยสมัยนี้ใช้ยางลบหมึกกันจน X วชาญนักหรือครับ ผมเชื่อว่าแม้แต่ในกระทรวงศึกษาธิการเองก็ยังแทบจะไม่มีการใช้ยางลบหมึกกันเลย เพราะถ้าลบแรงไป กระดาษก็จะขาด ถ้าลบเบาไป ผลที่ออกมามันก็เหมือนไม่ได้ลบ .. ใช้ลิควิดก็ไม่ได้ .. แล้วยังจะมาบอกว่าให้ใช้ดินสอร่างคำตอบก่อนอีก .. ผมถามหน่อยครับ ว่าลำพังการทำข้อสอบให้เสร็จทุกข้อในเวลานี่ทำได้ไหม .. กว่าคุณจะร่างเสร็จทุกข้อมันก็หมดเวลาสอบแล้ว จะเอาเวลาที่ไหนมาลงปากกาอีกรอบนึงครับ
และอีกอย่าง เด็กต่างจังหวัดที่อยู่ในแดนกันดารไกล ๆ เขาจะมีปัญญาซื้อปากกาดำหัว 0.5 และยางลบหมึกไหม .. ลำพังระบบการสมัครสอบก็ทำร้ายพวกเขามากพออยู่แล้ว บางคนถึงกับต้องเหมารถเข้ามาในเมืองเพื่อสมัครสอบ .. คิดว่า ณ เวลานี้ คนไทยมีคอมพิวเตอร์กันทุกครัวเรือนงั้นหรือครับ
อย่าคิดแต่ว่าจะจัดการศึกษาแบบเมืองนอก .. ผมยอมรับครับ ว่าระบบเขาดีจริง ๆ แต่ที่เขาทำระบบแบบนี้ได้เพราะเขามีปัจจัยต่าง ๆ พร้อม คนเขามีคุณภาพและการศึกษา มีความเท่าเทียมทางฐานะมากกว่าประเทศเรา ..กรุงเทพคือประเทศไทยครับ คำกล่าวนี้เป็นเรื่องจริง ลองสังเกตดูได้ ... จะปรับเปลี่ยนอะไรให้ดูตัวเองบ้าง ดูความเป็นไปได้ อย่าคิดแต่จะพัฒนาประเทศโดยที่ยังไม่พัฒนาคนครับ
ห่วยมากๆอะ
ระบบเก่ามานก้ดีอยู่เย้ว
จาทำเพื่อ!!!~~~~
ไม่ใช่สักแต่ว่าจะทำประเทศให้ดูดีแค่นั้น อย่าทำเป็นผักชีโรยหน้าสิ
แล้วอย่างนี้เมื่อไหร่ประเทศเราจะเจริญเหมือนประเทศอื่นบ้าง
ความจริงเรื่องการสอบ o-net และ a-net นี้น่ะ
ไม่น่าจะเอามาใช้ในเมืองไทยเลย สงสารคนต่างจังหวัดมากมาย
บางคนมาตั้งกระบี่เงี้ย ระยองเงี้ย ลำบากแทนพวกเค้า
อย่างเราๆ ในกรุงเทพฯ ยังลำบากกันเลย แล้วต่างจังหวัดจะขนาดไหน
แห่กันไปสอบที่นู่นที ที่นี่ที... บางคนบ้านไม่มีคอมพ์แล้วจะดูข้อมูลได้ที่ไหน
ทำไมไม่คิดถึงตรงจุดนี้บ้างล่ะ และอย่าพูดเลยนะว่า "ก็เปิดดูที่โรงเรียนสิ"
คุณรู้ไหม!? เน็ตที่โรงเรียนน่ะความเร็ว 100 แรงเต่ามากกกก~
กว่าจะโหลดหน้านึง ปาไปหลายนาทีแล้ว ที่สำคัญคนเข้าเว็บ สกอ. เยอะ (คนเข้าเยอะถึงขนาดเว็บล่มไปแล้ว)
ทำให้โหลดเข้าไปช้าหนักกว่าเดิมอีก
แถมคอมพิวเตอร์ที่โรงเรียนก็ตั้งกี่เครื่อง ใช้เน็ตตัวเดียว พ่วงกันเข้าไปสิ
ช้ากว่าเดิมอีกหลายเท่า... อยากให้ช่วยคิดหลายๆ จุดหน่อยก่อนที่จะทำอะไรลงไป
เพราะผลกระทบที่ได้รับมากที่สุดคือตัวเด็กนักเรียนที่จะสอบ admission เนี่ยแหละ
ทำไมรู้ดีจังว่า ต่างจังหวัดหนะ เขาลำบากกันแค่ไหน
พูดอย่างกะอยู่ต่างจังหวัดอย่างงั้นแหละ
ชั้นว่า จริง ๆ ก้อ X พวกบ้านนอกเหมือนกันหละว้า
ไม่งั้นจะรู้ได้ไงว่า เป็นความลำบากแค่ไหน
อ่ะ อย่าว่า อย่างงั้นอย่างงี้เลยนะ
วัว ลืม ตีน อะ ป่าว
ก็ลองคิดดูนะ ทำไมเค้าถึงเพิ่งมาประกาศตอน 3 เดือนก่อนสอบหละ
ว่าต้องwritting เพราะเค้ารู้ไงว่าพอปีนี้ได้สอบแบบนี้ไปแล้ว
เด็กปีหน้ามันต้องมาประท้วงให้ยกเลิกใช่ปะ
พอเกิดการประท้วง เค้าจะไปเอาเครื่องที่ซื้อมาเป็นล้านๆคืนบริษัทก็ไม่ได้แล้ว
เพราะได้ผ่านการใช้งานมาแล้ว
แค่นี้เค้าก็ได้เงินเข้ากระเป๋าเยอะแยะมากมายแล้ว
จะเข้าใจเรากันป่าววะ คือเรารู้มาอย่างนี้จริงๆ
แต่อธิบายแจ่มๆไม่ถูก เอาเป็นว่าเราต้องหาวิธีทำอะไรสักอย่างนะ
เปิดหูเปิดตาเข้าไว้ เพราะคนที่ซวยคือพวกเราที่กำลังจะเอ็นกันทุกคนเนี่ยะแหละ
พวกเราต้องยอมรับในความหวังดีของเค้านะ เพราะ ถ้าไม่ได้เค้า ประเทศเราคงไม่ high technology ซักที จริงมั้ย
ยังต้องมาคอยระวังเวลาเขียนอ่ะ
เราสอบครั้งมันต้องมีปัญหาแน่ๆอ่ะ
เวลาสมัครนี่ก้อวุ่นวายซะเหลือเกิน เว็บล่มบ่อยชิบ แล้วเราก้อม่าค่อยเปงคนติดตามข่าว ขี้เกียจจาเข้าเว็บบ่อยๆ เบื่อ ตอนช่วงที่เค้ารับสมัครกัน การบ้านก้อเยอะแยะ เกือบสมัครม่าทันซะแว้ว เหอๆ
เอาเหอะ ไงเราก้อต้องทำตามเค้าอยู่แล้วหนิ บ่นไปก้อเท่านั้นอ่ะ เค้าก้อม่าได้มาเหงใจพวกเรากานเท่าไหร่หรอก สรรหาไรมา เราก้อเปงตัวทดลองให้เค้ากาน เฮ้อเซ็งมั่กมากกกกกก