|
ผู้ใหญ่ขี้บ่น วัยรุ่นขี้มึน ไม้เบื่อไม้เมาประจำบ้าน 2
ครั้งที่แล้ว ผู้เขียนได้อธิบายลักษณะของผู้ใหญ่ขี้บ่นในสายตาของลูกๆ ซึ่งมีวัยรุ่นชาว Dek-D.com ตอบรับและอยากบอกผู้ใหญ่หลายคน แต่กลัวโดนผู้ใหญ่ว่า กลัวโดนแซว กลัวอาย ฯลฯ และในครั้งนี้ก็จะได้ยกตัวอย่าง และวิธีการจัดการภาวะขี้บ่นกัน แม้จะเป็นวิธีการที่ดูง่ายๆ ไม่ซับซ้อน แต่ก็จัดการได้ยากอยู่เหมือนกัน แต่เชื่อว่าผู้ใหญ่เราทุกคนมีความสามารถในการกำกับสติและจิตใจ ค่อยๆ ปรับเปลี่ยนไป จะได้ใจวัยรุ่นมาครอบครอง!
 ไม่พูดพร่ำทำเพลง เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า วิธีการปรับและรับมือกับภาวะขี้บ่นโดยไม่จำเป็น คือ พูดให้ชัด อย่ากล่าวโทษ ไม่โยงประเด็น เน้นขอร้องและวางเฉยบ้าง โดยผู้เขียนจะอธิบายพร้อมกรณีตัวอย่าง เรื่อง นำอาหารไปรับประทานหน้าคอมพิวเตอร์ และไม่จัดการเก็บห่ออาหารหรือเศษที่หกหล่นให้เรียบร้อย
 จากความคิดเห็นที่ 13 ของตอนที่แล้ว บอกว่า "ถ้าเป็นสภาพแบบนี้ก็น่าบ่นนะ"
จริงเสียด้วย ฮ่าๆๆ
2. อย่ากล่าวโทษ โดยเฉพาะการบ่นที่อาจไม่ใช่เรื่องของลูกวัยรุ่นเลยด้วย หรืออาจผิดจริงๆ ก็ตาม การกล่าวโทษก่อนสิ่งที่ต้องการให้ทำจะทำให้อารมณ์ผู้ฟังเสียไปก่อนที่จะได้รับฟังเหตุผล โดยเฉพาะประโยคคำถามที่ขึ้นว่า "ทำไม" ลองเปลี่ยนเป็นประโยคประโยคบอกเล่าหรือเหมือนเสนอความเห็น
3. ไม่โยงประเด็น คือ หาจะติติงเรื่องใด ก็มุ่งประเด็นไปเรื่องนั้น ไม่ติติงเรื่องเก่าๆ เหมามาด้วย หรือเรื่องอื่นๆ ที่อาจไม่ได้เกี่ยวกัน หรือไปยกความดีงามของพี่น้อง หรือคนข้างบ้านคนอื่นมาเปรียบค่ะ
 ลูกไม่เข้าใจว่า ขยะหน้าคอมพิวเตอร์ตัวเองไปเกี่ยวอะไรกับการเรียนตก และลูกของตาแพ่ง?
พูดแต่เรื่องขยะหน้าคอมพิวเตอร์เถอะค่ะ
4. เน้นขอร้อง คือ ถ้าสั่งด้วยอารมณ์ ถ้าเริ่มต้นการบอกให้ทำด้วยคำถาม ทำไม และพูดไม่ชัด หวังว่าลูกจะคิดได้เอง อย่างสามข้อข้างต้น แทนที่ลูกจะรู้ ก็ยิ่งจะบ่น ดังนั้นให้ใช้การขอร้องให้ทำก็ได้ค่ะ แล้วก็อย่าเพ่งด่วนสรุปว่าลูกจะไม่ทำ รอสักแป๊บหรือสักพักค่อยเตือนลูกก็ได้ค่ะ หรือจะใช้การต่อรองเล็กๆ กระตุ้นเตือนลูกก็ได้ค่ะ แต่ทั้งหมดต้องไม่มาจากอารมณ์ไม่พอใจนะคะ
 5. วางเฉยบ้าง เราไม่จำเป็นต้องเตือนหรือตำหนิทุกเรื่อง แม้ในใจจะคิดว่า กลัวลูกจะติดนิสัยไม่ดีไปจนโต แต่ถ้าคิดแบบนั้นทุกเรื่อง ไม่ว่าเล็กใหญ่เลยได้แต่พูดตำหนิลูก แทนที่ลูกจะมีนิสัยดีๆ ติดตัวไปด้วย ก็จะกลายเป็นผู้ใหญ่ช่างติในอนาคตเหมือนกัน ถ้าเป็นไปได้ก็วางเฉยในบางเรื่องก็ได้ เช่นเดียวกับบางทีผู้ใหญ่ก็เหนื่อยเวลาทำงาน ก็พักบ้าง แอบอู้งานบ้างนั่นแหละค่ะ
ซึ่งวิธีการทั้งหมดนี้ ต้องควบคู่ไปกับรับมือกับอารมณ์ไม่พอใจของตนเอง พยายามใจเย็นให้มากขึ้น เพราะ มันเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ ที่เมื่อเกิดความไม่พอใจก็จะ "บ่น" ขึ้นมาเลยไม่รู้ตัว และไม่ใช่ว่าผู้ใหญ่ต้องเป็นคนหักห้ามความไม่พอใจทุกเรื่องนะคะ เพียงแต่ให้รับรู้ตนเองให้ได้ว่า กำลังไม่พอใจแล้ว เมื่อรับรู้ตัวเองว่ากำลังไม่พอใจ ก็จะหันมารับมือกับอารมณ์และหาวิธีการสื่อสารกับวัยรุ่นได้ดีขึ้นเองค่ะ
นอกจากนี้ อีกประเด็นสำคัญมากๆ เลยก็คือ หากเราต้องการให้คนอื่นทำอะไรให้เรา หรือต้องการให้ลูกทำแบบไหนกับเรา เราเคยทำเป็นตัวอย่างหรือไม่ ปกติแล้วเราทำดีแล้วหรือเปล่า เราเองก็เป็นผู้ใหญ่ประเภทดีแต่พูดหรือเปล่า อย่าลืมคิดถึงข้อนี้นะคะ บางทีคนเราก็เห็นความผิดพลาดของคนอื่นก่อนตัวเองเสมอ ยิ่งความผิดพลาดของคนที่เรารัก เรายิ่งเห็นมาก แล้วก็อยากเตือนมากๆ ไม่อยากให้เขาผิด แต่อย่าลืมว่าลูกก็เรียนรู้นิสัยและการปฏิบัติจากพ่อแม่เหมือนกัน ลูกก็เลียนแบบพฤติกรรมมาจากคุณนั่นแหละค่ะ
ดังนั้น วัยรุ่นชาว Dek-D.com ทั้งหลายก็ต้องรู้จักหน้าที่ของตนเองนะจ๊ะ หยุดเล่นคอม แล้วเอาขยะไปทิ้งซะ เอ้ย เรียนให้เป็น เล่นให้ถูกเวลาค่ะ
|
ผู้ใหญ่ขี้บ่น วัยรุ่นขี้มึน ไม้เบื่อไม้เมาประจำบ้าน 2
พี่เกียรติ
- Community Master
ถนัดแฝงตัวตามกระทู้เด็กดี มีความสนใจเป็นล้านเรื่องขึ้นอยู่กับดราม่าขณะนั้น
22 ความคิดเห็น
ตรงด้วย ^^//
เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ....
ขอร้อง!!
อย่าพยายามคาดหวังเพื่อเปรียบเท
มันเป็นคน...คนละคนกันนะ!!
โยงจากนี้ไปปีที่แล้ว ไปถึงอนาคต ไปถึงญาติพี่น้อง มันเจ็บเหมือนกันนะ?
เรื่องที่จบแล้วก็ให้มันจบเถอะ รื้อฟื้นขึ้นมาทำไมล่ะ?
แล้วการที่เอาเราไปเปรียบเทียบกับคนอื่นเนี้ย มันไม่ได้เพิ่มกำลังใจเลยนะ ยิ่งบั่นทอนกันมากกว่าอีก
แต่ไม่มีใครรู้ว่าพูดแบบไหนแล้วลูกจะฟังจะทำตามจริงๆ
ถ้าปล่อยไปแบบนั้นตัวลูกเองจะลำบากในอนาคต..เช่น..มดขึ้นคอมพังไปเล่นไม่ได้...
เพราะงั้นที่เขาบ่นว่าก็เพื่อเราถ้าเราไม่ฟังก็เหมือนทำร้ายตัวเองไปอีกแบบ
บ่นนี่...ก็เหนื่อยเหมือนกันนะ..!
แงะ แต่ เรา ไม่ ใช่ แม่ อ่ะ ของ เรา เป็น ลุง
บ่น เรื่อง เล่น คอม แล้ว ก็ โยง เรื่อง เก่าๆ
ที่ ไม่ เกี่ยว เข้า มา ด้วย ทุก ที และ มัน ก็
คือ บ่น ยาว เป็น หาง ว่าว เลย T^T''
เรา :: คร๊าบบบ (พูดครับแต่เราก็หญิงนะเออ) ขอทำการบ้านญี่ปุ่น 10 นาที คร๊าบบบ
5 นาทีผ่านไป
แม่ :: เนี่ย ! แม่บอกให้เก็บตั้งนานแล้วนะ ! ทำไมยังไม่ทำอีก !
เรา.. // งง [คิดว่ามันเป็นเรื่องสนุกของชีวิตแล้วล้อแม่กลับ ขำทั้งคู่ 555+
แม่ไม่เชิงบ่นแต่แม่ชอบพูดประมาณว่า "แม่เป็นแม่ แม่ถูกเสมอ" ก็คงจะจริงเราเป็นลูกไม่มีสิทธิ์ไปทะเลาะหรือว่าอะไรแม่ แต่บางทีแม่ก็ผิดนะ ทำไมไม่ยอมรับผิดบ้าง แล้วก็โมโหมาลงกับลูก
ไม่เคยรับฟังลูก พอลูกจะลงเรียนพิเศษไปสาธยายให้ฟังว่าจะลงอันนี้ๆๆนะ ก็ไม่ยอมฟังทำเหมือนหูทวนลม พอวันจะไปลงจริงๆมาเปลี่ยนครอสให้เฉยเลย เราก็ไม่ทันได้ดูว่าครอสไหน สรุปว่าครอสปิดเทอมกับเปิดเทอมมันซ้ำกัน สรุปคือเราต้องเรียนซ้ำ พอบอกแม่แม่ก็โมโหใส่อีก เราผิดหรอ?
ช่วงนี้อยู่บ้านเลยรู้สึกหงุดหงิดมาก คือเรามีความรู้สึกว่าทำไมไม่ฟังเราตั้งแต่วันนั้น วันนี้เราเลยพยายามไม่คุยกับใครเพราะไม่งั้นเราจะระเบิด - -*
แม่ก็ดันมาพูดว่า "ร้องไห้หรอ" ซึ่งเราไม่ได้ร้องแต่หงุดหงิดมากๆ แล้วแม่ก็โยงไปเรื่องแฟน พูดเสียดสีประมาณว่าคนมีแฟนอย่างโน้นอย่างนี้ ซึ่งเราไม่ได้มีแฟน เลยทำให้หงุดหงิดไปใหญ่
ตอนนี้ไม่อยากอยู่บ้านแล้วอ่ะ เบื่อ เซง มีความรู้สึกว่าตัวเองเป็นลูกเลวยังไงไม่รู้ : (
นี่ถ้าน้ำท่วมแล้วได้อยู่แต่ในบ้านสงสัยเราต้องวีนแตกแน่เลย 555
ครับ...เป็นทั้งบ้านแต่ก้เริ่มชินแล้วละ เดี่ยวอนาคตมีครอบครัวก้จะบ่นแบบพ่อแม่บ้าง555555555555
ยายเราเป็นเเบบนี้เปี๊ยบ ! ไม่รูั้จะทำยังงัยให้ไม่บ่น คิดๆๆก้อคิดไม่ออก เซ็งกับชีวิต
เราเคยคิดอยากตายเพราะเรื่องนี้เเหละ บ่นๆๆๆๆ อยู่ไดๆๆๆ !!!