วัยรุ่นเป็นวัยที่อยู่ระหว่างเด็กและผู้ใหญ่ พยายามทำให้ตนเองแลดูเป็นผู้ใหญ่เพื่อให้คนรอบข้างยอมรับ แต่ความคิดก็โดยใช้อารมณ์เป็นหลัก มีความต้องการสองอย่างขัดแย้งกันในจิตใจ ใฝ่หาอิสระเสรีภาพแต่ก็อยากปลอดภัยในพื้นที่ของตัวเอง แต่ไม่ว่าอย่างไรวัยรุ่นต้องเติบโตต่อไป ต่อให้ลูกไม่อยากเผชิญโลกภายนอก แต่พอแม่ก็ต้องผลักดันให้ลูกก้าวออกโลกกว้างได้ (แม้ว่าพ่อแม่ส่วนใหญ่จะรูสึกดีมากกว่าหากจะได้ปกป้อง และทำอะไรเพื่อลูกตลอดไปก็ตาม) แต่หากลูกมุ่งมั่นจะออกไปเชยชมโลกข้างนอกแล้ว พ่อแม่ก็ต้องดูแลให้ทั่วถึงแต่อย่าให้กลายเป็นการควบคุม
พ่อแม่ชอบตำหนิ ที่ลูกทำผิด จนลืม บอกลูกว่า "ห่วงใย" แค่ไหน...
|
5. บอกความรู้สึกให้ลูกรู้ ลูกวัยรุ่นอาจอยากพูดกับพ่อแม่ แต่บางทีไม่มีโอกาส หรือเขินอาย หรือบางทีพ่อแม่ก็อยากคุยกับลูกวัยรุ่น แต่ลูกหนีหายเงียบไปในห้องส่วนตัวก็มี จริงๆ แล้วสายใยของพ่อแม่ตัดไม่ขาด
ต่อให้ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ของตัวไป แต่ความห่วงใยยังคงอยู่เสมอ ควรหาโอกาสพูดความรู้สึกของตนเองต่อลูกวัยรุ่นบ้าง อาจเป็นเรื่องน่าเป็นห่วงของวัยรุ่น เรื่องทั่วๆ ไป ละคร ภาพยนตร์ เพลง แรกๆ อาจต้องทนต่อความเฉยเมยขหรือเสียงจิ๊จ๊ะรำคาญใจจากลูกบ้าง แต่จริงๆ ลูกไม่ได้รำคาญหรือโกรธพ่อแม่จริงจังหรอกค่ะ แค่เป็นไปตามภาษาวัยรุ่นที่อยากต่อต้านไปตามวัย ดีไม่ดีจริงๆ แล้ว ลูกก็แอบไปรู้สึกเสียใจที่ทำรำคาญใส่พ่อแม่ด้วยนะคะ
ในกรณีเช่นเดียวกันนี้ หากเป็นเรื่องใหญ่กว่าเรื่องทั่วๆ ไป เช่น กลับบ้านดึก หนีโรงเรียน ไปเล่นเกมที่ร้าน ตามเฮกับเพื่อนกลุ่มเสี่ยง ไปตามกรี๊ดศิลปินจนไม่ตั้งใจเรียน พ่อแม่ก็มักชอบตำหนิที่ลูกทำผิด มากกว่าแสดงความห่วงใยตามความจริงที่อยู่ในใจ
สมมติว่าลูกสาวกลับบ้านดึก แม่นั่งรอด้วยความทุกข์ร้อน พอลูกกลับมาก็ฉะใส่ทันที จริงๆ ลูกก็อาจไม่ได้ไปทำเรื่องร้ายกาจ แม่เองก็ไม่ได้จะกล่าวหาว่าลูกใจแตก แต่พอลูกได้ฟังแบบนี้ ไม่ว่าจะผู้ใหญ่หรือเด็กก็โกรธแน่นอนค่ะ ระงับอารมณ์และลองใช้หัวใจพูดดีกว่าค่ะ
ในกลุ่มประโยคในสถานการณ์เดียวกันนี้
ได้บอกความรู้สึกว่าเป็นห่วง และโมโหด้วย แต่ก็เป็นประโยคที่วัยรุ่นฟังได้ อาจหงุดหงิดบ้าง แต่ไม่ใช่อารมณ์หุนหัน และกลายเป็นทะเลาะกันแน่นอนค่ะ
วิธีการเหล่านี้ดูเป็นเรื่องง่ายๆ อ่านผ่านๆ จบๆ ไปดูน่านำไปลองปรับใช้
แต่แค่น่าลองทำ ไม่เกิดผลค่ะ ต้องลองพิสูจน์กันด้วยความจริง!
แน่นอนว่านี่เป็นวิธีการสำหรับพ่อแม่ แต่จริงๆ แล้ว หากลูกวัยรุ่นรู้และเข้าใจในมุมมองของพ่อแม่มากขึ้นบ้าง วัยรุ่นก็จะไม่ใช่วัยเจ้าปัญหาของครอบครัวไหน วัยรุ่นชาว Dek-D เชื่อหรือไม่ว่า ไม่ใช่แค่วัยรุ่นจะกังวลใจเรื่องตัวเอง เรื่องโรงเรียน เห็นพ่อแม่ดุด่าว่าเราตลอดเวลา แต่จริงๆ แล้วสำหรับพ่อแม่ยิ่งกังวลใจยิ่งกว่า...ว่าจะเข้าหาวัยรุ่นอย่างไร ลูกตัวน้อยเปลี่ยนไปเป็นหนุ่มเป็นสาวแล้ว แต่ก็ยังอดห่วงไม่ได้ พ่อแม่กังวลใจว่าจะเข้ากับลูกไม่ได้ พอๆ กับที่วัยรุ่นห่วงว่าเข้ากับเพื่อนไม่ได้นั่นแหละ พ่อแม่ก็กลัวว่าลูกจะเห็นคนอื่นดีกว่าตัวเองนะเออ...หรือชาว Dek-D ทั้งหลายว่าอย่างไรล่ะ?
10 ความคิดเห็น
ดังนั้น คนที่อ่าน ที่จะไปมีครอบครัวในอนาคต ควรจดจำใส่ใจ และ อย่าทำผิดพลาดดังเช่นที่ พ่อแม่หลายๆคนทำกัน
จดจำ และนำไปใช้ในอนาคต อย่าอ่านผ่านๆนะครับ
ปล.เข้าใจนะว่าเป็นห่วง แต่อย่าเอาอารมณ์มาเป็นที่ตั้งจะช่วยได้มากเลย ^^
T^T คิดก่อนที่จะทำอะไร ใช้ได้กับทุกสถานการณ์จ้า
แอบอิจฉาคนที่พ่อแม่เข้ามาอ่านอยู่ลึกๆ TT"
อ่านจบแล้วก็อยากกอดแม่.. [แต่ไม่กล้า_ _"]