เป็นไปได้จริงเหรอ? ที่ผู้หญิงจะไม่รู้ตัวว่าท้อง

 

เพราะอะไร? ผู้หญิงบางคนจึงไม่รู้ตัวว่า "ตั้งครรภ์"

เคยได้ยินข่าวเรื่องสาวคลอดลูกแล้วทิ้งบ้างไหม เวลามีนักข่าวไปสัมภาษณ์มักจะได้ยินคำตอบว่า "ไม่รู้ตัวว่าท้อง" ฟังแล้วก็นึกสงสัยว่าเป็นไปได้เหรอที่จะไม่รู้ตัว มันเป็นเรื่องลึกลับในชีิวิตขนาดนั้นได้ยังไง  แต่น้องๆ ครับ  จากที่พี่หมอทำงานมา มีจริงครับ! 

พี่หมอเคยเจอเคส "ผู้หญิงที่ไม่รู้ว่าตัวเองท้อง แต่คิดแค่ว่าตัวเองน้ำหนักเพิ่ม เข้าห้องน้ำเบ่งถ่าย แต่ไม่ได้ของเสีย แต่กลับเป็นเด็กตัวน้อยๆ ออกมาแทน" เล่าสั้นๆ เท่านี้เพื่อยืนยันแล้วกันว่ามันมีจริงๆ  แต่จะเพราะอะไร เราจะสังเกตตัวเองยังไง มาหาคำตอบกันเลยครับ

สาเหตุที่คนเราไม่รู้ตัวว่าท้อง 

สาเหตุที่คนเรามักจะไม่รู้ตัวเองว่าท้อง แต่อาจจะไม่ถึงกับว่ารอจนครบอายุครรภ์ กระทั่งออกมาเป็นเด็กตัวน้อยนะครับ มีหลายเหตุผลครับ เช่น

1.      ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ (Irregular Menstruation) 

บางคนรอบเดือนไม่สม่ำเสมอ ไม่ได้มาทุก 28 วัน หรือตรงเวลาทุกเดือนแบบคนอื่นเขา หรือบางคนที่เครียด พักผ่อนน้อย ทำงานหนัก แค่ก็นี้ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ประจำเดือนมาไม่ตรงเวลาได้แล้ว หรือบางคนมาเว้นช่วงนานแบบ 2 – 3 เดือนครั้ง เลยรู้สึกเป็นเรื่องปกติที่มาบ้างไม่มาบ้าง กลายเป็นว่าพอประจำเดือนขาดไปเลยไม่ได้สังเกตว่าประจำเดือนไม่มาหลายเดือนแล้ว 

2.      น้ำหนักตัวเกินเกณฑ์ (Over weight, Obesity) 

เนื่องจากชั้นไขมันหน้าท้องของน้องๆ ผู้หญิงบางคนมีปริมาณมาก และการที่น้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้นก็อาจจะไม่ได้สังเกต คิดว่าเพราะกินมากไป จนท้องโต ตัวโตขึ้นมา จนกว่าจะได้สังเกตว่าผิดปกติ ก็ท้องโต หรือลูกเริ่มดิ้นแล้วก็ได้

3.      ไม่ได้จดบันทึกการมีประจำเดือน 

เพราะบางครั้งหลังจากการตั้งครรภ์แล้ว อาจจะยังมีเลือดออกทางช่องคลอดได้ทั้งในภาวะปกติ และผิดปกติ (Abnormal vaginal bleeding) ซึ่งไม่ได้ก่อให้เกิดอาการแท้ง และเราเองก็ไม่ทันสังเกตว่ามันลดน้อยลงกว่าปกติ หรือขาดหายไป ดังนั้นถ้าให้ดี เพื่อการดูแลสุขภาพตัวเอง และเพื่อให้เตรียมตัวทันหากพลาดตั้งครรภ์ขึ้นมา การจดบันทึกการมีประจำเดือนไว้ แล้วรีบตรวจหากสงสัยตั้งแต่เนิ่นก็จะดีกว่า

นอกจากนี้ เวลาต้องพบแพทย์ แพทย์์จะถามรายละเอียดเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์ วันที่ประจำเดือนมาและหมด ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้สำคัญต่อการวินิจฉัยด้วยครับ

4.      ไม่มีอาการแพ้ท้อง (Morning sickness) 

หรืออาการที่มักจะเป็นกันตอนตั้งครรภ์ในไตรมาสแรก (First trimester) เช่น คลื่นไส้ อาเจียน กินได้น้อย อ่อนเพลีย เวียนศีรษะ กลายเป็นว่ากว่าจะรู้ตัว หรือตรวจการตั้งครรภ์ ก็ท้องโตเสียแล้ว

5.      ไม่เคยตั้งครรภ์มาก่อน หรือเป็นการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น (Primigravida, Teenage pregnancy) 

ก็ทำให้เราไม่รู้ หรือไม่ทันสังเกตสิ่งผิดปกติของตัวเราเองได้เช่นกันครับ ซึ่งพี่หมอคิดว่าน้องๆ ชาว Dek-D.com ส่วนหนึ่งอยู่ในกลุ่มนี้แหละ หากใครมีกิจกรรมทางเพศที่มีการสอดใส่ ถูไถ ตลอดจนมีเพศสัมพันธ์ ให้นึกไว้เสมอว่ามีโอกาสตั้งครรภ์ได้ครับ แต่ความที่เราเป็นเด็กและไม่เคยตั้งครรภ์มาก่อนทำให้เราไม่รู้อาการของคนตั้งครรภ์นั่นเอง และการเสิร์ชกูเกิลหาข้อมูลอาการก็ไม่ได้ช่วยอะไรมากครับ หากสงสัยสามารถซื้อชุดทดสอบการตั้งครรภ์มาตรวจได้ครับ 

วิธีสังเกตการตั้งครรภ์เบื้องต้น

เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์คลอดเด็กออกมาแทนการนั่งเบ่งถ่ายแล้วล่ะก็ จริงๆ แล้ว ร่างกายเรานั้น เราควรจะรู้ตัวดีมากที่สุดว่าสิ่งไหนผิดปกติ หรือเปลี่ยนแปลงไป สังเกตดังนี้

1.      รู้ตัวว่ามีความเสี่ยงในการตั้งครรภ์

หากรู้ตัวว่ามีความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ ควรตรวจการตั้งครรภ์ทุกครั้งเมื่อประจำเดือนไม่มา หรือมาผิดปกติใน 6 สัปดาห์ หลังมีประจำเดือนล่าสุด (Last Menstrual Period) เช่น ถ้าเรามีเพศสัมพันธ์กับแฟน แล้วดันหลั่งใน ตั้งใจจะหลั่งนอกแต่นำอวัยวะเพศออกมาไม่ทัน ถุงยางแตก ลืมกินยาคุม หรือกินยาคุมไม่สม่ำเสมอ เป็นต้น ก็มีความเสี่ยงสูงมากขึ้นในการที่จะตั้งครรภ์ ต้องระมัดระวังเอาไว้ดีๆ

2.      มีอาการผิดปกติ หรืออาการแพ้ท้อง (Morning sickness) 

ซึ่งขึ้นอยู่กับบุคคล บางคนอาการมาก บางคนอาการน้อย หรือไม่มีอาการเลย แต่ถ้ามีความเสี่ยง หรือประจำเดือนเลื่อน ยังไงก็ควรตรวจการตั้งครรภ์อยู่ดีครับ อย่ารอสังเกตอาการแพ้ท้องเลย 

3.      ทดสอบการตั้งครรภ์ด้วยตนเอง (Self urine pregnancy test) 

โดยซื้ชุดทดสอบได้จากร้านขายยาทั่วไป ราคาไม่แพง เพื่อให้แม่นยำที่สุด คือตรวจหลังประจำเดือนครั้งล่าสุดมาเกินกว่า 6 สัปดาห์ และตรวจในตอนเช้าด้วยปัสสาวะแรกของวัน เพราะจะเป็นช่วงที่ระดับฮอร์โมนที่ตรวจได้มีปริมาณมากที่สุด และหากไม่แน่ใจควรตรวจซ้ำมากกว่า 1 ครั้ง 

หากตรวจพบเร็ว เช่น ในช่วงสองเดือนแรกที่ประจำเดือนขาด ก็สามารถปรึกษาแพทย์ เพื่อฝากครรภ์ หรือทดสอบการตั้งครรภ์อย่างละเอียดในโรงพยาบาลต่อไป เพราะบางครั้งตรวจเองก็มีผลผิดพลาดได้เช่นกันครับ

สิ่งสำคัญคือเมื่อตรวจพบการตั้งครรภ์แล้ว หลายคนโดยเฉพาะเด็กวัยรุ่นจะกลัวและไม่กล้าบอกใคร พี่หมออยากบอกว่าไม่ต้องกังวลนะครับ การที่เราไม่รู้ว่าท้องนั้นมักเกิดจากการไม่ได้ตั้งใจ หรือไม่ได้เตรียมตัวเพื่อมีลูก แต่การสังเกตตัวเองถึงความผิดปกติ ยังไงก็มีความสำคัญ ซึ่งไม่เพียงแต่การตั้งครรภ์เท่านั้น ยังรวมถึงอาการผิดปกติอันเป็นสาเหตุของโรคต่างๆ ด้วย

ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้เตรียมตัวเตรียมใจได้ว่า จะอยากเก็บบุตรไว้ หรือปรึกษากับแพทย์เพื่อดูแลเรื่องความเสี่ยง หรือการตั้งครรภ์ไม่พร้อมต่อไป หรือยุติการตั้งครรภ์ เพราะในปัจจุบันก็มีหนทางการดูแลเรื่องนี้ที่เปิดกว้างมากขึ้น แค่เราไม่เก็บปัญหาเหล่านี้ไว้กับตัวเอง การปรึกษาครอบครัว หรือแพทย์เพื่อหาทางออกเป็นทางออกที่ดีที่สุดครับ 

สุดท้ายนี้ เราก็ได้คำตอบสักทีว่า คนที่ไม่รู้ตัวว่าท้องนั้นมีจริง! การรู้หรือไม่รู้นั้นไม่สำคัญเท่าเมื่อรู้แล้วเราจะจัดการอย่างไร ยังไงพี่หมอก็ขอเป็นกำลังใจให้สำหรับคนที่เจอปัญหาท้องไม่พร้อมนะครับ วันนี้พี่หมอขอตัวลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ตอนหน้า ใครมีคำถามข้อสงสัยอะไร คอมเมนต์มาได้เลยครับ

 

นพ.ชนม์พิสิฐ มณฑล

 

 

พี่โด่ง

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น