Spoil
  • ขาดน้ำอยู่กลางทะเล ห้ามกินน้ำทะเล แต่ให้กินเลือดหรือลูกตาสัตว์แทน! (Life of Pi)
  • อย่าลงน้ำทะเลตอนกลางคืน เพราะเป็นช่วงที่ฉลามว่องไวสุดๆ (The Shallow)
  • มือถือสัญญาณล่ม วิ่งหาโทรศัพท์บ้านเลย ชัวร์กว่า (San Andreas)
  • สุขภาพจิตที่ดี ช่วยให้มีสติในการแก้ปัญหานะ (The Martian)
       _____________________________



          ถ้าพูดถึงสกิล "เอาชีวิตรอด" หลายคนคงนึกถึงบทเรียนในวิชาลูกเสือ-เนตรนารี ทั้งที่จริงๆ แล้วเราสามารถเรียนรู้ได้จากหลายๆ สิ่งรอบตัว แม้แต่ หนัง-ละคร-ซีรีส์ ที่เคยดูเอามัน แต่หลายเรื่องกลับสอดแทรกเกร็ดความรู้ดีๆ เพื่อเอาชีวิตรอดไว้ด้วย ว่าแต่เรื่องไหนสอนอะไรเราบ้างนั้น ไปเช็กกันเลยค่ะ

 

Life of Pi
ดื่มเลือดสัตว์ แก้อาการขาดน้ำ

 

          มันจะเป็นยังไง เมื่อเราล่องเรือใหญ่แล้วเกิดอับปางกลางทะเล!? นอกจากต้องรีบตะเกียกตะกายขึ้นเรือบดให้ทันแล้ว อย่าลืมว่าการลอยเคว้งคว้างกลางทะเลแรมเดือนนั้นก็ต้องใช้สกิลเอาตัวรอดระดับไม่ธรรมดา แต่งานนี้ใครดูหนังเรื่อง Life of Pi มา ก็ถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่ง!


ภาพจาก ภาพยนตร์ Life of Pi
 

          เนื่องจาก พาย พาเทล ตัวเอกในเรื่องประสบปัญหาเรือใหญ่อับปาง ต้องลอยเคว้งคว้างในเรือบดเล็กๆ กลางมหาสมุทรกว้างใหญ่ ซึ่งรู้ไหมว่าการติดอยู่กลางทะเลนั้น ถือเป็นสถานการณ์ที่ผู้เชี่ยวชาญจัดอันดับว่า “รอดยากที่สุด” เพราะไม่สามารถเข้าถึงน้ำดื่ม อาหาร หรืออุปกรณ์ช่วยเหลือต่างๆ ได้เลย โชคดีที่พายมีไหวพริบมากพอที่จะไม่ดื่มน้ำทะเลหรือน้ำปัสสาวะตนเอง เพราะสองสิ่งนี้ทำให้ยิ่งเกิดภาวะขาดน้ำมากขึ้น แต่เลือกวิธีการดื่มเลือดสัตว์ (ในเรื่องคือ เต่า) รวมถึงการกินลูกตาและไขสันหลังของสัตว์แทน ซึ่งก็มีของเหลวเป็นองค์ประกอบ ทำให้สามารถช่วยเยียวยาภาวะขาดน้ำได้ค่ะ #จำไว้เลย

 
ภาพจาก ภาพยนตร์ Life of Pi



 

The Shallow
เวลากลางคืน คือเวลาที่ฉลามคล่องตัวที่สุด
 

          อีกสถานการณ์ที่คงไม่มีใครอยากเจอ คือการติดอยู่กลางทะเลไม่พอ ในทะเลยังมีฉลามไปอีกก! แน่นอนว่าถ้าเจอแบบนี้จริงๆ คงไหว้พระ ตั้งนะโมฯ 3 จบ แล้วกระโดดน้ำให้ฉลามกินจะได้จบๆ ไปแล้ว ผิดกับคนที่ดู The Shallow มา อาจจะพอมีลุ้นอยู่บ้าง


ภาพจาก ภาพยนตร์ The Shallow
 

          สาเหตุก็เพราะ ใน The Shallow นางเอกของเราต้องเอาตัวรอดจากการติดอยู่บนโขดหินไม่ห่างจากชายฝั่ง แต่ก็ไม่สามารถว่ายน้ำกลับไปได้ เพราะมีฉลามเฝ้ารองาบเธออยู่ และถ้าใครสังเกตจะรู้เลยว่านางเอกของเราพยายามต่อสู้และคิดแผนการต่างๆ เฉพาะในเวลากลางวัน เพราะเวลากลางคืนนั้น คือช่วงที่ฉลามคล่องตัว และอันตรายที่สุด นอกจากนี้ควรจำไว้ด้วยว่า เมื่อใดที่หลีกเลี่ยงการปะทะไม่ได้ ให้เตะหรือต่อยเข้าที่จมูกและเหงือกของฉลามแรงๆ เนื่องจากเป็นบริเวณที่บอบบางที่สุดนั่นเอง #จำไว้เลย
 


ภาพจาก ภาพยนตร์ The Shallow


 

San Andreas
เครือข่ายมือถือล่ม ให้มองหาโทรศัพท์บ้านแบบมีสาย
 

          แม้กลางทะเลจะมีแต่เรื่องอันตราย แต่เชื่อสิว่าบนบกก็ท้าทายไม่แพ้กัน โดยเฉพาะเมื่อเกิดภัยธรรมชาติอย่าง “แผ่นดินไหว” ที่ทำนายล่วงหน้าแทบไม่ได้ แถมเกิดขึ้นแต่ละทีก็มีความสูญเสียมากมาย เหมือนที่เราเคยดูในหนังเรื่อง San Andreas ไง


ภาพจาก ภาพยนตร์ San Andreas

 

          San Andreas นอกจากเป็นชื่อหนังแล้ว ยังเป็นชื่อของรอยเลื่อนของแผ่นดินขนาดใหญ่ใต้รัฐแคลิฟอร์เนีย ที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าถ้ามีการเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงเมื่อไหร่ ความโกลาหลระดับมหัตภัยมาเยือนแน่! แต่โชคดีที่ในหนังเรื่องนี้ นางเอกมีคุณพ่อเป็นนักกู้ภัย ทำให้มีพื้นฐานด้านการเอาชีวิตรอดเยอะมากก โดยเฉพาะเรื่องการติดต่อสื่อสาร ที่นางเอกให้ความรู้ทั้งพระเอกและคนดูเอาไว้เลยว่า เมื่อใดที่เกิดภัยพิบัติจนเครือข่ายมือถือล่ม ให้มองหาโทรศัพท์แบบใช้สาย (Landline) เพราะต่อให้เครือข่ายมือถือล่ม หรือไฟฟ้าดับยังไง ตราบใดที่ชุมสายโทรศัพท์ยังไม่ถูกทำลาย ก็จะยังสามารถใช้ติดต่อสื่อสารได้!

 
ภาพจาก ภาพยนตร์ San Andreas

 

          นอกจากนี้ San Andreas ยังตอกย้ำให้เราอย่าลืมว่า เกิดแผ่นดินไหวขึ้นเมื่อไหร่ ไม่ต้องตกอกตกใจ วิ่งหนีตายไปที่ไหน ขอแค่มองหาโต๊ะ แล้ววิ่งไปซุกหลบข้างใต้ เท่านี้ก็สามารถช่วยเราให้ปลอดภัยได้ในระดับหนึ่งแล้ว
 


ภาพจาก ภาพยนตร์ San Andreas


 

Cast Away
กิ่งไม้กำเนิดไฟ

 

          เคยจินตนาการไหม ว่าถ้าเราต้องหลงทางเคว้งคว้างอยู่ในที่ห่างไกล ไร้สัญญาณโทรศัพท์ ไม่มีใครมาช่วยได้ แล้วจะใช้ชีวิตยังไง? เรื่องแบบนี้คนดูหนังเรื่อง Cast Away คงพอเข้าใจ เพราะได้เรียนรู้สกิลเด็ดๆ มากมายจากพระเอกของเรื่อง!


ภาพจาก ภาพยนตร์ Cast Away
 

          หนึ่งในสกิลเด็ดของ ชัค โนแลน พระเอกของเรื่อง แน่นอนว่านอกจากจะสร้างที่อยู่ หาอาหารได้แล้ว ยังสามารถ จุดไฟโดยไม่ใช้ไม้ขีดหรือไฟแช็ก ได้ด้วย! โดยวิธีที่ชัคเลือกใช้คือการนำกิ่งไม้มาถูกันให้เกิดความเสียดสีจนมีควันไฟ แล้วเร่งเป่าลม สุมกองฟาง หรือสิ่งของที่ติดไฟได้ง่ายลงไป แค่นี้เราก็จะได้กองไฟ DIY โดยที่ไม่ต้องง้อไฟแช็กหรือไม้ขีดแล้ว #จำไว้เลย
 


ภาพจาก ภาพยนตร์ Cast Away



 

The Day After Tomorrow
หนังสือคือแหล่งให้ความอบอุ่นชั้นดี

 

          ประเทศไทยเป็นเมืองร้อนก็จริง แต่เราก็ควรเรียนรู้วิธีเอาชีวิตรอดเอาไว้ เมื่อเกิดเหตุการณ์อุณหภูมิลดต่ำอย่างผิดปกติ ชนิดที่เสื้อกันหนาวก็แทบเอาไม่อยู่ เหมือนในหนังเรื่อง The Day After Tomorrow


ภาพจาก ภาพยนตร์ The Day After Tomorrow
 

          อย่างที่เรารู้กันว่า The Day After Tomorrow พูดถึงปรากฏการณ์โลกร้อน ที่เมื่อวิกฤติถึงขีดสุด จะส่งผลกระทบอันรุนแรงมากมาย หนึ่งในสิ่งที่รุนแรงที่สุดที่สามารถจะเกิดขึ้นได้ คือการส่งโลกกลับไปสู่ยุคน้ำแข็ง หรือที่เรารู้จักกันในนาม Ice Age ซึ่งหมายถึงปรากฏการณ์ที่อุณหภูมิลดลงกะทันหัน จนต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง ทำให้หลายคนทนความหนาวไม่ได้ แต่ถ้าหากดู The Day After Tomorrow จะรู้ว่า นอกจากเสื้อโค้ทตัวหนาๆ จะสามารถใช้เพื่อป้องกันความหนาวได้แล้ว ถ้ายังรู้สึกหนาวอยู่ ให้หยิบหนังสือเล่มใหญ่ๆ มาฉีกๆๆ แล้วยัดกระดาษไว้ในเสื้อโค้ทอีกที เพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น เป็นคำแนะนำจากตัวละครชายเร่ร่อน ที่ใช้ชีวิตท่ามกลางความหนาวจนเคยชินนั่นเอง #จำไว้เลย

 
ภาพจาก ภาพยนตร์ The Day After Tomorrow



 

The Martian
สุขภาพจิตที่ดี จะช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น

 

          อีกหนึ่งหนังเอาชีวิตรอด ที่หลายคนคงมองว่าไกลตัวม้ากกก เพราะ The Martian เล่าถึงนักบินอวกาศที่หลงกับทีมจนถูกทิ้งไว้บนดาวอังคาร และจำเป็นต้องพยายามหาทางใช้ชีวิตบนนั้นให้ได้ เพื่อหาหนทางกลับโลก!


ภาพจาก ภาพยนตร์ The Martian
 

          แม้ว่าเรื่องราวของ มาร์ค วัตนีย์ จะค่อนข้างห่างไกลจากชีวิตเรา เพราะคงไม่น่ามีใครถูกส่งขึ้นไปหลงทางบนดาวอังคารง่ายๆ แต่ถ้าดูดีๆ แล้วจะรู้ว่า นอกจากสกิลปลูกมันฝรั่งบนดาวอังคารแล้ว The Martian ยังชี้ให้เห็นอีกหนึ่งบทเรียนในการเอาชีวิตรอดที่สำคัญ และทำได้จริงในทุกสถานการณ์ นั่นคือการ “รักษาสุขภาพจิตให้ดี” นั่นเองค่ะ เพราะการมีอารมณ์ขัน และรู้จักทำสุขภาพจิตให้ดีอยู่เสมอ จะส่งผลดีต่อความคิดและสติในการแก้ปัญหา รวมถึงยังทำให้เราไม่รู้สึกสิ้นหวังอีกด้วย #จำไว้เลย
 


ภาพจาก ภาพยนตร์ The Martian



 

          น้องๆ ชาว Dek-D รู้แบบนี้แล้ว การดูหนังครั้งต่อไปจำไว้เลยว่านอกจากความบันเทิงแล้ว อย่าลืมสังเกตสาระเล็กๆ น้อยๆ ที่ซ่อนอยู่ ใครจะรู้ว่าวันหนึ่งเราอาจได้ใช้ประโยชน์จากมันก็ได้! ใครเคยดูหนังเรื่องไหน แล้วได้สกิลอะไรกันอีกบ้าง มาคอมเมนต์บอกกันหน่อยเร็ว




 

ข้อมูลจาก
https://www.gradesaver.com/
http://www.discovery.com/
https://nypost.com/
https://www.backdoorsurvival.com/
https://selfreliantschool.com/
https://www.theorganicprepper.com/
http://www.mamanonthetrail.com/




 

พี่กวาง
พี่กวาง - Columnist พลเมืองบางบัวทอง ผู้ตามทันทุกเทรนด์ฮิต เพราะไถทวิตเตอร์ระหว่างรถติดแยกแคราย

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

3 ความคิดเห็น

มัณทนา Member 28 มิ.ย. 61 20:14 น. 1

เรามีสกิลการเอาตัวรอดจากในความฝันค่ะ

ทำให้เรามีชีวิตรอดมาได้และใช้ชีวิตประจำวันต่อไปจนถึงทุกวันนี้

ถ้าเราไม่มีสกิลนี้ตั้งแต่ฝันครั้งแรก 

เราคงไม่มีชีวิตอยู่และคงไม่มานั่งเล่นเว็บเด็กดีจนถึงตอนนี้หรอกค่ะ

เราเคยฝันว่าเดินหลงทางไปในสถานที่ที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน

ตอนแรกเหมือนความฝันปกติ คือ ไปในสถานที่ที่ไม่รู้จักก่อน

หรือไปในสถานที่ที่ตัวเองรู้จัก แต่บรรยากาศดูเปลี่ยนไปจากที่เราคุ้นเคยในโลกจริง

แต่ตอนกลางไปจนถึงตอนจบของความฝัน

พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ อยู่ดี ๆ ก็วาร์ปไปในสถานที่แปลกประหลาดสุด ๆ แบบไม่รู้ตัว

เป็นสถานที่ที่พวกภูตผีวิญญาณอาศัยอยู่ 

พวกนั้นคอยหลอกล่อวิญญาณของคนเป็นให้มาอยู่ด้วยโดยการใช้สิ่งของล่อตาล่อใจหลอกล่อเหยื่อ

เช่น ทรัพย์สมบัติล้ำค่า อาหาร น้ำดื่ม ผลไม้หลอกล่อเหยื่อโดยเฉพาะอาหารที่เหยื่อชอบกินประจำ

หรือสั่งให้วิญญาณที่ตายไปแล้วของญาติ/เพื่อน/คนรู้จักของเหยื่อมาหลอกล่อเหยื่อให้มาอยู่ด้วย

พอเหยื่อหลงกล วิญญาณติดอยู่ที่นั่นตลอดไป

ความฝันครั้งแรก เราถูกวาร์ปไปในโรงเจและงานเลี้ยงโต๊ะจีน

บังเอิญอาหารกับของหวานที่อยู่บนโต๊ะก็เป็นอาหารที่เราเจอทุกครั้งในงานเลี้ยงโต๊ะจีน

งานศพของคนไทยกับคนจีนที่จะเลี้ยงอาหารให้แขกในวันสุดท้าย งานแต่งงาน งานเลี้ยงของศาลเจ้า

เราถูกคนกลุ่มหนึ่งอายุประมาณพวกอากงกับอาม่าทั้งโต๊ะเลยชักชวนให้กินอาหารที่อยู่ตรงหน้า 

(ถ้าพวกอากงกับอาม่ายังมีชีวิตอยู่ก็คงจะอายุร้อยกว่าปีแล้ว)  

แต่เราไม่กิน จำใจนั่งต่อและโดนคนที่นั่งโต๊ะนี้จ้องจับผิดอีก

ใต้โต๊ะจะมีหมาดำตัวใหญ่ตัวหนึ่งนั่งอยู่ น้องลุกขึ้นมางับมือเราเฉยเลยและบอกให้เรากลับไปทางเดิมที่มา

ส่วนพวกที่มากับเราด้วยก็โดนพวกภูตผีปีศาจรุมกัดกินวิญญาณหมดเลย

ตอนที่เรามาถึง เราเห็นพวกเขาวิ่งเข้าไปรุมกินอาหารบนโต๊ะแบบสวาปามมากราวกับอดอาหารมาเป็นปี

ถ้าชูชกมาเห็น คงตกใจ

้เพราะว่าถ้าเผลอกินอาหารหรือดื่มน้ำที่คนในโลกวิญญาณหามาให้ถือว่าเป็นประชากรของโลกนั้นแล้ว

ความฝันครั้งที่ 2 มีเจ็บตัวในตอนจบ

โดนชายและหญิงกลุ่มหนึ่งยัดเยียดให้ดื่มน้ำในขัน 

แต่มีผู้ชายคนหนึ่งเข้ามาขัดขวางพวกนั้นและบอกให้เรากลับไปทางเดิมที่มา

อยู่ดี ๆ ก็มีผู้ชายกลุ่มหนึ่งแต่งตัวเหมือนพวกตำรวจไทยสมัยก่อนเข้ามายิงพวกนั้น

หนึ่งในนั้นเล็งปืนมายิงที่เรา เราตื่นพอดี

3
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด