Spoil
- จุดเริ่มต้นของ 'เส้นทางสายเขียว'
- สารที่มีอยู่ใน 'กัญชา' และประโยชน์ทางการแพทย์
- โทษและผลข้างเคียงจากการใช้กัญชา
- 5 คนดังกับสาเหตุที่ต้องโบกมือลากัญชา
‘กัญชาเสรีแล้ว!’ นี่คงเป็นประโยคที่หลายคนได้ยินบ่อยในช่วงนี้ใช่มั้ยล่ะคะ แต่เคยสงสัยกันหรือเปล่า ว่าทำไมกัญชาถึงต้องถูกจัดให้เป็นสารเสพติด และกัญชามีประโยชน์อย่างไร ทำไมทางการแพทย์ถึงได้มีการยอมรับว่า ‘กัญชามีส่วนช่วยในการรักษาโรค’ พี่จะมาเล่าถึงจุดเริ่มต้นของกัญชาให้ฟัง!
จุดเริ่มต้นของ ‘เส้นทางสายเขียว’
จริง ๆ ‘เส้นทางสายเขียว’ หรือ ‘การสูบกัญชา’ เริ่มต้นมาตั้งแต่เมื่อ 500 ปีก่อนคริสตกาล หรือว่าเมื่อปีพุทธศักราช 43 แล้ว! โดยในสมัยโบราณ คนไม่ได้ปลูกต้นกัญชาเอาไว้เพื่อสูบนะคะ แต่เขาเอาไว้ใช้เป็นยารักษาโรค ซึ่งตอนนั้นประเทศในแถบเอเชียถือว่าเป็นผู้บุกเบิกการปลูกต้นกัญชาเลย จนมาถึงยุคของการล่าอาณานิคม กัญชาก็เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นในหลากหลายประเทศตามมา โดยเฉพาะประเทศในทวีปอเมริกาและประเทศสหรัฐอเมริกาในปัจจุบัน
แล้วในใบกัญชามีสารอะไร ทำไมถึงช่วยรักษาโรคได้?
สารสำคัญที่มีอยู่ใน ‘กัญชา’ และประโยชน์ทางการแพทย์
- THC: สารหลักที่มีฤทธิ์ทางจิตประสาท ช่วยลดอาการปวด และทางการแพทย์ยอมรับแล้วว่า กัญชาสามารถใช้เป็นยารักษาได้จริง เช่น การรักษาคนไข้กลุ่มปวดเรื้อรัง ผู้ต้องการลดผลข้างเคียงจากเคมีบำบัด ผู้ป่วยลมชัก รวมถึงกลุ่มผู้ป่วยที่ต้องการเพิ่มความอยากอาหาร
- Cannabidiol (CBD): ช่วยลดอาการปวด อาการอักเสบ ลดความกังวล ความผิดปกติด้านการนอน ต้อหิน ลำไส้อักเสบ โรคพาร์กินสัน โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคสมาธิสั้น (ADD) และภาวะป่วยทางจิตจากเหตุการณ์รุนแรง (PTSD)
- Cannabinol (CBN): มีส่วนเป็นยาช่วยในการนอนหลับ ถูกใช้น้อยกว่า THC และ CBD แต่มีการใช้ร่วมกันเพื่อบรรเทาอาการอักเสบ อาการซึมเศร้า และภาวะทางระบบประสาท
- Cannabigirol (CBG): มีประโยชน์ช่วยในการรักษาต้อหิน ภาวะซึมเศร้า อีกทั้งยังมีส่วนช่วยเสริมความชุ่มชื่นให้กับผิวตามธรรมชาติด้วย
- Cannabichromene (CBC): สารชนิดนี้ยังไม่ได้ถูกศึกษาอย่างละเอียดมากนัก แต่บางงานศึกษาระบุว่า CBC มีส่วนช่วยในเรื่องที่แตกต่างออกไป อย่างการรักษาอาการคลื่นไส้อาเจียน
โทษและผลข้างเคียงจากการใช้กัญชา
แต่ถึงแม้ทางการแพทย์จะยอมรับว่า กัญชามีส่วนช่วยในการบรรเทาอาการเจ็บป่วยได้ และในหลายประเทศก็ได้ปลดล็อกให้กัญชาเป็นสิ่งถูกกฎหมายแล้ว การใช้กัญชาอย่างผิดวิธี เช่น การเสพ การสูบ ก็อาจนำมาซึ่งโทษและผลข้างเคียงต่อร่างกาย จนอาจถึงขั้นเสียชีวิตเพราะการเสพกัญชาได้เลยเช่นเดียวกัน
ผลข้างเคียงจากการใช้กัญชา
- มึนศีรษะ เวียนศีรษะ
- เกิดภาพหลอน มีอาการหูแว่ว
- ง่วงนอนมากผิดปกติ
- คลื่นไส้ อาเจียน ปากแห้ง ท้องผูก
- ภาวะซึมเศร้า คิดฆ่าตัวตาย
- ความคิด ความจำ สมาธิแย่ลง
- ภาวะหัวใจวายในผู้สูงอายุ
5 คนดังกับสาเหตุที่ต้องโบกมือลา ‘กัญชา’
แน่นอนว่าการสูบหรือการเสพติดกัญชา ทั้งมาจากความตั้งใจ ความคึกคะนอง และแค่ต้องการรักษาอาการป่วยของตัวเอง ไม่ได้เกิดขึ้นกับเฉพาะคนทั่วไปหรือคนไม่มีชื่อเสียงเท่านั้น เพราะคนดังเหล่านี้ก็ได้ออกมายอมรับว่า พวกเขาเคยเสพกัญชามาก่อนเหมือนกัน! แต่เพราะอะไร ตอนนี้พวกเขาถึงได้บอกลามันอย่างถาวรแล้ว เรามาลองดูเหตุผลที่พวกเขาทั้ง 5 คนให้ไว้กันดีกว่า
Michael Phelps
เมื่อประมาณช่วงปี 2021 นักกีฬาว่ายน้ำชาวอเมริกันอย่าง ‘Michael Fred Phelps’ วัย 35 ปี ถูกถ่ายภาพขณะที่เขากำลังเสพกัญชาจาก ‘บ้อง’ อย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ถึงแม้หลายคนจะบอกว่า การสูบกัญชาช่วยให้ร่างกายของเขาอึดขึ้น ตอนที่ลงแข่งกีฬาว่ายน้ำ แต่ไม่พ้นต้องมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมา ว่าเหตุผลข้างต้นมันไร้สาระมาก! แถมกัญชาก็ไม่ได้มีส่วนช่วยให้เขาแข่งชนะหรือเป็นแชมป์อะไรเลย เหตุการณ์นี้ก็ทำให้เจ้าตัวถึงกับต้องออกมายอมรับผิด และบอกว่าการสูบกัญชามันเป็นสิ่งที่น่าอับอายสำหรับเขามาก
Natalie Portman
‘Natalie Portman’ นักแสดงสาวชื่อดังคนนี้ก็เริ่มสูบกัญชามาตั้งแต่สมัยเรียน แต่เธอบอกว่าสาเหตุที่ทำให้เธอเลิกสูบกัญชาตอนอายุ 31 ปี เป็นเพราะเธอคิดว่าตัวเองนั้น ‘แก่เกินไป’ ที่จะสูบของพวกนั้นเข้าร่างกายแล้ว ตั้งแต่นั้นมาเธอก็ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับกัญชาอีกต่อไปเลย แถมทั้งชีวิตครอบครัว ชีวิตการงานก็รุ่งเรืองและมีความสุขได้ แบบที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งกัญชาด้วยซ้ำ
Robert Downey Jr.
แฟนคลับหนังแนวซูเปอร์ฮีโร่คงคุ้นหน้าคุ้นตาเขาดี สำหรับ ‘Robert Downey Jr.’ ที่มีการรับรู้โดยทั่วกันว่า เขาคนนี้เคยสูบกัญชามาก่อน แถมยังได้เคยบอกอีกว่า เขานั้นเริ่มสูบกัญชาครั้งแรก ตั้งแต่เขาอายุแค่ 8 ขวบเอง! Robert เข้าออกคุกเพราะเรื่องยาเสพติดอยู่บ่อยครั้ง รวมถึงบำบัดเท่าไหร่ก็ไม่เป็นผลสักที และจุดที่ทำให้คิดได้ว่าควรเริ่มบำบัดอย่างจริงจังจนสำเร็จ เป็นเพราะชีวิตแต่งงานและครอบครัวเริ่มแย่ ด้วยสาเหตุที่มาจากอาการเสพติดของเขาเอง
Brad Pitt
สำหรับ ‘Brad Pitt’ แล้ว เขาได้ออกมายอมรับว่าเขาเสพติดการสูบกัญชาอย่างหนักหน่วงมากจริง ๆ จากการใช้เพื่อพยายามรักษาอาการโรคซึมเศร้าของเขา ที่มันเริ่มมาตั้งแต่เมื่อยุค 90 ตอนที่เขามีชื่อเสียงมาก และต้องการหนีออกจากโลกของความเป็นจริงอันแสนวุ่นวาย เขาสูบกัญชาทุกวันเพื่อให้ตัวเองหลับลง และทำแบบนั้นทุกวันเรื่อย ๆ ส่วนเหตุการณ์ที่ทำให้เขาตัดสินใจเลิกสูบ คือตอนที่เขาเห็นภาพความยากลำบากของชีวิตคนอื่น จึงคิดขึ้นมาได้ว่า ควรเริ่มทำอะไรดี ๆ เพื่อสังคม แทนการนั่งสูบกัญชาไปวัน ๆ ดีกว่า
Paul McCartney
หนึ่งในตำนานสี่เต่าทอง สมาชิกวง The Beatles อย่าง ‘Paul McCartney’ ก็เคยสูบกัญชามาตลอดช่วงชีวิตเหมือนกัน และถึงแม้ว่าการเลิกกัญชาตอนอายุเข้าวัย 70 ปีของเขามันจะเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่เพราะเขาเห็นว่ามันเป็นสิ่งที่ควรทำ เพื่อครอบครัว เพื่อคนที่เขารัก รวมถึงเพื่อเหล่าแฟนคลับของเขาด้วย
เห็นกันไหมล่ะคะ ว่าถึงแม้กัญชาจะมีประโยชน์ทางการแพทย์มากมาย และถือเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมายแล้วในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยด้วยเช่นกัน แต่ข้อเสียและโทษจากการใช้อย่างผิดวิธีก็สามารถทำลายสุขภาพ และสร้างปัญหาให้กับชีวิตเราได้ไม่น้อยเลย เด็กและเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี จึงต้องปฏิบัติตามข้อกฎหมายที่ว่า ห้ามซื้อ ห้ามขาย ห้ามเสพกัญชาอย่างเคร่งครัด เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้กัญชาด้วยนะคะ
ที่มา:https://www.history.comhttps://rehabs.comhttps://www.sawasdeeclinic.comhttps://www.nbcchicago.com
0 ความคิดเห็น