มาเลือกมหาวิทยาลัยก่อนไปเมืองนอกกัน

 
หลังจากพี่ปาล์มได้พูดคุยเรื่องการเตรียมตัวสอบ เตรียมเสื้อผ้าอาหาร และการยื่นขอวีซ่าเพื่อไปเรียนต่อต่างประเทศมาหลายสัปดาห์ คราวนี้พี่ปาล์มขอพูดคุยเกี่ยวกับหลักในการเลือกมหาวิทยาลัยในต่างประเทศบ้างนะคะ ^^

พี่ปาล์มได้พบบทความดีๆ มีประโยชน์จาก www.mceducate.com เกี่ยวกับการเลือกมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดสำหรับตัวเราเอง เน้นนะคะว่าสำหรับตัวเราเอง เพราะว่ามหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงติดอันดับ ไม่ว่าจะอันดับประเทศ หรืออันดับโลก ก็อาจไม่มีผลอะไรหากมหาวิทยาลัยนั้น ไม่ได้ทำให้น้องๆ สนุกกับการเรียนและได้รับประสบการณ์อย่างเต็มที่ เพราะการเรียนในมหาวิทยาลัยนั้น ต้องมีปัจจัยหลายอย่างที่เกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กัน และสามารถแบ่งเป็นขั้นตอนได้ ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 Self Evaluation (การประเมินด้วยตนเอง) มีหลักการประเมิน ดังนี้

A : หาเหตุผลและคำตอบที่ชัดเจนในการไปศึกษาต่อต่างประเทศ

* เป้าหมาย นั่นก็คือ น้องๆ อยากเรียนจบมาแล้วประกอบอาชีพอะไร มีความสนใจในสาขาวิชาไหน

* เมื่อได้เป้าหมายที่เราทราบแน่ชัดแล้ว ก็ถามตัวเองอีกทีว่า อะไรที่เราสนใจเป็นพิเศษค่ะ

* การจะมองอนาคตนั้น ไม่ใช่มองแค่เราอยากทำอะไร อยากเรียนอะไร แล้วก็จะเรียนเลยนะคะ สมัยนี้พูดกันตรงๆ ก็ต้องมองหาแนวทางหรือตลาดแรงงานเพื่อรองรับว่าเราจบออกมาแล้ว คงไม่ต้องเดินเตะฝุ่นแน่นอน ข้อนี้สำคัญมากนะคะ อย่ามองข้ามเสียล่ะ

เมื่อหาคำตอบที่ตรงใจตัวเองได้แล้ว เราก็มาพิจารณากันว่า มหาวิทยาลัยไหนบ้างที่เปิดสอนในสาขาวิชาที่เราสนใจ และค่อยๆ มองรายละเอียดลึกลงไปอีกที เช่น สาขาวิชาที่เราสนใจ สามารถแบ่งย่อยออกไปเป็นวิชาเฉพาะได้อีกกี่อย่าง แล้วค่อยๆ คัดเลือกนะคะ

การประเมินตนตามความเป็นจริงในเรื่องของความสามารถทางการศึกษา

ตรงนี้เราก็ต้องตอบคำถามตัวเองอย่างซื่อสัตย์นะคะ เพราะตัวเราจะรู้ตัวเราเองดีที่สุดค่ะ

* เราเป็นคนเรียนเก่งหรือเปล่า? แล้วเราเป็นคนขยัน อดทน ขวนขวายพยายามมากน้อยแค่ไหน?

* มองภาพรวมเกรดเฉลี่ยที่ผ่านมาของเราว่าเป็นยังไงบ้าง?

* เรามีประสบการณ์หรือผลงานในด้านต่างๆ ที่เราสนใจจะเรียนหรือไม่? (สมมติพี่ปาล์มชอบและอยากเรียนด้านวารสารศาสตร์ พี่ปาล์มอาจจะเคยมีผลงานการทำหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นหรือวารสารของโรงเรียน เป็นต้น)

* เราเคยมีประสบการณ์การทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับสาขาที่เราอยากเรียนหรือไม่? (สมมติพี่ปาล์มชอบและอยากเรียนด้านวิทยาศาสตร์ พี่ปาล์มอาจจะเคยเข้าร่วมกิจกรรมอบรมหรือเข้าค่ายวิทยาศาสตร์ในระดับเยาวชน แบบนี้นะคะ)

สำหรับน้องๆ ที่มีผลการเรียนอยู่ในขั้นดีหรือดีมาก ก็อาจจะไม่มีปัญหาในการเลือกมหาวิทยาลัยสักเท่าไหร่ และสามารถเลือกมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงได้ (แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะสอบติดแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์นะ ต้องขยันด้วย อย่าลืมๆ) ส่วนน้องๆ ที่มีผลการเรียนในระดับปานกลางหรือต่ำกว่านั้น อาจจะต้องเลือกมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในระดับรองลงมา (ไม่ใช่ว่าไม่ดีนะจ๊ะ มหาวิทยาลัยที่ไม่ได้ดังมากแต่มีมาตรฐานนั้นก็มีเหมือนกัน)

การค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมในสาขาที่ต้องการจะเรียน

* การจะเลือกเรียนในสาขาวิชาไหนนั้น นอกจากจะต้องมีความชอบ ความสนใจแล้ว สิ่งสำคัญที่ลืมไม่ได้เด็ดขาด คือ เราจะต้องทราบด้วยว่า ในสาขานั้นๆ เค้าเรียนอะไรกัน เราสามารถค้นหารายละเอียดเกี่ยวกับสาขาวิชาที่อยากเรียนเพิ่มเติมได้ ทั้งในหนังสือ ในอินเทอร์เน็ต หรือสอบถามจากอาจารย์และรุ่นพี่ที่เคยเรียนก็ได้ทั้งนั้นค่ะ :)

ความแตกต่างระหว่างการเรียนต่อในประเทศกับต่างประเทศ อยู่ที่การเรียนต่อต่างประเทศในแต่ละหลักสูตรนั้น จะมีความยืดหยุ่นกว่าการเรียนต่อในประเทศไทย เราสามารถเลือกเรียนสาขาที่เราสนใจแบบจำเพาะเจาะจงไปได้เลยค่ะ

การพิจารณาด้านการเงิน

* เราได้รับทุนจากมหาวิทยาลัยหรือไม่?

* เป็นที่ทราบดีว่าการศึกษาต่อต่างประเทศจะต้องใช้เงินเป็นจำนวนมากสักหน่อย ครอบครัวของเราสามารถดูแลและส่งเสียเราได้อย่างเต็มที่โดยไม่เดือดร้อนหรือไม่?

* เราได้รับทุนการศึกษาจากสถาบันในต่างประเทศหรือไม่?

* เราได้รับสิทธิ์ในการขอกู้ยืมเงินในการศึกษาต่อหรือไม่?

การคำนวณค่าใช้จ่ายในกระบวนการสมัครเรียน การสอบ จะอยู่ที่ประมาณ 5,000 – 20,000 บาท ส่วนเรื่องค่าเรียน ค่าครองชีพและค่าที่อยู่พักอาศัยขึ้นอยู่กับค่าเงินของแต่ละประเทศ ในการขอวีซ่านักศึกษาต้องเตรียมหลักฐานทางการเงินให้เพียงพอกับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นทั้งหมดตลอดช่วงระยะเวลาที่เรียนอยู่ในประเทศนั้นๆ

ขั้นตอนที่ 2

ขั้นตอนนี้จะช่วยให้น้องๆ สามารถหาข้อสรุปในการเลือกมหาวิทยาลัยได้ชัดเจนยิ่งขึ้น น้องๆ ลองดูตามหัวข้อในการพิจารณาและหาคำตอบของตัวเองได้เลยนะคะ

* หาหลักสูตรที่เปิดสอน เช่น BA , BS , MS , MBA , MA , Ph.D ., etc. ยิ่งหลากหลายก็ยิ่งแสดงว่ามหาวิทยาลัยนั้นมุ่งเน้นทางด้านสายวิชานั้นๆ

* หาจุดเด่นของตัว Program ที่เป็นสายเฉพาะทางที่น้องสนใจ

* ดูอันดับ Ranking ของมหาวิทยาลัย

* ระยะเวลาที่เรียนของหลักสูตรนั้นๆ

* ค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายทั้งหมด

* ดูว่ามหาวิทยาลัยนั้นๆ ให้ความช่วยเหลือด้านการเงินกับนักเรียนต่างชาติหรือไม่

* คุณสมบัติในการตอบรับเข้าของแต่ละมหาวิทยาลัย

* ผลสอบที่ต้องมี เช่น IELTS , TOEFL , GMAT , SAT etc. แต่ละมหาวิทยาลัย จะมีเกณฑ์ตัดสินเรื่องของผลสอบภาษาที่แตกต่างกันออกไป

* พิจารณาว่ามหาวิทยาลัยนั้นๆมีโปรแกรมที่เรียกว่า Direct Entry หรือไม่ เพื่อเป็นตัวช่วยให้น้องสามารถเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยที่ต้องการได้ง่ายขึ้น

* พิจารณาข้อมูลเกี่ยวกับตัวเลขจำนวนนักศึกษาต่างชาติที่กำลังเรียนอยู่ หรือดูค่าโดยประมาณ ของการได้รับการคัดเลือกให้นักศึกษาไปฝึกงาน

* จำนวนนักเรียนที่รับในสาขานั้นๆ จำนวนนักเรียนทั้งหมด ขนาดและรูปแบบของที่เรียน

* สถานที่ตั้งของสถาบัน ที่พัก รวมถึงอากาศ สภาพแวดล้อมด้วย โดยคำนึงถึง Lifestyle ของ ตนเองเป็นหลักว่าชอบอยู่ในเมือง หรือชอบแบบชนบท

* สิ่งอำนวยความสะดวกที่มีให้นักเรียน เช่น ห้องสมุด ที่พัก คอมพิวเตอร์ ชมรมต่างๆ หรือ หน่วยงานที่ช่วยเหลือดูแลนักศึกษาต่างชาติ

* ลักษณะของสถาบันเป็นของเอกชนหรือรัฐบาล

บทความนี้คงจะช่วยให้น้องๆ สามารถเข้าใจและตัดสินใจเลือกมหาวิทยาลัยที่เหมาะสมกับตัวเองได้มากขึ้นนะคะ พี่ปาล์มขออวยพรให้น้องๆ สามรถตัดสินใจเลือกสิ่งที่ดีที่สุดและเหมาะสมที่สุดได้ทุกคนจ้า ^^

พี่ปาล์มขอบคุณบทความดีๆ จาก

www.mceducate.com

ขอบคุณภาพประกอบจาก

www.uwm.edu

www.shsu.edu

 

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

5 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
ข้าได้แต่หยามไม่ได้ Member 11 ก.ย. 51 12:57 น. 3

ตอนนี้เราอยู่ปี1 อยากไปเรียนต่อที่เมืองนอกอ่า แต่ขาดอยู่ 2ปัจจัย คือ เงิน และความรู้อันน้อยนิด

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด