คุณเตย

[JLS14] Voiceless Love รักนี้ที่ไร้เสียง

เชื่อไหมคะ? ว่ารักของฉันไม่ต้องใช้เสียง

0%
VOTE
ตอนก่อนหน้า

ตอนที่ 2/7 :: CHAPTER 1 - พี่ชื่อออกัส

ตอนถัดไป


-1-

พี่ชื่อออกัส

 

 

ตึง!ตึง! ตึงโป๊ะ! ตึง! ตึง!ตึง! ตึงโป๊ะ! ตึง!!!!!

เฮ้!!”

เสียงรัวจังหวะกลองที่ตีดังก้องราวกับจะสะกดให้จังหวะหัวใจถูกควบคุมให้เต้นไปตามจังหวะนั้น ร่างของชายหนุ่มในชุดนักศึกษาขยับไม้หนาขึ้น ฟาดลงบนหนังกลองพร้อมรอยยิ้มกว้าง เสียงที่กำลังคุยกันแจ้วๆ เงียบสงบลงในพริบตาเดียว  ทำนองกระตุ้นชวนให้เลือดในกายเริ่มร้อนระอุ เหงื่อไหลผ่านใบหน้ากลาง สนามหญ้าสีเขียวขจีแสงแดดที่ส่องกระทบใบหน้าทุกสายตาหันมองยังต้นเสียงอันทรงพลังนั้น

รวมทั้งตัวฉัน..

กลุ่มนักศึกษาปีหนึ่งจำนวนมากนั่งเรียงรายกันเป็นแถวตอนลึกกลางสนามเขียว ทุกสายตาจ้องไปยังกลุ่มรุ่นพี่ที่ยืนล้อมกันอยู่ตรงหน้าด้วยความประหม่าผสมปนเปกับความอยากรู้อยากเห็น จังหวะหัวใจหลายดวงดังเต้นพร้อมกัน

สายลมเริ่มพัดส่งความร่มเย็นพาเส้นผมสีดำสนิทของฉันให้พัดปลิวไสวตามแรงนั้น สภาพอากาศแสนสดใสรับวันใหม่ทว่าบรรยากาศในสนามทำเอาร่างเผลอขนลุกชันโดยไม่รู้ตัว ความตื่นเต้นที่จะได้ก้าวเข้าสู่สถาบันใหม่ปีการศึกษาใหม่ สถานที่ซึ่งเปรียบดังกุญแจนำไปสู่อนาคตแสนสวยงามดังที่หัวใจวาดฝัน

ณ สถานที่อันเป็นมงคลฤกษ์ในเวลาอันสมควร

กิจกรรมรับน้องประจำคณะอักษรศาสตร์มหาลัยวิทยาลัยเจริญเกียรตินิรันดร

ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

สวัสดีครับ!”

สวัสดีครับ/ค่ะ!!”

ชายหนุ่มในชุดนักศึกษาเต็มยศเป็นระเบียบ นัยน์ตาเปี่ยมไปด้วยความเป็นผู้นำ ขยับมือทั้งข้างไขว้หลังยืนตัวตรงพร้อมเอ่ยกล่าวต้อนรับรุ่นน้องหน้าใหม่ กลุ่มนักศึกษาปี 1 เอ่ยทักทายกลับอย่างพร้อมเพรียง บางคนก็ตะโกนสุดเสียง บางคนก็ตอบเสียงเบาท่าทางเก้อเขิน หรือบางคนที่ตอบรับด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่ายพร้อมก้มหน้าถอนหญ้าเล่นอย่างไม่ใส่ใจ มีกลุ่มคนที่ตื่นเต้นกับกิจกรรมรับน้องก็ย่อมมีกลุ่มคนที่ไม่สนใจในกิจกรรมรับน้องสานสัมพันธ์

และคุณจะสังเกตเห็นไหม?

ว่ามีใครอีกคนที่ไม่ได้ขานรับ

ไม่ได้เอ่ยคำพูดใดๆ

ฉันไม่ได้ขยับยิ้มหรือเผยสีหน้าตื่นเต้นไปกับกิจกรรมที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น.. เพียงใช้สายตากวาดมองกลุ่มนักศึกษาเบื้องหน้าที่จะมาเป็นเพื่อนร่วมรุ่นในคณะเดียวกัน

แต่เราคงไม่มีวันได้สนิทกัน

แน่นอน..ใครจะอยากมีเพื่อนเป็นคนใบ้กันล่ะ  

ฉันเผลอคิดแง่ลบอีกแล้ว เป็นนิสัยที่เคยตัวจนท่าจะแก้ยาก นัยน์ตาสีดำสนิทของฉันสะท้อนเงาของนักศึกษาบาง คนที่เริ่มหันมาคุยหยอกล้อทำความรู้จักกัน  

มีเพียงตัวฉันที่เป็นสีเทาท่ามกลางสีสันเหล่านั้น

เอ่อ..น้องสายรุ้งใช่ไหมคะ?..”

น้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความชั่งใจเอ่ยเรียกชื่อของฉัน.. ฉันเงยหน้ามองทางต้นเสียง พบผู้หญิงคนหนึ่งในชุด  นักศึกษา ลักษณะท่าทางดูจะอายุมากกว่าฉัน อีกฝ่ายมีใบหน้าสวยคม เธอกำลังมองมาด้วยสายตาที่ฉันคุ้นเคยดี..

การต้องคุยกับคนที่พูดไม่ได้แน่นอนว่ามันต้องลำบากใจ..ฉันเข้าใจดี..

“..พี่อยู่ฝ่ายพยาบาลปีสามนะคะ..” รุ่นพี่สาวเอ่ยบอกพลางก้มมองเอกสารในมือสลับกับมองหน้าฉันก่อนจะพูดต่อ

 “..ตามเอกสารรับรองแพทย์..น้องเป็นใบ้..เอ่อ..พูดไม่ได้..ใช่ไหมคะ?..” นัยน์ตาเลิกลั่กของเธอมองมาที่ฉันท่าทางทำอะไรไม่ค่อยถูก เธอคงไม่เคยอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้.. สิ้นคำถามนั้นฉันก็นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้ารับ  

 “…งั้น..น้องไม่ต้องเข้ากิจกรรมก็ได้ค่ะ..นั่งตรงนี้ได้ใช่ไหมคะ?..”  

ฉันพยักหน้ารับคำพูดของรุ่นพี่อีกครั้ง เธอมองฉันอยู่แวบหนึ่งก่อนจะเดินถืออุปกรณ์เล่นเกมไปหากลุ่มเพื่อนของเธอ   คาดเดาได้ไม่ยากเลยว่าหัวข้อสนทนาของพวกเธอคงไม่พ้นเรื่องของฉัน... ฉันเข้าใจนัยน์ตาของเธอที่เหลียวมองมา..ฉันเห็นสายตานั้นมาหลายครั้งจนมันเป็นเรื่องธรรมดา

แววตาที่สงสารตัวฉันที่เป็นใบ้

เธอกำลังสงสารตัวฉันที่โกหก

สวัสดีค่ะ ชื่อของฉันคือสายรุ้ง เป็นนักศึกษาปี 1 กำลังจะเข้าศึกษาต่อในคณะอักษรศาสตร์ของมหาวิทยาลัยเจริญเกียรตินิรันดรแห่งนี้ ซึ่งฉันจะต้องดำเนินชีวิตในสภาพที่พูดไมได้..พูดให้ถูกคือเลือกที่จะไม่พูดเพราะเรื่องในอดีตตั้งแต่เหตุการณ์นั้นเป็นต้นมาฉันก็เลือกเส้นทางที่จะพลิกชีวิตให้เปลี่ยนไป

ง่ายๆคือฉันแกล้งใบ้มาตั้งแต่อายุ12ปีจนตอนนี้ขึ้นปี 1 รวมระยะเวลามันก็ประมาณ 7 ปีแล้ว น่าแปลกที่ฉันเล่นละครได้ดีเกินคาดแม้แต่พ่อแม่ก็ยังมองไม่ออก ไหนจะแกล้งฟังช้าตอบช้าและทุกครั้งที่ตอบโต้ฉันก็จะเขียนใส่กระดาษไม่ก็พิมพ์ข้อความใส่โน้ตโทรศัพท์ แน่นอนว่าทุกคนลำบากใจที่จะพูดออกมา..มันทั้งยุ่งยากแถมตอนอยู่ด้วยก็คุยไม่ได้ ไม่มีโน้ตสูงต่ำในคำหยอกล้อ ไม่มีเสียงหัวเราะ..

นึกย้อนถึงเพื่อนสมัยมัธยมบางคนที่ตอนแรกเข้าหาฉันด้วยความสงสารและเข้าใจ แต่พออยู่ด้วยนานๆพวกเธอ ก็แสดงทีท่าอึดอัดอย่างเห็นได้ชัด ฉันจึงตัดสินใจก้าวออกมาเอง..ฉันทราบดีว่าเส้นความอดทนของคนเรามันมีขีดจำกัดหากฝืนไว้มากๆสักวันมันอาจจะขาดสะบั้น..ถ้าฉันอยู่แบบนั้นต่อไปแล้วพวกเธอทนไม่ไหว..ฉันอาจจะต้องใช้ชีวิตอยู่กับคำนินทาเป็นแน่

เพราะฉะนั้นก่อนที่จะโดนทำร้ายด้วยคำพูด

ฉันขอเดินออกมาเองเสียดีกว่า

แบบนี้พวกเธอก็จะเป็นเพื่อนแสนดีและฉันก็จะเป็นคนใบ้ที่อยากอยู่คนเดียว

ตอนนี้ฉันมีความสุขที่จะไม่ต้องพูดอะไร ละครใบ้อันสมบูรณ์แบบของฉันที่ไม่มีใครมองออก หน้ากากที่เป็นกำแพงกั้นตัวฉันจากโลกภายนอก เว้นระยะห่างจากทุกคน

มันจะเป็นหน้ากากที่สมบูรณ์แบบ

และจะคงอยู่ตลอดไป

ฉันคิดมองตรงไปยังภาพกิจกรรมรับน้องที่ยังคงดำเนินไปอย่างสนุกสนานครื้นเครง มองแล้วช่างเป็นภาพที่ส่องแสงสีสดใส ภาพของเหล่านักศึกษาวัยรุ่นกำลังเล่นเกมกันอย่างสนุกสนานสานสัมพันธไมตรี ส่วนใหญ่ก็มักจะหาเพื่อนใหม่ได้จากกิจกรรมรับน้อง

ฉันเงยหน้าสำรวจอาณาบริเวณโดยรอบอาคารเรียนสูงตั้งตระหง่านรายล้อม และตรงกลางก็คือสนามหญ้าเขียวขจีที่นักศึกษาคณะอักษรกำลังทำกิจกรรมรับน้องกันอยู่ ฉันคิดว่ามหาลัยนี้กว้างมากจะเดินให้ชินก็คงใช้เวลาอีกสักพัก ตะกี้ตอนจะเดินมาที่นี้ฉันก็หลงไปโผล่สนามแบตเฉยเลย พวกพี่ชมรมแบตมินตันก็มองฉันงงๆประมาณว่า น้องเป็นใคร?

ขอโทษค่ะหนูแค่หลงทาง -_-;;

ฉันถอนหายใจให้เมื่อนึกถึงความซุ่มซ่ามของตัวเอง แล้วหันกลับไปมองกิจกรรมรับน้องอีกรอบ ตอนนี้เริ่มมีการลงโทษโดยการสาดน้ำใส่กัน เสียงร้องโวยวายสนุกสนานดังทั่วสนาม

ไม่มีอะไรทำเลย..

นั่งเฉยๆจนเบื่อฉันจึงเริ่มก้มลงดึงหญ้าใต้เท้าเล่น(เป็นการกระทำที่ทำลายทรัพย์สินมหาวิทยาลัย เด็กดีไม่ควรเลียนแบบนะคะ)

ว๊ากกกกกกกกกกกกกกก! อย่าเข้ามานะ!!!”

เฮ้ย! น้องระวัง!!”

หืม? ทำไมเสียงมันใกล้ๆ -_-

เสียงแหกปากโวยวายของใครสักคนดังประชิดเข้ามา เรียกให้ฉันที่กำลังเด็ดหญ้าอย่างจดจ่อต้องเงยหน้าขึ้น

จากนั้น

ซ่า!!

WHAT?--

ความคิดพลันขาดหายพร้อมความเย็นของน้ำสาดรดเต็มศีรษะและไหลผ่านใบหน้า มันทำให้ตื่นเต็มตาในทันที แก้วน้ำที่ขว้างมาอย่างแรงคาอยู่บนหัว เส้นผมสีดำสนิทปล่อยยาวที่หวีมาอย่างเป็นระเบียบตอนนี้มันกลับเปียกกระเซอะกระเซิงจนไม่เหลือเค้าเดิม จะไม่เป็นไรเลยถ้าเมื่อเช้าฉันไม่ได้สระผมมา...

ฉันนั่งอึ้งไปสามวิกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว

เฮ้ย! พี่ขอโทษนะน้อง!”

รุ่นพี่ผู้ชายวิ่งตรงมาหาฉันพร้อมกล่าวขอโทษขอโพย เสียงดังเรียกสติของฉันให้กลับมา เขาเกาศีรษะท่าทางสำนึกผิด ยิ่งเห็นสภาพเปียกโชกของฉันเขายิ่งเผยสีหน้าร้อนรน  ฉันกระพริบตาหนึ่งทีมองคนตรงหน้ามีใบหน้าที่จัดว่าดูดีอีกทั้งมีปลายเส้นผมสีเงินเป็นเอกลักษณ์ชวนสะดุดตา

สวยจัง

เผลอชมในใจอย่างอดไม่ได้

ไอ้ออกัส! ฉันบอกแล้วว่าอย่าเล่น!!

เสียงตะโกนของใครอีกคนที่ดังตามมาท่าทางจะเป็นรุ่นเดียวกับพี่คนแรก รุ่นพี่ผู้ชายหัวเกรียนที่วิ่งตามมาด่าพร้อมสวิงมือตบเข้าที่หัวเพื่อนอย่างแรง

ผัวะ!

โอ๊ยเจ็บ! ขอโทษ.. ฉันไม่ได้ตั้งใจนะ น้องเป็นอะไรไหมครับ?พี่ผมสองสีเซไปตามแรงฝ่ามืออรหันต์ของเพื่อนรัก เขาร้องโอดครวญพร้อมกุมขยับที่โดนทุบอย่างแรงแล้วเงยหน้าขึ้นมาถามฉัน

ไม่เป็นไรค่ะพี่ แค่เปียกทั้งตัว  -_-;

เอ่ยประชดในใจเสร็จฉันก็หยิบแก้วพลาสติกใสที่คาบนหัวออกก่อนจะส่ายหน้า

น้องโอเคไหม?รุ่นพี่หัวสองสีย่อตัวนั่งลงตรงหน้าเอ่ยถามย้ำ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความกังวล ฉันพยักหน้ารับในทันที รุ่นพี่ทั้งสองจึงยิ้มออกมาอย่างโล่งอก

ผ้าๆ!”

เหมือนเขาจะเห็นว่าหัวของฉันเปียกแฉะไปด้วยน้ำ จึงรีบคว้าผ้าขนหนูผืนเล็กของตัวเองยื่นให้ฉัน ฉันพยักหน้าขอบคุณก่อนจะรับมาเช็ดหน้าที่เปียกชื้น

 “เดี๋ยวฉันจะอยู่ดูน้องเขาก่อนนะ

มือที่กำลังขยับผ้าเช็ดผมหยุดชะงักทันทีที่ได้ยินประโยคบอกเล่านั้น ฉันเบิกตากว้างเงยหน้ามองคนพูด มันจะยิ่งยุ่งยากกว่าเดิมเพราะท่าทางรุ่นพี่ตรงหน้าจะไม่รู้ว่าฉันพูดไม่ได้

เออๆ ดูน้องเขาดีๆล่ะว่าจบพี่คนหัวเกรียนก็วิ่งกลับไปทำกิจกรรมรับน้องต่อ ทิ้งฉันไว้กับรุ่นพี่ผมสองสีเพียงลำพัง

น้องพี่ขอโทษจริงๆ นะเขาพูดเสียงแผ่วมือข้างขวายกขึ้นเกาศีรษะพร้อมเอ่ยขอโทษซ้ำ ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงข้างฉัน

แน่นอนว่าฉันโต้ตอบบทสนทนากับเขาไม่ได้

ว่าน้องชื่ออะไรเหรอ? พี่ชื่อออกัสนะ

เขาขยับยิ้มมองมาที่ฉันอย่างเป็นมิตร ฉันพยักหน้ารับช้าๆ แต่ไม่ได้เอ่ยอะไรกลับไป  เว้นช่วงไปหลายนาที พี่ออกัสหรี่ตามองทำหน้าเหมือนจะถามว่าทำไมฉันถึงไม่ตอบคำถามของเขา

ฮัลโหล? น้องครับได้ยินพี่ไหม?เขาเรียกฉันอีกครั้ง สายตาของพวกเราสบกันเข้าอย่างจัง ฉันเผลอเบิกตากว้างทำอะไรไม่ถูก ตอนนี้ไม่มีทั้งโทรศัพท์มือถือหรือกระดาษที่จะพิมพ์ข้อความโต้ตอบกับอีกฝ่ายได้เลย

ทำไงดี?

ในหัวของฉันมีแต่คำถามนี้

คงเพราะฉันหลบตาและนิ่งเงียบทำให้คนที่มองอยู่พลันขมวดคิ้วยุ่ง

ทำไมน้องไม่ตอบพี่ล่ะ?โทนเสียงของพี่ออกัสทุ้มลงจนรู้สึกได้ แหงล่ะถ้าเขาจะรู้สึกไม่พอใจเพราะการที่ฉันนิ่งแบบนี้มันก็เหมือนฉันเมินคำถามของเขาต่อหน้าต่อตา

แต่ฉันพูดไม่ได้ไง!

น้องยังโกรธพี่อยู่เหรอ?น้ำเสียงต่ำเจือปนความรู้สึกผิดเอ่ยถาม พี่เขาทำหน้าเศร้าจนฉันรู้สึกผิดรีบส่ายหัวพร้อมโบกมือปฏิเสธทันที แต่ยิ่งฉันทำแบบนั้นดูเหมือนพี่เขาจะยิ่งงงหนักกว่าเดิม

งั้นน้องเป็นอะไรครับ?

คนที่เหมือนจะโกรธทำสีหน้าไม่เข้าใจในการกระทำของฉัน ฉันเม้มริมฝีปากคิดหนักอยู่ครู่หนึ่งจนสุดท้ายก็ตัดสินใจทำภาษามือ(ฉบับเข้าใจง่าย)โดยการจิ้มที่ปากแล้วยกนิ้วชี้มาซ้อนทับกันเป็นรูปกากบาท

ปาก

พูด

ไม่ได้

หวังว่าพี่เขาจะเข้าใจนะ

พี่ออกัสมองท่าทางของฉัน คิ้วนี่ขมวดจนแทบจะเชื่อมกันเป็นสะพานพระรามแปดใบหน้าหล่อเหลาแปรเปลี่ยนเป็นยุ่งเหยิงชวนให้นึกขบขัน สักพักพี่เขาก็ทำหน้าเข้าใจและพยักหน้าช้าๆ

เฮ้อ..เข้าใจแล้วสินะ..

ฉันถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อรุ่นพี่พยักหน้าเข้าใจ

น้องไม่อยากบอกชื่อกับพี่เหรอ ทำไมละครับ?

ไม่เข้าใจเลยนี่หว่า!!

เหมือนเหล็กสิบกิโลหล่นกระแทกใส่หัว ฉันแทบจะยกเท้าขึ้นมากายหน้าผาก ภาษามือง่ายๆ ตรงตัวขนาดนี้ทำไมเขาถึงไม่เข้าใจกันนะหรือฉันต้องกรีดเลือดเขียนพื้นให้ถึงจะเข้าใจ

"น้องยังโกรธพี่อยู่จริงๆใช่ไหมครับ?" คราวนี้พี่เขาพึมพำด้วยน้ำเสียงน้อยใจ เขาดูเป็นคนพูดมากพอตัวทั้งที่ฉันไม่ตอบอะไรกลับไป แต่พี่ออกัสก็ยังพูดเองเออเองได้เรื่อยๆ

น้องพี่รู้ว่าน้องโกรธแต่อย่างน้อยตอบพี่หน่อย…. ได้ไหมครับ?

ไม่ใช่!

ฉันเผลอกุมมือแน่นความกังวลทำเอาหัวใจเต้นจนแทบระเบิดออกมา เอาตามตรงถึงฉันจะไม่อยากยุ่งกับใคร แต่ฉันก็ไม่ได้อยากมีปัญหากับคนอื่นตั้งแต่วันแรกที่เข้าเรียนนะ อย่างน้อยฉันควรรีบหาข้อแก้เพื่อไม่ให้พี่เขาเข้าใจผิดว่าฉันหยิ่งแล้วไม่ตอบคำถาม

เอ้ะ..พี่คนนั้น?

พลันสายตาของฉันเหลือบไปเห็นร่างของรุ่นพี่สาวที่บอกให้ฉันไม่ต้องเข้ากิจกรรม เธอกำลังยืนอยู่อีกฝั่งของสนาม ความหวังของฉันเริ่มจุดประกายพี่คนนั้นเขารู้ว่าฉันเป็นใบ้ถ้าลากเธอมาอธิบายได้ล่ะก็..

เฮ้ย! น้องจะไปไหนอะ!!?”

คิดได้ฉันก็ลุกพรวดตรงไปหาพี่ผู้หญิงคนนั้นในทันที พี่ออกัสร้องเสียงดังลั่นเมื่อเห็นฉันลุกขึ้นกะทันหัน ฉันวิ่งมากลางสนามตรงไปที่อีกฝั่งของสนามตอนวิ่งออกมาเหมือนได้ยินเสียงพี่เขาโวยวายอะไรด้วย แต่ฉันไม่ได้หันกลับไปสนใจ เอาเป็นว่าตอนนี้ขอไปตามพี่ผู้หญิงคนนั้นก่อน

แล้วทำไมฉันต้องมาทำอะไรแบบนี้เนี่ย?

หมับ!

กรี๊ด!!—อ้าวน้อง?

 พี่ผู้หญิงคนนั้นร้องลั่นเมื่อเห็นฉันพุ่งเข้าไปคว้าข้อมือของเธอ เธอสะดุ้งโยนเอกสารในมือไปคนล่ะทางแขนนี่เกือบฟาดหน้าฉัน -_-  ก่อนจะหยุดเสียงกรี๊ดลงเมื่อเธอเห็นว่าเป็นฉัน

โอ๊ย พี่ตกใจหมดเลย..ทำไมหัวน้องเปีย..? 

เธอบ่นพึมพำพร้อมถอนหายใจเฮือกใหญ่พอเห็นผมเผ้าเปียกกระเซิงของฉันนัยน์ตาคู่สวยก็พลันเบิกกว้าง ตอนแรกเธอจะถามฉันแต่เธอก็ผ่อนเสียงลงเพราะท่าทางจะนึกได้ว่าฉันพูดไม่ได้ ฉันยกมือไหว้เธอหนึ่งทีก่อนจะคว้ากระดาษกับปากกาที่อยู่ใกล้ๆขึ้นมาตวัดเขียนข้อความอย่างรวดเร็ว ลายมือค่อนข้างหวัดแต่ฉันมั่นใจว่าใครๆ ก็ต้องอ่านออก

ตามหนูมาทีค่ะ

หา? ว้ายเดี๋ยวน้อง!!”

รุ่นพี่สาวร้องอุทานเสียงหลงอย่างไม่เข้าใจเธอยังพูดไม่ทันจบฉันก็ออกแรงดึงเธอให้ตามมา รุ่นพี่สาวยังคงร้องถามตลอดทางที่ฉันลากมา

ไปถึงเดี๋ยวก็รู้เองแหละค่ะ !

 

 

AUGUS PART

อ้าวออกัสน้องคนนั้นอะ?

เสียงของเพื่อนสนิทหัวเกรียนเรียกให้ผมหันมอง พลันได้ยินว่าถามถึงเด็กคนนั้นคิ้วของผมก็กระตุก ผมเกาศีรษะก่อนจะเอ่ยตอบตามความจริง

อยู่ๆ น้องเขาก็วิ่งหนีไปอ่ะ

ฮะ?

ก็บอกว่าน้องเขาวิ่งหนีฉันไปแล้วไงครับคุณชัช -*- ”

ผมย้ำประโยคเดิมอย่างหงุดหงิดเมื่อคุณเพื่อนตีหน้าประมาณว่า เอาจริงดิ? ใส่ สาบานว่าผมไม่เคยเจอคนอะไรเกิดมาหน้าตากวนฝ่าเท้าขนาดนี้มาก่อน

คนหัวเกรียนตรงหน้าเป็นเพื่อนสนิทของผมเองครับ มันชื่อชัชชาติชื่อเล่นชัช ชื่อโคตรมีพลังทำลายล้างอย่างน่าประหลาด ผมเป็นเพื่อนกับมันมาตั้งแต่เข้าปี1 เป็นที่พอทราบกันนะครับว่าคณะอักษรศาสตร์นั้นมีมนุษย์ผู้ชายน้อยมาก ในหมู่เพศชายอันน้อยนิดผมกับชัชเลยสนิทกันครับ  

วิ่งหนี? นาย?”

มันพูดซ้ำก่อนจะชี้นิ้วมาที่ผม ผมก็ตีหน้ามึนพร้อมพยักหน้ารับ เว้นช่วงไปประมาณสิบวิเหมือนสมองที่มีน้อยนิดกำลังประมวลผล ก่อนที่เพื่อนของผมจะระเบิดหัวเราะเสียงดังลั่นสนาม

จริงป่ะ!? ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!!!!ชัชหัวเราะลั่นพร้อมชี้นิ้วมาที่ผมทั้งเพื่อนทั้งรุ่นน้องนี่หันมามองกันเป็นตาเดียว จนผมต้องไปคว้าตัวชัชที่กำลังหัวเราะเหมือนคนบ้าให้สงบลง

เฮ้ย! คนเขามองกันหมดแล้ว!!” ผมตะโกนใส่หูชัช แต่คราวนี้มันกุมท้องท่าทางจะขำหนักกว่าเดิม ผมจึงตัดสินใจยืนมองมันจนกว่ามันจะหัวเราะเสร็จ

เอาเลยเพื่อนขำให้ตายไปเลยตายแล้วเรียกด้วยนะ -_-

[ผ่านไปนาทีกว่า]

โอ๊ยๆ ปวดท้อง..”

ขำให้ตายเลยไหม?ผมเอ่ยประชดเมื่อเห็นชัชเริ่มผ่อนเสียงหัวเราะลง

โอ๊ย ก็ฉันขำนี่นา นายหล่อขนาดเป็นเดือนคณะ แต่ดันโดนรุ่นน้องผู้หญิงวิ่งหนีตั้งแต่วันแรกที่เจอ ขอสัมภาษณ์หน่อยครับคุณออกัสคนหล่อเสียใจไหมครับ?ชัชทำท่ากำขวดน้ำเหมือนถือไมค์เอามาจ่อปากผมพร้อมเอ่ยอย่างติดตลก ผมแย่งขวดน้ำมาทุบกลางกบาลมันไปหนึ่งที

เดือนคณะแล้วมันเกี่ยวตรงไหน ประเด็นคือน้องคนนั้นวิ่งหนีผมไปต่างหาก!

ผมถอนหายใจก่อนจะเงยหน้ามองท้องฟ้าที่ดวงอาทิตย์เริ่มเคลื่อนมาถึงกลางท้องฟ้าเป็นอันบอกเวลาเที่ยงวัน ..ดูท่าผมจะเล่นมากจนเป็นเรื่องซะแล้วสิ..สวัสดีครับ ชื่อของผมคือสิงหาชื่อเล่นว่าออกัส พ่อแม่ตั้งแบบง่ายๆเพราะผมเกิดเดือนสิงหาคมแค่นั้นแหละครับ ผมเป็นนักศึกษาปี 3 คณะอักษรสาขานิเทศศาสตร์

ส่วนเรื่องเดือนคณะอะไรนั้นที่ชัชมัพูด ผมไม่ค่อยสนใจมันหรอกครับ เพราะตอนประกวดดาวเดือนพี่รหัสหลอกผมไปลงชื่อแถมขู่ว่าถ้าถอนตัวจะไม่ให้รหัสอีกต่างหาก ไม่ใช่หลงตัวเองนะครับแต่ยอมรับว่าเป็นครั้งแรกที่ผมถูกวิ่งหนีใส่แบบนี้ น้องคนนั้นต้องโกรธผมมากแน่ๆ ผมถามอะไรเธอก็ไม่ยอมตอบเลยไหนจะหลบตา..

หืม?

ผมเลิกคิ้วเพราะพึ่งจะนึกอะไรบางอย่างได้

แล้วทำไมน้องเขามานั่งข้างนอก? ทำไมไม่เข้าไปทำกิจกรรม? หรือว่าป่วย?

เพราะนายทำน้ำหกใส่หัวน้องเขานั้นแหละคำพูดซ้ำของชัชเหมือนเข็มทิ่มแทงหัวใจผมให้จมสู่ความรู้สึกผิด

แต่ถึงกับวิ่งหนีเลยเหรอ?

แล้วน้องเขาวิ่งไปไหน?

ทางนู้นผมชี้ไปอีกฝั่งของสนามกลุ่มพี่น้องชาวอักษรศาสตร์ที่ยืนกันหนาแน่น น้องเขาวิ่งหายไปในนั้นแล้วอ่ะพยายามมองหาแล้วนะครับแต่คนมันเยอะไปหมด

เขาเกลียดนายแน่ รำคาญที่นายพูดมากไง ชัชขมวดคิ้วตีหน้าเครียดพร้อมพูดต่อ เพื่อนของผมนี่ก็ช่วยให้กำลังใจผมดีมากเลยครับ ยอมรับว่าผมเป็นคนพูดมากจริง แต่ถ้าคนสองคนเอาแต่เงียบไม่พูดอะไรเลยมันก็อึดอัดแย่สิเพราะงั้นผมต้องชวนน้องคุย

เฮ้อ..” ผมถอนหายใจอีกรอบยิ่งนึกสีหน้าน้องที่พยายามหลบตาและไม่ตอบคำถามของผม ความรู้สึกผิดมันก็หน่วงอยู่ในอก ตอนนี้ในหัวมีแต่เสียงก่นด่าตัวเองที่เอาแต่เล่นจนเป็นเรื่อง

เป็นกิจกรรมรับน้องวันแรกที่แย่จริงๆ ..

แต่ยังไงผมก็อยากไปขอโทษน้องอีกรอบ

เฮ้ยออกัส  นั้นน้องเขาป่ะ? อ้าวข้างหลังนั้นพี่เบาหวิวเสียงของชัชเรียกให้ผมเงยหน้าขึ้นพรวดสายตาที่มองไปเบื้องหน้าเห็นร่างของรุ่นน้องคนนั้นกำลังลากรุ่นพี่ปี 4 วิ่งตรงมาทางผม

น้องที่วิ่งหนีไปผมตะกี้พา (แต่มองดีๆ น่าจะลาก) พี่เบาหวิวมาหยุดตรงหน้าผม เธอหยุดวิ่งก่อนจะหอบหายใจท่าทางเหนื่อยล้า ผมก้มมองอย่างไม่เข้าใจในตอนนั้นเองที่น้องเขาเงยหน้าขึ้นมามือเล็กขยับปากกาเขียนอะไรบางอย่างใส่กระดาษ

เธอชูกระดาษที่เขียนให้ผมอ่านลายมือที่ค่อนข้างหวัดเพราะถูกตวัดเขียนอย่างรวดเร็ว พลันอ่านข้อความตรงหน้าจบทำเอาผมอ้าปากค้าง

 ‘หนูพูดไม่ได้ค่ะ ขอโทษค่ะที่ไม่ได้ตอบ

ครับ?

ผมหันมองหน้าน้องเขาสลับกับข้อความนั้นไปมาหลายรอบ

เอาจริง?

ตอนนี้ในหัวของผมมีแต่คำว่า งง’  ครับ..

END AUGUS PART

 

มือของฉันเผลอสั่นในขณะที่ชูกระดาษให้พี่ออกัสอ่านเพราะฉันวิ่งมาเหนื่อยแทบหมดแรง พี่ผู้หญิงที่ฉันลากมากเธอก็ก้มหน้าหอบหายใจสภาพไม่ต่างกัน ตอนนี้เงยหน้ามอง ฉันเห็นว่าพี่ออกัสกำลังทำหน้าอึ้งท่าทางทั้งตะลึงทั้งตกใจกับเรื่องที่ฉันเขียนมากๆ

ฉันหันกระดาษกลับเข้าหาตัวก่อนจะตวัดปากกาเขียนข้อความใหม่ยื่นให้พี่ผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ อ่าน เธอปาดเหงื่อบนหน้าผากก่อนจะไล่สายตาอ่านข้อความที่ฉันเขียน

ช่วยอธิบายพี่ออกัสทีค่ะ ว่าหนูพูดไม่ได้

รุ่นพี่ผู้หญิงอ่านจบก็หันมองพี่ออกัสแล้วหันกลับมามองฉันอีกรอบ ท่าทางเธอกำลังประมวลผลเหตุการณ์ทั้งหมดจากนั้นไม่นานก็พยักหน้าเข้าใจสาเหตุที่ฉันลากเธอมา

พี่เบาหวิวครับ..ที่น้องเขาพูด..?

หลังจากเงียบอยู่นานในที่สุดพี่ออกัสก็พูดขึ้นมาฉันก็ก้มหน้าลงทันที ฉันไม่ได้เศร้ากับมันแต่ฉันไม่อยากจะมองเห็นสีหน้าของพี่เขาที่พูดเรื่องของฉันออกมา

 “อืม..น้องสายรุ้งเขาพูดไม่ได้น่ะ..ตามเอกสารรับรองแพทย์เสียงของพี่ผู้หญิงที่ฉันพึ่งทราบว่าเธอชื่อเบาหวิวเอ่ยตอบ น้ำเสียงของเธอเองก็ดูลำบากใจที่จะเอ่ยเรื่องนี้ต่อหน้าฉัน

เฮ้ย..จริงเหรอพี่..?..” เสียงพี่ผู้ชายอีกคนเอ่ยอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง

“…อือ..น้องเขาฟังได้นะแต่..”

พูดไม่ได้..

ฉันขยับยิ้มบางเอ่ยต่อคำพูดที่พี่เบาหวิวเว้นเอาไว้ในใจ มันเป็นคำโกหกที่น่าเศร้าสำหรับคนอื่น ใครที่รู้ต่างก็จะมองฉันด้วยสายตาเวทนา

น้องเป็นแบบนี้มาตั้งแต่อายุเท่าไรเหรอ?

อยู่ๆน้ำเสียงที่คาดเดาอารมณ์ไม่ออกของพี่ออกัสถามขึ้นฉันเงยหน้ามองเขา พี่หัวเกรียนหันไปร้องปรามคำถามที่ไม่สมควรแต่พี่ออกัสก็ยังนิ่งและรอฟังคำตอบของฉัน

ฉันจึงขยับปากกาเขียนคำตอบแล้วชูให้พี่เขา

‘12’

พอเห็นตัวเลขเพื่อนของพี่ออกัสเบ้หน้าอย่างเวทนา พี่เบาหวิวก็กุมมือแน่นพร้อมก้มหน้าลงบรรยากาศอึดอัดเข้าครอบคลุมอย่างเห็นได้ชัด

ฉันพูดไม่ได้นี่คือสิ่งที่ฉันเป็น..เพราะฉะนั้น..ถ้าหากเข้าใจแล้ว..

อย่ามายุ่งกับฉันเลย..

สุดยอด

เอ๊ะ?

ฉันเบิกตากว้างเมื่อได้ยินคำพูดที่ไม่คุ้นหูทุกคนหันมองคนพูดอย่างตกตะลึง พี่ออกัสเผยยิ้มกว้างพร้อมมองมาที่ฉัน น่าแปลกที่นัยน์ตาของเขาที่มองตรงมาแสนจะสว่างไสว

ทำไม?

ฉันได้แต่ตั้งคำถามภายในใจเพราะไม่เคยเจอปฏิกิริยาตอบรับแบบนี้มาก่อน ทุกคนพอรู้ว่าฉันเป็นใบ้ก็จะสงสารจะปลอบให้ฉันสู้ๆและมีชีวิตต่อไป

 น้องเป็นผู้หญิงแต่น้องอดทนกับมันมาตั้งหลายปี สุดยอดอ่ะ พี่ออกัสเอ่ยชมพร้อมยิ้มกว้างเป็นรอยยิ้มที่ช่างตรงข้ามกับตัวตนของฉันเสียจริงๆ

เอาแล้วครับออกัสคนคิดบวก

หนวกหูครับชัช

พี่ออกัสหันไปเถียงเพื่อนสนิทที่เอ่ยแซว พี่เบาหวิวมองรุ่นน้องปีสามสองคนที่ยืนเถียงกันจนเผลอหลุดยิ้ม มันน่าตกใจมากที่บรรยากาศอึดอัดเมื่อครู่หายไปในพริบตา

น้องอุตส่าห์ไปลากพี่เบาหวิวมาอธิบายให้พี่ฟังใช่ไหม? ขอบใจนะ”  คำพูดพร้อมรอยยิ้มกว้างนั้นทำเอาฉันเผลอหลบสายตา

..ฉันแค่ไม่อยากมีปัญหา..ฉันไม่ชอบเรื่องยุ่งยาก

งั้นพี่กลับไปทำงานต่อนะน้องๆ

พี่เบาหวิวก้มมองนาฬิกาข้อมูลก่อนจะเอ่ยบอก พี่ออกัสกับพี่ชัชโบกมือลาเธอ ส่วนฉันก็โค้งศีรษะให้รู้สึกขอบคุณและขอโทษที่ลากพี่เขามาทั้งๆที่ทำกิจกรรมอยู่

งั้นฉันไปแบกของต่อนะตะกี้อู้มา น้องสายรุ้งสู้ๆนะครับพี่ชัชพูดพร้อมยิ้มทะเล้น ก่อนจะเดินออกไปก็โดนพี่ออกัสโบกหัวไปหนึ่งทีด้วยความหมั่นไส้

เมื่อพี่เขาเดินไปจนลับสายตาก็เหลือแค่ฉันกับพี่ออกัส..อีกครั้ง..

น้องชื่อสายรุ้งใช่ไหมครับ?นึกสงสัยว่าเขาถามย้ำเรื่องที่รู้อยู่แล้วทำไมกันนะ แต่ฉันก็พยักหน้ารับ

ดูมีสีสันน่ารักดีนะคำชมของพี่เขาทำเอาฉันลอบยิ้ม

ฉันยังตลกกับชื่อตัวเองเลยว่ามันสดใสเกินกว่าจะมาเป็นชื่อของฉัน

เหมือนน้องเลย

หืม? _

คำพูดนั้นทำเอาสมองของฉันขาวโพลน

อุ๊บ!—ฮ่าฮ่าฮ่า!! หน้าน้องโคตรตลกเลย!” พี่ออกัสลั่นขำเมื่อเห็นสีหน้าอึ้งของฉันตอนนี้คำสบถในหัวมันตีกันเละไปหมดแล้ว สติของฉันเหมือนจะแตกกระเจิงไม่เป็นทิศเป็นทาง

จะไม่ให้ตกใจได้ยังไงเมื่อกี้พี่ออกัสบอกว่าฉัน?

..น่ารัก?

คำถามในหัวพรั่งหรูออกมาแทบนำมาทำเป็นพจนานุกรมได้ ส่วนลึกของสมองพยายามเค้นหาจุดประสงค์ของคำพูดนั้น บางทีพี่เขาอาจจะแค่อยากหยอกเล่นหรือแกล้งฉันงั้นเหรอ?

อะไรของคนๆนี้เนี่ย

ไม่เข้าใจ..

ฉันรับมือไม่ถูก..

รับมือผู้ชายพูดมากคนนี้ไม่ถูกเลย

เฮ้ยออกัสมาช่วยทางนี้หน่อย!!” เสียงบุคคลที่สามดังแทรกความคิด รุ่นพี่ผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่ไม่ไกลนักตะโกนเรียกคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าของฉัน

เออ เดี๋ยวไป!!” พี่ออกัสขานรับเพื่อน ก่อนจะวิ่งไปนั้นเองพี่เขาหันมาพูดกับฉัน รอยยิ้มทรงเสน่ห์ขยับยิ้มกว้าง

แนะนำตัวอีกรอบนะ พี่ชื่อออกัสปีสามคณะเดียวกับน้อง ฝากตัวด้วยนะ

-

เปิดเทอมไว้เจอกันนะครับน้องสายรุ้ง J

แล้วพี่เขาวิ่งจากไปทิ้งให้ฉันยืนตะลึงตึงโป๊ะก่อนจะแผดเสียงกรีดร้องภายในใจ

 

ไม่มีทาง!!

ฉันจะขอไม่เจอผู้ชายพูดมากคนนี้อีก!!

TBC.



Talk to me Talk to me : ) 
สวัสดีค่ะ JLS14เตยเองค่ะ นามปากกาสิ้นคิดมาเลย
อยู่กันไปยาวๆจนสิ้นเดือนกุมภาพันธ์เลยฝากตัวด้วยนะคะ TvT
ขอฝากผลงานรักนี้ที่ไร้เสียงไว้ในอ้อมอกด้วยนะคะ
พระเอกของเรามาแล้วค่ะ ขอบอกเลยค่ะว่าตาพี่บ้า555555555555


เราลองวาดคาแรคเตอร์สายรุ้งกับตาพี่ออกัสมาฝากค่ะ ประมาณนี้ //ตาพี่นี่หัวสีไรของนาง

 

 



12 ความคิดเห็น

  • 1
  • 2
  1. #1 Blue_umbrella (จากตอนที่ 2)
    2017-01-18 20:38:36
    ว้ายย าพสวยมากคะ คุณเตยยย 55555 คือแบบ อยากวาดลงมั่ง ฮืออออ อิจฉาาา
    สู้ๆ น้าาา ชอบพล็อตมากๆ เลย ชอบพระเอกสดใสแบบนี้อ่ะ ดีต่อใจมากมายย >0< นางเอกเรามืดมนๆ คล้ายๆ กันเลยเนอะ น่าจะเป็นเพื่อนกันได้ ฮาาา
    #1
  2. #2 (จากตอนที่ 2)
    2017-01-18 21:35:41
    ฟู่วว พระเอกดูสดใสน่ารักมากเลยยย แล้วนางเอกมึนๆมืดๆน่ารักนะคะ  รอตอนต่อไปนะคะ
    #2
  3. #3 (จากตอนที่ 2)
    2017-01-18 23:19:00
    คือว่ามันดีมากๆเลยค่าาา ชอบคาแรกเตอร์ของพระนาง รวมถึงคุณชัชด้วยค่ะ อยากอ่านตอนต่อไปแล้ว สู้ๆนะคะะ
    #3
  4. #4 Praewaa (จากตอนที่ 2)
    2017-01-19 01:22:41
    ว้าวววว ตอนสองมาเร็วมาก >_<
    ชอบพล็อตเรื่องมากเลยค่ะ เข้าใจฟีลของสายรุ้งนะ
    ไม่อยากพูดกับใครแล้ว เหนื่อย ในเมื่อพูดไปก็ไม่มีใครสนใจ งั้นไม่พูดเลยคงจะดีกว่า
    ส่วนออกัสนี่ก็สดใสมากกก คิดบวกตลอด รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับเค้าบ้างมั้ย 5555555

    สู้ๆ นะคะ อยากให้ถึงอาทิตย์หน้าแล้ว อยากอ่านต่ออออ
    #4
  5. #5 (จากตอนที่ 2)
    2017-01-19 08:29:44
    ชอบคาแรคเตอร์นางเอกง่ะ อยากรู้ว่าจะเป็นยังไงต่อ 
    ส่วนพี่ออกัสนี่ก็น่ารักเกิน คิดบวกสุดๆ5555
    รออ่านน้าาาา สู้ๆ
    ปล.ชอบรูปที่วาดอ่ะแงงงง ชอบบบ
    #5
  6. #6 Marshmallows. (จากตอนที่ 2)
    2017-01-19 11:11:16
    จริงๆ มาแอบอ่านตั้งแต่เมื่อวานแล้ววว พล็อตเรื่องน่ารักมากเลย และมีความดราม่าอีกด้วย
    ฟิลนี้มาเลยค่ะ พระเอกคงแบบ 'ฉันอยากได้ยินเสียงของเธอ' 555555 ชอบที่พระเอกเป็นคนพูดมากนะ
    ดูขี้ตื๊อไม่ปล่อยนางเอกไปเลย แล้วนางเอกก็หยิ่งมาก ทำยังไงดี ชั้นสงสารเค้าาาา 5555

    ปล. รูปน่ารักกกก สายวาดรูปหรือคะเนี่ย
    #6
  7. #7 lawyer (จากตอนที่ 2)
    2017-01-19 18:39:24
    ชอบอ่า พล็อตคือดีมากก รอตอนต่อไปนะคะ
    ป.ล.กดโหวตรัวๆ
    #7
  8. #8 cocoaraby (จากตอนที่ 2)
    2017-01-19 20:36:28
    เมื่อวานอ่านแล้ว
    วันนี้มาเม้นต์
    บอกคำเดิม...ขอออกัสเถอะ นางน่ารักมาก 55555555555555555
    #8
  9. #9 iiiimmomo (จากตอนที่ 2)
    2017-01-19 23:57:43
    งือออออออออออออออ กลิ่นของความดรมม่าลอยมานิดๆ แล้ว55555555555 ชอบนางเอกมืดมนแบบนี้อยู่นะคะ น่าสงสารนางด้วย แต่คือ พระเอกของเรื่องเป็นเหมือนตัวจุดให้เรื่องสดใสขึ้นมาบ้าง ชอบผู้ชายน่ารัก 5555555555555 หน้าแรกบทน้อยมากกกก ดราม่านิดๆ แล้วพอมาหน้านี้คือสะใจตับไตมาก5555555555555 ยังไงก็สู้ๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะรักเลยรักเลย
    #9
  10. #10 (จากตอนที่ 2)
    2017-01-20 00:23:57
    สวัสดีค่า พี่อายเองนะคะ เป็นกรรมการค่า แวะมาคอมเม้นต์ให้เนาะ จากนี้ไปเราจะเจอกันทุกอาทิตย์เลย ฝากตัวด้วยน้า ก่อนอื่นเลยขอชมไอเดีย พี่ชอบไอเดียนี้นะคะ ปมของนางเอกดูมีที่มาที่ไป เล่าไม่เยิ่นเย้อ ตรงประเด็นดีค่ะ ทำได้ดีเลย

    การบรรยาย บางจุดติดกันเป็นพรืดเกินไป ควรดูเรื่องการแบ่งวรรคตอน การเว้นวรรคเพื่อทิ้งช่วงอารมณ์ ไม่งั้นคนอ่านจะรู้สึกเหมือนต้องอ่านติดต่อกันเป็นพรืดอาจจะรู้สึกเหนื่อยได้ค่ะ นอกจากนี้ถ้าจะใช้จุด แนะนำให้เป็นสามจุดนะคะ เช่น มันมักจะเป็นแบบนี้เสมอ... พ่อกับแม่มักจะทำแต่งานยุ่งแต่งาน... ทุกครั้งที่เธอมาชวนคุยมาพูดด้วยพวกท่านก็จะพูดแต่เรื่องงาน

    และบางจุดที่มีการเคาะเว้นบรรทัดมากเกินไป มันอาจจะเขียนต่อกันไปเลยได้นะคะ เคาะเว้นเฉพาะตรงช่วงที่อยากขยี้ เช่น ในบทนำ ที่เคาะเว้นบรรทัดตอนท้าย ตรงนี้พี่ว่าดีนะ แต่พอเข้ามาบทแรก ตรงช่วง “เพราะฉะนั้นก่อนที่จะโดนทำร้ายด้วยคำพูด” ไปจนถึง “และจะคงอยู่ตลอดไป” อันนี้อาจจะเคาะเยอะไปค่ะ มันเลยดูอ่านแล้วสะดุดไม่ลื่นไหลนิดนึง ทั้งที่จริงๆ น้องเป็นคนสำนวนดีมากนะ มีการเล่นคำที่สละสลวยมากๆ พี่ชอบ ตอนหน้าลองปรับดูนะคะ

    เรื่องสรรพนาม พี่เห็นบางจุดใช้ ชั้น หลุดมาด้วย อันนี้ระวังนิดนึงนะคะ อาจจะแบบคิดไปเขียนไป มือไว เขียนไปตามที่ออกเสียงในหัว เลยกลายเป็นชั้น อะไรยังงี้ ต้องระวังค่ะ แนะนำให้อ่านทวนรีไรต์ไปด้วยระหว่างเขียนเนาะ แล้วก็ ในบทแรก มีเขียนสลับกันทั้ง สรรพนามบุรุษที่หนึ่งและบุรุษที่สาม (มีประโยคนึงเขียนว่า “พ่อคงไปทำงานอีกแล้ว..แม้กระทั่งเวลาที่เธอกลายเป็นแบบนี้พ่อก็ยังไปทำงาน..” พี่ไม่แน่ใจว่า ตั้งใจหรือเปล่า หรือลืมเปลี่ยนที่เขียนพลอตเอาไว้ แต่ต้องระวังในเรื่องของความสอดคล้องกันนะคะ เรื่องสรรพนามใครเป็นคนบรรยาย มุมมองนางเอกหรือมุมมองพระเจ้า อะไรแบบนี้ค่ะ

    ทำเอาร่างเผลอขนลุกชันโดยไม่รู้ตัว → บริบทนี้จะไม่ใช้ เผลอขนลุกชัน นะคะ จริงๆ ตัดออกเหลือ “ทำเอาขนลุกชัน” แค่นี้ก็พอค่ะ

    โดยรวมพี่ชอบพลอตและไอเดียคาแรกเตอร์นางเอกนะคะ รอลุ้นด้วยว่านางจะพูดออกมาอีกทีเมื่อไหร่ 555 ฉากนั้นต้องเอาให้พีคๆ เลยนะ และในฐานะที่พี่ชอบพลอตเรื่องนี้มาก พี่เลยขอแนะนำนิดนึงว่าควรจะให้ทุกตอนมีความพีคในตัว เนื่องจากเราแข่งกันแบบเป็นตอนๆ เลยต่างจากการเขียนทีเดียวรวดเดียว เพราะคนอ่านได้อ่านทีละตอนเอง ดังนั้น นอกจากเราจะวางพลอตเป็นาพรวมแล้ว เรายังต้องวางพลอตแต่ละตอนด้วยนะคะ มี opening มีตัวเนื้อเรื่อง และมีตัว ending ที่น่าสนใจสุดๆ ค่ะ สำหรับอันนี้ถือว่าโอเคแล้วนะกับการเปิดตัวพระเอกออกมาพร้อมบอกว่าเดี๋ยวเจอกันใหม่ เพียงแต่เรื่องการแนะนำตัวนางเอก กับ การเปิดเรื่องรับน้องอาจจะยาวเกินไปนิดนึงค่ะ

    อย่างที่บอกไป คราวหน้าลองประยุกต์ใช้วิธีวางพลอตของแต่ละตอนดูนะคะ ลิสต์ไว้เลยว่าในแต่ละตอนเราจะคลายปมยังไง เราจะเพิ่มตัวละครอะไรเข้าไปบ้าง เพราะอะไร มันจะมีบทบาทแค่ไหน พยายามเขียนให้กระชับที่สุดอย่าให้ตอนยาวเกินไป นางเอกอย่าคิดเยอะเกินไป เพราะคาแรกเตอร์และตัวตนของนางเอกเรามันชัดแล้วค่ะ เห็นาพแล้ว ไม่ต้องเน้นย้ำความดราม่าของนางเอกแล้วก็ยังได้ค่ะ เพราะน้องสร้างสตอรี่ไว้ให้เค้าชัดแล้ว จากนี้ไปก็ น่าจะเล่นเรื่องความสัมพันธ์กับพระเอก ซึ่งถ้าไม่มีปมลึกลับอะไร ก็ต้องเล่นกับฉากและเหตุการณ์ในแต่ละตอนแทน เน้นการดำเนินเรื่องให้สนุกและน่าสนใจค่ะ

    อย่าลืมนะคะว่าพี่ชอบพลอตมาก อิอิ พยายามเข้าน้า เป็นกำลังใจและรออ่านทุกวีคเลย สงสัยอะไรถามเพิ่มเติมได้นะจ๊ะ จะพยายามมาตอบให้ละเอียดที่สุด สู้ๆ นะคะ!

    #10
  • 1
  • 2

แสดงความคิดเห็น