"พีช" The 38 years ago พลาดรับตรง 5 ที่ แต่วันนี้เกรดสูงสุดในสาขา


          สวัสดีค่ะ กลับมาอีกแล้วกับ Admission Idol บอกเลยว่ารุ่นพี่ของเราวันนี้ น้องๆ หลายคนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตากันมาก่อนจาก youtube หรืออาจจะเคยหลงรักเสียงใสๆ ของพี่คนนี้มาแล้วก็ได้ นึกออกกันไหมคะ ว่าพี่อีฟกำลังพูดถึงรุ่นพี่ของเราคนไหนกัน เพื่อไม่ให้น้องๆ เสียเวลาทายกันนาน พี่อีฟจะพาน้องๆ ไปรู้จักกับรุ่นพี่คนนี้กันเลยค่ะ

         วันนี้พี่อีฟขอพาน้องๆ ไปรู้จักกับ " พี่พีช " ปณิชา เมธาวิชิตชัย หรือว่า พี่พีช จาก the 38 years ago นั่นเองค่ะ ใครที่เคยติดตามผลงานเพลงของพี่พีช วันนี้เรามาดูมุมการเรียนของพี่พีชกันบ้างค่ะ ที่กว่าจะมาถึงวันนี้ก็ไม่ได้ง่ายเลย เคยพลาดหวังจากรับตรง แต่ฟิตสู้ติดแอดมิชชั่น และปัจจุบันยังขยันจน
ได้เกรดเฉลี่ยสูงสุดปี 1 - ปี 2 ในสาขา ! ไปติดตามเรื่องราวความพยายามและการแบ่งเวลาของพี่พีชกันเลยดีกว่าค่ะ
 

แนะนำตัวให้น้องๆ ชาวเด็กดีได้รู้จักกันหน่อยค่ะ
          สวัสดีค่ะ ชื่อปณิชา เมธาวิชิตชัย พีชค่ะ นักร้องนำวง the 38 years ago ตอนนี้เรียนเอกการสื่อสารเพื่อสุขภาพ วิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม มศว (หรือที่หลายคนอาจจะคุ้นกันว่า คือ นิเทศศาสตร์ มศว) จบชั้นม.ปลายจาก โรงเรียนประภามนตรี 2 สมุทรปราการ แผนการเรียน วิทย์-คณิตฯ ค่ะ

จากวิทย์ - คณิตฯ มาเป็นสายนิเทศฯ
          ตอนนั้นพีชจบวิทย์-คณิตฯ มาด้วยเกรดเฉลี่ย 3.01 ต้องบอกว่า รอดตายมาก คืออีกนิดก็จะไม่ถึงสามแล้ว เรารู้ตัวเองว่า เราไม่รอดตั้งแต่เจอชีวะฯ เคมี ฟิสิกส์แล้ว คือจริงๆ เราไม่ถนัดวิทย์ - คณิตฯ มากๆ ค่ะ ไม่ได้ชอบ และไม่ได้คิดอยากจะเรียนต่อด้านนี้เลย แต่ตอนนั้นเราก็เหมือนเด็กมัธยมทั่วไป เราก็ตามเพื่อน เพื่อนไม่ให้ย้าย ก็ต้องเรียน55555 ซึ่งถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ถ้าเราได้เรียนตรงสายที่เราอยากเรียน ก็คงจะทำให้เราเกรดดีกว่านี้ และคะแนน GPAX ก็น่าจะช่วยดึงขึ้นไปอีกเยอะเลยค่ะ

ช่วงเวลาสำคัญกับการค้นหาตัวเอง
          ตอนแรกรู้ว่าชอบภาษาอังกฤษค่ะ และตั้งใจอยากเรียนอักษรศาสตร์ มนุษยศาสตร์ แต่เราไปพลาดตอนสอบตรงคณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ มันก็เหมือนเป็นจุดเปลี่ยนเลยนะ จริงๆ เราไม่เคยรู้เลยว่าเราชอบงานคิดสร้างสรรค์ creative เพิ่งค้นตัวเองเจอเหมือนกันค่ะว่าชอบด้านนี้ด้วย อย่างคณะนี้ตอนแรกเราก็ไม่รู้จักเลยค่ะ เลยไปหาข้อมูลและรู้ว่าคงเป็นคล้ายๆ นิเทศศาสตร์ คณะนี้เรียนที่อโศก(มศว ประสานมิตร) 4 ปี ด้วยค่ะ เราก็คิดว่าโอเค ไม่ไกลด้วย และก็ได้คำปรึกษาจากรุ่นพี่ที่เรียน รุ่นพี่ก็แนะนำว่า เรียนเกี่ยวกับการสร้างสรรค์สื่อ คิดสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ผสมการสื่อสาร ศิลปะออกแบบ การตลาด มีศาสตร์วิทย์นิดนึงด้วย และสาขาที่พีชเรียนจะเป็นการสื่อสารเพื่อสุขภาพ เป็นสาขาที่ต้องออกแบบสร้างสรรค์งานด้านสุขภาพให้คนสนใจ ให้มันทันสมัยมากขึ้น เข้าถึงคนมากขึ้น เพราะที่เราเคยเห็น คือสื่อสุขภาพมันค่อนข้างไม่ทันสมัย แล้วพอพีชเข้ามาเรียน ก็ชอบนะคะ รู้สึกว่าอยากเปลี่ยนแปลงสื่อสุขภาพให้มันทันสมัยจริงๆ พีชคิดว่าเหมือนบางทีก็เป็นเรื่องของจังหวะหรือโชคชะตาอะไรเล่นตลกให้เราแบบอาจจะเสียบางอย่าง และได้บางอย่างแทน ซึ่งเราก็ยอมรับมัน และรู้สึกดีใจที่ได้มาเรียนสาขานี้

การค้นหาตัวเองไม่ใช่เรื่องยาก แต่บางทีก็อาจจะไม่ง่าย
          น้องๆ ที่ค้นหาตัวเองบางคนที่ยังไม่รู้ตัวเอง พีชว่าคนเราต้องลองอะไรหลายๆ อย่าง บางคนอาจจะมองว่า เราต้องเลือกสิ่งที่ชอบ แต่สำหรับพีชสิ่งที่เราชอบก็ต้องสามารถเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้ในอนาคตด้วย เราไม่จำเป็นต้องตามกระแสสังคมหรือตามใจสิ่งที่คนอื่นต้องการมากเกินไปด้วยค่ะ ลองใช้เวลาถามตัวเองดีๆ ต้องให้เวลากับตัวเอง เมื่อรู้แล้วว่าเราต้องการอะไร ก็ทำโอกาสที่มีอยู่ให้เต็มที่ และเราจะได้เรียนอย่างมีความสุขค่ะ ถึงแม้ว่าสิ่งที่เราชอบอาจจะไม่เหมือนคนอื่นเท่าไหร่ พีชมองว่าก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรนะ เราไม่จำเป็นต้องเหมือนคนอื่นทุกอย่าง เพราะคนเรามีความต่างกัน ในโลกเลยมีความต่างของหลายๆ ศาสตร์ หลายๆ ความถนัดมาแลกเปลี่ยนส่งเสริมกันให้สมบูรณ์ อยากให้น้องๆ มั่นใจในสิ่งที่ทำ และนำมันเป็นแรงบันดาลใจไปให้ถึงฝันค่ะ
 

จุดเปลี่ยนความฝันกับการพลาดรอบรับตรง
          ตอนม.6 พีชสมัครรับตรงไปเยอะเหมือนกันนะคะ ถ้าเรียงตามการสมัครก่อน-หลัง ก็จะเป็น
          - คณะมนุษย์ศาสตร์ ภาษาเพื่ออาชีพ มศว (เป็นที่แรกเลย แต่ไม่ติดค่ะ55555)
          - โครงการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ (ไม่ผ่านรอบสัมภาษณ์)
          - รับตรง คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ (ไม่ติดค่ะ)
          - รับตรง คณะโบราณคดี ม.ศิลปากร (ไม่ติดค่ะ ขาด 0.5 คะแนนเอง T^T)
          - รับตรง คณะสังคมศาสตร์ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภาคพิเศษ ม.เกษตรศาตร์ (ติดตัวสำรองอันดับ 2 ค่ะ แต่ตอนนั้นต้องเลือกระหว่างรับตรงนี้กับแอดมิชชั่น เพราะติดพร้อมกัน เราเลยเลือกแอดมิดชั่นค่ะ)

          ที่บอกว่าตอนสอบตรงคณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ เป็นจุดเปลี่ยนเลย ก็เพราะตอนสอบ 7 วิชาสามัญค่ะ(ปัจจุบันคือ 9 วิชาสามัญ) พีชตั้งใจจะทำคะแนนในวิชาภาษาไทย สังคมศึกษา ภาษาอังกฤษ ให้ได้คะแนนเยอะหน่อย เพราะต้องใช้ยื่นคะแนน แล้วตอนสอบวิชาภาษาอังกฤษ พีชจำเวลาผิดค่ะ พีชนั่งทำ passage ที่ยากๆ เยอะๆ จนหมด แล้วเก็บข้อที่ง่ายไว้ทีหลัง แล้วพีชก็ตั้งเวลาไว้ว่า 10 โมงครึ่ง จะมาเก็บข้อง่ายๆ ข้างหน้า ปรากฏว่า 10 โมงตรง พีชทำช่วงหลังที่ยากๆ เสร็จแล้ว กำลังจะมาเก็บข้อง่ายๆ ด้านหน้า อาจารย์มาดึงข้อสอบไปเลยค่ะ ไม่พูดสักคำ คือหมดเวลาแล้ว พีชอึ้งมาก เหมือนความฝันล่มสลาย คำว่าอักษรฯ จุฬาฯ แตกดัง เพล้ง! เศร้ามาก T^T คือไม่ได้ฝนไป 38 ข้อค่ะ เว้นว่างเลย คือทำไปได้ 42 ข้อ แล้ว และภาษาอังกฤษคือความหวังมาก เพราะเตรียมตัวมาเต็มที่ ผลที่ออกมาคือ 42 ข้อที่ยากนั้น เราได้คะแนนเกินครึ่งแล้ว ถ้าทำอีก 38 ข้อทัน คะแนนคงโอเคเลย เรื่องนี้เป็นเรื่องที่พีชจำมาตลอดเลยค่ะ และสอนให้เรารู้ว่าไม่ควรประมาทค่ะ ฝากน้องๆ เลยว่า ต้องตรวจดูเวลาที่กระดาษคำถามให้แน่ใจ อย่าคิดไปเองเหมือนพีช

ช่วงเวลาฟิตสู้จากรอบรับตรง สู่รอบแอดมิชชั่น
          จริงๆ แล้วพีชเตรียมตัวมาตั้งแต่ตอนรับตรงนะคะ คือเตรียมตัวตั้งแต่ตอนม.4 เทอมปลาย แต่ก็มาจริงจัง แบบที่รู้จริงๆ ว่าต้องใช้อะไรสอบเข้าหรือยื่นคะแนนอะไรบ้างก็ตอนม.5 ค่ะ ซึ่งระหว่างนั้นเราก็อยู่กับข้อสอบ และอ่านหนังสือ มาตลอดๆ ค่ะ เวลามีงานติวฟรีที่ไหน พีชก็ไปนะคะ เพราะก็ได้ทั้งเทคนิคต่างๆ มากมาย แล้วก็ได้ข้อสอบมาฝึกฝนทำอีกด้วยค่ะ ช่วยได้เยอะเหมือนกันนะคะ ถ้าเอาเทคนิคที่ได้เรียนรู้จากแต่ละที่มารวมกัน
           นอกเหนือจากช่วงเวลาที่เราตั้งใจว่าจะเป็นช่วงอ่านหนังสือ อย่างตอนที่ไปเรียนที่โรงเรียน แล้วว่าง เราก็จะนั่งทำข้อสอบบ้าง อ่านหนังสือบ้าง กลับบ้านก็แบ่งเวลาค่ะ เพราะพีชทำงานไปด้วย บางครั้ง เวลาหายไปเยอะมากกับการทำกิจกรรมอะไรบางอย่าง ดังนั้น ถ้ามีเวลาว่าง พีชก็จะใช้เวลาที่มีอยู่ให้คุ้มค่าที่สุดค่ะ แต่ก็ไม่จริงจังมากนะคะ คือก็มีเล่นบ้าง มีเวลาว่างบ้าง ตามปกติค่ะ ผสมๆ กันไป เครียดได้ ก็ต้องสนุกได้ จะได้มีแรงสู้ต่อ :)
 

สนามสอบสำคัญ GAT PAT / O-NET
          ถ้าแบ่งเป็นการสอบใหญ่ๆ อย่างสอบ GAT PAT พีชสอบ GAT และแบ่งสอบ PAT 7 ภาษาจีน กับ PAT 7 ภาษาบาลี ค่ะ ตอนเตรียมตัวสอบ GAT PAT ถ้าเป็น GAT Eng พีชเรียนพิเศษค่ะ ส่วน GAT เชื่อมโยง พีชเน้นทำข้อสอบในหนังสือค่ะ ทำหลายๆ เล่ม เรียนรู้เอง และก็ถามเพื่อนเพิ่มเติมค่ะ ส่วน PAT 7 ภาษาจีน กับ PAT 7 ภาษาบาลี เราลองสอบดูเอาไว้ยื่น อักษรฯ จุฬาฯ ค่ะ
         
คะแนน GAT ที่ดีที่สุดของพีช คงเป็นรอบแรกค่ะ ได้ 219.5 คะแนน GAT เชื่อมโยงได้ 117 คะแนน GAT Eng ได้ 102.5 คะแนนค่ะ เสียดายภาษาไทยได้น้อยไปหน่อยค่ะ เป็นอีกอย่างเลยที่ถ้าเราย้อนเวลาได้ ก็อยากทำ GAT เชื่อมโยงให้ได้เต็ม ก็คงคะแนนสูงกว่านี้ค่ะ

          ส่วนสอบ O-NET เรารู้สึกว่ามันยากทุกวิชานะตอนทำข้อสอบ5555 แล้วแต่คนถนัดมากกว่าค่ะ สำหรับพีชชอบภาษาอังกฤษค่ะเลยคิดว่าถนัดมากที่สุด แต่ก็ไม่ได้คิดว่ามันง่ายเลยนะ ตอนเตรียมตัวเราก็แบ่งเป็น อ่าน 40% ทำข้อสอบ 60% เลยค่ะ ส่วนใหญ่ช่วงแรกก็จะอ่านก่อน เพื่อจะได้จดจำและเข้าใจเนื้อหา แล้วก็ค่อยมาเน้นทำข้อสอบค่ะ จะได้เกิดความคุ้นเคยกับข้อสอบ และตรวจสอบความเข้าใจจากการอ่านของเราด้วยค่ะ ลองเอาข้อสอบเก่าๆ มาลองทำด้วย เพราะจะได้รู้แนวทางและก็จับประเด็นได้ค่ะ ซึ่งถ้าเราทำมามากพอ เราจะรู้เลยว่าบางข้อก็คล้ายกับข้อสอบจริงเลยค่ะ
          คะแนน O-NET ที่ดีสุดของพีชก็คงเป็นภาษาไทยค่ะ ได้ 69 คะแนน ส่วนวิชาอื่นก็ได้ลดๆ กันลงมา ใกล้เคียงกันไป55555

 4 อันดับแอดมิชชั่น
          อันดับ 1 คณะจิตวิทยา จุฬาฯ
          อันดับ 2 คณะมนุษศาสตร์ สื่อสารมวลชน ม.เกษตรศาสตร์
          อันดับ 3 วิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม สาขาการสื่อสารเพื่อสุขภาพ มศว
          อันดับ 4 คณะมนุษย์ศาสตร์ ปรัชญาศาสนา ม.เกษตรศาสตร์
          อันดับ 1 เราเลือกไว้เพราะตอนนั้นเราก็สนใจคณะนี้ด้วย แต่ก็รู้นะ ว่าตอนนั้นคะแนนไม่น่าจะติดอันดับหนึ่ง แต่ก็เลือกทำตามคำแนะนำของ Dek-D ค่ะ ว่าอันดับหนึ่งให้เลือกตามความฝันไว้ก่อน :)
          ส่วนอันดับ 2 เป็นสื่อสารมวลชน และเปิดรับแบบภาษาบาลีเป็นปีแรก ตอนนั้นก็ไม่รู้แนวโน้มเลย เพราะเป็นปีแรก ค่อนข้างเสี่ยงค่ะ ไม่รู้คะแนนจะเทไหม แต่คะแนนภาษาบาลี เราก็ค่อนข้างโอเคเลยลองยื่นค่ะ
          อันดับ 3 คือตั้งแต่สนใจด้านนิเทศศาสตร์ ก็พุ่งเป้ามาด้านนี้แล้ว คณะนี้ก็เหมือนเป็นนิเทศศาสตร์ ของมศว และคะแนนแนวโน้ม เราน่าจะมีสิทธิ์ด้วยค่ะ ก็เลยลองดู
          
อับดับ 4 ก็ยังอยู่ในอะไรที่เราชอบนะ แล้วก็เลือกไว้กันหลุดด้วย
          คิดว่า 4 อันดับนี้ ได้เรียนที่ไหนก็คงดีใจ

          จริงๆ พีชต้องขอบคุณ Dek-D มากๆ เลยค่ะ อย่างคำแนะนำด้านการเลือกอันดับต่างๆ เราใช้โปรแกรมคำนวณคะแนนของที่นี่บ่อยมาก และมันมีส่วนช่วยในการตัดสินใจเลือกของเราเลยจริงๆ อันนี้ไม่ได้ไทอินนะ ฉันพูดจริงเลย55555
 

คณะที่เลือก กับวิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม
          วิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม เป็นนิเทศศาสตร์แบบ 2 ภาษา ภาษาไทยและภาษาอังกฤษค่ะ มี 9 วิชาเอก การออกแบบสื่อปฏิสัมพันธ์และมัลติมิเดีย / การจัดการธุรกิจไซเบอร์ / คอมพิวเตอร์เพื่อการสื่อสาร / การสื่อสารเพื่อการจัดการนวัตกรรม / การสื่อสารเพื่อการท่องเที่ยว / การสื่อสารเพื่อการท่องเที่ยว / การสื่อสารเพื่อสุขภาพ / การผลิตภาพยนตร์และสื่อดิจิตอล / การแสดงและกํากับการแสดงภาพยนตร์ / การออกแบบเพื่องานภาพยนตร์และสื่อดิจิตอล
          อย่างเอกที่พีชเรียนคือ เอกการสื่อสารเพื่อสุขภาพค่ะ ตอนแรกที่เราแอดมิดชั่นเข้ามา ก็ยังมีงงๆ นะคะ มองไม่เห็นภาพรวมว่าจะเป็นยังไง แต่พอได้มาเรียนจริงๆ เราก็สนุกค่ะ คิดอยากเปลี่ยนแปลงสื่อสุขภาพแบบจริงจัง ได้คิดอะไรใหม่ๆ ตลอดเวลา มีศาสตร์วิทย์และศิลป์ผสมกัน  พูดเรื่องสุขภาพให้มันสร้างสรรค์ ทันสมัย มีความแปลกใหม่ น่าสนใจ อยากพัฒนาสื่อสุขภาพให้คนเข้าถึง โดยส่วนตัว พอเข้ามาเรียนจริงๆ แล้ว พีชมองว่ามันสำคัญนะ เราอยากให้มันอยู่กับคนอย่างสม่ำเสมอ ตลอดไป ไม่ใช่แค่แฟชั่นหรือเทรนด์ที่มาแล้วก็ไป อาจจะไม่ต้อง healthy มาก จนเหมือนตึงเกินไป แต่ก็อยากให้เรื่องสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญ อยู่ในชีวิตทุกๆ คนแบบสมดุล อยากให้ทุกคนหันมาดูแลสุขภาพตัวเองด้วย เราจะได้มีแรงใช้ชีวิตทำตามความฝัน แล้วก็ได้ใช้ชีวิตเพื่อรับและให้คนอื่นไปพร้อมกันๆ ต่อไป


ตอบโจทย์เราไหมกับการเรียนเอกนี้
          พีชชอบนะคะ รู้สึกว่าอยากเปลี่ยนแปลงสื่อสุขภาพให้มันทันสมัยจริงๆ อย่างในปัจจุบันนี้คนก็หันมาดูแลตัวเองมากยิ่งขึ้น เรายิ่งดีใจค่ะ เพราะตั้งแต่เรียนมาสาขานี้สอนอะไรหลายอย่างมาก เราคิดว่าเราโชคดีมาก ที่ได้มาเรียนตรงนี้และเพิ่งได้รู้ตัวเองว่าชอบทำงานหรือชอบคิดอะไรใหม่ๆ สิ่งที่เราเรียนมันยังสามารถให้อะไรตอนแทนกลับสู่สังคมได้มาก งานสื่อสารสุขภาพของเราหนึ่งชิ้น อาจทำให้ชีวิตคนๆ หนึ่ง เปลี่ยนแปลงไปได้เลย ทำให้สุขภาพเขาดีขึ้นได้ เรามองว่าเป็นสิ่งที่น่าภูมิใจมาก นี่คือสิ่งที่เราคิดและตั้งใจที่จะทำจริงๆ
 

เทคนิคพิชิตการเรียนในแบบฉบับของพีช
          อย่างแรกที่อยากฝากเลย คือ พีชอยากฝากเทคนิคการแบ่งเวลาค่ะ อาจารย์ที่เคยสอนพีช เคยสอนให้พีชเขียนเวลาเป็นชั่วโมงใส่กระดาษแล้วขีดฆ่าไปว่าเราทำอะไรบ้าง หายไปกี่ชั่วโมง แล้วบางอย่างเราควรเอาเวลาที่หายไป มานั่งอ่านหนังสือได้ตั้งหลายชั่วโมง เป็นอะไรที่ทำให้พีชเห็นภาพชัดมากค่ะ
          อย่างที่สองคือ เทคนิคการอ่านสรุปออกเสียงค่ะ เวลาอ่านหนังสือ ทุกครั้งที่เราอ่านเสร็จ ควรเขียนสิ่งที่ตัวเองเข้าใจ สรุปลงกระดาษ อ่านให้ตัวเองได้ยิน เพื่อให้ครบกระบวนการของประสาทสัมผัส และเราจะสามารถจดจำได้ด้วยความเข้าใจ รวมถึงเราจะสามารถนึกภาพตามได้อย่างแท้จริงค่ะ
          อย่างที่สามคือ เทคนิคการทำใจให้สงบ สำหรับพีช พีชนั่งสมาธิก่อนอ่านหนังสือ และทุกครั้งก่อนสอบเลยค่ะ ซึ่งมันจะช่วยในการเรียงลำดับสิ่งที่เราอ่านมาทั้งหมด และสามารถนึกภาพตามได้ ทำให้จิตเรานิ่งสงบไม่ลน และความรู้ไม่ตีกันไปหมด
          ซึ่งวิธีเหล่านี้มันใช้ได้จริงกับตัวพีชเอง พีชพิสูจน์มาแล้วด้วยตัวเอง อย่างตัวพีชต้องทำงานไปด้วยและเรียนไปด้วย การจัดแบ่งเวลาจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากค่ะ เพราะเราทุ่มเทให้เต็มที่ทั้งสองอย่าง พีชเชื่อว่าเราสามารถทำให้ทั้งสองอย่างออกมาดีได้ อย่างตอนนี้ที่พีชกำลังเรียนอยู่ ปัจจุบันพีชได้เกรดเฉลี่ยสูงสุดปี 1 - ปี 2 ในสาขา และพีชก็ตั้งเป้าหมายว่าจะทำเกียรตินิยมอันดับหนึ่งมาให้คุณพ่อคุณแม่ให้ได้ค่ะ คือต้องขอบคุณในความอึด ความอดทน และความเพียรพยายามของเรามากๆ จากที่เคยพลาดหวังสอบตรงที่ต้องการไม่ติด แต่ตอนนี้เรามาถึงจุดนี้ได้ ถือว่าตัวเองทำเต็มที่แล้ว


อยากฝากอะไรถึงน้องๆ
          อยากให้น้องๆ ทุกคนสู้ๆ ค่ะ พีชรู้ว่า ทุกคนมีความขี้เกียจ พีชเองก็เหมือนกัน55555 แต่เราต้องรู้จักหลุดออกมาจากมันให้ได้ด้วย มันต้องมีอยู่แล้วที่เราจะขี้เกียจ แต่จะทำยังไงที่พอรู้ตัวว่าขี้เกียจ แล้วสามารถดึงตัวเองออกมาได้ ทุกคนต้องอดทนหน่อย
          พีชขอให้ทุกคนเชื่อมั่นในพลังของตัวเอง พีชเป็นกำลังใจให้ค่ะ จากตัวพีชเองก็เป็นคนๆ หนึ่งที่ไม่เก่งเลย แต่พีชก็ขยันขึ้นและอดทนมาตลอด พีชเข้าใจเลยนะ คนที่สู้ตั้งแต่รอบสอบตรงไม่ติด แล้วต้องรอแอดมิดชั่น เพราะเราก็เคยเป็นมาก่อน
          อยากจะบอกว่า ถ้าเราขยันและอดทน เดี๋ยวมันก็จะผ่านไป ผ่านไปด้วยดีด้วย และมันจะคุ้มค่าต่อความอดทนที่เราทำมาทั้งหมด ผลสุดท้ายเป็นยังไงอย่าเพิ่งคิด อยู่กับปัจจุบันก่อน ตอนนี้ เวลานี้ เราสู้มากพอแล้วหรือยัง ฮึบๆ เต็มที่นะ! ปลายทางเป็นยังไง อย่างน้อยเราก็ได้ลงมือทำ ได้ลองดู ได้พยายามให้มันเต็มที่จนสุดทางแล้ว ได้เรียนรู้ และทุกอย่างจะสอนเรา จะกลายเป็นประสบการณ์ให้เราทั้งนั้น ไม่ว่ามันจะผิดหวังหรือพลาดพลั้งก็ตาม :) 

 

          เป็นยังไงกันบ้างคะกับเรื่องราวของพี่พีช ใครจะรู้ว่าภายใต้เสียงร้องเพลงอันสดใส ก็มีเรื่องราวการเรียนที่เคยผ่านช่วงเวลาการเรียนที่ไม่สมหวังมาก่อน แต่พี่อีฟก็เชื่ออย่างที่พี่พีชบอกนะคะ ว่าถ้าเราขยันและอดทน เดี๋ยวมันก็จะผ่านไป ผ่านไปด้วยดีด้วย และมันจะคุ้มค่าต่อความอดทนที่เราทำมาทั้งหมด สวัสดีค่ะ
 
พี่อีฟ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

6 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
pranaity 21 ธ.ค. 58 20:31 น. 6
ตอนเราคุยกับพี่พีช พี่พีชก็บอกว่าเสียดายข้อสอบอังกฤษ พี่พีชฝากกำลังใจถึงทุกๆคนน่ะ เหนื่อยก็พัก ขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้น้องและเพื่อนๆม.6ทุกคนน่ะคร้า รักพี่พีชเยี่ยม
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด