ยิ่งพยายาม ยิ่งสำเร็จ! "มิณทร์" สอบเทียบ ม.6 + ติดแพทย์ศิริราชฯ ด้วยเลข 90+ (วิชาสามัญ/O-NET)


          สวัสดีค่ะ หลังจากผลสอบ กสพท. ที่ผ่านมา พี่อีฟก็ขอแสดงความยินดีกับว่าที่คุณหมอทุกคนด้วยนะคะ ในปีนี้แอบเห็นหลายๆ กระทู้ แสดงความยินดีกับน้องๆ ในวงการบันเทิงที่ติดรอบ กสพท. กันหลายคนเลย น่าชื่นชมน้องๆ ทุกคนที่สามารถแบ่งเวลาทั้งการทำงานและการเรียนได้อย่างดีเยี่ยมค่ะ
          วันนี้ Admission Idol เลยขอคว้าอีกหนึ่งหนุ่มที่คุ้นหน้าคุ้นตาในวงการบันเทิง และสามารถสอบติด
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล มาพูดคุยกันแบบเจาะลึกถึงเคล็ดลับ และความพยายามที่ผ่านมา ใช่แล้วค่ะ พี่อีฟกำลังพูดถึง มิณทร์ ยงสุวิมล ไปติดตามเรื่องราวของมิณทร์กันเลยค่ะ
 

แนะนำตัวให้น้องๆ รู้จักกันหน่อยค่ะ
          สวัสดีครับ ผมชื่อ มิณทร์ ยงสุวิมล กำลังจะอายุ 17 ปี ตอนนี้มีชื่อเป็นผู้ผ่านการคัดเลือกเข้าศึกษาในคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ผ่านระบบรับตรง กสพท. ครับ ซึ่งก่อนที่ผมจะสอบ IGCSE เทียบชั้น ม.6 ผมเรียนที่โรงเรียนประชาคมนานาชาติ (ICS) จบมาด้วยเกรดเฉลี่ยประมาณ 3.80 ครับ

จุดเริ่มต้นของความสนใจกับอาชีพหมอ
         เริ่มตั้งแต่อายุประมาณ 12-13 ปีครับ ตอนนั้นคุณตาและคุณยายเข้าโรงพยาบาลบ่อยมาก แล้วเราก็มีโอกาสได้ไปเฝ้าตลอด ทำให้เกิดความรู้สึกว่า ถ้าเราเรียนด้านนี้ อาจจะช่วยเหลือคุณตาคุณยายได้ หรือเราอาจจะได้มีโอกาสรู้ว่าคุณตาคุณยายเป็นแบบนี้เพราะอะไร นอกจากนั้นการที่เราไปเฝ้าท่านบ่อยๆ ทำให้เราก็ได้เห็นผู้ป่วยคนอื่นๆ ด้วย บางคนเราก็เห็นตั้งแต่เขาเข้ามา จนเขาออกไป ซึ่งทุกครั้งที่ผู้ป่วยหายดีหรือได้ออกจากโรงพยาบาล เราก็จะเห็นผู้ป่วยเหล่านั้นขอบคุณคุณหมอ ซึ่งเรารู้สึกได้ว่าการขอบคุณนั้นไม่ใช่การขอบคุณแบบผ่านๆ หรือขอบคุณแบบขอไปที แต่เป็นความรู้สึกขอบคุณจากใจ มันผ่านออกมาจากทั้งน้ำเสียง สีหน้า แววตา ทำให้เรารู้สึกชื่นชมแล้วก็ประทับใจ และอยากรับรู้ถึงความรู้สึกแบบนี้บ้างครับ
 

สนามรับตรงสอบอะไรไปบ้าง
         - รับตรงวิทยาลัยแพทยศาสตร์ สาขาวิชาแพทยศาสตร์ (โรงพยาบาลราชวิถี) ม.รังสิต
         - รับตรงแพทยศาสตร์ กสพท.


สนามแรกกับความถนัดแพทย์
          ต้องบอกเลยว่าความถนัดแพทย์ ก่อนสอบเราค่อนข้างมีความมั่นใจ เพราะเตรียมตัวมาเต็มที่ ลองทำข้อสอบเก่าๆ ก็รู้สึกว่าทำได้ ไม่น่าจะยากมาก แต่พอถึงวันสอบ เจอพาร์ทแรกคือพาร์ทเชาวน์ เราทำไม่ค่อยได้เลย คือเหมือนเรารู้สึกตื่นเต้น เหงื่อออก คิดมากว่าเดี๋ยวเวลาหมด ก็ได้แต่นั่งมองนาฬิกา แล้วก็นั่งมองข้อสอบ สลับกันไปมา ทำให้ทำไม่ค่อยทันเท่าไหร่
          พอมาพาร์ทจริยธรรม เราก็ค่อนข้างมั่นใจมากอีกแล้ว 55555 เพราะเราใช้เทคนิคตัดตัวเลือกครับ ดูว่าตัวเลือกไหนตอบไม่ได้ เราก็ตัดออก จนเหลือข้อสุดท้ายที่เรามั่นใจว่าต้องถูกแน่นอน เราก็จะเลือกข้อนั้น แต่พอคะแนนออกมาแล้ว ก็ไม่ค่อยเป็นไปตามที่หวังไว้เท่าไหร่ มีพาร์ทเชื่อมโยงที่เราได้เต็ม แต่พาร์ทอื่นก็ไม่เท่ากับที่หวัง ได้ประมาณ 19 คะแนนครับ เราก็เศร้านิดหน่อยตรงที่เราคาดหวังว่าจะได้คะแนนเยอะกว่านี้ เพราะคะแนนปีก่อนๆ ที่เราจะเห็นว่าสูงประมาณ 21-22 เราก็เลยตั้งเป้าไว้ว่าอยากจะได้อย่างน้อยสัก 21 คะแนน 


ด่านต่อไปกับสนามวิชาสามัญ
          หลังจากผลความถนัดแพทย์ออกมาแล้วไม่เป็นไปตามเป้า เราก็ฮึดขึ้นมากๆ เลยครับ เพราะคะแนนที่เราได้ห่างจากคะแนนที่เราคิดไว้ตั้ง 2 คะแนน ทุกคนที่สอบจะรู้ว่า 2 คะแนน มันมีค่ามาก เพราะมันอาจจะเปลี่ยนผลจากติดเป็นไม่ติดเลยก็ได้ เราก็เลยฟิตขึ้นมาเยอะมาก ถึงเราจะเก็บเนื้อหาหมดแล้ว เราก็กลับมาทบทวนให้หนักขึ้น ทวนซ้ำไปซ้ำมาให้จำได้ พอถึงวันสอบ ไปเจอข้อสอบจริง เราก็ตกใจนะ เพราะจากที่เราเคยทำข้อสอบเก่ามาก่อน เราก็จะรู้ว่าข้อสอบปีนี้มันมีบางวิชาที่ยากขึ้นกว่าเดิม แต่จริงๆ มันก็มีบางวิชาที่ง่ายขึ้น เราก็ทำได้ เหมือนเฉลี่ยๆ กันไป ก็มีวิชาคณิตศาสตร์ที่ได้คะแนนดี ประมาณ 90 คะแนนครับ
 

สนามสอบ O-NET เป็นยังไงบ้าง
         สำหรับผมก็โอเคนะครับ อย่างถ้าเทียบกับวิชาสามัญ O-NET ก็จะง่ายกว่า แต่ถามว่าง่ายขนาดที่ทำได้หมดไหม ก็ไม่นะครับ 55555 อย่างเช่นปีนี้ที่เด่นๆ ก็จะเป็นพาร์ทดาราศาสตร์ที่ยาก และพวกชื่อไดโนเสาร์ที่เราไม่เคยเจอมาก่อน ซึ่งผมไม่ได้อ่านไป ก็จะทำไม่ค่อยได้
แต่คะแนนโดยรวมก็โอเคครับผม ผ่านครับ จะมีวิชาที่ได้คะแนนดี คือ คณิตศาสตร์ได้ 95 คะแนน และภาษาอังกฤษได้ 91 คะแนนครับ

คะแนนเลขดีมากทุกครั้ง มีเคล็ดลับอะไร ที่ทำให้ได้คะแนนสูง
          ฝึกทำโจทย์บ่อยๆ ครับ เพราะคณิตศาสตร์เป็นวิชาคำนวณ พวกวิชาคำนวณต้องอาศัยการทำโจทย์เยอะๆ เพราะเราต้องเรียนรู้ที่จะสามารถรับมือกับโจทย์ให้ได้ทุกแบบ นอกจากนั้นคณิตศาสตร์ยังต้องอาศัยความเร็วในการทำและความถูกต้องด้วยครับ ดังนั้นนอกจากการทำโจทย์สม่ำเสมอแล้ว ผมก็จะจับเวลาในการทำข้อสอบหรือทำแบบฝึกหัดทุกครั้ง 
 

กสพท. เป็นยังไงบ้าง การเลือกอันดับกับคะแนน
         1. แพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล
         2. แพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ม.มหิดล
         3. แพทยศาสตร์วชิรพยาบาล ม.นวมินทราธิราช
         4. แพทยศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์

         - คะแนนรวม 67.5444  คะแนน
            * คะแนนวิชาเฉพาะแพทย์ ประมาณ 19 คะแนน
            * คะแนนวิชาสามัญ ประมาณ 48.54 คะแนน ครับ


ได้ยินมาว่าใช้เคล็ดลับ "การอ่านตลอดเวลา"
         ใช่ครับ จริงๆ ครึ่งปีหลังก่อนสอบผมตั้งใจไว้เลยว่าจะต้อง "อ่านตลอดเวลา" คือไม่ใช่อ่านจนไม่ได้นอนหลับ ไม่ได้พักผ่อนเลยนะครับ ก็มีเวลาพักบ้าง แต่ให้น้อยลงกว่าที่เราเคยมี พยายามอ่านให้เยอะที่สุด เพราะเวลาเหลือน้อยแล้ว ตอนนั้นก็คิดว่าอ่านให้เต็มที่ก่อน พักผ่อนไว้หลังสอบแล้วกัน ไม่ได้อ่านจนเครียดนะครับ แต่ก็พยายามให้หนังสืออยู่ติดมือเราตลอด ว่างเมื่อไหร่ก็หยิบมาอ่าน หยิบโจทย์มานั่งทำ จะทำให้รู้สึกว่าความรู้มันอยู่กับเราตลอดเวลาครับ

ประเด็นที่หลายคนสงสัย อายุของเรากับการสอบ กสพท.
        ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า จากระเบียบการของ กสพท. คือกำหนดว่าจะต้องมีวุฒิชั้นม.6 หรือหลักสูตรอื่นที่เทียบเท่าครับ ในกรณีของมิณทร์คือมิณทร์สอบเทียบของ IGCSE คือถ้าเราสอบได้ 5 วิชาขึ้นไป ก็สามารถนำผลการสอบและเกรดไปเทียบวุฒิระดับมัธยมศึกษาตอนปลายให้เราได้ครับ ซึ่งจริงๆ แล้ว 5 วิชานี้ มีหลายวิชามากๆ เราเลือกได้นะครับว่าจะใช้วิชาอะไรได้บ้าง บางคนอาจจะถนัดเป็นบริหาร ท่องเที่ยว ธุรกิจ ฯลฯ แต่สำหรับผมก็เลือกสอบเลขกับวิชาสายวิทย์ครับ เพราะก็ต้องเลือกวิชาที่สัมพันธ์กับคณะที่จะสอบเข้าด้วย แล้วเราก็สมัครของ กสพท. ไปตามขั้นตอนทุกอย่าง สมัครสอบวิชาสามัญ สมัครสอบ O-NET เพราะเรามีวุฒินี้แล้ว ก็เหมือนมีใบจบม.6 แล้วครับ
 

ตัวอย่างเลกเชอร์ของมิณทร์ในวิชาชีววิทยา

1 วัน กับการอ่านหนังสือในแบบของเรา
          ต้องบอกว่าใน 1 วัน นี่ต้องแล้วแต่วันเลยครับ บางวันผมก็เรียนตั้งแต่ 08.00-22.00 น. แล้วกลับมาอ่านต่อ ทำโจทย์ต่อก็มีครับ หรือก็มีบางวันที่ไม่มีเรียนเลย เราก็จะอยู่บ้านเพื่ออ่านหนังสือ บางทีก็ออกไปร้านกาแฟ ไปอ่านหนังสือนอกบ้านบ้างครับ หรือบางวันก็ทำโจทย์ทั้งวันเลย แล้วแต่วันครับ ถ้ามองเป็นภาพรวม ผมจะแบ่งเป็นวิชาคำนวณกับวิชาที่ต้องท่องจำ
          - วิชาคำนวณ เช่น วิชาคณิตศาสตร์, ฟิสิกส์, เคมี ฯลฯ ผมจะเอาโจทย์มานั่งทำครับ ทำเรื่อยๆ ข้อไหนทำไม่ได้ก็จะทำเครื่องหมายไว้ แล้วเอามาถามคุณครูที่สอน หรือหาคำตอบจากหนังสือ หรือจากเน็ต
          - วิชาที่ต้องท่องจำทำความเข้าใจ เช่น ชีววิทยา, สังคมศึกษา, ภาษาไทย ก็จะอ่านทุกวันครับ ต้องทบทวนทุกวันให้เราไม่ลืม เช่น วันนี้อ่านจบ พรุ่งนี้ก็ต้องอ่านทวนของวันนี้ด้วยก่อนขึ้นเรื่องใหม่ มีบางครั้งที่เราก็จะวางแผนไว้บ้างว่าวันนี้จะอ่านอะไร อ่านเล่มไหนให้จบ พยายามทำตามแผน แต่จริงๆ ก็ไม่ได้ทำตามแผนได้เต็ม 100% ขนาดนั้นนะครับ ก็จะพยายามทำให้ดีที่สุดมากกว่า


เคล็ดลับพิชิตคณะในฝันแบบฉบับมิณทร์ 3 ข้อ
          1. ทำโจทย์สม่ำเสมอ ผมว่าสิ่งสำคัญของวิชาคำนวณต่างๆ คือการทำโจทย์หรือแบบฝึกหัดอย่างสม่ำเสมอครับ บางคนอาจจะรู้สึกว่า ทำแล้วเบื่อหรือว่าเหนื่อย ซึ่งเราก็เป็นกันทุกคนครับ ผมว่าเราต้องหาวิธีในแบบของตัวเองที่จะสนุกไปกับการทำโจทย์ได้ครับ เช่น อย่างผมจะใช้การฟังเพลงช่วยเวลาทำโจทย์ครับ จะทำให้รู้สึกผ่อนคลายแล้วก็ไม่ได้เคร่งเครียดจนเกินไป แต่ก็ไม่ใช่ฟังเพลงเพลินจนลืมโฟกัสกับโจทย์เลขที่กำลังทำนะครับ

         2. ทบทวนทุกวัน ยิ่งถ้าใครเรียนสายภาษา หรือถ้าเป็นวิชาท่องจำ เช่น ชีววิทยา, สังคมศึกษาฯ, ภาษาไทย  อยากจะเน้นให้ทวนทุกวันหรืออ่านทุกวัน อย่างเช่น ถ้าเป็นผมเวลาอ่านวิชาชีววิทยา วันนี้อ่านบทที่ 1 พรุ่งนี้อ่านบทที่ 2 แต่ว่าพรุ่งนี้ก็ต้องกลับมาทวนบทที่ 1 ด้วย แล้วต้องทำแบบนี้จนหมดเล่มครับ มันจะได้เหมือนอยู่ในหัวเราตลอดเวลา ไม่หายไป ไม่งั้นเดี๋ยวอ่านไปจนถึงบทสุดท้ายแล้วลืมบทแรกหมด

          3. ตั้งเป้าหมาย เช่น วันนี้เราจะอ่านถึงไหน อาทิตย์นี้เราจะอ่านเรื่องอะไร หรือวางแผนว่าจะอ่านเล่มนี้ให้จบ จะทำแบบฝึกหัดถึงชุดไหน แต่ก็ต้องบอกว่าเป้าหมายแต่ละครั้งอาจจะไม่สามารถทำได้สำเร็จทุกครั้ง อย่างผมก็ไม่ได้ทำได้ทุกครั้งตามเป้าหมาย ซึ่งผมว่าหลายๆ คนก็น่าจะเคยเป็น แต่สิ่งที่สำคัญก็คือ การเอาชนะใจตัวเองให้ได้ครับ เพราะว่าช่วงสอบ ถึงแม้ทุกคนจะมีความมุ่งมั่นมากแค่ไหน แต่มันต้องมีช่วงที่เบื่อ เหนื่อย ท้อ หรือขี้เกียจ เหมือนกันทุกคน อยู่ที่ว่าใครจะเอาชนะใจตัวเองได้มากกว่ากันครับ


อยากฝากอะไรถึงน้องๆ บ้าง
          อยากฝากถึงน้องๆ ทุกคนว่า อย่าลืมว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การตั้งเป้าหมายและการเอาชนะใจตัวเอง เช่น เวลาเราทำข้อสอบ ไม่อยากจะให้น้องๆ ไปเปรียบเทียบกับคนอื่นว่าเราได้คะแนนน้อยกว่าคนอื่น แต่อยากให้เปรียบเทียบกับตัวเอง ว่าวันนี้เราทำได้ดีขึ้นรึยัง เราพยายามมากขึ้นรึยัง สิ่งนี้คือสิ่งที่สำคัญที่สุดครับ มันท้อทุกคนนะ แต่เราก็ต้องสู้ครับ !
 

         เป็นยังไงกันบ้างคะกับความพยายามของมิณทร์ ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกถึงแรงฮึดและความพยายามที่ผ่านมาเลยนะคะ ใครที่กำลังเหนื่อย ท้อ หรือเครียด ลองเอาเรื่องราวของมิณทร์ไปเป็นแรงบันดาลใจได้ค่ะ เพราะมิณทร์เองก็เคยผ่านจุดนั้นมาก่อน รู้ว่ามันไม่ง่าย แต่สุดท้ายมิณทร์ก็สามารถเอาชนะใจตัวเองจนคว้าคณะในฝันมาได้ค่ะ และอย่าลืมติดตามผลงานของมิณทร์กันด้วยนะคะ สวัสดีค่ะ :D
 
พี่อีฟ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

Pubby 29 มี.ค. 59 13:32 น. 1
นี้สิเน็ตไอดอลของเเท้ เเต่ที่สงสัยทำไมพวกไลค์เยอะถ่ายรูปโชว์นมหน้าเทาโฆษณาครีมกิโล ถึงได้ใช้คำว่าเน็ตไอดอลด้วย #สงสัยกันบ้างมั้ย
1
กำลังโหลด
นักเขียนสีชมพู Member 2 เม.ย. 59 10:43 น. 18-1
เห็นด้วยค่ะสู้สู้ ดีกว่าพวกเต้นโชว์ส่ายเอวสายย่ออะไรนั่นอีก ยังไปเรียกว่าเน็ตไอดอลได้งก็ไม่รู้-.-เอ่อ..
0
กำลังโหลด
mana_ai Member 31 มี.ค. 59 01:36 น. 13

คณิตศาสตร์ได้95 >>O o

เก่งมากอ่ะน้อง พี่นับถือเลย คณิตศาสตร์กับพี่นั้น มันไปด้วยกันไม่ได้ T T (ฟิสิกส์กับเคมีด้วย)

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด

29 ความคิดเห็น

Pubby 29 มี.ค. 59 13:32 น. 1
นี้สิเน็ตไอดอลของเเท้ เเต่ที่สงสัยทำไมพวกไลค์เยอะถ่ายรูปโชว์นมหน้าเทาโฆษณาครีมกิโล ถึงได้ใช้คำว่าเน็ตไอดอลด้วย #สงสัยกันบ้างมั้ย
1
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
กำลังโหลด
mana_ai Member 31 มี.ค. 59 01:36 น. 13

คณิตศาสตร์ได้95 >>O o

เก่งมากอ่ะน้อง พี่นับถือเลย คณิตศาสตร์กับพี่นั้น มันไปด้วยกันไม่ได้ T T (ฟิสิกส์กับเคมีด้วย)

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยเจ้าของ

กำลังโหลด
กำลังโหลด
eveunchu Member 31 มี.ค. 59 13:16 น. 17-1
พี่อีฟขออนุญาตอธิบายเพิ่มเติมนะคะ ในปีนี้คะแนนต่ำสุดคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล อยู่ที่ 67.3750 ค่ะ น้อง ddmom สามารถตรวจสอบเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์การสอบคัดเลือกระบบรับตรงของ กสพท ปีการศึกษา 2559 ได้ค่ะ :D คะแนนสูงสุดต่ำสุดและค่าเฉลี่ย ปีการศึกษา 2559 http://www9.si.mahidol.ac.th/pdf/cotmes59_07_25590310.pdf
0
กำลังโหลด
นักเขียนสีชมพู Member 2 เม.ย. 59 10:43 น. 18-1
เห็นด้วยค่ะสู้สู้ ดีกว่าพวกเต้นโชว์ส่ายเอวสายย่ออะไรนั่นอีก ยังไปเรียกว่าเน็ตไอดอลได้งก็ไม่รู้-.-เอ่อ..
0
กำลังโหลด
กำลังโหลด

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
กำลังโหลด