ในหนังสือเรียนระดับมัธยมจะมีวรรณกรรมเรื่องหนึ่งที่วัยรุ่นทุกคนต้องเรียน คือ พ่อแม่รังแกฉัน แต่งโดยพระยาอุปกิตศิลปสาร ในเนื้อหากล่าวถึงลักษณะพ่อแม่ที่ทำให้ลูกหลานเดินไปในทางที่ผิด จนลูกกลายเป็นคนนิสัยไม่ดี ทำงานไม่ได้ หนักไม่เอาเบาไม่สู้ ฯลฯ ซึ่งลักษณะดังกล่าวนี้ หากไม่นับว่าเป็นพ่อแม่ของใครสักคนที่ควรจะเป็นแบบอย่างที่ดีให้ลูก จริงๆ ก็อาจเป็นนิสัยของคนทั่วไปที่แตกต่างกันไปในสังคม แต่เมื่อกลายเป็นพ่อแม่จึงเกิดผลกระทบต่อลูกหลานมากขึ้น
เนื้อหาในซีรีส์วัยรุ่นชื่อดัง Hormones วัยว้าวุ่นเอง นอกจากการนำเสนอเรื่องปัญหา ของวัยรุ่นปัจจุบันแบบตรงไปตรงมา ตามสโลแกนในใบปลิวของเรื่องนี้แล้ว ก็ยังเสนอถึงที่มาของปัญหาในมุมของครอบครัวด้วย และนี่คือรูปแบบของพ่อแม่และผู้ใหญ่แบบหนึ่ง ที่อาจจะเรียกว่า รังแก หรืออาจไม่รังแกลูกก็ได้ค่ะ
เนื้อหาในซีรีส์วัยรุ่นชื่อดัง Hormones วัยว้าวุ่นเอง นอกจากการนำเสนอเรื่องปัญหา ของวัยรุ่นปัจจุบันแบบตรงไปตรงมา ตามสโลแกนในใบปลิวของเรื่องนี้แล้ว ก็ยังเสนอถึงที่มาของปัญหาในมุมของครอบครัวด้วย และนี่คือรูปแบบของพ่อแม่และผู้ใหญ่แบบหนึ่ง ที่อาจจะเรียกว่า รังแก หรืออาจไม่รังแกลูกก็ได้ค่ะ
ของขวัญ สาวperfect นักเรียนตัวอย่างสมบูรณ์แบบทั้งเรื่องพฤติกรรม การเรียน และหน้าตา กลับมีแม่ที่เป็นภรรยาน้อย และพ่อแม่ก็ไม่เคยบอกเรื่องนี้มาก่อน จนกระทั่งไปรู้ความจริงเข้า แม่ของขวัญเลือกที่จะรอเวลา ไม่เล่าเรื่องจริงมุมมืดของครอบครัวให้ขวัญฟังแต่แรก และเมื่อขวัญรู้เรื่องก็เลือกที่จะนิ่งเฉยก่อนที่จะพยายามอธิบายทันที พอขวัญที่เชื่อมั่นในความถูกต้องดีงามในชีวิตตัวเองมาตลอดมาเจอกับความจริงข้อนี้เข้า ก็ถึงขั้นการเรียนเสียหาย หาทางออกไม่ได้ และหนีออกจากบ้านในที่สุด สมัยนี้เรื่องการมีหลายบ้านหรือการมีพี่มีน้องต่างพ่อหรือต่างแม่ก็เกิดขึ้นในหลายครอบครัว แต่ไม่ใช่ว่าจะเป็นปัญหาเสมอไป ตราบใดที่เด็กเข้าใจและได้รับคำอธิบายแต่แรกๆ ในต่างประเทศมีนักจิตวิทยาครอบครัวติดตามดูแลจิตใจของเด็ก ในกรณีที่พ่อแม่ต้องหย่าร้างหรือปัญหาครอบครัวต่างๆ นักจิตวิทยาจะมุ่งอธิบายว่่าทำไมพ่อแม่ต้องมีปัญหาหรือทำไมจู่ๆ ถึงมีพี่น้องโผล่มาโดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย คนที่พ่อแม่หย่าร้างแต่ตอนวัยเด็กหรือรู้มาว่าพ่อแม่แอบไปมีลูกที่อื่นอีก มักมีปมฝังอยู่ในใจเสมอๆ ว่า "เพราะเรามันเป็นเด็กไม่ดี พ่อ/แม่ เลยหนีเราไป" ดังนั้นถ้าไม่อธิบายเรื่องดำมืดในครอบครัวเหล่านี้ให้เข้าใจก่อนที่เด็กจะไปรู้เรื่องเอง เด็กก็จะเตลิดแบบที่ขวัญเป็น และไม่อาจกลับมาอีกก็ได้นะคะ อยากให้บอกมากกว่า เพราะเด็กสมัยนี้รู้เรื่องและเข้าใจเรื่องความไม่สมบูรณของครอบครัวมากกว่าเมื่อก่อนแล้ว |
สไปร์ท สาวแรงของเรื่อง กับคำถามส่วนตัวว่า "ที่เราเป็นอย่างงนี้ เราแxดหรือ" และคำคมเด็ดว่า "ถ้าอยากกินสไปร์ท ต้องใส่ถุง(ยาง)" สไปร์ทมาจากครอบครัวไม่สมบูรณ์แม่เลิกกับพ่ออย่างตั้งใจ และมีกิ๊กใหม่เป็นคนหนุ่มกว่า มองภายนอกดูเหมือน สไปร์ทจะมีปัญหาครอบครัว แถมแม่ยังทำตัวไม่สมผู้ใหญ่ที่ดี(ตามบรรทัดฐานสังคม) แต่กลับกลายเป็นว่า แม่ของสไปร์ทเป็นแม่ที่ให้ความอบอุ่นกับลูกได้ดี สนิทสนมกับลูกสาว ไม่ปกปิดเรื่องราวส่วนตัวของตัวเองกับลูก นั่นทำให้สไปร์ทเป็นเด็กที่มีความมั่นใจ เข้าใจโลก และสามารถเอาตัวเองรอดจากปัญหาได้ดีคนหนึ่ง แต่ก็เพราะเป็นแม่คนเดียว จึงไม่มีเวลาดูแลตลอด นิสัยแย่ๆ ของสไปร์ทอาจจะมาจากพฤติกรรมอยากรู้อยากลองตามวัยรุ่นบวกความมั่นใจในตัวเอง แต่ลึกๆ แล้วเชื่อว่าอาจเกิดจากการต้องการหาความรักที่ขาดหายไปบ้างจากพ่อตั้งแต่เด็ก เพราะมีบางช่วงที่สไปร์ทรู้สึกว่าตัวเองไม่มีตัวตน แต่ด้วยความเข้าใจจากแม่ สไปร์ทก็เลือกที่ จะไม่สร้างปัญหากับตัวเอง หาทางออกได้ และยังมีความถูกต้อง มองโลกในความจริงได้เร็วกว่าวัยอีกด้วย จากกรณีของสไปร์ท ทำให้เห็นว่าแม้จะมีปัญหาใดๆ ในครอบครัวก็ตาม แต่การพูดจากเปิดใจอย่างตรงไปตรงมา สามารถสร้างภูมิคุ้มกันให้วัยรุ่นได้ วัยรุ่นจะยังเชื่อมั่นในตัวพ่อแม่ตลอดไป และเลือกที่จะหันเข้าปรึกษาพ่อแม่ในเวลาที่เจอปัญหา |
ดุจดาว ดาวมาจากครอบครับที่สมบูรณ์ดี พ่อไม่ค่อยมีบทบาทนักตามท้องเรื่อง แต่แม่ของดาวเป็นแม่ที่วางกรอบให้ลูกสาวทุกเรื่องโดยเฉพาะเรื่องความชอบความสนใจของดาว แต่ก็มีความเชื่อมั่นในตัวลูก ยังพร้อมให้โอกาสหากได้รู้จักรับรู้ด้วย (กรณีเพื่อนเรียนพิเศษของดาว) แต่ก็แทบไม่ฟังเหตุผลของลูกเลย เพราะสำหรับแม่ของดาวแล้ว อะไรที่ตัวเองคิดว่าดี ก็จะดีสำหรับลูกด้วยเช่นเดียวกัน ส่วนหนึ่งเพราะครอบครัวดาวมีหน้ามีตาในสังคม พฤติกรรมคนในครอบครัวจึงอาจส่งผลกระทบถึงภาพลักษณ์ครอบครัวได้ ทำให้แม่ของดาวยิ่งตีกรอบเรื่องต่างๆ ในชีวิตตดาว มีความคาดหวังว่าดาวจะเป็นเด็กที่ดี แต่ที่แน่ๆ คือดุจดาวไม่รู้จักโลกระวังภัยจากโลกภายนอก เพราะกรอบที่แม่วางไว้ให้มาตลอด โลกของดุจดาวจึงมีแค่จิตนาการและความสมบูรณ์จนแทบไม่ระแวดระวังโลกภายนอกจริงๆ การให้สิ่งที่ดีที่สุดกับลูก เป็นเรื่องปกติสำหรับพ่อแม่ และเป็นเกราะระวังภัยสิ่งชั่วร้ายได้ด้วย แต่หากเกราะแน่นหนาเกินไป ลูกอาจไม่ได้เรียนรู้ที่จะสัมผัสโลกจริงๆ เพราะถึงแม้ว่าเด็กสมัยนี้จะเข้าใจสังคมด้านมืดได้มากขึ้น แต่ก็อาจเป็นการเข้าใจผ่านสื่ออื่นๆ อย่างทีวี หรืออินเทอร์เน็ตมากกว่า |
ผู้เขียนเชื่อว่า บทละครต้องการให้พ่อแม่ของแต่ละตัวละคร แสดงถึงตัวแทนของพ่อแม่จริงๆ แต่ละประเภทด้วย ซึ่งตอนแรกๆ ก็ไม่เข้าใจว่าทำไม ต้องสร้างให้มีตัวละครหลักหลายตัว อีกทั้งต้องมีครอบครัวของตัวละครอีกหลายคน เยอะแยะจำแทบไม่ถูก แต่รวมๆ ไปแล้ว ตัวซีรีส์ก็สามารถสะท้อนภาพของครอบครัวที่แตกต่างกันไป และทุกตัวละครก็สามารถคิดไปถึงลักษณะการเติบโตขึ้นมาเป็น ขวัญ วิน สไปร์ท ดาว เต้ย ต้า หมอก ไผ่ ภู อย่างที่เรารู้จักกัน เพราะตัวประกอบหลักที่ชื่อว่า ครอบครัว นี่เองค่ะ
เพราะฉะนั้น ถึงแม้ว่าซีรีส์ Hormones วัยว้าวุ่น จะนำเสนอมุมมองมืดของวัยรุ่น จนกระทั่งมีกระแสจะถูกแบน มีผู้ใหญ่หลายคนไม่ชอบก็ตาม แต่โดยส่วนตัวแล้วผู้เขียนมองว่าผู้ใหญ่ควรดูไปพร้อมๆ กับลูกหลานนะคะ เพราะมันสะท้อนตัวตนของคนที่เป็นพ่อแม่เท่าๆ ที่สะท้อนปัญหาของวัยรุ่น ในขณะที่ก็หวังไว้ว่า วัยรุ่นที่ดูทุกคนจะไม่มองว่า ถ้าไม่ได้ทำแบบที่ตัวละครเหล่านี้ทำ เช่่น ติดบุหรี่ มีเซ็กส์ ไปตีกับคนอื่น ลุกขึ้นมาเถียงครูอย่างจริงจัง ฯลฯ จะกลายเป็นคนที่ใช้ชีวิตวัยเรียนอย่างไม่คุ้มค่า เพราะไม่ว่าจะวัดจากกฎหมายหรือมารยาทตามสังคมก็ตาม สิ่งที่ไม่ดีก็คือสิ่งที่ไม่ดีอยู่นั่นเอง เพียงแต่ว่าหากเกิดปัญหาขึ้นแล้ว ก็ต้องแก้ไขให้ถูกทางค่ะ แต่อย่าหวังว่าพลาดแล้วจะโชคดีไม่มีใครรู้ไปทุกคนนะคะ
แล้วบ้านคุณเป็นแบบครอบครัวไหน แสดงความคิดเห็นกันได้นะคะ
Twitter @kiatkarine
ขอขอบคุณ
ขอขอบคุณ
แหล่งข้อมูล, ภาพประกอบ:
gth.co.th/films-and-series/hormones-วัยว้าวุ่น/
gth.co.th/?s=ฮอร์โมน+วัยว้าวุ่น
36 ความคิดเห็น
เด็กที่อยู่ในครอบครัวที่ตีกรอบไว้ตลอด พอหลุดออกนอกกรอบแล้วจะเสียผู้เสียคนมากกว่าเด็กที่พ่อแม่ปล่อยให้อยู่นอกกรอบอยู่แล้ว เพราะไม่มีภูมิคุ้มกันที่ดีพอ...
แต่บางทีก็ขึ้นอยู่กับตัวเด็กด้วยว่าคิดเองได้มากน้อยแค่ไหน...
/เอ๊ะ เราบ่นอะไร?
ในวัน วันหนึ่ง เราต้องทำแบบนั้น แบบนี้ ตรงตามที่พ่อแม่กำหนดมา
แต่ทุกวันนี้ ก็ใช้ชีวิตนอกกรอบมา สามปีแล้ว ช่วยเหลือตัวเองมาตลอดสามปี มันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร
อันนี้คิดว่าน่าจะอยู่ที่วฒิภาวะทางความคิดของแต่ละคนมากกว่า
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
(ธรรมะไปไหม ??)
หนังเรื่องนี้ก็สะท้อนภาพสังคมของจริงอย่างจังเลยนะเนี่ย
เห็นแล้วยังแอบท้อเลย
ถ้าซีรีย์เรื่องนี้มาไวกว่านี้นะ เราก็คงจะทันโลก-ทันคนได้ไวกว่านี้ (แอบเสียใจ)
ทั้งลูกและแม่ ต่างต้องเข้าใจกันอ่ะ
ส่วนตัวเรา เราคิดว่าเราเป็นเด็กขาดความอบอุ่น เพราะไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ ก็เลยติดเพื่อน แต่เราก็ดูแลตัวเองได้ ถ้าเปรียบเทียบเราก็คงเหมือนสไปรท์อ่ะนะ...(บุคลิกใกล้เคียงแต่ไม่ แ*ด นะ)
คือเราเป็นเด็กเรียน แต่เราก็คล้ายๆสไปร์ทเพราะเราอยากลอง
ครอบครัวเราไม่อบอุ่น พ่อมีเมียมีลูกหลายคน เลิกกับแม่นาน ไม่ค่อยได้เจอแม่ รู้ว่าแม่รัก แต่เราไม่สนิทกัน พ่อไม่สนใจเรื่องส่วนตัวในชีวิตเราเลย เค้าสนแต่เงินกับงาน คล้ายๆพ่อไผ่ แม่เราอาจจะคล้ายๆแม่ดาว
อยากได้แม่แบบสไปร์ทมากๆ อยากได้พ่อแบบขวัญก็ยังดี ถึงมีอีกบ้านแต่ก็สนใจในตัวลูก
แต่เพราะเราเปลี่ยนอะไรไม่ได้แล้ว สิ่งที่เราทำได้ตอนนี้คือ เราบอกตัวเองว่าจะไม่เป็นอย่างที่ผู้ใหญ่เป็น ถึงเราจะไม่ได้มาจากครอบครัวที่อบอุ่นแต่เราก็สามารถสร้างครอบครัวที่อบอุ่นของเราเองได้ เราเรียนรู้มาเยอะจากพ่อแม่ของเรา ว่าสิ่งไหนที่เราจะไม่ทำกับลูกของเราเอง
ปล.เราเรียนจบทำงานแล้วนะ
#แต่ที่เราเข้มแข็งเพราะได้เพื่อนๆและคนรอบข้างนี่แหละคะ
แต่ ที่พ่อแม่ทำแบบนี้ก็เพื่ออนาคตของเรานะ ดังนั้นถ้ามีปัญหาอะไร อยากใช้ชีวิตยังไง ก็ลองปรึกษาพ่อแม่ดูนะ
อย่า ทำให้พวกเขาเสียใจเพราะเรา